สำหรับผมนะ ผมว่าการสวดมนต์มันไม่น่ามีผลอะไรหรอก จุดประสงค์จริงๆอยู่ที่สวดเพื่อเป็นการให้เกิดสมาธิมากกว่า

ตามนั้นเลยครับ ศีล สมาธิ ปัญญา สติคือสิ่งสำคัญ

จริงๆใช่ไหม เพราะผมจำได้ ตอนที่ผมหยิบมาสวดครั้งแรก น้ำตาก็ไหลออกมาเอง แต่ไม่ได้รู้สึก ซึ้งอะไรนะ เพราะยังไม่ได้ไปอ่านบทแปลด้วยซ้ำ

ชิน = บทสวดเรียกพระพุทธองค์

พาพุง = เล่าการชนะของพระพุทธเจ้า

ใช่สิ ตึ้งโป๊ะ

ใช่ครับ ประมาณนั้นเลย

ผมชอบสวดกรณียเมตตรับ เพราะตอนบวชกลัวผี หลวงพี่อีกรูปเลยแนะนำให้สวดบทนี้ คืนแรกๆ
แต่เดี๋ยวนี้ใช้สวดเพื่อบอกคนอื่นว่าเป็นมิตรนะ อย่ามาเข้าฝันบ่อยไม่ไหวกลัวครับ

ผมสวดพาพุง ชินบัญชร แล้วจบด้วยพระมหาจักรพรรดิบูชาพระ เป็นประจำ



เริ่มสวดพาหุงได้ได้ฟังคลิปนี้ รู้สึกว่า เนื้อเรื่องสนุกดี

ชินบัญชี สวดเป็นประจำเพราะห้อยพระสมเด็จฯ ความหมายก็ดี

พระมหาจักรพรรดิ สวดก็เพราะความหมายดีเหมือนกัน

ถ้าไม่เน้นเรื่องพุทธคุณด้านต่าง ๆ นะ ครูบาอาจารย์บางท่านให้คำแนะนำเปรียบเทียบไว้ว่า

"สวดมนต์ เป็นยาทา วิปัสสนา เป็นยากิน"

ท่านหมายความว่า การสวดมนต์ก็เป็นการฝึกสติอย่างหนึ่งเหมือนกัน

บทยาวที่ผมชอบมากที่สุดแต่เวลาสวดต้องเปิดหนังสือคือยอดพระกัณฑ์ครับ
รู้สึกถูกจริตกับบทนี้มากที่สุดครับ

ส่วนบทสั้นๆที่ผมชอบถูกจริตคือ คาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤษีลิงดำ กับ คาถาบทสวดพระมหาจักพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ และ บทสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เป็นบทสั้นๆแต่ทรงพลังมากครับ

คาถาต่างๆจะได้ผลแค่ไหนครูบาอาจารย์ท่านแนะนำไว้ว่า
อยู่ที่ศรัทธาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ กับ พลังศีล พลังสมาธิ ของผู้ใช้

ผมสวดชินบัญชรได้ แต่พาหุงไม่ได้ครับ

ผมเน้นสวดแต่ คาถาเมตตา
-บารมี30ทัศ
-มหาเมตตาใหญ่
-ชุมนุมเทวดา
-ผูกมิตรพยานาคและภูติต่างๆ

ต่างครับ ชินบัญชร เป็นบทสวดของหลวงพ่อโต พรหมรังษี พาหุงเป็นบทสวดของพระพุทธเจ้า

การสวดมี 2 แบบครับ
1. สวดไปอย่างนั้น โดยไม่เข้าใจความหมายของบทสวด สิ่งที่ได้คือสมาธิอย่างเดียวแบบที่ท่านบอก

2. สวดแบบเข้าใจความหมายและคิดตาม อาทิ เช่น ศีล 5 ก็เหมือนเป็นการย้ำเตือนตัวเองไปในตัวว่า ห้ามฆ่า

สัตว์นะ ห้ามลักทรัพย์คนอื่น ห้ามผิดลูกผิดเมียคนอื่น มันก็ช่วยให้เราฉุกคิดลดการทำสิ่งไม่ดีลงไป หรือ ปฏิบัติใน

สิ่งที่ควร(ในบางบทสวดแนะนำ) เมื่อเราลดทำชั่ว เพิ่มการทำดี ชีวิตมันก็ดีขึ้น เช่น มีน้ำใจกับคนอื่น

อารมณ์ดีสุขภาพจิตดี คนก็สบายใจจะอยู่ด้วย ลูกน้องหัวหน้าก็รัก การติดต่องาน การก้าวหน้าก็สูง


ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 กันมากกว่าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแบบ 1 จะไม่เกิดประโยชน์ แค่มีสติ สมาธิ

ก็เกิดประโยชน์มหาศาลละ แค่แบบ 2 มันดีกว่าเท่านั้น

ผมสวดได้ทั้งสองบทนะ จำได้
การสวดมนต์ควรทำทั้ง2อย่างครับคือ 1.สวดได้โดยไม่ต้องดูหนังสือเพื่อเพิ่มสมาธิในการสวดไม่ให้วอกแวก (ฝึกสมาธิ) 2. เข้าใจความหมายของบทสวดเพื่อจะได้รับรู้ถึงความหมายของบทสวดแต่ละบท เช่น พาหุงเพื่อให้รู้ถึงความพยายามที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆของพระพุทธเจ้ากล่าวง่ายๆคืออย่าเกียจคร้านและต้องมีความเพียร มหาการุณิโกเพื่อยกย่องความมีเมตตากรุณาของพระพุทธเจ้าที่ต้องโปรดหมู่สัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์