ต่างประเทศเค้าเชิดชูหมอเหมือนไทยไหมครับ
James Bourne พิมพ์ว่า:
เรื่องตปท.เขายกย่องอาชีพหมอไหม ไม่ออกคห.ละกัน ไม่เคยอยู่ตปท.
แต่เรื่องที่บอกว่าอาชีพหมอก็เหมือนอาชีพทั่วไป ทำงานแล้วก็ได้เงินเดือนเหมือนกัน ไม่เห็นต้องขอบคุณ
ผมเห็นต่างนะ และในข้อเท็จจริง มันก็ต่างจริงๆ
ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท ทำงานบัญชี การตลาด HR งานคุณเยอะมาก
คุณก็อาจจะบ่น พอเลิกงานก็ขอกลับบ้าน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาทำใหม่
บริษัทบอกให้คุณทำงานล่วงเวลาเดี๋ยวจะจ่ายโอทีให้ แรกๆ คุณอาจจะยอมทำ เพราะได้เงิน
แต่ถ้าเขาให้คุณทำแทบทุกวัน เสาร์อาทิตย์ ติดต่อกันสักสองสามเดือน คุณอาจจะไม่อยากทำแล้ว
หรือ คุณกำลังจะกลับบ้านแล้ว มีนัดกับแฟนไว้ แต่ใกล้จะเลิกงาน มีงานเข้ามาพอดี คุณอาจจะปฏิเสธ
บอกว่าเลิกงานแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาทำใหม่ก็ได้
แต่หมอ เป็นอาชีพที่ปฏิเสธคนไข้ไม่ได้
กำลังจะเลิกงาน มีเคสด่วน คนไข้โดนรถชน ม้ามแตกมา
คนไข้ไปงานเลี้ยง มียิงกัน ไส้ทะลักมา
หรือช่วงปีใหม่สงกรานต์ที่มีแต่อุบัติเหตุเข้ามาทุกวันแล้วหมอพยาบาลไม่พอ ต้องขึ้นเวรต่อๆ กัน
คุณลงเวรแล้ว อยากกลับบ้านแล้ว คุณเหนื่อยมาทั้งวัน หรือคุณลางานไว้จะไปตจว.กับที่บ้าน
แต่คุณปฏิเสธไม่ได้ ถ้าคนไข้ล้น ไม่มีหมอตอนนั้น ต้องรักษาคนไข้ก่อน
เอาช่วงโควิดเนี่ย ผมเคยเห็นคนบอกว่า หมอจะบ่นอะไร ทำงานเกินเวลาก็ได้เงินปะ ไม่ใช่ให้ทำฟรีๆ
แต่เขาเลือกไม่ได้ไง บอกว่าไม่อยากได้เงิน แต่อยากกลับบ้านนอน อยากจะเจอหน้าลูกเมีย อยากวันหยุดไปพักผ่อน
แต่มันเป็นอาชีพที่เกียวกับชีวิตคน มันปฏิเสธไม่ได้
แล้วพอมันเป็นอาชีพเกี่ยวกับชีวิตคน มันมีทั้งรักษาหายและไม่หาย รักษาแล้วรอด หรือรักษาแล้วตาย
และมันไม่ใช่ทุกโรคจะดูออก วินิจฉัยได้เลยเป๊ะๆ มันคือการรักษาโรค ไม่ใช่กดสูตรคำนวณตัวเลขที่มีสูตรตายตัว
กลับกัน ผมกลับมองว่า คนไทยหลายคนมองหมอเป็นเทพ
ในทำนองว่า ต้องทำทุกอย่างได้ ต้องรักษาคนไข้ได้ วินิจฉัยต้องถูกตลอด ต้องรักษาแล้วไม่มีใครตาย
ต้องตรวจเราละเอียด และต้องเจออาการ
ถ้าตรวจละเอียด ส่งสแกนนั่นสแกนนี่ แล้วไม่เจออาการ เรียกว่าเลี้ยงไข้ เอาค่ารักษาแพงๆ
ถ้าตรวจไม่ละเอียด หาไม่อาการไม่เจอ เรียกว่าพวกทำงานลวกๆ ไม่สนใจชีวิตคนไข้
ถ้าไปเข้าคิวเจอหมอ ด่าว่าให้รอตั้งนาน ได้เจอแค่แปปเดียว
แต่ถ้าหมอตรวจทุกคนก่อนหน้านี้ ใช้เวลากับแต่ละคนนานๆ แล้วเรานั่งรอ
ก็ด่าว่าจะตรวจนานไปไหน คนรอตั้งเยอะ
พักเที่ยง หมอไม่อยู่ ไปกินข้าว ก็ด่าหมอ
ผมว่าคนไทยหลายคนกลับมองว่าหมอเป็นเทพ คือ ต้องไม่ผิดพลาด ไม่ต้องพัก ต้องรักษาได้ทุกอย่าง
ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่ถูกใจ ต้องสมควรโดนด่าซะมากกว่า
ผมเลยมองว่าอาชีพหมอ ทำงานแล้วได้เงินก็จริง แต่พอมันเกี่ยวกับชีวิตคน จะมีคนขอบคุณชื่นชมก็ไม่แปลก
แต่ไม่ได้หมายความว่า เวลาเราชื่นชมอาชีพไหน
แล้วจะหมายความว่า เราจะไปกดอาชีพอื่นให้เขาต่ำกว่า ก็ไม่ใช่ซะหน่อย มันคนละบริบทกัน
ปล.1
เท่าที่ผมได้ยินมา ตปท.กว่าจะได้เจอหมอยากมาก และหมอและพยาบาลตปท.ค่อนข้างดุคนไข้
ปล.2
ส่วนตัวผม ไม่ว่าอาชีพไหนต่อให้เขาทำงานแล้วเขาได้เงินค่าตอบแทนแล้วก็ตาม แต่ถ้าเขาทำงานอย่างดี ผมขอบคุณหมดแหละ ผมไม่เคยมานั่งคิดว่า เฮ้ย แกได้เงินเดือนแล้ว ทำไมชั้นต้องขอบคุณด้วยวะ
แม่บ้านมาเทขยะโต๊ะผม เช็ดโทรศัพท์ กวาดพื้น ผมก็ขอบคุณเขา
ไปบริษัทลูกค้า แม่บ้านเอาน้ำมาเสิร์ฟ ผมก็ขอบคุณเขา
คนขับแท็กซี่เขาขับดี พูดจาดี ผมจ่ายเงินให้ ผมก็ขอบคุณเขา
แกรบเอาอาหารมาส่งให้ผม บริการอย่างดีผมก็ขอบคุณเขา
ใครจะคิดว่า ชีวิตไม่จำเป็นต้องขอบคุณใคร เพราะทุกคนทำงานเพื่อเงิน ก็คิดไป
ผมสบายใจแบบนี้ คิดว่าทุกคนได้รับคำขอบคุณจากผม ไม่ได้หนักหนาอะไร เขาก็มีกำลังใจทำงานให้ดีขึ้นเท่านั้น
ปล.3
ผมว่าเรารณรงค์ให้เราขอบคุณคนทุกอาชีพเท่าเทียมกัน
ดีกว่ามาบอกว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องขอบคุณใครเลย ทุกคนทำงานก็ได้เงินเดือนเหมือนกัน
รปภ. แม่บ้าน คนกวาดถนน คนขับแท็กซี่ ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย พนง.คอลเซ็นเตอร์ เราก็ขอบคุณได้เหมือนกัน
ถ้าเราบอกว่าเราไม่เห็นต้องขอบคุณใครเลย มันจะกลายเป็นเราไปกดเขาซะมากกว่า
เหมือนพวกคนรวย นิสัยเสียๆ ที่ชอบกดคนทำงานบริการ ด่ารปภ. ด่าพนง.เซเว่น ด่าคอลเซ็นเตอร์ แล้วก็ใช้ข้ออ้างว่า ก็ทำงานบริการ รับเงินเดือน ก็ต้องด่าได้
และรณรงค์ให้เราให้เกียรติทุกอาชีพเหมือนๆ กัน โดยไม่ต้องไปบอกว่าเราเลิกให้เกียรติอาชีพนี้กันดีกว่า
เห็นตามท่าน James Bourne.....จะเป็นเค้ก หรือแม๊ต เดม่อนล่ะท่าน ?
ชีวิตมนุษย์เกิดมาหนีไม่พ้น 4 อย่างนี้
1.เกิด = หมอทำคลอด
2.แก่ = ร่างกายไม่แข็งแรง อ่อนแอ เจ็บป่วยขึ้นมาก็หาหมอ
3.เจ็บ = หาหมอ ให้หมอรักษา
4.ตาย = ก่อนตายมีเจ็บมีป่วย หมอรับหน้าที่ดูแล
ผมค่อนข้างให้ความสำคัญตรงนี้สำหรับบุคลากรทุกคนในวงการแพทย์และคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเหมาหมด