ล้มทั้งยืน!! “หงส์’ เสียท่าโดนจุดโทษทดเจ็บเจ๊า 1-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไม่รอดสันดอนหลังอุตสาห์พลิกสถานการณ์จากที่เป็นรองขึ้นนำไปก่อนแต่จนแล้วจนรอดอั้นไม่อยู่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน มาทำเสียจุดโทษช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 เจ๊า ไบรจ์ตัน 1-1 ขึ้นจ่าฝูงแบบหงอยๆพร้อมโควต้าแข้งเจ็บเพิ่มอีกหนึ่งเมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ แบ็คจำเป็นเดี้ยงเป็นรายล่าสุด
ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
Starting Formation: 3-4-1-2
7.
อาร่อน คอนนอลลี่

63'
6.5
9.
เนอัล โมเปย์

26'
6
ตัวสำรอง
14.
อดัม ลัลลาน่า

63'

71'
6
11.
เลอันโดร ทรอสซาร์

26'
6
16.
อลิเรซ่า ยาฮานบัคช์

71'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เอแม็กซ์ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2563
กรรมการ สจ๊วร์ต แอตเวลล์
ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
1
1
ลิเวอร์พูล
1-1 ปาสกาล กรอส 90+3' (Pen.)
ไบรจ์ตันได้เลอันโดร ทรอสซาร์หายเจ็บกลับมาเป็นสำรอง แต่อดัม ลัลลาน่าเจ็บโคนขาหนีบแต่กลับมามีชื่อสำรอง ขณะที่ซอลลี่ มาร์ช ได้ลงเล่นเติมแนวรุกดุดันทำเกมกับเนอัล โมเปย์ และแดนนี่ เวลเบ็ค ส่วนลิเวอร์พูล ปรับหลายตำแหน่ง แนต ฟิลลิปส์ ได้ลงมายืนเซ็นเตอร์แทนโจเอล มาติป แดนกลางทาคุมิ มินามิโนะ ได้ลงเล่นเช่นเดียวกับ โม ซาลาห์ และดิโอโก้ โชต้า โดยซาดิโอ มาเน่ หลุดเป็นสำรอง โดยจอร์แดน เฮนเดอร์สันก็กลับมามีชื่อรอลงสนามเช่นกัน สำหรับสถิตินั้นเจ้าถิ่นยังไม่ชนะเลยยามเล่นในบ้าน 8 นัดเข้าให้แล้ว ส่วนทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ไม่ชนะเกมนอกบ้าน 3 นัดเช่นเดียวกัน
ซาลาห์หลุดยิงไม่เต็มตีน
โอกาสจบหนแรกเป็นของทีมเยือน ฟาบินโญ่ วางบอลจากแดนตัวเองไปให้ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าแล้วแต่จังหวะวางเท้ายิงด้วยซ้ายโดนไม่ดีเท่าไหร่บอลปลิ้นหลังเท้าออกหลังไป
คอนนอลลี่หลุดเดี่ยวปั่นออกเฉย
ไบรจ์ตันพลาดโอกาสขึ้นนำ โมเปย์ได้บอลกลางสนามก่อนแทงทะลุช่องอย่างงามให้ คอนนอลลี่หลุดเดี่ยวไปดวลกับอลิสซอน แต่ไม่นิ่งพอตวัดยิงด้วยขวาบอลหลุดเสาขวามือออกไปอย่างน่าเสียดาย
โมเปย์บอดโทษ!ยิงเฉี่ยวโคนเสา
ไบรจ์ตันมาได้จุดโทษจังหวะที่คอนนอลลี่ลากบอลเข้าไปในกรอบด้านซ้ายแล้ววิลเลี่ยมส์เข้ามาเบียดจากด้านหลังล้มลงไปกรรมการเป่าทันทีไม่มีการดู VAR แล้วเป็น โมเปย์ รับหน้าที่สังหารแปไปทางขวาหลุดเสาไปแบบไม่น่าเชื่อเพราะอลิสซอน พุ่งผิดทางไปแล้ว
โมเปย์เดี้ยงไวทรอสซาร์แทนเลย
โมเปย์เจ็บไปเองเล่นต่อไม่ไหวต้องเดินออกจากสนามไปเลย โดยไบรจ์ตัน เปลี่ยนเอา เลอันโดร ทรอสซาร์ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงสนามแทน
ทรอสซาร์ปั่นหลุดเสาไกล
เกมสวนกลับของไบรจ์ตันมาได้จบ คอนนอลลี่พลิกบอลสวยกลางสนามก่อนจ่ายทะลุช่องไปให้ทรอสซาร์ ตัวสำรองดึงหลอกมิลเนอร์ที่ตามลงมาทว่าบอลหลุดเสาขวามือไปเท่านั้น
ซาลาห์หลุดยิง VAR ยึดกลับล้ำหน้าก่อน
กลายเป็น หงส์แดง ส่งบอลไปตุงตาข่ายก่อน มินามิโนะกระดกบอลไปให้ซาลาห์หลุดเดี่ยวกระชากเข้าหากรอบเขตโทษก่อนจิ้มบอลเข้าประตูไป ทว่าจาก VAR ปลายเกือกของดาวยิงอียิปต์ล้ำหน้าไปก่อนนิดเดียว
โก๋แดนลากยิงผ่านหน้าประตู
ไบรจ์ตันตอบโต้กลับมาบ้าง เวลเบ็คใช้ความแข็งแกร่งลากไถเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงทันทีบอลผ่านหน้าประตูออกไป
ทาคิยิงสวนเบาเป็นนุ่น
โชต้าพักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดนดั๊งค์ล้มตัวสกัดออกมา บอลมาถึงมินามิโนะวิ่งเข้ามาพยายามยิงสวยเข้าไปแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือของไรอัน
เฮนโด้ลงมิลเนอร์ขยับแบ็คขวา
คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนแรกในช่วงครึ่งหลัง โดยเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สันลงสนามมาแทน เนโก วิลเลี่ยมส์ แล้วโยกให้ เจมส์ มิลเนอร์ไปเล่นเป็นแบ็คขวาแทน
โก๋แดนโซโล่เดี่ยวยัดเสาแรก
เกมสวนกลับเร็วของเจ้าถิ่น เวลเบ็คเอาตัวรอดมาจากกลางสนามได้สวยก่อนลากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาล็อคหนีเฮนเดอร์สันก่อนหลอกยิงเสาแรก อลิสซอนดักทางไว้อยู่แล้วรับสบายมือ
โชต้าอีกแล้ว!กดหักข้อหงส์นำ 1-0
โชต้าคนดีคนเดิมทำให้ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำแล้ว ต้องชมเริ่มจากโรเบิร์ตสันเก็บตกบอลได้ก่อนเอาตัวรอดทางซ้ายได้สวยแล้วจ่ายมาให้ไวจ์นาลุดมปล่อยถึงซาลาห์แปะให้โชต้าดึงจังหวะทีเดียวหนีสองคนก่อนยิงหักข้ออด้วยขวาบอลพุ่งหนีมือไรอันเสียบก้นตาข่ายเข้าไป 1-0!!!
เทพม้วนเดี้ยงอย่างไว
ลัลลาน่าอยู่ในสนามแค่ 7 นาทีมีอาการบาดเจ็บต้องเปลี่ยนตัวออกจากสนามแล้วให้อลิเรซ่า ยาฮานบัคช์ ลงมาเล่นแทนเรียกว่าเสียโควต้าไปฟรีๆ 1 ตำแหน่ง
หงส์งานงอก!น้าเจมส์เดี้ยงโจนส์มาแทน
ลิเวอร์พูลงานเข้าอีกแล้ว มิลเนอร์เจ็บแฮมสตริงขาขวาเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอา เคอร์ติส โจนส์ ลงมาแทนแล้วไปเล่นเป็นแบ็คขวาแทนทันที
ร็อบโบ้สกัดอย่างเทพ
มาร์ชกระชากขึ้นมาทางซ้ายแบบโล่งโจ้งก่อนบรรจงครอสบอลเข้ากลาง โรเบิร์ตสันไม่รู้จะทำยังไงจัดการตีเข่าระยะไม่กี่หลาบอลข้ามคานไปแบบใจหายใจคว่ำเลยทีเดียว
มาเน่โขกตุงโดน VAR ริบอีก
หงส์แดง สบายใจแล้วเมื่อได้ประตูหนีห่างจากฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ โรเบิร์ตสันวางเข้าไปให้ มาเน่ โฉบมาโขกตุงตาข่ายทว่า VAR เช็คออฟไซด์เป็นการล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
VAR ให้โทษ!กรอสยิงเจ๊า 1-1
ลิเวอร์พูลอย่างเซ็งมาเสียจุดโทษจังหวะที่โรเบิร์ตสันไปเตะแล้วโดนปลายเท้าของเวลเบ็คกรรมการไม่ได้ว่าอะไรแต่ย้อนกลับมาดู VAR ให้เป็นจุดโทษ แล้วเป็นกรอส รับหน้าที่ยิงคราวนี้ซัดไปตรงกลางเสมอกัน 1-1
หงส์เซ็งเสมอไบรจ์ตัน 1-1
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูลพลาดท่ายันไม่อยู่โดนไล่ตีเสมอ 1-1 แบ่งแต้มกันไปขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวแบบเซ็งกันถ้วนหน้า
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-2-3-1
76.
เนโก วิลเลี่ยมส์

46'
6
11.
โมฮาเหม็ด ซาลาห์

64'
6.5
ตัวสำรอง
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

46'
6
10.
ซาดิโอ มาเน่

64'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Sat Nov 28, 2020 21:33, ทั้งหมด 21 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ