ขีดเส้นตายให้ตัวเองสิ ว่าจะทำงานถึงวันไหน ก็แจ้งไปตามนั้น เพราะตอนผมลาออก ของผมคือหลังจากประชุมเสร็จความเห็นไม่ตรงกัน ผมก็พูดกลางที่ประชุมเลยว่า หัวหน้าครับ หลังประชุมเสร็จขอคุยด้วยหน่อยครับ

พอเรียกไปคุย เราก็ร่ายยาวเลยว่า จากที่ประชุมเมื่อกี้เราไม่โอเคตรงนี้ๆ และผมคิดว่าความเห็นของผมกับทิศทางที่นายอยากให้เดินไปมันคนละทางกันแล้ว ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ผมจะขอลาออกสิ้นเดือนหน้า ก็ตามสเตปเขาก็เสนอทางแก้ เช่นให้ปรับตำแหน่งมั้ย เดี๋ยวปรับฐานเงินเดือนขึ้นมั้ย บลาๆ สุดท้ายให้เรากลับไปคิดก่อน เพราะคิดว่าเรากำลังใช้อารมณ์ตัดสินใจอยู่ เดี๋ยวอีก 2 วันมาคุยกันอีกรอบ

กลับมาอีก 2 วันเข้าไปขอคุยใหม่ บอกไม่ว่างติดสอนมหาลัย เราก็โอเคงั้นเป็นพรุ่งนี้ ไปรอที่ออฟฟิตเลย จนได้คุยแล้วก็บอกว่ายืนยันคำเดิมว่าจะลาออก แต่เราจะแฟร์ๆ ว่าเดี๋ยวจะทำงานเพิ่มให้อีก 1 เดือนเพื่อสอน ถ่ายทอด และส่งต่องานให้คนอื่นที่จะมารับผิดชอบต่อ แต่ยังไงก็ยืนยันว่าจะทำงานจนถึงวันที่นี้ๆๆ ก็ตามนั้นเลย ครบวันเส้นตายปุ๊บก็ไปเลย ไม่กลับมาอีก

ผมก็เคยครับ
อยู่ทำต่อให้หลังจากออกแล้วด้วย
แต่ที่ทำต่อให้เพราะนายให้เงินก้อนมา
ไม่อยากเป็นบุญคุณ ก็ทำต่อให้หลังจากออกมาแล้ว
ก็กว่าเค้าจะหาคนได้ก็ สามสี่เดือนเห็นจะได้
ผมดูแลระบบไอทีคนเดียวทั้งบริษัท ธุรกิจขนส่งครับ
ระบบรัน 24*7 สุดท้ายต้องจ้างคนสามคนมาดู
สะใจ HR จ่ายเยอะกว่าเดิม รู้แต่ว่าโดนยับหัวหมอดีนัก
เคยจะให้ผมกลับไปทำ ผมก็ใส่ข้อเสนอที่เค้าให้ไม่ได้ 555

ผมไม่รู้ว่าคุณให้เหตุผลว่าจะออกจากงานเพราะอะไร

แต่...

เพื่อนผมคนนึงเคยบอกกับผมไว้ว่า

ถ้าจะลาออก หรือย้ายงาน ให้เหตุผลไปว่า เกี่ยวกับครอบครัว

ต้องออกจากงานเพราะว่าต้องดูแลแม่ที่ป่วย พ่อป่วย กลับไปอยุ่กับครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัด
ให้เหตุผลเกี่ยวกับครอบครัว มันเป็นเหตุผลที่ เค้าจะไม่รั้งเราไว้เท่าไหร่

ถ้าเหตุผลอย่างอื่น เค้าจะรั้งไว้ และยัดงานแน่นอน

ถ้าห่วตัวเองถึงเวลาแล้วต้องไปครับ

สั้นๆง่ายๆยัดมาก็ทำตามที่ไหวครับ มืออาชีพ

แต่มาห่วงแล้วไม่ได้ไปก็ตายครับ แบกต่อไป

ท่านได้งานใหม่หรือยังครับหรือแค่อยากออกเฉยๆ ถ้าจะออกเฉยๆ ก็ออกเลยลครับถือว่าแจ้งแล้วส่งใบลาออกแล้ว เค้าไม่เซนต์เอาก็ออกได้ครับ ถ้าเป็นผมจะคุยให้เครียทั้ง HR ทั้งหัวหน้างาน จริงๆท่านต้องคุยกับหัวหน้างานก่อนนะก่อนจะไปหา Hr ถ้าทำตามมารยาทแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ก็ออกเลยครับไม่ต้องสนใจใดๆ ถ่ายสำเนาใบลาออกเขียนวันที่ชัดๆ ไว้ก็พอ

ใจผมอยากลาออกด้วยดีนะคับ ยังอยากให้รักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้ให้กัน

มันเป็น บ.เล็กๆ ผมไม่อยากจะต้องหักดิบออกไปเลย

ทำไมตอนผมแจ้งลาออก เค้าทำเหมือนไม่สนใจ ประมาณว่าเมิงงงอยากออกก็ออกไปเหอะ

ใบลาออกควรยื่นผ่าน e-mail ส่วนตัว เข้าเมล HR ด้วย
เอาไว้เป็นหลักฐานว่าเรายื่นแล้ว

ท่านได้งานใหม่ยัง แบบนี้ขอเงินเพิ่ม 30% ไปเลย

ผมเป็นหัวหน้าครับ เลยไปคุยกับ hr โดยตรงเลย จริงๆตอนบอกว่าลาออก ผมก็ไปบอก

ตรงๆกับเจ้านายผมเลยด้วยซ้ำ แต่สำเนาผมไม่ได้ถ่ายไว้ด้วยอ่ะดิ

มีสิทธิโดนเลิกจ้างขาดงาน 3 วัน หากท่านหายไปเลย
ท่านต้องมีหลักฐานแสดงต่อกรมแรงงานว่าท่านได้ยื่นใบลาออกและเจ้านายที่ตรงกับสายงานอนุมัติ (หลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น จดหมาย sms ไลน์ messenger ฯลฯ แต่ต้องมีการอนุมัติลาออกนะครับ ไม่ใช่ว่าอ่านเฉยๆ ก็หมายถึงยังไม่อนุมัตินั่นแหละ

กฏบริษัทระบุไว้ว่าต้องยื่นลาออกล่วงหน้า 1 เดือน จะไม่ 1 เดือนก็ได้ถ้ามีการอนุมัติจากหัวหน้าหรือนายจ้าง

แต่ในกรณีท่าน ผมขอแนะนำว่าให้ไปยื่นคำร้องที่กรมแรงงานให้เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างนายจ้างหรือหัวหน้า กับลูกจ้าง ท่านก็จะได้ออกจากงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีประวัติในประกันสังคมว่าถูกเลิกจ้าง

การลาออกเป็นการแจ้งเพื่อทราบ ไม่ใช่การขออนุญาต ถ้าคุณมีหลักฐานว่าแจ้งแล้ว เช่นการเซ็นรับในใบลาออก(ไม่ใช่เซ็นอนุมัตินะ) หรือเมลล์ที่เราส่งใบลาออกให้ HR เราก็ออกมาได้และบริษัทฟ้องร้องเราไม่ได้ด้วย

ตามกฎหมายแรงงานที่หลายๆคนไม่รู้ พนักงานต้องแจ้งผู้จ้าง (ณ ที่นี้คือบริษัท) ว่าจะออกจากงาน "ไม่น้อยกว่า 1 งวดการจ่ายเงิน" ถ้ารับเป็นเดือนก็ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน รายวันก็ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 วัน ถ้าคุณมีหลักฐานว่าทำตามนี้จริงก็ไปเถอะ ยังไงบริษัทก็ไม่ยอมให้มันเจ๊งเพราะขาดคุณคนเดียวหรอก

เก็บหลักฐานไว้ ทำหน้าที่จนถึงวันสุดท้าย แค่นั้น
ไม่ว่าเหตุผลที่จะออกของท่านคืออะไร อย่าให้เขาเล่นแง่เอาเปรียบท่านเลยครับ

ถ้าห่วงตัวเองมากกว่าบริษัทก็อย่าได้แคร์ Don't worry ปล่อยวางครับ จะออกแล้ว คิดมากทำไม แต่ดูด้วยว่าเค้าเซ็นคำสั่งอนุมัติการลาออกของท่านด้วยนะ

ก็บอกหัวหน้าไปเลยจะออกแล้วให้งานมาผมทำส่งๆนะ ไปก็นั่งเล่นไปไม่ต้องทำงาน

เข้าใจความรู้สึกเจ้าของกระทู้ครับ แต่ตามสถานะคือถ้าเราลาออก โดยยื่นใบลาแล้วและมีการอนุมัติแล้วเราก็ทำงานตามวันสุดท้ายที่ระบุ ส่วนงานที่ค้างอยู่เป็นเรื่องของหัวหน้าคุณต้องเข้ามาจัดการ ไม่ต้องไปห่วงอะไรในจุดนี้ครับ แต่ให้ดูอีกทีว่าใบลาได้รับการอนุมัติแล้วหรือยัง ถ้ายังมันจะไม่มีผล อาจถึงขั้นต้องยอมหักดิบถ้าเขาไม่ยอมเซ็นให้ หรือแจ้งไปยังกรมแรงงานเลย สู้ๆนะครับ