พาร์ทฟังนี่ เป็นตราบาปชีวิตผมมาก

ผมได้​ 1300​ ครับสอบไป​ 6​ ครั้งรวม​ พาทฟังกับรีดดิ้งนี่เอาเรื่องจัดๆ​ 55555​ รีดดิ้งนี่ไม่ใช่ศัพท์ทั่วไปด้วย​ งงตาแตก

เทคนิคคือสติครับ แล้วก็สั่งสมประสบการณ์

ใช้ชีวิตกับ eng ให้เยอะครับ ฝึกอ่านบทความ eng ดูหนังพากย์ eng (เปิดซับช่วยได้ถ้าแรกๆ แต่ห้ามเปิดซับไทย เปิดแต่ eng) หนังที่ดูห้ามดูหนัง action เพราะศัพท์มันโคตรง่าย ให้ดูหนังพวกปรัญชาหรือรอมคอมก็ได้

รุ่นพี่ที่ผมรู้จักแกได้ 9xx โดยแทบไม่ได้ฝึกทำข้อสอบหรือนั่งติวอะไรเลย แต่แกใช้ชีวิตกับ eng ในระดับแบบสุดจริงๆ ดูหนังแกไม่ต้องเปิดซับเลย รู้เรื่อง 100%

ผมพึ่งไปสอบมาปีก่อน ผมอ่อน Grammar มาก อ่านยังไงดูยังไงก็ไม่เข้าหัว แต่ผมชอบพวก Listening อยู่แล้ว ก่อนสอบผมก็ดูคลิปพวกข่าว กีฬา ภาษาต่างประเทศ แล้วก็ฟังเพลงของ Migos ไม่รู้เกี่ยวเปล่านะ 555 ได้ 680 ก็โอเคอยู่ เน้นนำมาประยุกต์ภาษาอังกฤษใช้ในชีวิตประจำวันเราครับ

โจทย์หลอกเยอะมากครับ ผมทำไปยังคิดเลยว่าคนพื้นฐานอังกฤษไม่แน่น ไปเลือกตอบอันโดนหลอกแน่ๆ

คำศัพท์ขั้นสูงค่อนข้างเยอะ

ปล. การไฟฟ้านี้ถ้าเข้าได้ยินดีด้วยมากเลยครับ เข้าค่อนข้างยากด้วยอะไรหลายๆอย่างๆ

หลายท่านบอกไม่ต้องเตรียมตัวแต่ทำตัวให้ชินกับภาษาอังกฤษ ใช่! มันช่วยได้แน่ครับแต่มันช่วยได้แค่กับบางคน การใช้ชีวิตให้ชินกับภาษาอังกฤษมันไม่ได้ใช้เวลาแค่ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปีนะครับ บางคนเขาชินกับภาษาอังกฤษมานานแล้วเขาเลยทำข้อสอบได้ แต่ถ้าท่านแทบไม่เคยใช้ภาษาอังกฤษเลย ผมแนะนำให้ไปติวครับ วิธีนี้ง่ายที่สุดสำหรับท่าน

ฝึก Part of speech เลยคับท่านคนไทยรู้คำศัพท์เยอะแต่ส่วนใหญ่ไปตายตรงใช้ไม่เป็นว่าคำนี้ทำหน้าที่อะไร ถ้าฝึกแม่นแล้วจะอ่านบทความเก่งขึ้นด้วยนะท่าน

ผมไปสอบแต่เป็นของปีที่แล้วนะได้มา 890

ผมก็ไม่รู้นะว่าแบบใหม่เปลี่ยนตรงไหนอะไรยังไงบ้างเพราะไม่ได้ตามเลย แต่จะแนะนำเทคนิคของผมกับของปีที่แล้วละกัน

Listening : อันนี้พาร์ทเก็บแต้มเลยครับ ควรทำให้ได้เยอะที่สุด ส่วนมากคำไม่ยากครับ แค่เราอย่าโดนหลอกพอ พยายามดูรูปแล้วจำพวกองค์ประกอบในรูปให้ได้ไวที่สุด แล้วเวลาฟังตัวเลือกให้ฟังแล้วตัดออกทีละอันไปเลย ถ้าอันไหนไม่ใช่ ถ้าข้อนั้นทำไม่ทันหรือยังเลือกไม่ได้ให้รีบๆเลือกไปเลยครับ ไม่งั้นเราจะฟังข้อใหม่ไม่ทันและอาจเสียคะแนนถึงสองข้อได้ ส่วนบทสนทนาก็ใช้เทคนิคคล้ายๆกันนะ จำไว้ว่า Who,When,Where,How ในบทสนทนานั้น

Reading : อันนี้พวกคำศัพท์ผมคงแนะนำอะไรไม่ได้ ยกเว้นว่าจะไปหาอ่านหาจำเอาเอง ส่วนเทคนิคผมก็ทั่วๆไปคืออ่านชอยส์ทีละข้อก่อนว่าทำไรบ้างแล้วไปนั่งหาในบทความเอา แต่บางทีหาไม่เจอก็อ่านหมดเลยก็มี

ส่วนตัวผมเองคุ้นชินกับภาษาอังกฤษอยู่แล้วเลยอาจแนะนำอะไรมากไม่ได้ แต่ก็ขอให้สู้ๆครับ

ปล.ได้ 890 ผมไม่ได้ติวอะไรไปเลย แค่เตรียมตัวไว้ว่ามีพาร์ทอะไรบ้างและควรทำตัวยังไงบ้าง เพราะผมเคยมีประสบการณ์สอบรอบแรกมาแล้ว (แต่ก็ห่างกัน 3-4 ปี)เลยพอรู้แนวข้อสอบว่าเป็นยังไง ที่จะบอกคือข้อสอบมันไม่ได้ยากขนาดนั้นแค่เราเตรียมตัวไปดีๆก็ทำได้เยอะแล้วครับ สู้ๆครับ

Toeic Listening & Reading

Part หลักตัวทำตะแนนเป็น Listening ซะส่วนใหญ่เพราะ Reading ทำไม่ทันกัน โดยเฉพาะ part ที่เป็น paragraph มาให้อ่าน ถ้าไม่ได้กะเอา 800+ ขนาดนั้นลองฝึก part toeic listening เวลาอันไหนไม่ทันก็ข้ามไปเลย ไม่งั้นจะเป๋หมดเพราะมันมีเวลาฟังจำกัด

Part Reading ก็ focus grammar กับ vocab แล้วให้เวลากับ part ที่เป็นเต็มคำ ยังไม่ใช่อ่านบทความตอบ เป็นหลักน่าจะช่วยได้

TOEIC ง่ายที่สุดในการสอบแล้ว ถ้าเทียบกับพวก TOEFL หรือ IELTS
หลายคนได้มากกว่า 700 แต่พอไปทำงานกับฝรั่งจริงๆหงายเงิบ เพราะมันมีสอบแค่ฟังกับอ่าน แถมเป็นข้อสอบกาอีก


หลักๆเอาเรื่องฟังไว้ก่อนข้อนี้ตัวทำคะแนนเลยน่าจะได้ 400ไม่ยาก ถ้าฟังบ่อยๆ
ที่เหลือไปติวดูตาม youtube ก็ได้มันมีวิธีทำข้อสอบแบบรัดกุม อ่านผ่านๆก็ตอบไปเลย เพราะเวลามันให้น้อย
และก็คำศัพท์ต้องมีในหัวพอสมควร ส่วนมากศัพท์เกี่ยวกับการทำงานและใช้ในชีวิตประจำวันนั่นแหละ


สรุปอยากได้เยอะไปติวเลยครับ ผมว่า 650+แน่ๆ

เคยสอบอยู่ 3 รอบ

สมัยเรียน ป ตรี 450 ประมานนั้น สอบแบบลองข้อสอบ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย

รอบ 2 ได้ 595 สอบเพื่อเอาไว้สมัครงาน ก่อนหน้านั้นก็มีทำทีสิส อ่าน paper พอสมควร แล้วก็ดูหนังที่เป็น soundtrack ตลอด

ก่อนสอบก็อ่านแกรมม่าไป เพราะ part reading ผมได้น้อย ก็ได้เพิ่มมานิดนึง

สอบรอบ 3 ได้ 710 คือจะเปลี่ยนงาน หลังจากสองรอบแรกก็พยายามให้ในชีวิตปกติมีอิ้งเข้ามาเกี่ยวเยอะๆ เช่น

เวลาจด short note ดูหนัง ฟังเพลง การเตรียมตัวคือดู youtube ช่องฟรีเกี่ยวกับแนว toeic ตอนเย็นๆ ประมาน 2 อาทิตย์

พวกเทคนิคการทำการอ่าน การดูช้อย พวกนี้ช่วยได้เยอะ ตอนสอบเสร็จยังคิดอยู่เลยไม่น่าถึง 650 สงสัยได้สอบใหม่

ถ้าอยากได้เยอะไปเร็วๆ ก้ควรลงทุนลงคอร์สเรียนของสถาบันต่างๆเอาเลยครับ เลือกเอา ถ้ามัวแต่ทำเอง อ่านเอง มันก้ไม่ได้เร็วขนาดนั้นหรอก เพราะอย่างน้อยมันต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆครับสำหรับภาษาอังกฤษ

กดฟังให้ยับครับ แนะนำซีรีย์ the office ซับอังกฤษ มี 9 ซีซั่นเป็นการทำงานในสำนักงาน ศัพท์ค่อนข้างตรงเลย หรือดู youtuber ก็ได้ครับ ดูไปเรื่อยๆรับรองคะแนนขึ้น

พาร์ทฟังสำคัญที่ฟังให้เข้าใจว่าเค้าถามอะไร ไม่จำเป็นต้องฟังออกทั้งประโย๕ แค่ฟังว่า What,When,Why ก็รู้แล้วต้องตอบอะไร

ผมสอบ 4 รอบ

รอบแรก ตอนกำลังจะเรียนจบเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เพื่อวัดว่าเราอยู่จุดไหน .... ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยครับ มาถึงสอบเลย ได้ 590 ( 340,250 ) พอเริ่มเห็นว่า มันมีช่องว่างให้พอทำคะแนนได้ ทั้ง Listening กับ Grammar ผมก็ อ่าน Grammar แล้วก็ฟัง Listening ทุกคืน ย้ำว่าทุกคืน นอนก็เปิดฟังไปด้วย อะไรฟังแล้วจับคำศัพย์ไม่ออก ก็กด Pause แล้วเขียนเลย ว่าตัวไหนหลุด

รอบสอง (8 ปีที่แล้ว) ได้ 690 ( 380,310 ) แล้วก็ใช้ตัวนี้สมัครงาน ได้งานใน บ.ข้ามชาติ ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

รอบที่ 3 (5 ปีที่แล้ว) 695 ( 425, 270 ) ไปสอบตอนจะย้ายงาน เจอปัญหาเรื่อง Grammar กับ Reading ทำไม่ทัน เพราะไม่มีเวลาฝึก

รอบที่ 4 (5 ปีที่แล้ว) 720 ( 430, 290 ) สอบเพื่อเอาเงินพิเศษ องกรณ์ ใครได้เยอะ จะได้เงินพิเศษ ( 500+ ได้ 300 บาท ต่อเดือน , 600+ ได้ 400 บาทต่อเดือน, 700+ ได้ 500, 800+ ได้ 700, 900+ ได้ 1000) รอบนี้เตรียมตัว 2 อาทิตย์ Grammar ล้วนๆ

่ล่าสุด ลองไปทำ Simulation ในเว็บมา ก็ได้ประมาณ 770 ( 480,290 ) - -; รู้สึกเพลียกับ Part Grammar มากๆ ทำยังไงก็ไม่ทัน โดยเฉพาะ Part อ่าน หนังสือพิมพ์