อยากถามว่าคนส่วนใหญ่เค้าต้องการแบบไหนกัน

งานสบายๆ เงินไม่มากไม่น้อย

งานหนักกดดัน เงินเยอะ

ผมขอเสนอไอเดียเพิ่มเติมนิดนึง

เหมือนงานที่ผมทำตอนนี้ เงินเดือนถือว่าสูง

แต่เนื้องานถือว่า หนักมากไหม ก็ไม่ สบายไหม ก็มีเวลาทำนู้นนี้เยอะนะ

แต่มันดูหลายแผนก หลายส่วน ดูเพื่อว่า จะทำไงให้มัน flow ได้ปกติ

ดังนั้น สิ่งที่ จขท ถามมา ก็เลยไม่รู้จะตอบอะไร

ปล. เงินเยอะ ไม่ใช่ว่า งานหนักนะครับ บางทีเงินเยอะ เวลาว่างอาจจะมากขึ้นก็ได้ แต่สิ่งที่เพิ่มมา คือ ความรับผิดชอบ ที่มากขึ้น และการตัดสินใจ ที่ต้องเด็ดขาด นึกถึงผลประโยชน์บริษัทมากขึ้น

ถ้าเป็นตอนนี้ผมเลือกงานหนักเงินเยอะดีกว่า ยอมเหนื่อย

จริงๆผมเทียบผิด ผมจะเทียบว่า ได้หยุด กับ ไม่ได้หยุด

ผมดูที่ปัจจัยความสุขนะ

เงินเดือนเยอะกดดัน แต่ถ้าเรายังมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ก็โอเค
แต่ถ้าไม่มีความสุข ผมเลือกกลางๆดีกว่า

ผมชอบเอาเวลาไปใช้ชีวิตตามlifestyleตัวเองอ่ะ ขอเลือกงานสบายละกัน (ถ้ามีเวลาเหลือค่อยหาอะไรทำเพิ่มให้ก่อรายได้อีกทาง)

เลือกยากมาก ผมเคยทำมาแล้วทั้ง2แบบก็ยังตอบไม่ได้เลย มีข้อดีข้อเสียคนละอย่าง

เวลาเป็นแบบนึงก็อยากได้อีกแบบนึง

เลือกงานที่ทำเเล้วสบายใจครับ

เมื่อก่อนผมทำงานที่ได้เงินดี แต่เครียด ไม่มีความสุข

ได้งานใหม่เงินอาจไม่ดีเท่า (เพราะไม่มีโบนัสแล้ว) แต่กลับทำงานเเล้วสบายใจครับ

สำหรับผมเเล้วเงินที่มากมายไม่สามารถซื้อสุขภาพทางใจไม่ได้

ขอเลือกงานหนักก่อนละกัน ยังหนุ่มอยู่ ไว้พอมั่นใจว่าไม่บรรลัยทางการเงินแน่ค่อยเอางานสบายละกัน

งานหนักครับ เคยได้ทำงานสบายแล้วรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าครับ เหมือนชีวิตโฟกัสอยู่กับเรื่องนี้เลยครับ จนมีพี่ที่ผมเคารพเคยถามว่า ถ้าเอ็งไม่ได้ทำงาน เอ็งจะทำอะไรวะ ผมก็ไปไม่ถูกเลยครับ 55

ปล.ก่อนหน้านี้ซักปีกว่า ผมทำงานหนักมาก จนเปลี่ยนงานกะว่าจะได้ work/life balance คืนมา (เงินเดือนเยอะขึ้นด้วย แต่ไม่ได้สาเหตุที่เปลี่ยน) สุดท้ายก็ไม่ชอบครับ สบายไป เลยรู้ตัวว่าตัวเองทำงานสบายไม่ได้จริงๆ

เลือกงานหนักเงินเยอะครับ ยิ่งไม่ได้หยุดยิ่งดี

จากประสบการณ์เคยทำงานงานเบา วันหยุดเยอะ

เงินเดือนพอใช้ ไม่ขี้เหร่

กลายเป็นว่าว่างเกิน แล้วมือเติบ หาเรื่องเที่ยวได้เกือบทุกวัน

จนแทบไม่มีเงินเก็บ

เลยเปลี่ยนเป็นทำงานให้ไม่เหลือวันว่างอยู่ตอนนี้ครับ

ผมทำงานวันละ10-14ชม. เหนื่อยโคตรๆ
แต่มีความสุขในงานที่ทำ มันเลยไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทำงาน
แต่กำลังทำในสิ่งที่ชอบ ยิ่งยากยิ่งท้าทาย
ทำงานเสร็จลูกค้าชอบใจในผลงาน ผมก็ยิ่งภูมิใจ
เงินได้คุ้มมั้ยก็คุ้มครับ ผมซ่อมรถยนต์ ยิ่งรถที่แก้มาหลายที่ไม่จบแล้วเราทำจบได้ โคตรจะภูมิใจเลย
งานยิ่งเยอะผมก็ยิ่งชอบครับ

มีแรงอยู่ ก็ขอทำงานหนัก ได้เงินเยอะดีกว่าครับ
ค่อยไปพักทีเดียว ตอนเหนื่อย

มันขึ้นกับหลาย ๆ ปัจจัยนะครับ

เช่น

สมัยผมจบใหม่ ๆ ไม่มีเงิน ผมเลือกงานหนักกดดันก็ได้มาเลยขอเงินเยอะ ๆ สมกับสิ่งที่ทำ

พอผมเริ่มเหนื่อยรู้สึกไม่เก่งขึ้นรู้สึกไม่ฉลาดกับสิ่งที่ทำไปอยากเจาะงนซักด้าน เงินมีพอ ขอเลือกเงินกลาง ๆ ทำงานกลาง ๆ ทำให้เราเก่งขึ้น

พออายุมากขึ้นเก่งขึ้นประสบการณ์มีเป็นที่ต้องการ งานน้อย ๆ กดดันบ้าง ก็กลายเป็นเงินเยอะ ๆ ได้เหมือนกัน

ผมเคยทำงานหนักกดดันมากได้เงินน้อยก็มี

ผมว่าถ้าเลือกย้อนเวลากลับไปได้

จบใหม่ออกมาขอเลือกงานหนักเฉพาะทาง ไม่เป๋ไปมาทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งซักอย่างเหมือนผมในปัจจุบัน
ทำแล้วพุ่งตรงแน่วแน่เลย ผมว่าอายุ 30 ได้เงินเดือนเป็นแสนไม่ยากแน่นอนเพราะผมเจอแต่คนที่แนวแน่ในสายงานมาได้เงินแตะแสนบางคนก็สองแสนก็มีถามว่างานหนักไหมเขาบอกสบาย ๆ เพราะผ่านมาหมดแล้วเข้าใจแก้ปัญหาได้ ทุกวันนี้คุมงานสบาย ๆ

เทียบกับผมที่ทำมาเยอะมากแต่ไม่เก่งซักอย่างอายุ 35 แล้วเงินเดือนยัง 50-60k อยู่เลยสุดท้ายด้วยความไม่เก่งไม่แม่นซักอย่างแถมโดนให้ทำงานทุกอย่างเพราะไม่เก่งซักอย่างทำโครตหนัก สุดท้ายผมทนความกดดันตัวเองไม่ได้ต้องถอยออกมาลดเงินตัวเองลงเพื่อเลือกซักด้านอาจจะใช้เวลาไต่ซักหน่อย แต่เสียเวลาไปเยอะน่าดู

สรุปคือจะงานหนักหรืองานไม่หนักไม่ได้แปรผันตรงกับเงินเดือน
ปัญญา ความรู้ ฝีมือ และประสบการณ์ต่างหากครับ

งานสบาย เงินเยอะๆ