แขวนสตั๊ด
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 30926
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Sep 15, 2019 22:02
[RE: ประสบการณ์รับน้องขึ้นดอยมช.]
BLIИK พิมพ์ว่า:
คือจริงๆการรับน้องของมช. มันก็เหมือนที่หลายๆคนแอนตี้แหละ
มีว้ากมีห้องเชียร์มีอะไรต่างๆนาๆที่หลายๆคนบอกว่ามันไร้สาระ แก่กว่าปีเดียวมีสิทธิอะไรมาสั่ง มาสร้างกฏระเบียบอะไรพวกนี้
ซึ่งอันนี้แล้วแต่มุมมอง ถ้าคนที่เข้ารับน้อง เข้ากิจกรรมห้องเชียร์อะไรพวกนี้จะรู้ถึงคุณค่าของมันตอนขึ้นดอยนี่แหละ
ช่วงเปิดห้องเชียร์ก่อนขึ้นดอย โดนว้าก โดนกางแขนทำท่าบูมโง่ๆไปทำไม
ทำไมต้องห้ามแต่งกายแบบนู่นนี่นั่น แค่มาเรียน มาบังคับอะไรนักหนา
รุ่นพี่รุ่นน้องหรือคนที่เข้าเชียร์ เราไม่ได้อยากรู้จักสักหน่อย ทำไมต้องมาบังคับเราให้รู้จักกับใครก็ไม่รู้
ซึ่งไอสิ่งพวกนี้ มันจะย้อนมาก็ไอช่วงขึ้นดอย เปิดสาย ได้รุ่นนี่แหละ
ตอนซ้อมบูมพลังใจมันจะมามากๆ ซ้อมมาหลายเดือนเพื่อมาบูมช่วงก่อนขึ้นโค้งสปิริต เหนื่อยยังไงก็ตาม ถ้าได้บูมแล้ว แรงมันมาอ่ะ
คือมันเป็นโปรเซสเพื่อการรับน้องขึ้นดอยแหละ ห้องเชียร์ของ มช
พักหลังๆก็เริ่มมีการคัดค้าน หรือเด็กไม่เข้าห้องเชียร์ หรือมีกฏระเบียบมากขึ้น
ศิษย์เก่าบางคนน่าจะเห็นเด็กวิจิตรดราม่าของปีนี้อยู่บ้างแหละ ว่าสเน่ห์มันหายไปเยอะเลย
ปล.1 พล่ามมาซะยาว ปีนี้ไม่ได้ไปครับ ติดคอนเสิร์ต
ปล.2 เดินลงดอยเหนื่อยกว่าเดินขึ้นชิบหายเลยครับ
ปล.3 รหัส 57 จ้ะ
เห็นด้วยเลยครับ คนภายนอกที่ไม่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองก็ชี้นิ้วด่าชี้นิ้วว่า ยิ่งอย่างของวิดวะนี่ยิ่งเห็นผลลัพธ์ชัดที่สุดเลย ผมโคตรชอบความเป็นUnityของพวกเขาเลย เป็นคณะที่ศิษย์เก่ากลับมาขึ้นดอยน่าจะเยอะที่สุดแล้วนะ มันแสดงให้เห็นถึงความกลมเกลียวของคณะเลยอะ
ปล.ปีนี้ดราม่าเยอะมากครับ ตั้งแต่พิธีกรพูดไม่ดี รถแดงไม่พอ รอบูมช้า ปล่อยรถตอนน้องบูม รอลงจากดอยช้า ฯลฯ
แก้ไขล่าสุดโดย liveranfield เมื่อ Sun Sep 15, 2019 22:05, ทั้งหมด 2 ครั้ง