ออกตัวก่อนนะว่าฝั่งการเมืองที่ผมชอบคือ ฝั่งประชาธิปไตย
และไม่ชอบวองโกเล่10(ซึนะโยชิ) ซึ่งผมเป็นคนที่ชอบพวกการเมืองการปกครองมากๆ แต่ลองคุยเรื่องการเมืองดู แฟนบอกว่าแรกๆอยู่เชียร์ฝั่งม็อบนะแหละ แต่พอเล่นเกี่ยวกับรีบอร์น เธอดันบอกไม่ควรซะงั้น ดังนั้นอยากจะขอคำแนะนำว่า ผมควรจะทำยังไงดี
เช่นไม่พูดเรื่องนี้ไปเลย หรือว่าคอยป้ายยาบอกความเป็นจริงไปทีละนิด ที่จริงตัวผมอยากจะบอกตรงๆไปเลยว่าความจริงคืออะไร
แต่ด้วยวุฒิภาวะของน้องเขา(อายุ20) ผมกลัวน้องเขารับไม่ไหว
เลยอยากมาขอคำแนะนำหน่อยครับ
ป.ล. ผมพูดถึงเรื่อง รีบอร์นกับวองโกเล่ คงไม่ผิดกฏใช่มั้ยครับ
ถ้าผิดบอกด้วยนะครับ อีกอย่างสำหรับคำขอบคุณมู้หน้า ผมจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับ AV และ Pornstar ให้แบบสาแก่ใจเลยครับ555

คิดต่างกันมันก็เรื่องปกติในประชาธิปไตยที่ท่านชอบไม่ใช่เหรอครับ ทำไมถึงจะต้องไปเปลี่ยนเค้าล่ะ

เห็นต่างและเห็นกันและกัน สำคัญที่สุดครับ

เราหาพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการเมืองที่มีคนคิดเหมือนกันได้เสมอ

แต่ถ้าคุณคิดว่ามันซีเรียสกับคุณมากขนาดนั้น ค่อยๆเปลี่ยนเค้าครับ ไม่มีใครเปลี่ยนได้ทันที

ทาส PR แต่ก่อนก็เป็นคนตาสว่างแถวนี้ทั้งนั้น มันต้องใช้่เวลาไปเรื่อยแหละนะ

คิดต่างกันมันก็เรื่องปกติในประชาธิปไตยที่ท่านชอบไม่ใช่เหรอครับ ทำไมถึงจะต้องไปเปลี่ยนเค้าล่ะ

เห็นต่างก็ไม่ผิด

แต่บางคนถ้าเอาความเห็นต่างมาทะเลาะ มันก็ผิด

เรื่องความสัมพันธ์มันพูดยากอะครับ แต่ละบ้านไม่เหมือนกัน
อย่างบ้านผม ผมพูดกับทุกคนได้หมดแม้แต่เรื่องนี้ พ่อแม่ผมก็ฟัง แต่หลายๆบ้านพูดไปก็ทะเลาะกันเปล่าๆ

ผมว่าท่านต้องลองมองความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับแฟนเอาอะครับ ว่าเค้าเปิดใจมากพอรึป่าว เรื่องรับไม่ไหวท่านค่อยๆป้อนข้อมูลได้ครับถ้าแฟนท่านเปิดใจ ความจริงอายุ 20 ก็ไม่ได้น้อยแล้วกับเรื่องนี้ในยุคนี้

เลือกที่จะไม่พูด ถ้าเค้าไม่ถาม

หาผัวใหม่คับ

หยอกๆนะคับ ค่อยๆป้ายยาให้ข้อมูลของวองโกเล่รุ่นสิบดูคับ ข้อที่เป็นทั้งรูปทั้งคลิปเยอะแยะคับ รับรองเดี๋ยวตาสว่างแบบแฟนผม

ส่วนวองโกเล่รุ่นก่อนพยายามอย่าไปแตะ เพราะข้อมูลไม่ชัด เน้นบอกแฟนไปว่าระบบปัจจุบันเป็นปัญหายังไง ควรแก้ที่ระบบเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ผมก็ทำแบบนี้กับแฟนคับ

ความจริงของท่านคืออะไรล่ะครับ ความจริงที่ท่านชอบหรือเขาเล่ามาแล้วถูกใจท่านหรือเปล่า
ถ้าเป็นประชาธิปไตยจริงควรรับฟังความเห็นของผู้อื่นได้ โดยเปิดใจรับฟังมุมมองของเขา
คนอื่นอาจมีมุมมองต่อเรื่องๆหนึ่งต่างกัน เขาอาจจะเห็นประโยชน์และโทษของเรื่องหนึ่งต่างจากท่านก็ต้องคุยกันด้วยเหตุผลถึงจะเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนครับ ที่เห็นทะเลาะกันส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองถูกหมดทั้งที่รับข้อมูลมาจากฝั่งเดียวจนไม่ยอมเปิดใจคุยกันมากกว่า

ตอนแรกแฟนผม​ คิดว่าลุงเป็น​คนดี​รักและปกป้องเก่าครับ
ผมก็เข้าใจเพราะว่าเขาเห็น​ภาพเก่าเป็น​คนดีมาตั้งแต่เด็ก
ส่วนผมก็พูดเกี่ยวกับ​ลุงอย่างเดียว​ ค่อยๆชี้ปัญหา​ของลุง​ให้ฟังโดยภาพของเศรษฐ​กิจ​และปากท้อง​ นโยบายหาเสียงที่ไม่สอดคล้อง​และทำได้จริง​ การเลือกตั้ง​ที่สุดติ่ง​ จนเขาเริ่มเห็น​ความจริง​
ส่วนเรื่องคอมโพรไมซ์ ผมก็เอาข่าวมาให้ดู​ เรารูปเสื้อกล้ามมาถามบ้าง ในเชิงถามชวนคิดว่าจริงไหม​ คิด​เห็นอย่างไร​
แต่ไม่ได้ยัดเยียด​นะครับ​ นานๆคุยที แล้วเขาถึงจะเริ่มหาคำตอบเอง​

1 เคารพความคิดของเขา อย่างไปปลูกฝั่ง ให้เขาเปิดใจเอง
2 อย่าพูดถึงเรื่องเรารู้ว่าเขาไม่ชอบแน่ๆ

ผมว่าท่านโชคร้ายอ่ะ เด็ก 20 คือ 80% เขาไม่เอาละ ส่วนท่านน่าจะได้ส่วน 20 % ไป

เป็นผมจะใช้แนวคิดเรื่องหลักสิทธิ-เสรีภาพที่คนไทยโดนริดรอนมาตั้งแต่รุ่น9 เช่น ใช้112จับติดคุก ไม่ก็ต้องลี้ภัย ลี้ภัยไม่พอหลายคนโดนอุ้มฆ่า เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องสากลที่คนที่สมองยังดีอยู่จะรู้ผิดถูก ซึ่งลองให้เค้าสังเกตุว่าใครก็ตามที่ออกมาปกป้องประชาชน เรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ตายก็ต้องลี้ภัยทั้งนั้น ชี้ให้เห็นว่านี่คือประเทศที่ใช้สถาบันกษัตริย์กักขังเสรีภาพประชาชนมาช้านาน

ถ้ามั่นใจว่าไว้ใจได้ ไม่คุก ก็ถามเจาะต่อเลยว่าทำไมคุณถึงไม่ควรเกี่ยวกับรีบอร์นล่ะ ละเปิดฉากดีเบทกันเลย ถกกันด้วยข้อมูล 5555

อายุ20หรือใกล้เคียง รอบตัวผมไม่มีเอาเลยนะNo.10เพราะข้อมูลสมัยนี้อยู่ในเน็ตเยอะมาก นี่มันปัญหาระดับโครงสร้างสังคมเลย เด็กสมัยนี้เก่งกว่ารุ่นผมเยอะมากๆในการวิเคราะห์ข้อมูลไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆแบบเมื่อก่อน. ค่อยๆป้อนข้อมูลไปเรื่อยๆครับสักวันหนึ่งเขาน่าจะเอียงมาฝั่งท่านเอง น่าจะมาจากบ้านแฟนท่านเป็นสายนั้นหรือเปล่าถึงโดนปลูกฝั่งมา แฟนผมตอนคบกันสมัยมหาลัยก็ไม่สนใจการเมืองเลยช่วง19-20ช่วงกปปสท๊อปฟอร์มแต่พอผมป้อนข้อมูลเยอะๆให้ตอนนี้อินกว่าผมสะอีก ผมยังแปลกใจ

ค่อยตั้งคำถามแบบอ้อมๆ แล้วค่อยๆวกมาเรื่องนี้
ผมเชื่อว่าในการจะกลับความคิดใครซักคน คนนั้นต้องฉุกคิดขึ้นมาเองอะครับ
เหมือน อินเซปชั่น อะ 55++

อย่างเวลาผมคุยกับญาติ สมมติขับรถผ่านรถทหาร
ผม : เออสมมติ รถทหาร มาชนเรา รถทหาร(รถจี๊ป)มันไม่น่าจะมีประกัน แบบนี้ประกันเราจะไปเคลียร์กันยังไงหนอ
ญาติ : บลาๆๆๆ
ผม : แต่ถ้าเป็นรถส่วนตัว พวกนายพลนี้หายห่วงน่าจะมีประกันหนึ่งชัวร์
ญาติ : บลาๆๆๆ
ผม : ว่าแต่ บ้านเรานายพลฯ เยอะแยะ ทั้งที่สงครามก็ไม่ค่อยจะมี
ผม : แบบนี้เขาตั้งนายพลฯ จากไหนยังไง ใครเป็นคนตัดสินตั้งให้หนอ
ผม : แถมตั้งมาก็สามารถรัฐประหารได้ด้วย เป็นนายกก็ได้ อนาคตดูไปไกลมากเลย น่าส่งลูกเรียนทหารเนอะ


ผมอ้อมโลกก่อนค่อยตบ เพราะญาติผมสลิ่มแอ๊บกลาง
ขนาดเจ้าตัวรู้เรื่อง ทวีวัฒ... ลึกเชียว ยังจะมาแอ๊บกลางอีก
(แหม่ก็ผัวทำงานในราชเลขาฯ เหมือนกุไม่รู้เนอะว่าเป็นสลิ่ม ไม่เนียนหรอก)


ก็หวังว่าซักวันเมล็ดพันธ์ที่เพาะลงไปคงเอาไปเชื่อมโยงได้บ้าง
แล้วแต่บุญแล้วแต่กรรมครับ