นักบอลลีกภูมิภาค
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 3274
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jan 23, 2021 10:55
Top Comment [RE: สึนามิเกาะพีพี]
ไม่ว่าจะประสบกับวิกฤติการณ์อะไร จะเลวร้ายสักปานใด เราต้องผ่านมันไปให้ได้
2.1 สึนามิ... เกาะพีพี... ในความโหดร้าย มีความงดงามมากมาย.
เราออกจากอาคารที่พักของเรา มุ่งไปยังอาคารห้องอาหารครัวมาหยา เพราะเชื่อว่าพนักงานและคนอื่นๆที่รอดชีวิตคงรวมตัวกันอยู่ที่นั่น เนื่องจากเป็นอาคารหลังใหญ่ มีพื้นที่มาก บางส่วนยกพื้นสูง หากอยู่บนชั้นสอง สูงเกือบเท่าชั้นสามของอาคารห้องพัก.
เราเก็บรองเท้าได้สองข้าง ข้างหนึ่งเป็นรองเท้าหนัง ข้างหนึ่งเป็นรองเท้าแตะ พอจะใส่ได้ เพราะหากไม่มีรองเท้าก็ยากที่จะเดินฝ่าเศษกระจก และเศษวัสดุมีคมต่างไปได้
เมื่อเราก้าวขึ้นบันไดชั้นสอง ก็พบพนักงานคนแรก เราถามว่า นายหัวอยู่ไหน ได้คำตอบว่า นายหัวอยู่บนนี้ เรารู้สึกโล่งไปมาก เมื่อขึ้นถึงชั้นบน เราก็เห็นนายหัวนั่งอยู่คนเดียว สีหน้าหมอง ขรึม เราไม่ได้พูดอะไรกับท่าน เราเดินไปหาพนักงานที่กระจัดกระจายอยู่กันทั่วบริเวณชั้นสอง.
เมื่อคลื่นลูกแรกผ่านไป เราเข้าใจได้ในขณะนั้นว่า นี่คือสึนามิ ที่เราเคยดูสารคดีใน Discovery Channel เราจึงมีความเชื่อว่า พื้นที่ทุกจังหวัดชายฝั่งอันดามัน ต้องประสบภัยพิบัติเช่นเดียวกัน แต่เกาะพีพีอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ เราอยู่กลางทะเลลึก ไม่มีนำ้ ไม่มีไฟฟ้า การสื่อสารถูกตัดขาดทั้งหมด การจะรอคอยความช่วยเหลือจากภายนอกในขณะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ เราต้องช่วยตัวเองและช่วยเหลือชึ่งกันและกันเท่านั้น คือความหวังเดียวที่มีอยู่.
เราตัดสินใจเรียกประชุมพนักงานทั้งหมด ให้ช่วยกันเรียกคนที่กระจายกันอยู่ตามระเบียง หลังคา บนดาดฟ้า ให้มารวมกันที่ห้องอาหาร เมื่อทุกคนมารวมกันและอยู่ในความเงียบ แต่ยังคงมีเสียงสะอื้น ร้องไห้ ของหลายๆคน เราถามหาผู้บริหารชึ่งปกติมีอยู่11คน แต่ในขณะนั้นมีเพียงแค่สี่คน รวมทั้งตัวเรา.
เราพยายามพูดปลอบโลมทุกคน ให้กำลังใจ และกระตุ้นให้ทุกคนเข้มแข็งไว้ ทุกคนต้องช่วยกันดูแลชึ่งกันและกัน และสุดท้ายทุกคนต้องเชื่อใจเรา.
เราจัดแบ่งพนักงานที่มีอยู่ในขณะนั้นออกเป็น5 กลุ่ม 4กลุ่มแรกเป็นพนักงานชายทั้งหมด กลุ่มละประมาณ10 คน กลุ่มที่5 เป็นพนักงานหญิงทั้งหมด แล้วเราก็มอบภารกิจให้แต่ละกลุ่ม.
กลุ่มที่หนึ่งรับผิดชอบส่วนบังกาโลถึงหอพักพนักงาน.
กลุ่มที่สอง รับผิดชอบไปที่กลุ่มอาคารE เป็นกลุ่มอาคารห้องพักสามชั้น มีทั้งหมดห้าหลัง.
กลุ่มที่สาม รับผิดชอบอาคารA เป็นอาคารห้องพักหลักของโรงแรม มีห้องพักมากที่สุดเกือบร้อยห้อง.
ทั้งสามกลุ่มแรกนี้ มีภารกิจไปช่วยเหลือคนเจ็บ และหาคนที่มีชีวิตรอด นำทุกคนมาที่ห้องอาหาร และกลุ่มที่ไปอาคารห้องพักแขก ให้หาผ้าปูที่นอนกับเหล้าในมินิบาร์มาด้วย.
กลุ่มที่สี่ เป็นพนักงานครัวทั้งหมด เราขอให้ไปช่วยหาอาหารและนำ้ดืมที่กระจัดกระจาย เราเชื่อว่ายังคงมีเหลืออยู่บ้างในครัว และบางส่วนน่าจะมีเหลืออยู่ใต้ชากอาคารเก็บสินค้าของโรงแรม ให้นำมาไว้บนชั้นสองของห้องอาหาร หาให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับคนที่มีชีวิตรอด.
กลุ่มที่ห้า เป็นพนักงานหญิงทั้งหมดที่ยังควบคุมสติตัวเองได้ คอยดูแลเพื่อนพนักที่บาดเจ็บ เสียขวัญ บ้างก็เสียสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้.
เมื่อเลิกประชุม เราเห็นพนักงานทุกกลุ่มแยกย้ายกันไปทำภารกิจ ด้วยความตั้งใจ และมุ่งมั่น ทั้งที่ในขณะนั้นยังมีอาฟเตอร์ช็อคอยู่ ยังมีคลื่นทะลักสูงกว่าพื้นเกือบๆหนึ่งเมตร แต่ทุกคนก็ลุยน้ำไปทำภารกิจกัน เรามองส่งพวกเขาที่กำลังไปทำภารกิจช่วยเหลือคนอื่น.
ไม่นานนัก แต่ละกลุ่มก็ทยอยกลับมา พร้อมคนบาดเจ็บและคนที่มีชีวิตรอด.
เราเห็นพนักงานกลุ่มที่หนึ่งพาคนเจ็บมาสองคน และมีพนักงานที่รอดชีวิตตามมาด้วยหลายคน จำได้ว่ามีพนักงานคนหนึ่งชื่อ “ มิ้ง” อุ้มปลาสีเสียดตัวใหญ่มาด้วย ปลาตัวนั้นนำ้หนักไม่น่าจะต่ำกว่าแปดกิโล เราถามว่า ไอ้มิ้งมึงเอาปลามาด้วยทำไม เขาตอบเราว่า ผมเห็นมันนอนดิ้นอยู่บนพื้น คิดว่าเผื่อไม่มีอะไรกิน เลยเอามันมาด้วย และก็จริง สุดท้ายปลาตัวนั้นก็ได้เป็นอาหารให้หลายๆคนกินกัน.
มีพนักงานในกลุ่มที่หนึ่ง คนหนึ่งมาขอคุยกับเราเป็นส่วนตัว เขาบอกกับเราว่า พวกเขาพบร่าง “จี้อิ่ม”ติดอยู่กับเสาเหล็กใต้แทงค์นำ้หลังอาคารชักรีด เรานิ่งเงียบฟัง เขาบอกว่า ขอโทษโก้ผมผิดคำสั่งผมเอาจี้อิ่มกลับมาด้วย ตอนนี้จี้อิ่มอยู่ข้างล่าง.
เราเข้าใจดี ทุกคนอยู่ร่วมกันที่โรงแรม เป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ เมื่อพบเห็นเช่นนั้น ย่อมทำใจไม่ได้ จึงฝ่าฝืนคำสั่ง
ในครั้งต่อมาเมื่อกลุ่มที่หนึ่งนี้ ไปนำคนเจ็บและพนักงานกลับมาเป็นครั้งที่สอง พนักงานคนเดิมมาขอคุยกับเราเป็นส่วนตัวอีกครั้ง เขาบอกเราว่า พบ”รุ้ง”เสียชีวิตแล้ว เราตัดสินใจในทันที สั่งเขาไปว่า “ไปเอาไอ้รุ้งมา” เราเองก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน
“รุ้ง”ทำงานกับเราตั้งแต่เราไปอยู่เกาะพีพี รุ้งแต่งงานกับ“ศักดิ์”พนักงานฝ่ายช่าง เราเป็นเจ้าภาพฝ่ายเจ้าสาวให้ และเราเพิ่งจะปรับเลื่อนตำแหน่งรุ้งเป็น Outlet mgr. เมื่อเดือนก่อน นานมากที่รุ้งคอยดูแลเรา เอาเสือผ้าไปชักรีดให้ โดยไม่เคยยอมรับเงิน บางครั้งเมื่อเลิกงานเรากับรุ้งเคยนั่งดื่มด้วยกัน รุ้งเป็นเหมือนลูกสาวเราคนหนึ่ง.
ในวันนั้น”ศักดิ์”สามีของรุ้งไปทำภารกิจในกลุ่มที่สาม จึงไม่รู้ว่ารุ้งเสียชีวิตแล้ว พนักงานคนนั้นถามเราว่า จะบอกศักดิ์ไหม เราตอบว่า อย่าเพิ่งให้ศักดิ์รู้ เราจะเป็นคนบอกเอง.
เมื่อเราเจอศักดิ์ ในขณะที่นำคนเจ็บกลับมาจากอาคารA เราเรียกศักดิ์มาคุยกันส่วนตัว และมอบภารกิจใหม่ให้ โดยให้ศักดิ์เอาวิทยุว็อคกี้ท็อคกี้ไปตัวหนึ่ง ขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าห้องประชุม ชึ่งเป็นจุดสูงสุดของโรงแรม สามารถมองเห็นทะเลออกไปไกล เราบอกให้ศักดิ์คอยดูทะเล หากเห็นมีคลื่นมา ให้ใช้วิทยุบอกทุกคน เพราะทุกกลุ่มมีวิทยุ.
ในความจริงในเบื้องลึก เราอยากให้ศักดิ์อยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด เราไม่อยากให้เกิดความสูญเสียใดๆเกิดขึ้นกับศักดิ์ และยังไม่อยากให้ศักดิ์รู้เรื่องรุ้ง.
เมื่อพนักงานบางคนที่ไปช่วยเหลือคนเจ็บตามห้องพัก ได้เอาผ้าปูเตียงกลับมาด้วย เราก็สั่งให้เอาผ้าปูเตียงนั้น ไปห่อร่างจี้อิ่มและรุ้ง แล้วให้ช่วยกันนำร่างทั้งสองขึ้นมาไว้บนโต๊ะหน้าห้องสนุกเกอร์ ที่อยู่บนอาคารห้องอาหาร.
ที่สุดในช่วงบ่ายกว่าๆ เราก็อดใจไว้ไม่อยู่ เราวิทยุเรียกศักดิ์ให้ลงจากดาดฟ้ามาพบเรา เรากอดศักดิ์แล้วบอกเรื่องของรุ้งให้รับรู้ เราได้แต่บอกว่า เราเสียใจมากนะ ศักดิ์ต้องเข้มแข็งไว้ เพื่อลูกที่ยังเล็กอยู่.
เราบอกให้ศักดิ์ไปหารุ้งที่หน้าห้องสนุกเกอร์.
หลังจากนั้นเราเห็นศักดิ์ยังเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจ อย่างตั้งใจและมุ่งมั่นเหมือนเดิม เราไม่กล้าประเมินว่าในส่วนลึกของศักดิ์ เป็นอย่างไร.