น.(ผมใช้เรียกแทนแฟนผมละกัน) เป็นผู้หญิงที่เฟรนลี่มากๆ เข้ากับคนง่าย คุยสนุกเฮฮา มีศิลปะในการพูดโน้มน้ามคนที่ไม่เหมือนใคร ผมเป็นคนหนึ่งที่หลงเสน่ น. คุยกันทุกวันจนผมกับ น. ตกลงคบกันเป็นแฟน ได้เกือบ 2 ปี

จนเหตุการณ์มันเริ่มแปลกๆตั้งแต่นัดกับ น. และเพื่อนๆไปเที่ยว ตปท. จองตั๋ว,ที่พัก จ่ายเงินหมดเรียบร้อย สุดท้ายมายกเลิกไม่ไปบอกมีงานด่วน ผมพูดไม่ออกเลย แต่ก้อคิดว่าคงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ หลังจากเหตุการณ์นี้ น. เริ่มไม่ว่าง เลิกงานดึกทุกวัน ไม่มีเวลาเจอกัน ทักไลน์ไม่ตอบหรือตอบช้ามาก โทรไปไม่รับสาย ซึ่งผมก็ได้แต่ปลอบตัวเองว่า น. คงงานยุ่งจริงๆ (ผมเป็นคนที่ไว้ใจ น. มาก ไม่เคยโทรเช็คเวลาไปไหน ขอแค่ให้บอกว่าจะไปไหนก็พอ)

พอมาถึงวันเกิดผมก็มีเลี้ยงข้าวมื้อเย็นกับเพื่อนที่ออฟฟิศ ผมก็ชวน น. มา แต่ น. บอกไม่ว่างมางานเยอะมาก ผมก็ไม่ว่าอะไรจนกินข้าวเสร็จ ผมโทรไป ไลน์ไป ไม่มีตอบกลับ เช้าอีกวันไลน์ไป กว่าจะตอบ5โมงเย็นบอกแฮ๊งก์ เมื่อคืนเลิกงานแล้วไปกินเหล้าต่อกับเพื่อน ผมก็อึ้งนะรู้สึกน้อยใจ ก้อเลยจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน แต่ดันโดนตัดบทว่าเดี๋ยววจะไปกินชาบูร้อนๆแก้แฮ๊งก์กับเพื่อนแถวทองหล่อ ผมก็โอเค นัดไว้ก่อนแล้วไม่เป็นไร ตอนหัวค่ำทักไปก็ส่งรูปนั่งกินชาบูคู่กับเพื่อนมาให้ดู

หลังจากเหตุการณ์นี้ เวลาทักไลน์ไปก็ตอบช้า ตอบอีกทีข้ามวันก็มี อ้างว่าไม่ว่างงานเยอะ โทรไปไม่ค่อยรับสาย จนผมหมดความอดทน เลิกไลน์ เลิกโทร น้องเค้าก้อไม่ติดต่อกลับเหมือนไม่แคร์ เลยต่างคนต่างไม่คุยกัน 3 เดือนเหมือนเลิกกันไปโดยปริยาย ระหว่าง 3 เดือนนั้นเริ่มมีรูปคู่กับ ต.(ลูกชายดาวโป๊)หลุดมาในเฟส แต่ผมก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนกัน จนมาเห็นมีแท็กข้อความง้อกัน เหมือนจะทะเลาะกันมาก่อน ผมเห็นเลยแคปหน้าจอไว้ก่อน นึกในใจว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ในใจผมก็ยังรักและเป็นห่วง น. อยู่ตลอดอยากกลับไปคบกันเหมือนเดิม จนผมทนไม่ไหวเลยต้องพิมพ์ไลน์ไปขอโทษ น. ที่หายไปไม่ติดต่อไปหา น.เองก็ทักไลน์กลับมาขอโทษผม ที่ไม่ติดต่อผมกลับ ไม่ง้อผม น.บอกรู้ว่าผมคงโกรธเลยไม่กล้าง้อ

ผมเริ่มกลับมาคุยกับ น. เหมือนเดิม แต่เหมือนมีอะไรปิดบังผมอยู่ จนในเฟสเริ่มมีรูปคู่หลุดมาเรื่อยๆ เพราะ ต. จะแท็กซ์ น. ตลอด เหมือนจะรู้ว่า น. กลับมาคุยกับผม ผมแคปหน้าจอไว้หมด แล้วโทรไปเคลียร์กับ น. ว่ารูปในเฟสมันคืออะไรอธิบายให้ฟังหน่อย
ไปงานแต่งกับที่บ้าน แต่ดันมีรูปถ่ายคู่กับ ต. ด้วย
ไปกินชาบูกันเพื่อน แต่ดันมีรูปนั่งจิบไวน์ชิลๆกับ ต. ด้วย (เสื้อผ้า เครื่องประดับเหมือนกันรูปที่ส่งให้ผมดูแป๊ะ)
ไปงานแต่งเพื่อนที่ ตจว. กับเพื่อน แต่มีรูปคู่กับ ต. ด้วย

พอผมพูดจบ น. ปล่อยโฮร้องไห้เลย ขอโทษผมที่ปิดบังผมเรื่องกำลังคบกับ ต. ผมต่อว่า น. ไปเยอะมาก ว่าความไว้ใจที่ผมมีให้ น. ตลอด ไม่ว่า น. จะไปไหน ไปกับใคร ผมไม่เคยว่า ไม่เคยห้าม ขอแค่บอกให้ผมรับรู้ก็พอ ผมไว้ใจเสมอ แต่ความไว้ใจที่ผมมีให้ น. ตอนนี้มันไม่มีเหลือแล้ว ผมยื่นคำขาดว่า น. จะเลือกใคร น.บอกเลือกผม แต่ขอเวลาเคลียร์กับ ต. เพราะทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยมาก ด้วยนิสัยของ ต. เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เคยให้เกียรติผู้หญิง ทำให้ น. ร้องไห้บ่อยๆ ขนาด น. ต้องไปออกไซด์งาน ตจว. คนเดียวซึ่งเป็นไซด์งานก่อสร้าง สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวแล้วผมมองว่ามันอันตรายนะ น.ขอให้ ต. ขับรถให้หน่อย ต.กลับปฏิเสธแบบเหมือนไม่มีความเป็นห่วง น. เลย พอ น. มาเล่าให้ผมฟัง ผมเลยอาสาขับรถให้ทันที ระหว่างทาง ต. โทรมาหา น. ตลอดว่า เป็นยังไงบ้างถึงไหนแล้ว ต.รู้สึกไม่ดีเลยที่ปล่อยให้ น. มาคนเดียว ดราม่าตลอดทาง อ้างโน่นนี้นั้นตลอด น.ก็เหมือนจะเบื่อไม่อยาก พอวางสายปุ๊บ ผมด่า ต. ให้ น. ฟังเลยว่ามันเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ น.ไปเลือกมันได้ไง หรือแค่เห็นว่ามันกินเหล้า สูบบุหรี่เหมือนกัน เลยไปกันได้ น.ไม่กล้าเถียงผมซักคำ เพราะที่ผมพูดมันคือเรื่องจริง ผมได้สัมผัสถึงผู้ชายหน้าตัวเมียแบบจริงจังก็วันนี้แหละ จนขากลับกรุงเทพ ผมกับ น. แวะกินเบอเกอร์ในปั๊ม ผมก็ถ่ายรูปของกินไว้เล่นๆ ระหว่างนั้น ต.ก้อโทรมา ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่บังเอิญได้ยินเหมือน น. ตอบว่ากำลังกินเบอเกอร์อยู่ ผมเลยจัดการโพสรูปเบอเกอร์ลงในเฟสเปิดสาธารณะเลย แค่ไม่กี่นาทีเป็นเรื่องเลย ต.โทรมาถาม น. ว่าไปไซด์งาน ตจว.กับใคร น.ตอบว่ามากับผม ทั้งคู่ทะเลาะกัน ผมก้อทำเป็นไม่สนใจ แต่รู้สึกสะใจเล็กๆว่าแผนปั่นหัวคนสำเร็จแล้ว หลายวันต่อมา ต.เริ่มเวิ่นเว้อดราม่า ลงรูปคู่ในเฟสแท็ก น. แบบรัวๆ ต.คงคิดว่าผมต้องหัวร้อนแน่ๆ ที่เห็นรูปของมัน แต่ผิดคาดผมก็ทำเป็นนิ่งๆ แถมโพสรูปผมกับ น. ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน พร้อมแท๊กเฟส น. เรียบร้อย ต.หัวร้อนทะเลาะกับ น. จนพ่อกับแม่ของ น.รู้เรื่อง กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ผมเกรงใจพ่อกับแม่ น. ไม่อยากให้ไม่สบายใจเลยลบโพสทิ้งไป แต่ผลที่ได้รับ ต.โดนสั่งห้ามไม่ให้เข้าบ้าน น. (พ่อ น.เป็นคนดุมาก แต่สำหรับผมเข้ากับพ่อ น. ได้ดีทีเดียว) อีกประมาณ 2 วัน ต.ส่งข้อความมาทางเฟสบุ๊คแมสเซนเจอร์ ขอเคลียร์กับผมแบบแมนๆ ต.ยอมถอย แต่ทิ้งท้ายว่าเค้าไม่มีเจตนาจะแย่ง น. มาจากผม แต่ น.เลือกเค้าเอง มาดราม่าให้ผมอ่าน ผมก็ไม่ตอบอะไรมากได้ไม่อยากรับรู้ แต่ที่ปี๊ดคือ ต.มันไปนินทา น. ให้ทุกคนในออฟฟิศหมดว่ามันโดนหลอก ซึ่งสันดาน ต. ทุกคนในออฟฟิศรู้ว่าเป็นยังไง และที่แท้จริงแล้วมันตามตื้อ น. มานานตั้งแต่ยังคบกับผม แต่ น. ดันไม่หนักแน่นพอ (เพื่อน น. มาสารภาพให้ผมฟังตอนหลัง) หลังจากนั้นผมกลับมาคบกับ น. อีกครั้ง แต่เพราะผมอาจจะยังไม่ดีพอสำหรับ น. คบกันอีกครั้งได้แค่ปีกว่าก็เลิกกัน

แต่สิ่งที่ได้จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมรับมือกับความรู้สึกต่างๆได้ดีขึ้นมาก ความไม่ไว้ใจทำให้ผมถึงกับกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลดลงไปเกือบ10กิโล เพราะมัวแต่กังวลว่า น. กำลังคุยกับใคร กำลังไปไหนกับใคร หรือเปล่า ตลอด3-4เดือนหลังจากที่กลับมาคบกันใหม่ จนบางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนที่ไร้ใจไปแล้ว