บาเรลล่าโขกตู้ม! "อัซซูร์รี่" บุกเชือดกังหัน 1-0 แซงนำฝูง
เป็นเกมที่ อิตาลี บุกไปเล่นได้ดีและมีโอกาสมากกว่า ก่อนเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่นอย่าง ฮอลแลนด์ 1-0 จากลูกโหม่งทดเจ็บครึ่งแรกของ นิโคโล บาเรลล่า ทำให้พวกเขามี 4 คะแนนจาก 2 นัด และแซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม A1 ในศึกยูฟ่า เนชันส์ ลีก
ฮอลแลนด์
Starting Formation: 4-2-3-1
5.
นาธาน อาเก้
81'
6
12.
ฮานส์ ฮาเตบัวร์
70'
6
20.
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
57'
6.5
ตัวสำรอง
19.
ลุค เดอ ยอง
81'
6
7.
สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น
57'
6
22.
เดนเซล ดัมฟรีส์
70'
6
ยูฟ่า เนชันส์ ลีก กลุ่ม A1
สนาม โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า
จันทร์ที่ 7 กันยายน 2563
กรรมการ เฟลิกซ์ บรีช
ฮอลแลนด์
0
1
อิตาลี
0-1 นิโคโล บาเรลล่า 45+1'
ฮอลแลนด์มาเล่น 4-2-3-1 โดยใช้ เดปาย ค้ำหน้า และมี โพรเมส,ไวจ์นัลดุม,เดอ เบค คอยหนุน ตรงกลางเป็น เดอ ยอง,เดอ รอน ยืนคุม แผงหลังเป็น อาเก้,ฟาน ไดจ๋ค,เฟลท์แมน,ฮาเตบัวร์ และ ซิลเลสเซ่น เฝ้าเสา
อิตาลีมาเล่น 4-3-3 แนวรุกเป็น อิมโมบิเล่,อินซิเญ่,ซานิโอโล่ ตรงกลางเป็น จอร์จินโญ่,บาเรลล่า,โลคาเตลลี่ แผงหลังซ้ายไปขวา สปินาซโซล่า,คิเอลลินี่,โบนุชชี่ และ ดอนนารุมม่า เฝ้าเสา
• เจอกัน 5 นัดหลัง อิตาลีชนะ 2 เสมอ 3 และไม่แพ้
อิมโมบิเล่ซัดทักทายก่อน
โอกาสทักทายครั้งแรกในเกมเป็นของฝั่งอิตาลี จังหวะที่อิมโมบิเล่หลุดไปในกรอบฝั่งซ้ายแล้วตวัดยิงมุมแคบ บอลพุ่งผ่านหน้าประตูหลุดเสาสองไป
บาเรลล่าส้มหล่นซัดแฉลบหลุดคาน
อีกครั้งของอิตาลี เป็นจังหวะที่เฟลท์แมนสกัดพลาดแล้วบอลไดเข้าทางปืนบาเรลล่าที่ได้กดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลแฉลบบล็อคฟาน ไดจ์คก่อนพุ่งหลุดคานไปนิดเดียว
ซานิโอโล่ฟาดท่าสวยหลุดกรอบ
อิตาลีน่าประตูขึ่นนำจากจังหวะที่สปินาซโซล่าได้บอลกระชากหนีเฟลท์แมนหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายถึงเส้นหลังก่อนักข้ามไปเสาสองให้ซานิโอโล่กระโดดฟาดกลับหลังท่าสวย แต่บอลพุ่งหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
อิมโมบิเล่ปั่นด้วยขวาหลุดเสาสองนิดเดียว
อีกครั้งที่อิตาลีได้โอกาสลุ้นออกนำ คราวนี้เป็นจังหวะที่อินซิเญ่ตวัดบอลจากแดนตัวเองให้อิมโมบิเล่หลุดไปหน้ากรอบฝั่งซ้าย เขาลากจี้เฟลท์แมนก่อนโยกแตะเข้าขวาแล้วปั่นบอลพุ่งเรียดโค้งหลุดเสาสองไปนิดเดียว
ดุมกระชากหาจังหวะซัดติดเซฟ
โอกาสของฝั่งฮอลแลนด์บ้าง เป็นจังหวะที่ไวจ์นัลดุมรับบอลจากอาเก้ก่อนพลิกหนีจอร์จินโญ่แล้วกระชากหาจังหวะวางเท้ากดด้วยขวาบอลพุ่งทะลุบล็อคเรียดไปตรงตัวติดเซฟดอนนารุมม่า
อินซิเญ่ปั่นแต่โค้งไม่พอ
อินซิเญ่ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนกระชากจี้ไปที่หน้ากรอบเขตโทษแล้วแตะหนีฮาเตบัวร์เข้าขวาแล้วเลือกปั่นทันที บอลพุ่งได้น้ำหนักแต่ก็หลุดเสาสองไปอีก
ซานิโอโล่เจ็บโดนเปลี่ยน
ท้ายครึ่งแรกอิตาลีต้องใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกเนื่องจากซานิโอโล่ได้รับบาดเจ็บ และเป็นคีนที่ได้ลงไปเล่นแทนในแนวรุก
เหน่งๆเลย!บาเรลล่าโขกไม่เหลือ 1-0 เลี่ยนนำจนได้
แล้วประตูแรกในเกมก็เกิดขึ้นเสียที เป็นฝั่งอิตาลีที่ออกนำไปก่อนจากจังหวะเล่นชิ่งกันทางริมเส้นเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย ก่อนที่บอลจะถึงอิมโมบิเล่ที่เลือกตักไปเสาสองให้บาเรลล่าโฉบตัดหน้าอาเก้และโขกเน้นๆตุงตาข่าย 1-0 ไปเลย
ครึ่งแรกเลี่ยนมาดีกว่าออกนำไปก่อน
จบครึ่งแรกเป็นอิตาลีที่ออกนำไปก่อนจากลูกโขกทดเจ็บของบาเรลล่า ซึ่งพวกเขาก็สมควรได้เพราะครองบอลและสร้างโอกาสลุ้นยิงได้มากกว่าชัดเจน ต้องดูว่าครึ่งแรกเจ้านถิ่นอย่างฮอลแลนด์จะมีการแก้เกมอย่างไร
อินซิเญ่ปั่นโค้งๆ โดนปัดทิ้ง
อิตาลีเกือบได้ประตูที่สอง เป็นจังหวะที่บาเรลล่าแตะบอลให้อินซิเญ่วางเท้าปั่นเน้นๆหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งตรงกรอบแต่ซิลเลสเซ่นพุ่งปัดออกหลังไปได้
เดอ เบคได้แปเน้นๆหลุดคาน
ฮอลแลนด์น่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ต่อบอลกันขึ้นมาแล้วเดปายแทงให้ไวจ์นัลดุมหลุดไปทางกรอบฝั่งขวาก่อนปาดเข้ากลางไปที่จุดนัดพบให้เดอ เบควิ่งมาแปเน้นๆ แต่บอลพุ่งหลุดคาน
เดปายส่องด้วยซ้ายแรงหลุดกรอบ
เดปายรับบอลจากเดอ ยอง หลุดมาที่หน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเลิกซัดด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งแรงแต่ก็หลุดเสาแรกออกหลังไป
คีนเข้าฮอร์สแต่ไม่ตรงกรอบ
อิมโมบิเล่ได้บอลทางกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะเลี้ยงจี้แล้วไหลเรียดเข้ากลางให้คีนโฉบมาตวัดยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเรียดทะลุบล็อคแต่หลุดกรอบออกหลังไป
เดอ ยองได้โขกตรงตัวน้องดอน
เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา เป็นเดปายที่เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเดอ ยองที่เทคโหม่งตรงกรอบแต่ก็ไปติดเซฟดอนนารุมม่าที่ยืนตำแหน่งดี
เดปายฟาดท่ายากเด้งหลุดเสาสอง
ท้ายเกมเจ้าถิ่นพยายามโหมบุกเพื่อเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้ได้ลุ้นเมื่อเดอ รอนครอสบอลจากริมกรอบฝั่งขวาไปทางเสาสองให้เดปายกระโดดวอลเลย์ลงพื้นก่อนที่บอลจะเด้งหลุดเสาสองไป
คีนฉกส้มหล่นหลุดซัดออกหลัง
อิตาลีน่าได้ประตูฝังชัย จากจังหวะที่เฟรงกี้ เดอ ยอง โขกบอลกลับหลังพลาดโดน คีน ฉกได้ เขาลากบอลเข้ากรอบฝั่งซ้ายแล้วแตะหลบซิลเลสเซ่นก่อนซัดมุมแคบหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
เลี่ยนเฮ 1-0 แซงนำฝูง
สุดท้ายจบเกมเป็นอิตาลีที่ทำได้ดีกว่า บุกไปเอาชนะ 1-0 จากลูกโขกทดเจ็บครึ่งแรกของบาเรลล่า ทำให้พวกเขามี 4 คะแนนจาก 2 นัด แซงขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม A1 ทันที
อิตาลี
Starting Formation: 4-3-3
4.
เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า
7.5
20.
มานูเอล โลคาเตลลี่
81'
7
10.
ลอเรนโซ่ อินซิเญ่
90'
7
11.
นิโคโล ซานิโอโล่
42'
6
ตัวสำรอง
6.
ไบรอัน คริสตันเต้
81'
6
14.
เฟเดริโก้ เคียซ่า
90'
6
22.
มอยเซ่ คีน
42'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Tue Sep 08, 2020 06:37, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
