คือช่วงนี้ก็กำลังอินกับ Harry Potter แหละครับ เลยหาอ่านกระทู้ความเห็นใน Pantip และที่อื่นๆ แล้วมีคนคอมเม้นประมาณว่าหนังเรื่อง LOTR นั้นสนุกและอาจดีกว่าในหนังสือ ผมแปลกใจมาก เท่าที่ผมเจอมาตลอด ใครๆก็บอกว่า พวกหนังที่ทำจากหนังสือมักไม่สนุกเท่าหนังสือเลย เพราะตัดออกไปมาก

ทำไมหลายๆคนบอกว่าหนัง LOTR ถึงสนุกกว่าอ่านหนังสือครับ คือในฉบับหนังสือมันเป็นยังไงเหรอครับ

หนังสือของ LOTR เหมือนอ่านสารคดีประวัติศาสตร์มากกว่านิยาย คือมันไม่ออกมาในเชิงการเล่าเรื่องแบบหนัง เหมือนกับนิยายอื่นๆทั่วๆไปที่แสดงในมุมมองของตัวละครใดละครหนึ่งหรือกลุ่มตัวละคร แต่มันคือภาพรวมขององค์มาเลย เช่น ฉากสงครามก็คือฉากสงคราม ใครตาย ใครรอด รบอย่างไรสภาพการรบอย่างไรแล้วรวบเลยมากกว่า

ยกตัวอย่างสงคราม 5 ทัพในเล่ม ฮอบบิทคือ ไม่ถึงหน้า นับบรรทัดได้ด้วยซ้ำ ใครรบใคร ทำไมรบกัน ใครตาย ใครรอด จบสงครามเลย

สั้นๆ คือ หนังสือต้องใช้ความอดทนมากไปนิดครับ ถ้าไม่รักจริงมันจะน่าเบื่อมาก แต่ในหนังตอนนั้นที่เข้ามาใหม่ๆ ผกก ทำได้ออกมาดีมาก ฉากแฟนตาซีคือสมใจแฟนคลับแหละ

อ่านไปหลับไป
เอาเป็นว่าผมจำเนื้อเรื่องแฮรี่ทั้ง7เล่มได้ แต่จำThe Lord 3เล่มไม่ได้

เพราะมันอ่านยากครับ ไม่ใช่นิยายแบบดำเนินเรื่อง แต่เป็นเหมือนๆสารคดี สารานุกรม อะไรประมาณนั้นครับ

ลงรายละเอียดได้ละเอียดมาก เช่น หนึ่งหน้าบรรยายธรรมชาติอย่างละเอียดและสวยงามมาก แต่เดาว่า คนส่วนใหญ่ไม่ขอบ เพราะมากเกิน หรือ ไม่ได้อินว่า จะบรรยายไปเพื่ออะไร แต่พวกแนวศิลป์น่าจะชอบ เพราะบรรยายจนเห็นภาพ ลงรายละเอียดยิบ สุดๆ ไปเลย

ผมครับ เมื่อก่อน ชอบอ่านหนังสือพวกนี้มาก ซื้อสะสมไว้ด้วยครับ

ผมนี่คอนิยายเลย ยาวๆนี่จัดมาหมดแล้ว
แฮรี่ เพชรพระอุมา มังกรหยก มังกรคู่

แต่ผมอ่าน LOTR เล่มแรกไม่จบ....
มันเป็นบทบรรยายธรรมชาติ คุยกัน สภาพแวดล้อมซัก 80%-90% ได้
ผมไม่ไหวจริงๆ ยอม

ผมอ่านหนังสือ วันนึงๆ สามารถอ่านหนังสือ 200-1000 หน้า จบได้เรื่อยๆ เจอ lotr ไป ไม่ไหว 5555 รายละเอียดเยอะมากกก ซึ่งดีมากๆ ต้องโฟกัสสุดๆ กลัวตามไม่ทัน ผลที่ได้คืออ่านไปหลับไป พยายามาหลายรอบ ไม่ไหวจริงๆ

แล้วแต่คนนั่นแหละครับ ถ้าสายทั่วไปยังไงก็ชอบหนังมากกว่า ถ้าสายเสพบรรยากาศ สายชอบอ่านลึกๆจะชอบหนังสือมากกว่า

ชอบหนังสือ อ่านจบก่อนมาทำหนัง พอหนังฉายเลยไม่ได้ไปดู เลยไม่รู้จะไปเทียบยังไง แต่ได้ยินว่าตัดไปจากหนังสืออยู่ เช่นแรกๆ เรื่อง ทอม บอมบาดิล หายไปเลย
แต่ LOTR ต้องอ่านแบบอย่าใจร้อน รายละเอียดคำยรรยายมันเยอะ หนังคงกระชับกว่า

แต่ยังอ่านง่ายกว่างานของ JRR อีกเรื่อง The Silmarillion อันนั้นยังค้างอยู่ อ่านไม่จบ

สำหรับผมให้หนังสือกับหนัง สนุกพอๆกันครับที่ 10/10 คือหนังมันสนุกจริงแหละ ทั้งสงครามเอย ตัวละครเอยมันถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก แต่หนังสือก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆเช่นกัน จะเป็นการบรรยายในแนวประวัติศาสาตร์ ภูมิประเทศที่บรรยายได้แบบอลังการ เนื้อเรื่องเข้มข้นแต่อาจจะไม่เท่าในหนัง

แต่ถ้าเทียบกับ Harry Potter ผมให้หนังสือชนะที่ 10/7 หนังได้น้อยกว่าพอสมควร ผมว่าถ่ายทอดได้ไม่ครบถ้วนตามที่หนังสือนำเสนอ ตัดเนื้อหาออกไปเยอะและตัวละครหลายๆตัวในหนังโผล่มาแปปเดียว แต่ในหนังสือนี่เจออย่างบ่อย ผมให้หนังสือสนุกกว่าเยอะ

ผมแนะนำว่าหลังจากดูหนังจบ ทั้ง The Lord และ The Hobbit แล้ว ให้ไปหาอ่านประวัติช่วงยุคที่ 1 ของพวกมอกอธ ซิมมาริล เทพต่างๆมาก่อน แล้วมาย้อนอ่าน The Lord เล่ม 1 ใหม่ จะสนุกขึ้นมากๆเลยครับ เพราะทีแรกผมก็เป็นคืออ่านเล่ม 1-3 จบแบบงงๆ โดยเฉพาะเล่มที่ 1 ที่บรรยายธรรมชาติเยอะมากและพูดชื่อตำนานเก่าๆที่เราไม่รู้จัก (สมัยอ่านครั้งแรก) แต่พอเรารู้จักประวัติศาสตร์ต่างๆของมิดเดิลเอิร์ธพอสมควร เราจะอ่านเล่ม 1 สนุกครับเพราะรู้แล้วว่าชื่อนี้เป็นอะไรมายังไง เล่ม 2-3 มีพูดถึงแต่ไม่เยอะเท่าเล่ม 1 ทำให้คนส่วนใหญ่ที่อ่านเล่ม 1 จะง่วงซะเยอะครับ เพราะเราไม่รู้ที่มาที่ไป

ผมเห็นต่างนะ ส่วนตัวอ่านหนังสือสนุกกว่ามากครับ

หนังทำออกมาหลายๆอย่างดูขัดกับในหนังสือมาก และบางอย่างเป็นสิ่งสำคัญ

หนังสือทำออกมามีความหมายโดยนัยเยอะมากๆ แต่หนังพอทำแล้วความหมายโดยนัยหายไปเยอะ

หนังสือแค่ตรงนี้ถ้าท่านเบื่อ ไม่ต้องคิดเรื่องพวกซิลมารินอะไรพวกนี้เลยครับ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

ผมมีครบทุกเล่มครับ ทั้งพิมพ์แบบเก่าและใหม่ ส่วนเรื่องหนังกับหนังสืออันไหนสนุกกว่า ตรงนี้แล้วแต่คนครับแต่ส่วนตัวผมว่ามันสนุกคนละแบบ
แต่ถ้าท่านดูหนังแล้ว ผมแนะนำ ซิลมาริลดีกว่าครับ เรื่องในเดอะลอร์ดคือยุคที่3 แต่ซิลมาริลนั้นคือตั้งแต่การสร้างโลกและยุคที่1-2 ที่พวกเอลฟ์. เทพสุดๆ เราเห็นเลโกลัสที่ว่าเทพๆ แต่ถ้าเทียบกับพวก ฟิงโกลฟิล
เฟอานอร์ เรียกว่าคนละชั้นเลยก็ว่าได้