อันนี้ไม่น่าใช่อีโก้แน่ๆอะครับ หัวหน้าเชฟในร้านอาหารใหญ่ๆ ผมให้ 90% เลย ไม่มีใครไม่เสียงดัง ไม่เข้มงวด ไม่กดดัน ไม่เครียด ยิ่งร้านดังเท่าไหร่ความกดดันยิ่งสูง ยกเว้นว่ามีทีมงานที่ทำด้วยกันมาจนเข้าใจกันหมด อาจจะทำให้ทุกอย่างเบาลงได้

ไม่ว่าจะไทยหรือต่างประเทศ กระทู้ถามถึงความกดดันของการทำงานของเชฟไปในทางเดียวกันหมดเลยครับ ร้านใหญ่ๆมันก็คือสนามรบดีๆนี่เอง

ถ้าไปกินตามโรงแรมเวลาของไม่สุก ผักไม่สวย เค็มไป หวานไปเค้าไม่ถามหาคนทำหรอก เค้าถามหาเชฟใหญ่ไง

ทำงานในครัวในนานๆเสียงฮู้ด(เครื่องดูดควัน)ดังครับ หูอื้อต้องพูดเสียงดังขึ้นกว่าปกติ

ผมว่าเพื่อคุมคนทั้งหมดให้ได้ คุมคุณภาพอาหารให้ดีไม่ให้ทำพลาด เพื่อกระตุ้นทุกคนในครัวในกรณีพวก Rush hour

ผมคิดถึงอีก 2 ที่นะ ที่คนเสียงโคตรกระโชกโฮกฮาก

ห้องผ่าตัดกับห้องฉุกเฉิน

คนที่เค้าต้องละเอียดในงาน รับผิดชอบกับสิ่งสำคัญมากๆ และต้องแข่งกับเวลา ความผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้ บรรยากาศการทำงานมันเป็นแบบนั้นเสมอแหละ

ต้องลองทำดูครับ
แต่ก่อนผมก็คิดแบบนี้ พอมีโอกาสได้มาทำอาหาร คุมอาหาร ออกอาหารให้กลุ่มคนเยอะๆ เช่นงานออกค่าย กรุ๊ป นทท อะไรแบบนี้
เลยรู้ซึ้งเลยครับว่ามันน่าหงุดหงิดจริงๆ คือมันต้องควบคุมคุณภาพ ไปพร้อมกับทำเวลาให้ดี
ลูกน้องแค่หั่นผักขนาดไม่เท่ากันผมก็ปรี๊ดแตก แล้วด่าแบบไม่รู้ตัวก็เคยเหมือนกัน ฮ่าๆ

นี่แค่ครัวธรรมดานะ งานเชฟจริงๆในร้านอาหาร หรือโรงแรมนี่ไม่ต้องพูดถึง
ต้องควบคุมทุกอย่าง กลิ่น อุณหภูมิ เวลา ราคา ความสวยงาม ความสะอาด รสชาติ วัตถุดิบ ฯลฯ
ความกดดันมหาศาลมากๆครับ

จาก ปสก เปิดร้านอาหาร ในครัวนี่สงครามย่อมๆนะครับ

อารมณ์เหมือนยกทีมทำสงครามเลย

- จังหวะลูกค้าเข้าร้านอาหารจะพร้อมๆกัน คือช่วงเวลากินข้าว คือมาทีเต็มร้าน แน่นๆแบบนั้น 3-4 ชั่วโมงจนหมดช่วง

- จากข้างบน คนครัวเลยต้อง เร็ว แม่น สั้น กระตือรือร้น เนี้ยบ

- ด้วยความที่ เสียงในครัวดังจากเครื่องดูดควัน เสียงผัด เสียงทอด เลยต้องใช้เสียงมากขึ้น และ ระยะการยืน จะไม่ชิดกัน เพราะชนกันในครัวนี่ไม่เจ็บก็เสียอาหารแน่นอน

- อาหารบางจาน พังคือทำใหม่ ยกตัวอย่าง ย่างเนื้อออกมา พบาดคือ ทิ้ง ทำใหม่ เชฟ เลยต้องคุมไม่งั้นพลาดบ่อยๆร้านเจ๊งนะ



งานครัวร้านอาหาร เครียด เหนื่อย ใช้พลังเยอะมากนะ ไหนจะยืนหน้าเตาไฟเจ็ทแรงๆ ผมเคยเจอแบบพีค ยืนเที่ยงคนเข้ายันสี่ห้าทุ่มอะ พักกินข้าวนี่นั่งขาสั่นเลย เป็นอาชีพที่ไม่เหมือนในทีวีแน่นอนอาชีพนึง

คือถ้าคิดว่ายืนหน้าเคาเตอร์สวยๆ ช้าๆ อันนั้นทำจานเดียวไง เจอคืนนึงเสริฟ 500+ จานในเวลา 1 มื้ออาหารอะ ลองคิดดูว่างานหนักขนาดไหน

ความหนักของงาน+ความกดดันของอาขีพเชฟ= หมอ+กรรมกรเลยนะครับ

ทำไมนึกถึง กอร์ดอน แรมซีย

ในครัวมันเสียงดังครับ เสียงเตาไฟ เสียงพัดลมดูดอากาศ เสียงผัด สับ ทุบ คนเยอะ
เหมือนอยู๋กลางสนามรบจริงๆและ 555