ไล่กรีซมันน์!! ‘โม’ เหมา 2 ‘หงส์’ เฉือนหมีสุดดราม่า 3-2
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์หลังยางแตกนำ 2-0 โดน แอต.มาดริด ตีเสมอ 2-2 แต่มาได้จุดเปลี่ยนเมื่อ อองตวน กรีซมันน์ ถูกไล่ออกก่อนได้จุดโทษแบบไม่คาดฝันและเป็น โม ซาลาห์ ฮีโร่ที่เหมา 2 เม็ดกดประตูชัยเบียดสุดมัน 3-2 นำจ่าฝูง UCL กลุ่ม บี ใสๆ
แอตเลติโก มาดริด
Starting Formation: 3-1-4-2
4.
เจฟฟรี่ย์ ก็องด็อกเบีย

46'
6
22.
มาริโอ เฮอร์โมโซ่

79'
6.5
5.
โรดรีโก้ เดอ ปอล

80'
6.5
11.
โตมาส์ เลอมาร์

80'
7
7.
เชา เฟลิกซ์

80'
7
ตัวสำรอง
9.
หลุยส์ ซัวเรซ

80'
6
2.
โฆเซ่ กิเมเนซ

46'
6
10.
อังเคล คอร์เรอา

80'
6
14.
มาร์กอส ญอเรนเต้

79'
6
12.
เรนาน โลดี้

80'
6
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี
สนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่
อังคารที่ 19 ตุลาคม 2564
กรรมการ แดเนี่ยล ซีเบิร์ต
แอตเลติโก มาดริด
2
3
ลิเวอร์พูล
1-2 อองตวน กรีซมันน์ 20'
2-2 อองตวน กรีซมันน์ 34'
0-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 8'
0-2 นาบี เกอิต้า 13'
2-3 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 78' (Pen.)
แอตเลติโก วันนี้ทำเซอร์ไพรส์ไม่ใส่หลุยส์ ซัวเรซ เป็นตัวจริง ใช้บริการของอองตวน กรีซมันน์ และเชา เฟลิกซ์ในแดนหน้าสองคน โดยมี โตมาส์ เลอมาร์ ทำเกมริมเส้น ด้านลิเวอร์พูล เปลี่ยนแค่คนเดียวจากเกมก่อน อลิสซอน เบ็คเกอร์ลงมาเฝ้าเสา แดนหน้า โม ซาลาห์ ยังเป็นตัวหลักในสามประสาน โดยพวกเขาไม่เคยบุกมาเอาชนะที่นี่เลยจาก 3 นัดที่เจอกัน
บังโมยิงแฉลบ!หงส์นำไว 1-0
ลิเวอร์พูล เปิดเกมมาบุกเข้าใส่แล้วได้ประตูออกนำอย่างวดเร็วเป็นจังหวะที่ ซาลาห์ไปเอาบอลที่ริมกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วลากหนีนักเตะของแอตเลติโก 3 คนตัดมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายแล้วบอลไปแฉลบมิลเนอร์เปลี่ยนทางหนีมือของโอบลัคเข้าประตูไปเลย 1-0!!!
เกอิต้าซัดเปรี้ยง!หงส์อย่างคึกหนี 2-0
ประตูที่สองของทีมเยือนมาอย่างรวดเร็ว เทรนท์โยนบอลเข้าไป ฟิร์มิโน่เกี่ยวไม่ติดแล้วเฟลิเป้ เตะทิ้งออกมาเข้าทางของ เกอิต้า ยิงสวนด้วยขวาเต็มตีนบอลพุ่งตุงตาข่าย โอบลัคเซฟไม่ทัน 2-0!!!
กรีซมันน์เปลี่ยนทางหมีตี 1-2
แอตเลติโก ได้ประตูตีไข่แตกแล้ว เป็นจังหวะต่อเนื่องจากคอนเนอร์ที่เล่นสั้นแล้วเลอร์มาร์ลากบอลหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจ่ายออกมาให้ โกเก้ยิงยัดเข้ามาแล้วเป็น กรีซมันน์เปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไป ก่อนที่ VAR เช็คว่าล้ำหน้าหรือไม่แล้วให้เป็นประตู 1-2!!!
อ๋องหลุดเดี่ยวไม่ผ่านอลิสซอน
กรีซมันน์ได้บอลหลุดเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปดวลกับอลิสซอน แต่สุดท้ายจังหวะจิ้มทำประตูยังไปติดบล็อคของนายด่านแซมบ้าที่ออกมาขวางเอาไว้
อ๋องอีกแล้ว!หมีตามเจ๊า 2-2
ตราหมี ตีเสมอได้แล้ว เฟลิกซ์เอาตัวรอดจากริมเส้นด้านซ้ายก่อนไหลเข้ากลาง กรีซมันน์โฉบถึงบอลหนีฟาน ไดจ์มาถึงบอลก่อนซัดด้วยซ้ายผ่านมือของอลิสซอนเข้าประตูไปเฉียบขาด 2-2!!!
เฟลิกซ์ลากยิงอลิสซอนต้องเซฟ
บอลสวนกลับของแอตเลติโกได้จบอีก ทริปเปียร์โยนข้ามฟากจากขวามาซ้ายใฟ้เฟลิกซ์เกี่ยวบอลลงสวยก่อนลากเข้ากรอบเขตโทษแล้วยิง อลิสซอนเซฟจังหวะแรกก่อนต้องคว้าอีกรอบ
เลอมาร์เกี่ยวยิงติดอลิสซอน
เจ้าถิ่นมาอีก เฮอร์โมโซ่ขึ้นมาทางซ้ายก่อนไหลทะลุให้ เลอมาร์เกี่ยวไปยิงแต่อลิสซอนก็ยังช่วยเซฟทีมเยือนเอาไว้ได้อีกรอบ
ครึ่งหลังเปลี่ยนฝั่งละคน
ลงมาครึ่งหลังเปลี่ยนนักเตะฝั่งละคน เจ้าถิ่นเอา โฆเซ่ กิเมเนซลงมาแทนก็องด็องเบีย ส่วนทีมเยือนให้ ฟาบินโญ่ มาแพ็คแดนกลางแทนเกอิต้า
มาเน่โขกโอบลัคต้องปัด
คอนเนอร์ทางขวาของลิเวอร์พูล เทรนท์เปิดมาหน้าปากประตู มาเน่ได้โขกบอลพุ่งตรงกรอบแล้วแต่โอบลัคยังพุ่งไปปัดก่อน แล้วซาลาห์พยายามซ้ำก็ไม่มีอะไร
คาร์รัสโก้หลุดไม่ผ่านอลิสซอน
แอตเลติโกบุกสวนมาบ้าง เป็นคาร์รัสโก้ที่ทำชิ่งหนึ่งสองกับเดอ ปอลแล้วหลุดไปยิงในกรอบหกหลาแต่อลิสซอนก็ออกมาปิดมุมได้ไว
อ๋องถีบหัวฟีโน่โดนแดงเลย
แอตเลติโก งานเข้าแล้ว เมื่อ กรีซมันน์ไปยกขาสูบใส่หัวของฟิร์มิโน่แบบน่าเกลียด กรรมการเดินมาแจกใบแดงทันที ซึ่งเอาจริงๆ เจ้าตัวก็ไม่ได้ตั้งใจ
ร็อบโบ้เติมมายิงข้ามคาน
โรเบิร์ตสันเติมขึ้นมาถึงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนลองยิงเองแต่กดไม่ลงบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
JK ใส่โชต้า, OX หาประตูเพิ่ม
คล็อปป์เปลี่ยนนักเตะ 2 คนเลย เอาโชต้ากับแชมเบอร์เลน ลงสนามมาแทน มาเน่กับมิลเนอร์ เพื่อเน้นเกมรุกให้มากขึ้นเพราะตัวมากกว่า
OX ลากยิงตรงตัวโอบลัค
แชมเบอร์เลนทำชิ่งหนึ่งสองกับซาลาห์ก่อนลากเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงด้วยขวาทว่าบอลไปตรงตัวของโอบลัคที่รอรับอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร
ซาลาห์กดโทษ!หงส์นำอีก 3-2
ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษจังหวะตักบอลยาวเข้าไปในกรอบแล้ว เฮอร์โมโซ่ไปชนโชต้าล้มลงไปแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ กรรมการเป่าทันที แล้วเป็น ซาลาห์ วิ่งเข้ามาแปด้วยซ้าย โอบลัคไปคนละทาง 3-2!!!
VAR ยึดจุดโทษตราหมี
แอตเลติโกมาได้จุดโทษเหมือนกันจากฟรีคิกนอกกรอบแล้ว โชต้าไปวิ่งเบียดกิเมเนซล้มลงไป กรรมการเป่าทันที ก่อนทีมงาน VAR มาให้เช็คข้างสนามแล้วกลับคำตัดสินว่าไม่ให้จุดโทษมองว่าเป็นการทิ้งตัวมากกว่า
คอร์เรอาซัดข้ามคาน
แฟนเจ้าถิ่นเกือบได้เฮเป็นจังหวะต่อบอลเร็ว ซัวเรซไหลกลับหลังมาให้คอร์เรอาวางเท้ายิงด้วยขวาแต่ดันกดไม่ลงบอลข้ามคานออกไป
หงส์ชนะรวดนำฝูงหล่อ
ท้ายเกม ลิเวอร์พูล ยันสกอร์เอาไว้อยู่ก่อนเก็บชัยชนะเพิ่มเป็น 9 แต้มโอกาสเข้ารอบสดใสก่อนกลับไปเตะกันที่แอนฟิลด์ ในเกมต่อไป
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

84'
6.5
8.
นาบี เกอิต้า

46'
6.5
7.
เจมส์ มิลเนอร์

62'
6
10.
ซาดิโอ มาเน่

62'
6
11.
โมฮาเหม็ด ซาลาห์

90+2'
8
ตัวสำรอง
12.
โจ โกเมซ

84'
6
15.
อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

62'
6
3.
ฟาบินโญ่

46'
6
20.
ดิโอโก้ โชต้า

62'
6
76.
เนโก วิลเลี่ยมส์

90+2'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Wed Oct 20, 2021 04:06, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ