ถ้าเอาแบบคนปกติก็ขับมานานไม่เคยเฉี่ยวชน ไม่ค่อยหลง นี่ผมก็ว่าเก่งชิบหายละนะ ยิ่งในกทม ส่วนนักแข่งก็คือเรื่องความกล้า มัลติทาค การตัดสินใจ สำคัญสุดคือการรับแรงกดดัน ฝีมือแค่อีกส่วนหนึ่ง ถ้าจะวัดว่าใครเก่งไม่เก่งให้ดูตอนควอลิฟาย ตอนขับกลางฝน กับตอนป้องกันตำแหน่ง ถ้าเทียบนักแข่งf1 ผมว่ามันเกรด A ทุกคนอะ ยกเว้นไอพวกที่โดดเด่นจริงๆคือ S เพราะมันคือ 20 คนที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนั้น

ขับรถปาดซ้ายขวาแบบพวกวัยรุ่นสร้างตัว ใครขับรถมาสักระยะ แล้วใจกล้าหน่อยก็ทำได้หมดแหละ

ขับรถเก่งคือ มีมารยาท ขับนิ่ม ปลอดภัยต่อเพื่อนร่วมถนน สามารถผจญภัยได้ทุกสภาพจราจร

ขับแค่ไหนก็ไม่ง่วง นี่คือเก่งสำหรับผมละ

ขับรถเก่งแนวไหน พวกนักซิ่งตามเพจปะ

ประมาณว่าตามโพสรูปรถหรูๆหรือโพสรูปรถแต่ง แล้วบอกกดมิดแซงมาแล้วอะไรแบบนี้

คนขับรวมร่างกับรถ เป็นหนึ่งเดียวกัน
เข้าใจรถมากที่สุด รู้ใจรถมากที่สุด แก้อาการรถได้ดีที่สุด

ถ้าทั่วไปก็ ใช้เบรคไม่บ่อย คนนั่งด้วยไม่เวียนหัว

ถ้านักแข่งก็ คนที่ได้ที่ 1 นั่นแหละ คิดว่าเป็นแนวๆเดียวกับพวกนักแข่งเกม คือ รีเฟร็ค+ตัดสินใจไวและดี

สนามล่าสุดขับไป 56 รอบ จี้อันดับ 1 ติดๆ จนโลแลนไม่เข้า pit แล้วเสียค่าโง่ไป ขับยาวๆแบบนั้นคุณว่าเก่งไหมหละครับ

สำหรับผมทีแรกเข้าใจว่าต้องขับเร็ว เข้าโค้งเป๊ะๆ จอดในที่แคบๆได้
สุดท้ายจริงๆคือขับแล้วทำให้ผู้โดยสารรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัย

เอาจริงๆเเค่ขับ f1 ได้ผมว่าก็ดูเหนือกว่าคนทั่วไปชัดเจนละนะครับ 555

ความเร็ว 340-370 กิโลเมตรต่อ ชม เเรง G ในการเข้าโค้ง มหาศาลในเเต่ละครั้ง ต้องนั่งบนเบาะที่ออกเเบบมาพิเศษพอดีตัวของนักเเข่ง อึดอัดเเบบนั้น ชุดก็ร้อน 1-1.30 ชม ต่อ race
อัตราการเต้นหัวใจ 180-200 ครั้ง/นาที ปุ่มบนพวงมาลัยที่ต้องปรับให้เข้ากับช่วงจังหวะ การตัดสินใจต่างๆในการเเข่ง

ถ้าอยากเห็นสรีละที่เเตกต่างชัดๆเลยเหมือนบอลให้ดูต้นขา นักเเข่งก็ไปดู คอ ครับ หนากว่าคนทั่วไปเยอะ

คนขับรถทั่วไปถ้าความเร็วเท่านั้นผมว่า หลับ ตั้งเเต่โค้งสองโค้งเเรก

โอ้อันนี้ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันขนาดนั้น

นึกว่าใครๆ ก็ขับได้มาตลอด ก็รถเหมือนกันนี่

แต่พวกนักแข่งน่าจะโหดสุดตรงใจนะครับ ใจแรงดีกล้าทำอะไร เสี่ยงตาย

ีรึเฟลคต่างกันเยอะครับ การตัดสินใจ การควบคุมจิตใจและ ความสม่ำเสมอ และอีกอย่างขับ F1 แรง G นี่น้องๆเครื่องบินเลยนะครับบางสนามบางโค้ง ร่างกายรับภาระมากเหมือนกัน พลาดนิดเดียวคือลงข้างทาง

เอาแค่บ้านเราละกันสนามแข่งแดร๊กทางตรง เขาถึงต้องจ้างตัวขี่มืออาชีพมาขับให้ไงครับ
ทำรถมาเป็นแสนเป็นล้านแต่ขี่เองไม่ได้ ชิงไฟพลาดก็แพ้ ออกตัวสับเกียร์ว่าวก็แพ้

แต่พวกนี้ เขาก็ซิ่งจริงนะครับส่วนใหญ่ แต่งรถมาก็ชอบความเร็ว เป็นทำดา มีช่องนึดนึงก็แหวกไปได้ สับเกียดังปึ้กๆ

ถ้ารอดมาถีงนี้ได้ ก็น่าจะขับรถเก่งกว่าคนทั่วไปจริงๆ ล่ะมั้ง แต่ก็ดูไม่ออกว่ามันใช้สกิล หรือแค่ดวงดียังไม่ตาย

นักแข่งรถ บอกเลยว่าร่างกายฟิต ไม่แพ้ กีฬาอื่นๆ ครับ
อย่างที่มียูสพูดในส่วนของ f1 ไป ผมจะพูดในส่วนของ
Moto gp ละกันครับ ความเร็ว ก็ ราวๆนั่นหล่ะครับ
300-345 km/hr. ต้องใช้แรงเยอะในการที่จะควบคุมรถให้อยู่ ร่างกายต้องแข็งแรงครับ

เรื่องของทักษ อื่นๆ อีกเช่น การเข้าไลน์ตอนโค้งตอนทางตรง การคำนวนความเร็วการขับ ในการขับเข้าโค้ง ต้องเหมาะกับรถและกำลังตัวเอง การคำนวนดอกยาง การเลือกใช้ยาง hard med soft(ต้องนี้จะมีช่างแนะนำอยู่ละ แต่สุดท้ายก็ต้องแล้วแต่นักแข่งเองว่าจะใช้ตามไหม เพราะความถนัดแต่ละคนต่างกัน) ควรจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะความเร็วมีผลต่อการกินดอกยาง รวมถึงอุณหภูมิถนน ก็มีผลด้วย ทั้งหมด ต้องคิดระหว่างการขับรถ ด้วยความเร็ว ต่ำๆ ก็ 90-100 km/hr ในขณะ เข้าโค้ง ส่วนทางตรงก็ นั่นหล่ะ ฮะ พวกตัวท๊อปๆก็ 330 + อย่างพวกขับ ducati ก็ มี 340+

อาการที่นักขับส่วนใหญ่เจอบ่อยก็ อาร์มปั๊มครับ คืออาการบาดเจ็บที่แขน ไม่มีแรงพอ จะควบคุมรถในความเร็วสูงสุดได้ ล่าสุดน่าจะเป็น คาตาราโร่ สักสองสามสนามก่อน นะ อยู่ๆก็เกิด อาร์มปั๊ม ต้องขี่แค่ประครอง ให้จบการแข่งขัน จากที่อยู่ที่ 2 อยู่ดีๆ

ทั้งหมดทั้งมวล ก็คือ พวกนักแข่งรถ ก็ต้องมีทักษเฉพาะ เหมือนกับ ชนิดกีฬาอื่นๆ ฮะ ต้องทีการฝึกซ้อมเช่นกัน

ตัวผมเองก็พึ่งมาดูวงการแข่งรถก็ตอน pptv เอามาถ่ายนี่แหละฮะ ก่อนหน้านั้นก็คิดว่าใครๆ ก็แข่งได้ แค่ใจถึง

เออผมลืมกรณี แดร้กเรซไปเลย

เคยดูผ่านๆ ไม่ได้ติดตามมาก

ผมก็มโนเอาเองว่า รถแรงกว่า=ชนะ

เพราะไม่รู้จริง ว่าพวกนี้ใช้สกิลอะไร นอกจากใจแรง กับเหยียบคันเร่ง เปลี่ยนเกียร์ถูกจังหวะ?