[RE: ทำไมสัญลักษณ์นาซี ถึงเป็นสิ่งต้องห้าม?]
RedhotZ พิมพ์ว่า:
kungfukick พิมพ์ว่า:
ไอ้ redhotz นี่เหมือนพวกมีปมอ่ะ เหมือนชีวิตจริงไม่มีคนสนใจต้องมาตอบเรียกร้องความสนใจในนี้ เห็นมานานล่ะ
..ถามคำถามที่มันโคตระปกติเลย แค่สงสัยว่าทำไมเราต้องเรียนเรื่องนาซี ผิดซะงั้น
https://adaybulletin.com/life-feature-war-sun-still-shines/22896
https://www.the101.world/tul-interview-nazi-study/
ระหว่างโดนแบนก็อ่านไปพลางๆ ก่อนนะครับ
การที่มีคนเอาชุดนาซีมาใส่เวลาทำกิจกรรมหรือทำท่ายกย่องแบบนาซี สะท้อนให้เห็นอะไร
เคยมีอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยชาวตะวันตก สอนด้านวัฒนธรรมศึกษาในมหาวิทยาลัยไทย เขียนบล็อกตั้งข้อสังเกตไว้ว่า การที่คนในเอเชียรวมทั้งในไทย มีแฟชั่นนาซีหรือทำท่าไฮล์ฮิตเลอร์ เป็นเพราะว่า สำหรับคนเอเชีย ระบอบนาซีเป็นเพียงแค่เผด็จการรูปแบบหนึ่ง คนเอเชียไม่ได้มองความเป็นเผด็จการว่าเลวร้ายเหมือนโลกตะวันตก ดังนั้น ในวัฒนธรรมที่ไม่ได้คิดว่าเผด็จการเกี่ยวข้องกับความเลวร้าย จึงไม่แปลกที่คนจะมองว่า กิจกรรมที่แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของเผด็จการเป็นเรื่องปกติ
อาจารย์ท่านนี้ยังตั้งข้อสังเกตต่อว่า วิธีคิดของคนเอเชียมักติดอยู่ที่ตัวบุคคล เผด็จการที่อันตรายในสายตาคนเอเชียเป็นปัญหาตัวบุคคล เช่น พอลพตของเขมรแดง เผด็จการที่ไม่ใช่พอลพตไม่จำเป็นต้องเลวร้าย คนเลยนำวิธีคิดนี้ไปใช้กับระบอบนาซี
ผมเชื่อว่า คนที่ศึกษาและเรียนรู้เรื่องนาซี จะไม่เอาเรื่องนาซีมาเล่นหรือนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง เพราะพวกเขาจะเห็นคุณค่าของมนุษย์ ถ้าเราเห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์จริง เราย่อมไม่สรรเสริญระบอบที่มีเจตนาทำลายคุณค่าของชีวิตมนุษย์ตั้งแต่ต้น
เราได้อะไรจากการศึกษาเรื่องระบอบนาซี
การเรียนประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนาซีหรือเรื่องอื่น เป็นการเรียนเพื่อให้คุณคิด ประวัติศาสตร์คือกิจกรรมของการคิด การที่เราศึกษาประเด็นหนึ่ง เราไม่ได้ศึกษาคนเดียว มีงานวิจัยที่เคยศึกษาก่อนหน้าเรามหาศาล มีเอกสารชั้นต้นร่วมสมัยกับเหตุการณ์มากมาย เราจะทำอย่างไรกับแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้ แล้วเรายืนอยู่ตรงไหนในการดีเบตของนักวิชาการ เราเห็นด้วยกับฝ่ายไหน ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายไหน ตัวเรามีความคิดเห็นต่อประเด็นนั้นอย่างไร
ในกรณีการศึกษาระบอบนาซี มีนักวิชาการทั่วโลกที่เขียนหนังสือและบทความจำนวนมหาศาล ผมคิดว่าเป็นกิจกรรมลับสมองชั้นเลิศเลย นอกจากนี้การศึกษาระบอบนาซีไม่ได้มานั่งเรียนแค่เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพราะตราบใดก็ตามที่อาจารย์สอนประวัติศาสตร์เพียงแค่นี้ ก็ไม่ต่างจาก Wikipedia
สิ่งที่อาจารย์มหาวิทยาลัยควรทำในการสอนประวัติศาสตร์คือ การดูว่ามันเกิดดีเบตอะไรบ้างในวงวิชาการ นิสิตวิชานาซีที่คณะอักษรฯ จุฬาฯ ของผมทุกคนต้องอ่านเอกสารชั้นต้น ต้องศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และถูกบังคับให้ตอบข้อสอบโดยอ้างอิงสองสิ่งนี้เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ทำได้ดีมากๆ นิสิตมีศักยภาพที่จะศึกษาเอกสารชั้นต้นและงานวิจัยระดับโลก เพียงแต่ว่าอาจารย์จะเคารพหรือดูถูกศักยภาพของนิสิตก็แค่นั้นเอง การศึกษาประวัติศาสตร์ที่ละเลยความสำคัญของเอกสารชั้นต้นและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง คือการศึกษาที่ดูถูกผู้เรียน นี่คือการทรยศต่อศาสตร์ที่เราศึกษา
ฉะนั้นถามว่าประวัติศาสตร์นาซีเรียนไปแล้วได้อะไร ผมจะตอบว่าได้คิด มันเป็นโอกาสชั้นเลิศที่นิสิตจะได้มีส่วนร่วมในหัวข้อวิจัยทางประวัติศาสตร์ในสนามที่มีนักวิชาการระดับโลกลงมายำกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ
ในอีกด้านหนึ่ง อาจฟังดูเหมือนเรื่องส่วนตัว แต่ก่อนผมจะมาเป็นอาจารย์ในเมืองไทย ผมตั้งปณิธานเอาไว้ว่าผมต้องการที่จะให้ความรู้คนไทยเกี่ยวกับระบอบนาซี จุดประสงค์คือผมต้องการให้คนไทยเห็นคุณค่าในความเป็นมนุษย์ของชีวิตทุกชีวิต
แม้ว่าเราจะเห็นคนลุกขึ้นมาเรียกร้อง “ศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์” แต่ตราบเท่าที่คุณขับรถแล้วหน้าด้านเปลี่ยนเลนตรงเส้นทึบ ตราบเท่าที่คุณไม่หยุดให้คนข้ามถนนตรงทางม้าลาย อย่ามาพูดกับผมเรื่อง “ศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์” … ประชาธิปไตยสำหรับผมแล้วอยู่ที่ท้องถนนและทางม้าลาย
การศึกษาระบอบนาซีช่วยให้เราเข้าใจสังคมไทยได้อย่างไร
เวลาผมสอนระบอบนาซีจะประสบปัญหาบ่อยมาก เพราะคนไทยมักเข้าใจเรื่องการเมืองทั่วๆ ไปไม่เหมือนกับที่โลกใบนี้เข้าใจกัน เช่น เวลาสอนเรื่องระบอบนาซีหรือรัฐสั่งให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตประจำวัน เช่น การตัดผมทรงนักเรียน นิสิตก็จะเฉยๆ เพราะเขาไม่รู้สึกว่ากำลังถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ แต่ในยุโรป การที่คุณถูกแทรกแซงในชีวิตประจำวันแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก
หรืออย่างเวลาเรียนเรื่องการลอบวางเพลิงรัฐสภาสมัยที่ฮิตเลอร์กำลังเล่นการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากในยุโรป จนฮิตเลอร์ถึงกับออกกฎหมายเพื่อปกป้องเยอรมนีทั้งประเทศเลย รัฐสภาสำหรับคนยุโรปคือที่รวมของอำนาจอันสูงสุดในการปกครองประเทศ เพราะโดยหลักการ มันคือที่รวมของประชาชน แต่เราเป็นคนไทย ฟังแล้วอาจจะไม่อิน เพราะเราไม่ได้รู้สึกว่า ส.ส. คือตัวแทนของประชาชน ดังนั้น เมื่อเกิดการวางเพลิงรัฐสภา นั่นแปลว่าบ้านของประชาชนทุกคนถูกวางเพลิงด้วย เพราะในระบอบประชาธิปไตยถือว่าประชาชนเป็นใหญ่ที่สุด
ถ้าคุณไม่เข้าใจประเด็นนี้ตั้งแต่แรก คุณก็จะไม่เข้าใจความโหดร้ายและความวิปริตของระบอบนาซี ดังนั้นคุณูปการของการศึกษาระบอบนาซีคือการทำให้ผู้ศึกษาชาวไทยได้กลับมาทบทวนความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมือง ประวัติศาสตร์ความคิด และประวัติศาสตร์ภูมิปัญญาของตัวเองใหม่หมด เพราะสิ่งที่เรารู้มามันบ้าๆ บอๆ ทั้งสิ้น