เบื้องลึก เมสซี่ กระเด็นจาก บาร์ซ่า
สาเหตุการอำลา บาร์เซโลน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ เราในฐานะวงนอกรับรู้กันในภาพกว้างๆว่ามาจากปัญหาด้านการเงินของ บาร์เซโลน่า ทำให้การต่อสัญญาละเมิดกฏควบคุมการเงิน (limite salarial) ของ ลา ลีกา
จากแถลงการณ์ของ โจน ลาปอร์ต้า เมื่อวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคมก็ระบุชัดเจนว่าเป็นเช่นนั้น
“น่าเสียดายที่เราได้รับ ‘มรดกหายนะ’ (อ้างถึงการบริหารงานที่ย่ำแย่ของบอร์ดบริหารชุดก่อน) ที่ทำให้สโมสรมีค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนคิดเป็น 110% ของรายได้สโมสร เราไม่มีช่องว่างเหลืออีกแล้ว กฎของ ลา ลีกา คือการเล่นอย่างยุติธรรมทางการเงิน (limite salarial) ซึ่งได้วางข้อจำกัดเอาไว้ และเราไม่มีช่องว่างมากพอ”
นอกจากนี้แล้ว ประเด็นสำคัญที่ ลาปอร์ต้า กล่าวถึง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การต่อสัญญากับ เมสซี่ ไม่เกิดขึ้นก็คือการตัดสินใจปฏิเสธเงินอัดฉีดจาก ลา ลีกา จำนวน 270 ล้านยูโรที่ได้มาจากการขายหุ้น 10% ให้ CVC Capital Partners บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา
“เพื่อไม่ให้ละเมิดกฏการเงินนี้ บาร์ซ่า ต้องจำนองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของสโมสรยาวนานถึงครึ่งศตวรรษ ซึ่งผมไม่เต็มใจที่จะทำอย่างนั้นเพื่อใคร”
“โชคดีที่เรามีสถาบันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 122 ปีอันอยู่เหนือผู้เล่นทุกคน แม้กระทั่งผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก เราจะรู้สึกขอบคุณเขาตลอดไป แต่สโมสรนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด” ลาปอร์ต้า กล่าว
(อธิบายตรงนี้ เผื่อใครไม่ได้ตามข่าวมาแต่แรก : ลาปอร์ต้า บอกกับทุกคนว่าไม่ต้องการเอาลิขสิทธิถ่ายทอดสดของสโมสรไปจำนองซึ่งยังผลให้ต้องเสียรายได้ 800 ล้านยูโรในระยะเวลา 50 ปี เพื่อแลกกับเงินเพียง 270 ล้านยูโร)
……………………….
ให้หลังแถลงการณ์ช็อคโลก ลา บานกวาร์เดีย (La Vanguardia) สื่อใหญ่ของสเปนซึ่งมีฐานที่มั่นในเมืองบาร์เซโลน่ารายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลา ลีกา ได้นัดกินมื้อค่ำกับ โจน ลาปอร์ต้า เพื่อแสดงเอกสารข้อตกลงขายหุ้น 10% ให้ ลาปอร์ต้า พิจราณา และขอให้ยินยอมรับข้อเสนอพร้อมเงินจำนวน 270 ล้านยูโร ทั้งยังยื่นข้อเสนอว่าหาก บาร์ซ่า ยอมรับเงื่อนไขนี้ ทาง ลา ลีกา จะอนุญาตให้สามารถลงทะเบียน ลิโอเนล เมสซี่ ได้ หากแต่ ลาปอร์ต้า ปฏิเสธ ซึ่งตรงตามที่ประธานบาร์ซ่าแถลงต่อสื่อมวลชนทุกประการ
อย่างไรก็ตาม ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน ลา ลีกา ได้ทวีตข้อความในทวีตเตอร์ส่วนตัวเล่าเรื่องราวคล้ายๆกันกับที่ ลา บานกวาร์เดีย นำเสนอ ทว่า มีความจริงแตกต่างออกไป
เตบาส เล่าว่าเขาดินเนอร์กันกับ ลาปอร์ต้า เมื่อวันที่ 14 กรฏาคม และแสดงยื่นเอกสารข้อตกลงขายหุ้น 10% ให้ ลาปอร์ต้า กับบอร์ดบริหารพิจราณา จริง หากแต่ปฏิกิริยาของท่านประธานบาร์ซ่าไม่เพียงไม่ปฏิเสธ แต่ยังตอบรับด้วยความกระตือรือร้น พร้อมอธิบายถึงการปิดดีลต่อสัญญากับ เมสซี่ อีกด้วย
เตบาส ย้ำว่านี่คือความจริง !!
……………………….
บาร์ซ่า ได้รับเงิน 270 ล้านยูโร แต่ตามข้อตกลงจะใช้ในการต่อสัญญาหรือซื้อนักเตะเพิ่มได้แค่ 15% ซึ่งเท่ากับ 40.5 ล้านยูโร ซึ่งประเมินว่าด้วยค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนที่คิดเป็น 110% ของรายได้สโมสร ยังไงก็ไม่น่าจะพอ
ทว่าแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จาก ลา ลีกา ระบุว่านั่นแค่ ‘เกณฑ์’ เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง บาร์ซ่า สามารถใช้เงินได้มากกว่าที่กำหนด และมันมีวิธีที่จะต่อสัญญากับ เมสซี่ ได้สำเร็จจากการช่วยเหลือของ ลา ลีกา
ตรงนี้ ไม่อาจชี้ชัดได้ว่า ‘ใครจริง-ใครเท็จ’ แต่ถ้าวิเคราะห์จากความเป็นไปได้ การพูดคุยระหว่าง เตบาส กับ ลาปอร์ต้า เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เช่นนั้นแล้ว หาก ลาปอร์ต้า ตอบปฏิเสธข้อเสนอตั้งแต่ครั้งนั้น เขาก็น่าจะรู้ล่วงหน้ากว่า 2 สัปดาห์แล้วว่า บาร์ซ่า หมดหนทางที่จะต่อสัญญากับ เมสซี่
แต่จากสถานการณ์ที่ผ่านมาก่อนถึงวันพุธที่ 4 สิงหาคม ไม่มีข่าวทำนองนี้ออกมาเลย มีแต่ข่าวว่า บาร์ซ่า กำลังจะต่อสัญญากับ เมสซี่ หลังบรรลุข้อตกลงด้วยกันทั้งสองฝ่าย
หรือหลักคิดง่ายๆ อ้างอิงจากความเคลื่อนไหวของฝั่ง เมสซี่ เอง มันออกจะแปลกไม่น้อย หาก เมสซี่ รู้ว่าตัวเองไม่สามารถต่อสัญญาได้ เขาจะบินมา บาร์เซโลน่า ทำไม ? แถมก่อนหน้าแถลงการณ์ของ ลาปอร์ต้า นั้น เมสซี่ ยังบินไปพักผ่อนที่เกาะอิบิซ่าอย่างสบายใจ นั่นแสดงให้ว่ามี "บางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน"
……………………….
ที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ทวีตของ เตบาส ในวันเดียวกับที่ ลาปอร์ต้า แถลงไม่ต่อสัญญากับ เมสซี่ (6 ส.ค.)ใจความว่า “72 ชั่วโมงที่แล้ว ลาปอร์ต้า ยังอธิบายให้ฟังอย่างสมบูรณ์แบบเกี่ยวกับปฏิบัติ (ต่อสัญญากับ เมสซี่) รวมถึงเรื่องการเข้าร่วมกับ ลา ลีกา แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ที่ บาร์ซ่า มีผู้บริหารสโมสรบางคนพูดคุยกับ....(หรือเปล่า ?)”
“ซูเปอร์ลีกา คุณต้องรับประกันเงินค่าลิขสิทธิ์ทีวี 500 ล้านยูโร”
“ผู้บริหารบางคนแอบพูดคุยกับ....” ประโยคนี้ของ เตบาส นั้น มีการตีความว่าเขาต้องการสื่อถึง ลาปอร์ต้า หรือไม่ก็ เฟร์ราน เรเบร์เตร์ CEO คนใหม่ของ บาร์ซ่า ซึ่งมีความสนิทสนมกับ โฆเซ่ อังเคล ซานเชซ มือขวาของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ และจากประโยคสุดท้าย แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่กฏควบคุมการเงินของ ลา ลีกา หรือปัญหาสภาพคล่องของ บาร์ซ่า เท่านั้น หากแต่ยังมี ซูเปอร์ลีกา เข้ามามีเอี่ยวด้วย
แต่ความจริงที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือบทสัมภาษณ์ของ เยาเม่ รูเลส เจ้าของบริษัทมีเดียโปร (mediapro) ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ลา ลีกา มาหลายปี
เจ้าพ่อสื่อชาวกาตาลันให้สัมภาษณ์กับ เอล กอนฟิเดลเชี่ยล (el confidencial) สื่อดังจอมแฉของสเปนซึ่งเคยเอาเทปบันทึกเสียงลับของ เปรเซ ที่แอบนินทาผู้คนในวงการหลายคนจนเป็นข่าวฮือฮาเมื่อเดือนก่อนว่า
“อย่างที่ไม่สามารถหักล้างได้เลย ผมขอยืนยันว่าการลงทะเบียน เมสซี่ ในการแข่งขัน ลา ลีกา นั้น ได้บรรลุข้อตกลงกันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีนักเตะบางคนในทีม (บาร์ซ่า) ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้”
บรรลุข้อตกลงลงทะเบียน เมสซี่ ไปแล้ว !! นับเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ แต่เราจะเชื่อคำพูดของ รูเลส ได้อย่างไร ?
อันดับแรก รูเลส คือเจ้าพ่อสื่อที่มีอิทธิพล และเป็นผู้กุมลิขสิทธิถ่ายทอดสด ลา ลีกา ในสเปนมานาน ซึ่งหากมีผลกระทบใหญ่หลวงเกิดขึ้นกับ ลา ลีกา มันจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่เขาจะรู้
อีกข้อนึงที่ไม่ควรลืมคือ ตอนที่ ลาปอร์ต้า ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานสโมสรเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เขายังไม่ได้รับการรับรองจนกว่าจะหาเงินจำนวน 124.6 ล้านยูโรมาวางค้ำประกันได้ ตอนนั้นเป็นข่าวอยู่พักนึง แต่สุดท้าย ลาปอร์ต้า ก็หาเงินมาวางได้สำเร็จ
ตามข่าวที่ลงไว้คือเขาได้รับการช่วยเหลือจาก โฆเซ่ เอเลียส นาบาร์โร่ ประธาน Audax Renovables บริษัทกลุ่มพลังงานหมุนเวียนและก๊าซธรรมชาติเอาทรัพย์สินของบริษัทค้ำประกันเพื่อให้ธนาคารซาบาเดล ยอมปล่อยให้กู้ให้ ลาปอร์ต้า ทว่าในความเป็นจริงแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังให้การช่วยเหลือ ลาปอร์ต้า ก็คือ รูเลส นั่นเอง
เอล กอนฟิเดลเชี่ยล ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่าง รูเลส กับ ลาปอร์ต้า นั้นไม่ต่างอะไรกับเจ้านายกับลูกน้อง
อีกเหตุการณ์ที่สนับสนุนให้คิดได้ว่าการต่อสัญญากับ เมสซี่ เกิดการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ทั้งๆที่บรรลุข้อตกลงกันไปแล้ว ก็คือปฏิกิริยาของ
ฮอร์เก้ เมสซี่ ซึ่งเข้าพบกับ ลาปอร์ต้า เมื่อวันพุธที่ 4 สิงหาคม ซึ่งตอนนั้นระบุว่ามันเป็นแค่การมาบรีฟและรับทราบข้อมูลขั้นสุดท้าย แต่ ฮอร์เก้ กลับต้องมาเจอเรื่องเซอร์ไพรส์
เอล กอนฟิเดลเชี่ยล รายงานว่า ฮอร์เก้ หัวเสียอย่างมาก และพูดกับ ลาปอร์ต้า ว่า “มันคงดีหากพวกเราจะจากไปเสีย”
……………………….
หากสิ่งที่ รูเลส พูดนั่นคือความจริง และเหตุการณ์ที่ ฮอร์เก้ เมสซี่ เจอนั่นคือความจริง แล้วอะไรที่ทำให้ ลาปอร์ต้า เปลี่ยนใจกระทันหันไม่ยอมรับข้อเสนอและเงินจาก ลา ลีกา ?
ประเด็นนี้ เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้เชื่อทุกคนคงเดาได้ไม่ยากแล้ว เมื่อดูจากทวีตของ เตบาส ที่เอ่ยถึง ซูเปอร์ลีกา และการจงใจทิ้งไว้ให้เป็นปริศนาว่ามีผู้บริหารบางคนของ บาร์ซ่า แอบพูดคุยกับ....
มันชัดเจนว่าตัวละครสำคัญที่อยู่เบื้องหลังนี้ก็คือ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานเรอัล มาดริด นั่นเอง
แม้จะเหลือสมาชิกแค่ 3 สโมสร แต่ เปเรซ ไม่เคยหยุดที่จะฟื้นฟูซูเปอร์ลีกของเขากลับมาเลย และการเข้ามาของ CVC นั่นคือการขัดขวางการก้าวเดินของซูเปอร์ลีกโดยตรงซึ่งท่านประธานชุดขาวยอมไม่ได้
แหล่งข่าวจาก เอล กอนฟิเดลเชี่ยล สื่อดังเจ้าเดิมแฉว่า เปเรซ โมโหมากเรื่องที่ ลา ลีกา ไปตกลงขายหุ้น 10% ให้ CVC
เขาขู่ เตบาส ว่าจะฟ้องร้อง และเขาก็ต้องการพันธมิตรจึงหันไปเกลี้ยกล่อม ลาปอร์ต้า ผ่านทาง เฟร์ราน เรเบร์เตร์ ว่าอย่ายอมรับเงื่อนไขจาก ลา ลีกา เด็ดขาด พร้อมบอก ซูเปอร์ลีกา เท่านั้นคือทางรอดของ บาร์ซ่า ไม่เช่นนั้น เรอัล มาดริด จะดำเนินการฟ้องร้อง และจะต้องมีคนเดือดร้อนจากเรื่องนี้มากมาย
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เปเรซ บินไปยัง บาร์เซโลน่า เพื่อพบกับ อันเดรีย อันเญลลี่ ประธานยูเวนตุส และ ลาปอร์ต้า ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดพบกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับซูเปอร์ลีก
หากแต่ก่อนหน้านั้น เปเรซ ซึ่งอาจรวมกับ อันเญลลี่ ได้เกลี้ยกล่อม ลาปอร์ต้า เสียอยู่หมัดจนเปลี่ยนใจปัดข้อเสนอจาก ลา ลีกา ละทิ้งโอกาสที่จะต่อสัญญากับ เมสซี่ นักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งๆที่หากพิจราณาจากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การลงทะเบียนนั้นได้รับความเห็นชอบแล้ว แต่ต้องถูกถอดถอนไปจากการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของ ลาปอร์ต้า
เรื่องนี้มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ !!
.................................
ก่อนจบบทความนี้ ผมอยากให้ทุกท่านลองอ่านจดหมายของ เยาเม่ โยปิส อาจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ IESE มหาวิทยาลัยนาบาร์ร่า ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และองค์กร ที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการ Espai Barça(โปรเจคต์พัฒนาสนามคัมป์ นู และภูมิทัศน์โดยรอบของสโมสรบาร์เซโลน่า) ในวันนี้ หลังผิดหวังกับการตัดสินใจของ ลาปอร์ต้า ที่ไม่พยายามเซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ โดยมีใจความดังนี้
ถึง โจน
คุณทำผมผิดหวัง, ผมคิดว่าคุณคือคนเดียวที่ดีพอจะต่อสู้กับ ฟลอเรนติโน่ ได้ , ผมยังข้อมูลหลายอย่าง แต่ผมแน่ใจว่าคุณสามารถทำได้ดีกว่านี้ในการรั้ง เมสซี่ เอาไว้ , มันยังมีทางอีกมากมาย
เมสซี่ คือมรดกชิ้นสำคัญของ เอฟซี บาร์เซโลน่า
เราจะได้เห็นกันว่าเมื่อ ซูเปอร์ลีกา มาถึงมันจะเป็นยังไง, ในขณะที่คุณช่วยให้ เปแอสเช แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับทำให้การย้ายไป เรอัล มาดริด ของ เอ็มบั๊บเป้ นั้นง่ายขึ้น , นี่คือแผนที่สมบูรณ์แบบของ ฟลอเรนติโน่
คุณจะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะประธานสโมสรผู้ปล่อย เมสซี่ ออกไป
ขอบคุณสำหรับความมั่นใจที่ให้ผมเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ Espai Barça ถึงแม้จะไม่มีการแต่งตั้งหรือความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ แต่ผมคิดว่าผมได้มีส่วนสนับสนุนในเชิงบวกต่อโครงการนี้ แต่ผมรู้สึกจำเป็นต้องลาออกเพราะผมต้องการแสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างอิสระ
ผมขอให้คุณโชคดี
- เยาเม่ โยปิส -
#เจมส์ลาลีกา
https://www.facebook.com/jameslaliga2018
https://www.facebook.com/fiestapaellarojamatador/posts/1811106885762909
สรุปก็ว่าทำไม SPL บาร์โตเมวเป็นคนเอาเข้า แต่ทำไมลาปอร์ต้าถึงไม่เอาออก เพราะงี้สินะ เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆ เห้อ
กระแสจากแฟนบาร์ซ่าจะเป็นยังไงละเนี่ย