[RE: “ฟู้ดแพนด้า” ขึ้นค่าคอมมิชชั่นร้านค้า จาก 20% เป็น 35%]
HOMJEAW~ พิมพ์ว่า:
Le Demon Rouge พิมพ์ว่า:
โมเดลธุรกิจแบบนี้มันก็ต้องทำใจ ใช้เงินทุ่มทุนบิดพฤติกรรมการบริโภคมานาน
ลองคิดดู สั่งอาหารราคารวม 100 นึง หักร้านอาหาร 30 บาท+คิดค่าส่งลูกค้า 10 บาท = แพนด้าได้เงิน 40 บาท
ซึ่งคนชอบคิดว่ามันจบแค่ตรงนี้ ทำไมแพนด้ามันหน้าเลือดจังวะ
แต่คนลืมคิดไปว่า ในอีกขานึง ไอ 40 บาทที่แพนด้าได้มา ก็ต้องเอาไปจ่าย rider 40-50 บาทต่อออเดอร์
สรุปสั่งออเดอร์นึง แพนด้าอาจจะไม่ได้ตังซักกะบาท ถ้าไม่ใช่ออเดอร์ที่ราคามันเยอะจริงๆ (grab เคยออก small order fee มา ปรากฎโดนลูกค้าด่ายับ) ทั้งๆที่เค้ามีต้นทุนค่าใช้จ่ายอีกเยอะ ทั้งระบบหลังบ้าน พนักงานบริษัท ค่าโปรโมททำตลาด บลาๆๆๆ
ทั้งแพนด้า ทั้งร้านอาหาร ทั้งคนขับ ทุกคนก็อยากได้เงินกันทั้งนั้น แต่สุดท้ายมีสองทางเลือก
ทางเลือกแรก ขึ้น GP จากร้านอาหารหารายได้เพิ่ม หรือลดส่วนแบ่งคนขับ ผลก็คือโดนด่ายับ
ทางเลือกที่สอง คิดค่าส่งตามจริงไปเลยให้ rider เต็มๆเลย แล้วเก็บ GP จากร้านอาหารลดลง ซึ่งถ้าทำแบบนี้ผู้บริโภคก็จะบ่นว่าแพงแล้วไม่ใช้แอพอีก
สุดท้ายไม่ต้องโทษใครหรอก เพราะไม่มีใครได้อะไรในธุรกิจนี้ (แม้แต่ผู้บริโภคก็ต้องกินอาหารที่แพงกว่าหน้าร้าน แลกกับการกระดิกเท้ารออยู่บ้าน)
ในมุมมองของร้านอาหาร คิดซะว่ามันเป็นการจ่าย GP เพื่อโปรโมทร้านเอาละกัน ส่วนคนขับก็ทำเป็นอาชีพเสริมเถอะ อย่าไปฝากความหวังเป็นอาชีพหลักเลย
เคยเถียงกับคนขับใน SS อยู่ตอนที่คนขับแกร้บออกมาประท้วง ก็เห็นมองแต่มุมตัวเองว่าต้องได้อะไร
ไม่มองโครงสร้างบริษัทและระบบธุรกิจพวกนี้ด้วยซ้ำ มองแค่ว่าก็แกร้บได้เงินแล้วหลังจากส่งออเดอร์เสร็จ
ลองดูจริง ๆ ตกหัวพนักงาน 1 คนของทั้งบริษัทต่อ 1 รอบส่งอาหารยังได้ไม่ถึงสลึงเลยมั้ง
บอกเขาไม่ต้องจ่ายอะไรเลยเป็นแค่ตัวกลาง แล้วไอตัวกลางที่เขาพัฒนามานี่พูดเหมือนได้มาฟรี ปวดหัวเลย
มันบิดเบี้ยวกันหมดทุกภาคส่วนครับเรื่องนี้
ตัวแพลทฟอร์มอีกก็ใช้เงินทุนบิดพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้ลูกค้ามาใช้แอพให้เยอะสุด ดัมพ์ราคาให้ถูกสุด
ตัวร้านอาหารก็อยากได้ช่องทางขายเพิ่ม แต่ไม่อยากจะเสียอะไรเลย
ตัวคนขับก็อยากจะได้เงินเยอะๆให้คุมค่าวิ่งรถ ค่าเสื่อมรถ ค่าเน็ตโทรศัพท์ หนักๆคือขับเป็นอาชีพหลักเลย หวังพึงจากอาชีพนี้เต็มที่
ตัวผู้บริโภคก็ยังไงก็ได้ แต่กูต้องได้ซื้ออาหารในราคาถูกสุด ค่าส่งถูกสุด ค่าส่งแพงกูไม่ซื้อ ต้นทุนเท่าไหร่ไม่สนใจหรอก เจ้านี้แพงก็ไปหาเจ้าอื่น
สุดท้ายมันจะไปจบตรงไหนล่ะ มันก็งูกินหางกันหมด แพลทฟอร์มก็ต้องหาสายป่าน เอาคำว่าสตาร์ทอัพไปหลอกแดกนักลงทุนเพิ่มสายป่านไปเรื่อยๆ ถ้าสายป่านเริ่มร่อยหรอหรืออยากเริ่มจะได้กำไรขึ้นมาบ้าง ก็ต้องมาขึ้นราคาแบบนี้แหละ