อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status:

: 0 ใบ

: 1 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 169
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 20, 2020 01:08
ถูกแบนแล้ว
[RE: ใครเคยเป็นคนที่เรียนเก่ง แต่ปัจจุบันใช้ชีวิตธรรมดา แล้วผิดหวังในตัวเองบ้างมั้ยครับ]
ผมเรียนเก่งมาตลอด ตั้งแต่เด็กๆยันโต ติดโอเลมปิกวิชาการตั้งแต่ ม.4 ได้ที่ต้นๆของโรงเรียนเสมอ
สอบเข้าคณะ วิศวะ ได้ทุก มหาลัยที่อยากเข้า จุฬา/ธรรมศาตร์/มหิดล/เกษตร ติดทุกอันดับ
แต่เสือกดันเลือกมหาลัยใกล้บ้าน ตามโควต้า เด็กโอเลมปิก 5555+ เพราะตอนนั้น ธุรกิจที่บ้านลำบาก
แต่ก็ไม่ซีเรียสอะไร เรียนมหาลัย Tier 2 ธรรมชาติร่มรื่น เพื่อนๆนิสัยดี
จุดเปลี่ยนมาอยู่ที่ ปี 2 มหาลัย รู้สึกว่า เราไม่ต้องพยายาม อะไรมาก ก็ได้ A แล้ว
(ก็แน่สิเรียนมาหมดแล้วตอนเข้าค่ายโอเลมปิก) พอหลังจากนั้น ก็ทำตัวขี้เกียจ ไม่เข้าเรียน
คบเพื่อนกลุ่มไม่เรียนเพราะ คิดว่ายังไงก็ ต้องกลับไปทำธุรกิจที่บ้านอยู่แล้ว ไม่สนใจเกรดเลย
ผลคือ ติด F ไป 2ตัว ในเทอมเดียว จากได้เกรด 4.00 มาตลอด จนได้ เกรดต่ำสุดในชีวิต คือ 1.97
ต้องมาฟิตเอาเทอมสุดท้ายเพราะ ไม่งั้นจะไม่จบใน 4 ปี แต่โชคดีที่ยังกลับตัวทัน
ถึงจบมา 4 ปี เกรดเฉลี่ย 2.75+ เป็นตำนาน(แย่ๆ)ของคณะว่าขี้เกียจ+ติดเกม จากเด็กเก่งที่สุด กลายเป็นเด็กดาษๆ แต่ยังจบ 4ปี
ในช่วงเวลาตอนปี 2-4 ที่ผมไม่เข้าเรียนเลยนั่น ในระหว่างนั้นผมก็นั่งเล่นหุ้น +เล่นเกมไปเรื่อยๆ
จนในตอนจบปี 4 ผมทำเงินได้มากถึง 15,000,000 จากเงินเก็บ 200,000 จากการเล่น Forex ทุกคืน
กะว่า จะทำให้โลกรู้ว่า ขี้เกียจแบบเราก็ประสบความสำเร็จได้โว้ย
พอจบปี 4 ที่บ้านอยากให้ไปเรียนโทต่อที่อังกฤษ แต่ด้วยความที่เกรด เชี่ยมาก ถึงได้ ielts 7 ก็ยังไม่ได้ไป U ดีๆอยู่ดี เลยตัดสินใจไม่ไป กลับมารับช่วงต่องานที่บ้านเต็มตัว
หลังจากนั้น เงินที่ได้มาจากการเก็งกำไร พอผมอายุ 25ก็เล่นผิดพลาดสะสมมาตลอด จากเงิน 15 ล้านใน Port ลดลงเรื่อยๆ ขาดทุนแทบทุกวัน วันละแสน บางวัน ถึงล้านก็มี จนเหลือแต่ทุนเริ่มต้นคือ 200,000 บาท เพราะมั่นใจในตัวเองมาก อีโก้สูง ไม่ฟังใคร ใช้เวลาเกือบปีกว่าจะทำใจ Move on ต่อไปได้
งานที่บ้านก็ทะเลาะกับม๊าทุกวัน เพราะวิธีการคิด การแก้ไขปัญหา แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พอเราใช้เหตุผล ที่บ้านก็คุยด้วยแต่อารมณ์ เบื่อมาก
จนถึงมีวันนึงอยากฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ามากๆ ยังดีที่ ฉุกคิดได้ว่าถ้าเราตายไป ที่บ้านคงเสียใจ
พอมองย้อนกลับไป ผมมีศักยภาพพอที่จะ ทำอะไรก็ได้ เข้าคณะอะไรก็ได้
ผมมั่นใจว่าถ้าวันนั้น ผมเลือกเข้า มหาลัยดีๆชั้นนำ ที่สังคมแข่งขันกันมากๆอย่าง จุฬา หรือไปเรียนต่อต่างประเทศ ไฟในตัวผมคงไม่ได้มอดไปไวขนาดนี้ แต่ก็โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเองที่ขี้เกียจเองล้วนๆ
เอาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อม ชิลๆจนเป็นนิสัย ไม่เอาอ่าวอะไรเลย
พอโตขึ้นก็คิดได้ เริ่มกลับมาขยัน เริ่มคิดถึงอนาคตมากขึ้น
แล้วก็เหมือนว่าความร้อนแรงของอารมณ์เราลดลง
พอใจเย็นขึ้น ก็เริ่มมองถึงมุมคนอื่น ว่าคนเราก็เหตุผลของแต่ละคนกันไป ทีเรายังมีเหตุผลของตัวเองเลย
คิดได้แบบนั้นจากงานที่บ้านก็ปรับตัวได้ดีมากขึ้นจนที่บ้านแทบจะวางมือได้แล้ว
ฐานะทางบ้านก็ดีขึ้นมา ในระดับ 8หลักปลายๆ
แต่ผมก็ยังไม่พอใจตัวเองอยู่ดี เพราะรู้ว่าถ้าตั้งใจมากกว่านี้
ถ้าไม่คิดโง่ๆ ถ้าไม่อีโก้ ถ้าไม่ขี้เกียจแบบโง่ๆ ถ้าตั้งใจทุ่มเททุกอย่าง เหมือนสมัยเป็นเด็กโอเลมปิกนั่น
ป่านนี้ ผมพาทุกคนในครอบครัวไปไกลได้มากกว่านี้ มีประสิทธิภาพและความมั่นคงกว่านี้อีก 10เท่า
ที่ผ่านมาผมมัวเสียเวลาไปกับ ช่วงเวลาที่เรารู้สึกแย่กับตัวเอง
มันแย่จริงๆ กว่าจะผ่านมาได้ ไม่ง่ายเลย
ขอโทษที่พิมพ์ๆระบายจนเหมือนจะกึ่งโม้นะครับ แต่มันอัดอั้นเหลือเกิน 55555+
ขอบคุณกระทู้นี้มากๆครับ
แก้ไขล่าสุดโดย เด็กต้มตุ๋น เมื่อ Wed May 20, 2020 01:17, ทั้งหมด 3 ครั้ง