ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: You Can't Buy Class.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 119
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 18:31
แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล
วันนี้เอาข่าวเรื่องฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ที่หนีการถูกทรมานจากบาห์เรนไปที่ออสเตรเลียจนได้สถานะผู้ลี้ภัยที่นั่น แต่มาถูกกักตัวในไทยตอนมาฮันนี้มูนกับเมีย ตอนนี้นับเวลาถูกขังก็ได้ 60 วันแล้ว (ไม่ได้โพสท์นานมาก ลืมวิธีอัพหมดเลย
<img border="1" bordercolor="#CCCCCC"src="http://postto.me/1x/5xd.jpg">
อ้างอิงจาก:
(สวมกุญแจมือ) ฮาคิม อัล อาไรบี (ที่มา: Facebook/Banrasdr Photo;https://www.facebook.com/1426666687572773/photos/a.1440845506154891/2181731795399588/?type=3&amp;amp;theater)  


ทางการไทยจับตัวไว้เพราะฮาคีมมีหมายแดงจากตำรวจสากล เพราะมีการตั้งข้อหาฮาคีมแบบลับหลังไว้ที่บาห์เรน (ต่อมาหมายแดงถูกยกเลิกเด้อ เพราะหมายแดงจะเป็นโมฆะหากเป็นข้อหาที่ตั้งไว้กับผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองสถานะแล้ว) ฮาคีมมีความเสี่ยงจะถูกส่งตัวกลับไปที่ประเทศบาห์เรน แต่เรื่องนี้ทางสมาคมฟุตบอลไทยและรัฐบาลไทยยังไม่มีท่าทีจะส่งตัวฮาคีมกลับออสเตรเลียเลย ทั้งที่เขาได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลออสเตรเลียแล้วแท้ๆ ไม่รู้จะเอาเขาไว้ทำถ้วยอะไร เพื่อนๆ มีความเห็นยังไง หรือมีความรู้เรื่องระเบียบฟีฟ่าเรื่องการลงโทษสมาคมฟุตบอล เอามาแชร์กันได้นะครับ

มีท่านที่ถามไถ่เรื่องฟีฟ่ามาข้องเกี่ยวกับการเมือง เลยขอเพิ่มรายละเอียดตรงนี้ว่า ฟีฟ่าเขาออกนโยบายใหม่มาเมื่อปี 2560 ว่าจะเคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากล ในนั้นมันมีเรื่องการสร้างความปลอดภัยให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับฟีฟ่าหลายมุม เช่น เสรีภาพการเดินทาง เป็นต้น เคสนี้มันเลยเข้าข้อบังคับที่ฟีฟ่าจะต้องมีท่าทีบางอย่างครับ

ลิงค์ตามนี้เลย อยู่ในข้อที่ 5 เป็นภาษาอังกฤษนะครับ ^^
https://resources.fifa.com/mm/document/affederation/footballgovernance/02/89/33/12/fifashumanrightspolicy_neutral.pdf

(เนื้อข่าว)
25 ม.ค. 2562 องค์กรสิทธิ-กีฬานานาชาติแสดงความกดดันมากขึ้นต่อกรณีที่ไทยคุมขังฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนขณะเดินทางมาเที่ยวกับภรรยาที่ประเทศไทยเมื่อ 27 พ.ย. 2561 ทั้งที่ฮาคีมได้รับการรับรองและคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัยโดยรัฐบาลออสเตรเลียแล้ว โดยศาลอาญาได้ฝากขังฮาคีมเป็นเวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2561 ปัจจุบันนับวันฝากขังได้ 45 วัน หากรวมเวลาที่ถูกขังตั้งแต่วันที่เดินทางถึงไทยก็นับได้ 60 วันแล้ว

ฮาคีมได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากออสเตรเลีย สามารถอาศัยในออสเตรเลียได้ไม่จำกัดเวลา หลังเขาหลบหนีการถูกทางการบาห์เรนจับกุม ทรมานและถูกตั้งข้อหาลับหลังเพราะสมาชิกในครอบครัวเคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล เขาถูกจับที่ไทยเพราะมีหมายแดงขององค์การตำรวจนานาชาติหรือ INTERPOL แต่ปัจจุบันหมายดังกล่าวถูกถอนแล้วตามระเบียบเรื่องการไม่ออกหมายต่อผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองสถานะแล้ว

ณัฐาศิริ เบิร์กแมน ทนายความของฮาคีมให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันฮาคีมถูกขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะครบกำหนดฝากขัง 60 ในวันที่ 8 ก.พ. นี้ หากครบ 60 วันแล้วไม่มีการส่งเอกสารผู้ร้ายข้ามแดนจากบาห์เรนมา ศาลก็จะผลักดันกลับประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้ อัยการยังสามารถขอขยายการควบคุมตัวได้อีก 30 วัน ในระหว่างนี้ หากบาห์เรนส่งเอกสารผู้ร้ายข้ามแดนมาแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการทำคำคัดค้านในชั้นศาล

สำหรับภรรยาของฮาคีม ปัจจุบันได้กลับไปยังออสเตรเลียแล้ว

องค์กรสิทธิ-อดีตกัปตันทีมชาติออสเตรเลียร้องฟีฟ่าคว่ำบาตรบาห์เรน-ไทย ขอแฟนบอลยืนหยัดเพื่อแข้งบาห์เรน
วันนี้ (25 ม.ค.) มีการแถลงข่าวในกรณีฮาคีมที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) ผู้ร่วมแถลงข่าวได้แก่ฟิล โรเบิร์ตสัน รักษาการแทนผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ และเคร็ก ฟอสเตอร์ อดีตกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน

เคร็กกล่าวว่า ฮาคีมเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองสถานะ และคุ้มครองโดยรัฐบาลออสเตรเลียแล้ว ซึ่งการับรองดังกล่าวต้องผ่านขั้นตอนมากมายซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และรัฐบาลออสเตรเลียก็เห็นด้วยว่าฮาคีมสมควรได้รับการคุ้มครองจากการถูกทรมานซ้ำไปซ้ำมาหากต้องกลับไปยังประเทศต้นทาง จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยเคารพในอำนาจอธิปไตยของออสเตรเลียด้วยการคุ้มครองแข้งชาวบาห์เรนคนนี้และให้เขาเดินทางกลับออสเตรเลีย

เคร็กกล่าวเพิ่มเติมว่า ในตอนนี้มีการรณรงค์ให้ปล่อยตัวฮาคีมจากหลายที่รอบโลก ทั้งจากอดีตนักฟุตบอลระดับโลกอย่างรอบบี้ ฟาวเลอร์ และผู้รักษาประตูหญิงทีมชาติสหรัฐฯ โฮป โซโล ไปจนถึงสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า - FIFA) ที่ส่งจดหมายถึงประยุทธ์เพื่อขอส่งตัวแทน FIFA เข้าพบเพื่อหารือกับรัฐบาลไทยในกรณีฮาคีม แสดงถึงความหนักหนาสาหัสของสถานการณ์ที่กระทบต่อชื่อเสียงวงการกีฬาไทย เนื่องจากเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคดีความในศาล แต่เป็นเรื่องการส่งคนกลับไปเผชิญอันตราย (Refoulement) ที่ผิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศในอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ที่ไทยให้สัตยาบันไว้

อดีตกัปตันทีมชาติออสเตรเลียยังระบุว่า FIFA มีนโยบายใหม่ที่ให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล และนโยบายเหล่านั้นต่างก็มีผลให้สมาคมฟุตบอลในระดับนานาชาติอย่างสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และระดับประเทศอย่างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ปฏิบัติตามด้วย ซึ่งฮาคีมก็เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลเพราะเขาเป็นนักฟุตบอลอยู่

เคร็กเรียกร้องให้ FIFA ประสานกับผู้เกี่ยวข้องกับฮาคีมทั้งหมด โดยเฉพาะการทำให้ชีค ซัลมาน อัล คาลิฟา ประธาน AFC คนปัจจุบันผู้เป็นสมาชิกราชวงศ์บาห์เรนและหนึ่งในบุคคลที่ฮาคีมวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีการเมืองในวงการฟุตบอล ออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาลบาห์เรนไม่ให้มีการส่งตัวฮาคีมกลับ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของประธาน AFC

อดีตนักฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลียยังขอให้ทั้ง FIFA และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เดินหน้าหามาตรการคว่ำบาตรทางกีฬาที่ทำได้ต่อทั้งสมาคมฟุตบอลไทยและบาห์เรนในการเป็นสมาชิกและเข้าร่วมกีฬาฟุตบอลในระดับโลกเพราะการคุมขังผู้ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมายโดยไม่มีความจำเป็น และในกรณีที่หากบาห์เรนจะขอให้ทางการไทยส่งเอกสารขอตัวฮาคีมกลับบาห์เรน เขาเรียกร้องให้ FIFA เป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์อิสระในทุกการประชุมที่เกี่ยวข้องกับฮาคีม

“นี่คือข้อความของผมถึงประชาคมฟุตบอลในเมืองไทย ฮาคีมเป็นนักฟุตบอล ชายหนุ่มผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้เจอภรรยาเขามาเกินหนึ่งเดือนแล้ว เขาพูดกับผมตอนอยู่ในเรือนจำว่า เขาถูกพรากสองสิ่งที่เขารักไป นั่นคือภรรยาและฟุตบอล เขาเล่นฟุตบอลในเรือนจำ และทีมแชมป์ในการแข่งขันของเรือนจำก็รู้แล้วว่าเขาเป็นนักฟุตบอลระดับสากล แต่เขาก็ถามว่า แล้วทำไมฉันต้องมาเล่นฟุตบอลในคุก”

“ฉันรักฟุตบอลมาก ฉันอยากจะสัมผัสลูกฟุตบอล เป็นเรื่องดีที่ได้เล่นฟุตบอล แต่ทำไมฉันได้มาเล่นอยู่หลังลูกกรง ฉันควรได้กลับไปที่ (สโมสร) ปาสโกเวล ในเมืองที่ออสเตรเลีย ฉันควรจะได้เล่นกับเพื่อนร่วมทีม” เคร็กถ่ายทอดคำบอกเล่าจากฮาคีม

อดีตกัปตันทีมชาติออสเตรเลียยังเน้นย้ำให้แฟนบอลชาวไทยร่วมสนับสนุนให้มีฮาคีมได้กลับไปยังออสเตรเลีย

“ความอยุติธรรมนี้ต้องจบลง นี่คือมนุษย์ นี่คือนักฟุตบอล และสำหรับชาวไทยที่รักในฟุตบอล คุณต้องสนับสนุนผู้เล่นคนนี้ เดี๋ยวนี้ คุณไม่สามารถบอกว่าคุณเป็นคอบอล คุณไม่สามารถบอกว่าคุณรักในเกมฟุตบอลหากเรายังไม่ยืนหยัดเพื่อปกป้องนักฟุตบอลผู้บริสุทธิ์ จิตวิญญาณของกีฬาฟุตบอลกำลังถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายในกรณีนี้”

“ถ้าเราเป็นประเทศพี่น้องในกีฬาฟุตบอล เหตุใดผู้เล่นที่ได้รับการคุ้มครองจากประเทศของเรา และได้รับการเคารพจากชุมชนของพวกเรากลับต้องไปนั่งอยู่ในเรือนจำ มันเกิดขึ้นแบบนี้ไม่ได้ ฟุตบอลดีกว่านี้ได้ ฟุตบอลยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ และคุณค่าของกีฬาฟุตบอลก็กำชับให้คุณช่วยเหลือฮาคีม และควรยืนหยัดเพื่อเขาในตอนนี้ เขาต้องการการสนับสนุนจากพวกคุณ”

“มันไม่ใช่เรื่องของทีมทั้งทีม มันเกี่ยวกับคนหนึ่งคน แต่ถ้าชีวิตหนึ่งไม่สำคัญพอ เราก็ต้องมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา และต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับจิตวิญญาณของฟุตบอลด้วย” เคร็กกล่าว


ฟิลกล่าวว่า การที่ไทยดำเนินการกับฮาคีมทั้งการควบคุมตัวและสั่งฝากขัง เป็นการทรยศต่อคำพูดของประยุทธ์ที่พูดในเวทีสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่าไทยเคารพหลักการสิทธิมนุษยชน เขาตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศไทยไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยสอดคล้องกับที่พูดไว้กับเวทีนานาชาติ ภายใต้รัฐบาล คสช. มีประวัติส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับไปเผชิญอันตรายยังหลายประเทศปลายทาง เช่น กัมพูชา ลาว จีน เวียดนาม

ต่อการให้สัมภาษณ์ของนันทนา ศิวะเกื้อ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศออสเตรเลีย ในรายการวิทยุช่อง ABC เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ที่บอกว่ากรณีฮาคีมดำเนินตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายผู้ร้ายข้ามแดนเนื่องจากเขาถูกหมายแดงจากองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศหรือ INTERPOL ทนายความของฮาคีมสามารถให้เหตุผลเรื่องการจะถูกทรมานหากส่งตัวฮาคีมกลับบาห์เรน ซึ่งเธอคิดว่าศาลจะตัดสินเข้าข้างฮาคีม ฟิลตอบโต้ว่าหมายแดงของ INTERPOL เป็นโมฆะไปแล้วจากสถานะผู้ลี้ภัยของฮาคีมที่รับรองโดยรัฐบาลออสเตรเลีย ในประเทศที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ หากพวกเขาพบว่าฮาคีมได้รับการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว เขาจะส่งฮาคีมกลับขึ้นเครื่องให้กลับไปที่ออสเตรเลียแทน การทรมานเป็นเรื่องปกติในเรือนจำบาห์เรน การส่งฮาคีมกลับไปด้วยข้อหาที่ศาลบาห์เรนทำหน้าที่เป็นตรายางประทับรับรองคดี ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบัญญัติในอนุสัญญาต่อต้านการซ้อมทรมานฯ ที่ไทยให้สัตยาบัน

รักษาการ ผอ.ภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ ตั้งข้อสงสัยว่า ไทยกับบาห์เรนเล่นเกมการเมือง ตั้งแต่จับตัวฮาคีมวันแรก เพราะฟิลได้รับข้อมูลว่า ในตอนแรกที่ฮาคีมถูกควบคุมตัวด้วยหมายแดง เมื่อเครื่องบินถึงเกท เขาเจอตำรวจไทยที่รู้ว่าเขาและภรรยานั่งเบาะไหน โดยตำรวจไทยมีสำเนาพาสปอร์ตของฮาคีมขณะที่เขาอายุ 16 ปี สิ่งเหล่านั้นไปอยู่ในมือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างไร

ฟิลเรียกร้องให้ประชาคมโลกผลักดันประเด็นฮาคีมให้มากขึ้น ออสเตรเลียสามารถเริ่มได้ด้วยการรณรงค์เพื่อกดดันรัฐบาลไทยและบาห์เรนให้ปล่อยตัวแข้งบาห์เรน สถานทูตออสเตรเลียในกรุงเทพฯ อาจเป็นผู้เริ่มต้นการรณรงค์ดังกล่าวก็ได้ ทั้งนี้ ฟิลกล่าวกับผู้สื่อข่าวประชาไทเพิ่มเติมว่าองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติมีแผนรณรงค์ต่อ โดยได้ประสานไปสโมสรฟุตบอลชื่อดังหลายสโมสรแล้ว


FIFA ออกจดหมายถึงประยุทธ์ ขอประชุมกับผู้แทนเพื่อเก็บข้อมูล ย้ำ ส่งฮาคีมกลับออสเตรเลีย

เมื่อ 23 ม.ค. FIFA ออกจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการต่างประเทศไทย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื้อความจดหมายแสดงความกังวลต่อการคุมขังฮาคีมเพื่อรอกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากบาห์เรนดำเนินการมา FIFA เน้นย้ำให้ไทยดำเนินการส่งตัวฮาคีมกลับออสเตรเลีย

“พวกเรา(FIFA) เชื่อว่ามาตรการนี้(ส่งฮาคีมกลับออสเตรเลีย) จะทำให้เกิดความยุติธรรม ทั้งต่อการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศของรัฐไทย และต่อคุณค่าของมนุษย์และมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน ซึ่งพวกเรารู้ว่าประเทศและรัฐบาลของคุณให้ความสำคัญ”

FIFA ยังขอเข้าพบกับตัวแทนระดับสูงจากรัฐบาลเพื่อประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์ของฮาคีม เพื่อเก็บข้อมูลและสถานะของกระบวนการต่างๆ โดยทาง FIFA จะส่งตัวแทนจาก FIFA และสหพันธ์วิชาชีพนักฟุตบอนานาชาติหรือฟิฟโปร (FIFPro)

ตามข้อบัญญัติทางวินัย FIFA ที่บังคับใช้กับสมาคมฟุตบอล สโมรสร ผู้เล่น เจ้าหน้าที่และผู้ชม มีระบุเอาไว้ว่า นิติบุคคลสามารถถูกคว่ำบาตรได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้

- แบนการย้ายผู้เล่น
- แข่งขันแบบไม่มีผู้เข้าชม
- แข่งขันในพื้นที่กลาง
- แบนการเล่นในสนามหนึ่งๆ
- ให้ผลการแข่งขันเป็นโมฆะ
- ไล่ออกจากสนาม
- ปรับแพ้
- ตัดแต้ม
- ปรับให้ตกชั้น

การทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลียกลายเป็นที่จับจ้องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากกรณีของฮาคีม และในเวลาต่อมายังมีกรณีของราฮาฟ โมฮาเหม็ด แอล-คูนูน 18 ปี หญิงชาวซาอุดิอาระเบีย ที่หลบหนีออกไปยังออสเตรเลียโดยอ้างว่าเธอหลบหนีมาจากการปฏิบัติมิชอบ การทุบตี และการขู่ฆ่าจากครอบครัวของตนเอง แต่เธอถูกจับกุมขณะรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 5 ม.ค. 2562 เหตุการณ์ดังกล่าวนำมาสู่กระแสการเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือเธออย่างการติดแฮชแท็ก #Saverahaf ทั้งนี้ ในกรณีของฮาคีมก็มีการติดแฮชแท็ก #SaveHakeem บนโลกโซเชียลเช่นกัน

(ที่มาข่าว: https://prachatai.com/journal/2019/01/80713)
แก้ไขล่าสุดโดย worker005 เมื่อ Fri Jan 25, 2019 20:44, ทั้งหมด 2 ครั้ง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jan 2009
ตอบ: 21725
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 18:52
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
เอาจริงๆ เคสนี้ผมแล้วแต่ผู้เกี่ยวข้องไปตีความกันเลย แต่ผมงงว่า FIFA ไม่อยากให้การเมืองมาเกี่ยวกับฟุตบอล แต่ตอนนี้ FIFA กำลังเอาฟุตบอลมากดดันการเมืองซะอย่างนั้น

ปล.
อ้างอิงจาก:
และต่อคุณค่าของมนุษย์และมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน ซึ่งพวกเรารู้ว่าประเทศและรัฐบาลของคุณให้ความสำคัญ  


ผมยิ้มมุมปากเลย
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: The Potters
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 7281
ที่อยู่: Stoke City
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 18:58
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
บททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล?

สมาคมฟุตบอลมันไม่มีสิทธิ์​ไปปล่อยตัวเขานี่ครับ​



1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
SM7
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 6603
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 19:08
แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล
ถ้าถือพาสปอร์ตออสเตรเลียมาจะไปกักเขาทำเขืออะไร
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: You Can't Buy Class.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 119
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 19:57
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
Celberos พิมพ์ว่า:
เอาจริงๆ เคสนี้ผมแล้วแต่ผู้เกี่ยวข้องไปตีความกันเลย แต่ผมงงว่า FIFA ไม่อยากให้การเมืองมาเกี่ยวกับฟุตบอล แต่ตอนนี้ FIFA กำลังเอาฟุตบอลมากดดันการเมืองซะอย่างนั้น

ปล.
อ้างอิงจาก:
และต่อคุณค่าของมนุษย์และมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน ซึ่งพวกเรารู้ว่าประเทศและรัฐบาลของคุณให้ความสำคัญ  


ผมยิ้มมุมปากเลย  


พอดีฟีฟ่าเขาออกนโยบายใหม่มาเมื่อปี 2560 ว่าจะเคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากลอ่ะครับ ในนั้นมันมีเรื่องการสร้างความปลอดภัยให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับฟีฟ่าหลายมุม เช่น เสรีภาพการเดินทาง เป็นต้น เคสนี้มันเลยเข้าข้อบังคับที่ฟีฟ่าจะต้องมีท่าทีบางอย่างครับ

ลิงค์ตามนี้เลย เป็นภาษาอังกฤษนะครับ อยู่ในข้อที่ 5 นะครับ
https://resources.fifa.com/mm/document/affederation/footballgovernance/02/89/33/12/fifashumanrightspolicy_neutral.pdf


3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: You Can't Buy Class.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 119
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 20:05
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
Destiny6 พิมพ์ว่า:
บททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล?

สมาคมฟุตบอลมันไม่มีสิทธิ์​ไปปล่อยตัวเขานี่ครับ​



 


สมาคมฟุตบอลมีท่าทีได้นะครับ ออกแถลงการณ์ก็ได้ กรณีนี้ ฝรั่งสองคนนั่นก็เรียกร้องให้สมาคม-แฟนบอลออกมาแสดงท่าทีเรื่องการปล่อยตัวเขาให้กลับไปออสเตรเลียอ่ะครับ แฟนบอลเองก็สามารถแสดงออกได้เช่นกัน บททดสอบมนุษยธรรมเลยไม่ได้อยู่แค่ว่าจะปล่อยหรือไม่ปล่อยเขา แต่ใจกลางปัญหาคือเขาเป็นผู้ลี้ภัย ได้รับการคุ้มครองจากออสเตรเลีย มาถูกจับที่นี่ด้วยหมายจับของตำรวจสากลที่ถูกทำให้เป็นโมฆะไปแล้วทีหลัง แต่ก็ไม่ให้เขากลับ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมานอนคุกบ้านเรา

ผมว่าบททดสอบมนุษยธรรมแบบเราๆ ก็เป็นระดับการรับรู้และท่าทีของคนในวงการฟุตบอลไทย (แฟนบอลด้วย) ในเรื่องนี้มีมากมีน้อยขนาดไหนแหละครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jun 2009
ตอบ: 52729
ที่อยู่: Capital of Country Music
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 20:23
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
เอาจริง ๆก็ส่งเขากลับออสเตรเลียไปก็จบละ เพราะหมายแดงมันโมฆะแล้ว จะจับกุมเขาไว้ทำไมให้โดนด่าไปด้วยฟะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Apr 2015
ตอบ: 787
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 21:04
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
ผมว่าเรากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนะ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นว่าถ้าจะส่งกลับออสแล้วเรื่องจบ
ถ้าส่งกลับไปออสก็อาจขุ่นเคืองกับบาห์เรนได้และตำรวจสากลได้นะ
การส่งกลับออสไม่เท่ากับเราไม่เคารพกฎหมายของบาห์เรนหรอ !!

แล้วออสกับฟีฟ่าเอาไรมากดดันเรา นี่เขาเข้ามาในเขตอำนาจอธิปไตยของเราเองนะ
เรามีอำนาจอธิปไตยเหนือเขตแดนของเรา ทำไมเราต้องยอมด้วยล่ะ
เมื่อบุคคลผู้นี้มีหมายจากตำรวจสากล เขาได้รับความคุ้มครองในออสเตรเลียแต่ไม่ได้รับความคุ้มครองในไทย
และสนธิสัญญาระหว่างประเทศเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหลักของมันเป็นเสมือนการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
คิดดูถ้าต่อไปมีผู้ร้ายที่เราต้องการตัวลี้ภัยเข้าไปอยู่ในบาห์เรนบ้างล่ะ
ถ้าครั้งนี้เมื่อเขาเข้ามาแล้วถ้าเราไม่ทำอะไรสากลโลกเขาจะมองเรายังไง

ส่วนไอ้หมายแดงสิ้นผลเพราะออสให้การรับรองสถานะผู้ลี้ภัยก็เถอะ อันนี้ผมไม่รู้นะ
แต่ฟังดูเหมือนไอ้สถานะผู้ลี้ภัยของออสมันเหนือกว่าสนธิสัญญาระหว่างประเทศเชียวหรือ
ผมว่าทางที่ดีรอให้ครบกำหนดเวลาแล้วบาห์เรนไม่ส่งหมายมาขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้วเราค่อยส่งกลับไปออสน่าจะดีที่สุด ถนอมน้ำใจทั้งสองฝ่าย (ส่วนนักบอลคนนี้ต้องรับเคราะห์โดนขังต่อหน่อย ผมมองว่าเรื่องประเทศสำคัญกว่าตัวบุคคล)
มิเช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการระหว่างประเทศตามปกติเถอะ อย่าได้มากดดันกัน

แล้วถ้าฟีฟ่าจะคว่ำบาตรเราเพราะเรื่องนี้นะแม่งโคตรทุเรศเลยบอกตรงๆ
ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของผู้ลี้ภัยซึ่งคือบุคคลธรรมดาคนนึง (แม้จะเคยเป็นนักฟุตบอล)
ฟีฟ่าจะเอาเรื่องของฟุตบอลมากดดันให้เราปล่อยตัวผู้ลี้ภัยในความผิดซึ่งกรณีไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟุตบอลได้ยังไง
อย่างงี้คนๆนี้มันไม่อภิสิทธิ์ชนไปหน่อยหรอ มันไม่เอนเอียงถือหางกันหรอ ลองคิดกันดู


edit เป็นความเห็นนะครับ ไม่ได้บอกว่าที่เขียนมาทั้งหมดถูกต้อง
แต่สิ่งที่อยากจะพูดหลักๆเลยคือฟีฟ่าไม่น่าเข้ามาเกี่ยวข้อง
แก้ไขล่าสุดโดย namlang15 เมื่อ Fri Jan 25, 2019 21:18, ทั้งหมด 2 ครั้ง
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Apr 2015
ตอบ: 1538
ที่อยู่: โค้ชคีบอร์ด ปสก.เฝ้าบอร์ด SS มา 9 ปี ไม่มี license
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 21:15
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
ไม่รู้ใครถูกใครผิดนะ ความคิดส่วนตัวผม ถ้าตัวเองยังไม่เคลีย 100%
แล้วจะเสี่ยงออกมาจากออสทำไมอ่ะ ฮันนีมูนที่ออสก็ได้หนิ ชะล่าใจเกิ๊น...
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 59130
ที่อยู่: แร่รอน...ไปทั่ว...ไม่มีที่อยู่
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 22:03
ถูกแบนแล้ว
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
๐mC๐ พิมพ์ว่า:
เอาจริง ๆก็ส่งเขากลับออสเตรเลียไปก็จบละ เพราะหมายแดงมันโมฆะแล้ว จะจับกุมเขาไว้ทำไมให้โดนด่าไปด้วยฟะ  


เขาทำผิดข้อหาอะไร ถึงลี้ภัย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: You Can't Buy Class.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 119
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 22:25
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
namlang15 พิมพ์ว่า:
ผมว่าเรากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนะ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นว่าถ้าจะส่งกลับออสแล้วเรื่องจบ
ถ้าส่งกลับไปออสก็อาจขุ่นเคืองกับบาห์เรนได้และตำรวจสากลได้นะ
การส่งกลับออสไม่เท่ากับเราไม่เคารพกฎหมายของบาห์เรนหรอ !!

แล้วออสกับฟีฟ่าเอาไรมากดดันเรา นี่เขาเข้ามาในเขตอำนาจอธิปไตยของเราเองนะ
เรามีอำนาจอธิปไตยเหนือเขตแดนของเรา ทำไมเราต้องยอมด้วยล่ะ
เมื่อบุคคลผู้นี้มีหมายจากตำรวจสากล เขาได้รับความคุ้มครองในออสเตรเลียแต่ไม่ได้รับความคุ้มครองในไทย
และสนธิสัญญาระหว่างประเทศเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหลักของมันเป็นเสมือนการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
คิดดูถ้าต่อไปมีผู้ร้ายที่เราต้องการตัวลี้ภัยเข้าไปอยู่ในบาห์เรนบ้างล่ะ
ถ้าครั้งนี้เมื่อเขาเข้ามาแล้วถ้าเราไม่ทำอะไรสากลโลกเขาจะมองเรายังไง

ส่วนไอ้หมายแดงสิ้นผลเพราะออสให้การรับรองสถานะผู้ลี้ภัยก็เถอะ อันนี้ผมไม่รู้นะ
แต่ฟังดูเหมือนไอ้สถานะผู้ลี้ภัยของออสมันเหนือกว่าสนธิสัญญาระหว่างประเทศเชียวหรือ
ผมว่าทางที่ดีรอให้ครบกำหนดเวลาแล้วบาห์เรนไม่ส่งหมายมาขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้วเราค่อยส่งกลับไปออสน่าจะดีที่สุด ถนอมน้ำใจทั้งสองฝ่าย (ส่วนนักบอลคนนี้ต้องรับเคราะห์โดนขังต่อหน่อย ผมมองว่าเรื่องประเทศสำคัญกว่าตัวบุคคล)
มิเช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการระหว่างประเทศตามปกติเถอะ อย่าได้มากดดันกัน

แล้วถ้าฟีฟ่าจะคว่ำบาตรเราเพราะเรื่องนี้นะแม่งโคตรทุเรศเลยบอกตรงๆ
ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของผู้ลี้ภัยซึ่งคือบุคคลธรรมดาคนนึง (แม้จะเคยเป็นนักฟุตบอล)
ฟีฟ่าจะเอาเรื่องของฟุตบอลมากดดันให้เราปล่อยตัวผู้ลี้ภัยในความผิดซึ่งกรณีไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟุตบอลได้ยังไง
อย่างงี้คนๆนี้มันไม่อภิสิทธิ์ชนไปหน่อยหรอ มันไม่เอนเอียงถือหางกันหรอ ลองคิดกันดู


edit เป็นความเห็นนะครับ ไม่ได้บอกว่าที่เขียนมาทั้งหมดถูกต้อง
แต่สิ่งที่อยากจะพูดหลักๆเลยคือฟีฟ่าไม่น่าเข้ามาเกี่ยวข้อง  


ดีใจที่ได้คุยเรื่องการเมืองระหว่างประเทศครับ
ยาวหน่อยนะครับ อันนี้คือข้อมูลที่ผมมี พูดคุยแลกเปลี่ยนได้ครับ

ถูกครับ ตอนนี้เขาอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยเรา ทีนี้เมื่อออสเตรเลียคุ้มครองเขาในฐานะผู้ลี้ภัยแล้ว มันก็เป็นอำนาจอธิปไตยของเขาที่จะต้องแสดงออกซึ่งการคุ้มครอง (ไม่งั้นก็คุ้มครองแค่ลมปากดิใช่มะ) ฟีฟ่าเองก็มีข้อบังคับเรื่องสิทธิมนุษยชน (ไทยก็ลงนามในคำประกาศสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไทยมีหน้าที่ต้องทำตามครับ และเรื่องการไม่ส่งตัวคนกลับไปเผชิญอันตรายก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ที่ไทยผูกพันในอนุสัญญาต้านการซ้อมทรมาน) แต่ละฝ่ายมันมีบทบาทที่ต้องออกมาแสดงการกดดัน เพราะไอ้กฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายในประเทศเนี่ย อำนาจบังคับใช้มันไม่มีถ้าไม่เคารพกันเสียเอง

ไทยกับบาห์เรนไม่มีสัญญาทวิภาคีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนครับ กระทรวงการต่างประเทศไทยให้ข้อมูลไว้ในนี้ http://mfa.go.th/main/th/news3/6886/97217-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-Hakeem-Ali-Mohamed-Ali-Al-Oraibi.html (ฝังลิงค์ยังไงวะเนี่ย รกมาก)

มีเพียงหมายแดงของอินเตอร์โปล ซึ่งไม่ใช่รัฐ ไม่มีกองกำลังและประชาชนเป็นของตัวเอง ไม่มีอำนาจบังคับ และการขอตัวฮาคีมจากไทยเมื่อ 27 พ.ย. โดยทางการบาห์เรน (ที่ยังไม่มีเอกสารส่งมาจนถึงทุกวันนี้ นำมาซึ่งการฝากขังตามกระบวนการ พรบ ผู้ร้ายข้ามแดนของไทย) แปลว่าตอนนี้บาห์เรนและออสเตรเลียไม่มีสิทธิพิเศษมากไปกว่าใครครับ และในทางหลักการเราไม่มีหน้าที่ต้องไปเคารพกฎหมายประเทศอื่นบนดินแดนของเรา ก็ต้องไปพิจารณาว่าเรามีสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกว่ากับใคร ผมเห็นด้วยนะครับว่าการตัดสินใจรอบนี้กระทบความสัมพันธ์ทางการทูตของสักฝั่งใดฝั่งหนึ่งแน่ แต่การเมืองระหว่างประเทศมันก็แบบนี้ครับ ทางการทูตก็ต้องผสานประโยชน์กันไป ทางการเมืองก็ดีดลูกคิดเอาว่าแทงข้างไหนแล้วจะได้ประโยชน์ดีสุด ผมสงสัยมากว่าถ้าพวกประเทศพัฒนาแล้วสนับสนุนการส่งตัวกลับออสเตรเลีย แล้วไทยไปเคารพกฎหมายบาห์เรน ส่งตัวเขากลับไปติดคุกที่นั่น ดีดลูกคิดยังไงมันจะคุ้ม เพราะไอ้พฤติกรรมแบบต่างตอบแทนเนี่ย มันเกิดได้กับทั้งบาห์เรน-ไทย และออสเตรเลีย-ไทย จะพิจารณาแต่ไอ้ทางบาห์เรนข้างเดียวก็ไม่ได้

สถานะผู้ลี้ภัยที่ออสเตรเลีย ที่เคยได้ยินมามันขอกันยากอ่ะครับ (ที่ไหนก็ยาก กระบวนการขอสถานะผู้ลี้ภัยที่ UNHCR ในเมืองไทยใช้เวลานับหลักกันเป็นปีครับ ถ้าไม่ติดอะไรก็ 1-3 ปี ถ้าติดก็ยาวไปเลย) นั่นสะท้อนว่าออสเตรเลียมั่นใจแล้วว่าไอ้หนุ่มนี่หนีภัยอันตรายมาแน่ๆ ข้อมูลจากองค์กรสิทธิก็บอกว่าเขาโดนทรมานมาก่อน โดนยัดข้อหาว่าไปทำลายโรงพัก ทั้งๆ ที่ตอนนั้นตัวเองแข่งฟุตบอลถ่ายทอดสดทางทีวีอยู่แท้ๆ โอเคแหละ อันนี้เถียงได้ว่าการรับผู้ลี้ภัยมันมีการเมืองในนั้นอยู่ แต่ข้อมูลมีเท่านี้ครับ แหะๆ

ทีนี้ใหญ่กว่าสนธิสัญญาไหม ไทยกับบาห์เรนไม่มีสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน แต่จารีตระหว่างประเทศที่ทำกันก็คือ รัฐจะไม่ส่งคนที่หนีภัยมา กลับไปเผชิญอันตรายที่เขาหนีมาแล้ว (Non-Refoulement) ซึ่งอันนี้เป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่ถ้าจะทำก็ทำได้ครับ

ความเห็นคุณเรื่องรอให้เขาไม่ส่งใบเรียกตัวมามันก็อาจจะเกิดขึ้นครับ บาห์เรนก็อาจจะแก้เกี้ยว เห็นคนค้านเยอะก็คงทำเมินๆ ไม่ส่งไป ให้ไอ้หนุ่มนี่ติดคุกสักสองเดือนแล้วก็กลับออสไป เรื่องพวกนี้ไม่หลุดมาให้เราได้ยินแน่ๆ และมันไม่ได้อยู่ในพิสัยที่เราท่านจะทำอะไรได้ แต่ถ้าเรื่องจบแบบนั้น ไอ้ที่ไทยไปสัญญาเอาไว้ในเวทีโลกก็เป็นลมปากเฉยๆ การทูตบ้านเราถนัดแทงกั๊กแบบนั้นอยู่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนั้น รักษาความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย ออสคงมีเคืองหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถูกส่งกลับนี่ ก็ยังโอเคบ้าง บาห์เรนก็ไม่ได้เสียหน้า

edit: เขายังเป็นนักฟุตบอลที่ลีคออสเตรเลียครับ เล่นแบ๊คขวาที่สโมสร Pasco Vale FC

แก้ไขล่าสุดโดย worker005 เมื่อ Fri Jan 25, 2019 22:34, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: You Can't Buy Class.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 119
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 22:27
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
CaptainRamos พิมพ์ว่า:
๐mC๐ พิมพ์ว่า:
เอาจริง ๆก็ส่งเขากลับออสเตรเลียไปก็จบละ เพราะหมายแดงมันโมฆะแล้ว จะจับกุมเขาไว้ทำไมให้โดนด่าไปด้วยฟะ  


เขาทำผิดข้อหาอะไร ถึงลี้ภัย  


น้องชายไปร่วมชุมนุมสมัยอาหรับสปริง เลยโดนเรียกไปสอบสวน+ทรมาน จากนั้นโดนตั้งข้อหาว่าไปทำลายโรงพัก แต่ตอนเรื่องเกิดเจ้าตัวแข่งบอลอยู่ ถ่ายทอดสดทางทีวีด้วย แล้วก็ลี้ภัยออกมา จากนั้นคดีโดนขึ้นศาลลับหลังครับ (อันนี้ข้อมูลจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่บาห์เรนและอื่นๆ)
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 174
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jan 25, 2019 23:08
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของการฑูตล้วนๆนะครับ FIFA ไม่น่ามีผลกับการตัดสินใจของไทยเลย

แล้วการฑูตไทยก็เก่งมากอยู่แล้วด้วย ผมว่าเขาน่าจะหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดได้อยู่แล้ว
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jan 26, 2019 00:04
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
namlang15 พิมพ์ว่า:
ผมว่าเรากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนะ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นว่าถ้าจะส่งกลับออสแล้วเรื่องจบ
ถ้าส่งกลับไปออสก็อาจขุ่นเคืองกับบาห์เรนได้และตำรวจสากลได้นะ
การส่งกลับออสไม่เท่ากับเราไม่เคารพกฎหมายของบาห์เรนหรอ !!

แล้วออสกับฟีฟ่าเอาไรมากดดันเรา นี่เขาเข้ามาในเขตอำนาจอธิปไตยของเราเองนะ
เรามีอำนาจอธิปไตยเหนือเขตแดนของเรา ทำไมเราต้องยอมด้วยล่ะ
เมื่อบุคคลผู้นี้มีหมายจากตำรวจสากล เขาได้รับความคุ้มครองในออสเตรเลียแต่ไม่ได้รับความคุ้มครองในไทย
และสนธิสัญญาระหว่างประเทศเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหลักของมันเป็นเสมือนการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
คิดดูถ้าต่อไปมีผู้ร้ายที่เราต้องการตัวลี้ภัยเข้าไปอยู่ในบาห์เรนบ้างล่ะ
ถ้าครั้งนี้เมื่อเขาเข้ามาแล้วถ้าเราไม่ทำอะไรสากลโลกเขาจะมองเรายังไง

ส่วนไอ้หมายแดงสิ้นผลเพราะออสให้การรับรองสถานะผู้ลี้ภัยก็เถอะ อันนี้ผมไม่รู้นะ
แต่ฟังดูเหมือนไอ้สถานะผู้ลี้ภัยของออสมันเหนือกว่าสนธิสัญญาระหว่างประเทศเชียวหรือ
ผมว่าทางที่ดีรอให้ครบกำหนดเวลาแล้วบาห์เรนไม่ส่งหมายมาขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้วเราค่อยส่งกลับไปออสน่าจะดีที่สุด ถนอมน้ำใจทั้งสองฝ่าย (ส่วนนักบอลคนนี้ต้องรับเคราะห์โดนขังต่อหน่อย ผมมองว่าเรื่องประเทศสำคัญกว่าตัวบุคคล)
มิเช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการระหว่างประเทศตามปกติเถอะ อย่าได้มากดดันกัน

แล้วถ้าฟีฟ่าจะคว่ำบาตรเราเพราะเรื่องนี้นะแม่งโคตรทุเรศเลยบอกตรงๆ
ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของผู้ลี้ภัยซึ่งคือบุคคลธรรมดาคนนึง (แม้จะเคยเป็นนักฟุตบอล)
ฟีฟ่าจะเอาเรื่องของฟุตบอลมากดดันให้เราปล่อยตัวผู้ลี้ภัยในความผิดซึ่งกรณีไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟุตบอลได้ยังไง
อย่างงี้คนๆนี้มันไม่อภิสิทธิ์ชนไปหน่อยหรอ มันไม่เอนเอียงถือหางกันหรอ ลองคิดกันดู


edit เป็นความเห็นนะครับ ไม่ได้บอกว่าที่เขียนมาทั้งหมดถูกต้อง
แต่สิ่งที่อยากจะพูดหลักๆเลยคือฟีฟ่าไม่น่าเข้ามาเกี่ยวข้อง  



เห็นด้วยกับความเห็นนี้เลย

ส่วนตัวตัวเราเน้นนโยบายเป็นกลางแบบนี้ดีกว่าถนอมน้ำใจ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Apr 2015
ตอบ: 787
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jan 26, 2019 00:06
[RE: แข้งบาห์เรนลี้ภัยที่ถูกจับในไทย กับบททดสอบมนุษยธรรมในวงการฟุตบอล]
worker005 พิมพ์ว่า:
namlang15 พิมพ์ว่า:
ผมว่าเรากลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนะ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นว่าถ้าจะส่งกลับออสแล้วเรื่องจบ
ถ้าส่งกลับไปออสก็อาจขุ่นเคืองกับบาห์เรนได้และตำรวจสากลได้นะ
การส่งกลับออสไม่เท่ากับเราไม่เคารพกฎหมายของบาห์เรนหรอ !!

แล้วออสกับฟีฟ่าเอาไรมากดดันเรา นี่เขาเข้ามาในเขตอำนาจอธิปไตยของเราเองนะ
เรามีอำนาจอธิปไตยเหนือเขตแดนของเรา ทำไมเราต้องยอมด้วยล่ะ
เมื่อบุคคลผู้นี้มีหมายจากตำรวจสากล เขาได้รับความคุ้มครองในออสเตรเลียแต่ไม่ได้รับความคุ้มครองในไทย
และสนธิสัญญาระหว่างประเทศเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนหลักของมันเป็นเสมือนการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
คิดดูถ้าต่อไปมีผู้ร้ายที่เราต้องการตัวลี้ภัยเข้าไปอยู่ในบาห์เรนบ้างล่ะ
ถ้าครั้งนี้เมื่อเขาเข้ามาแล้วถ้าเราไม่ทำอะไรสากลโลกเขาจะมองเรายังไง

ส่วนไอ้หมายแดงสิ้นผลเพราะออสให้การรับรองสถานะผู้ลี้ภัยก็เถอะ อันนี้ผมไม่รู้นะ
แต่ฟังดูเหมือนไอ้สถานะผู้ลี้ภัยของออสมันเหนือกว่าสนธิสัญญาระหว่างประเทศเชียวหรือ
ผมว่าทางที่ดีรอให้ครบกำหนดเวลาแล้วบาห์เรนไม่ส่งหมายมาขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้วเราค่อยส่งกลับไปออสน่าจะดีที่สุด ถนอมน้ำใจทั้งสองฝ่าย (ส่วนนักบอลคนนี้ต้องรับเคราะห์โดนขังต่อหน่อย ผมมองว่าเรื่องประเทศสำคัญกว่าตัวบุคคล)
มิเช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการระหว่างประเทศตามปกติเถอะ อย่าได้มากดดันกัน

แล้วถ้าฟีฟ่าจะคว่ำบาตรเราเพราะเรื่องนี้นะแม่งโคตรทุเรศเลยบอกตรงๆ
ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของผู้ลี้ภัยซึ่งคือบุคคลธรรมดาคนนึง (แม้จะเคยเป็นนักฟุตบอล)
ฟีฟ่าจะเอาเรื่องของฟุตบอลมากดดันให้เราปล่อยตัวผู้ลี้ภัยในความผิดซึ่งกรณีไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟุตบอลได้ยังไง
อย่างงี้คนๆนี้มันไม่อภิสิทธิ์ชนไปหน่อยหรอ มันไม่เอนเอียงถือหางกันหรอ ลองคิดกันดู


edit เป็นความเห็นนะครับ ไม่ได้บอกว่าที่เขียนมาทั้งหมดถูกต้อง
แต่สิ่งที่อยากจะพูดหลักๆเลยคือฟีฟ่าไม่น่าเข้ามาเกี่ยวข้อง  


ดีใจที่ได้คุยเรื่องการเมืองระหว่างประเทศครับ
ยาวหน่อยนะครับ อันนี้คือข้อมูลที่ผมมี พูดคุยแลกเปลี่ยนได้ครับ

ถูกครับ ตอนนี้เขาอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยเรา ทีนี้เมื่อออสเตรเลียคุ้มครองเขาในฐานะผู้ลี้ภัยแล้ว มันก็เป็นอำนาจอธิปไตยของเขาที่จะต้องแสดงออกซึ่งการคุ้มครอง (ไม่งั้นก็คุ้มครองแค่ลมปากดิใช่มะ) ฟีฟ่าเองก็มีข้อบังคับเรื่องสิทธิมนุษยชน (ไทยก็ลงนามในคำประกาศสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไทยมีหน้าที่ต้องทำตามครับ และเรื่องการไม่ส่งตัวคนกลับไปเผชิญอันตรายก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ที่ไทยผูกพันในอนุสัญญาต้านการซ้อมทรมาน) แต่ละฝ่ายมันมีบทบาทที่ต้องออกมาแสดงการกดดัน เพราะไอ้กฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายในประเทศเนี่ย อำนาจบังคับใช้มันไม่มีถ้าไม่เคารพกันเสียเอง

ไทยกับบาห์เรนไม่มีสัญญาทวิภาคีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนครับ กระทรวงการต่างประเทศไทยให้ข้อมูลไว้ในนี้ http://mfa.go.th/main/th/news3/6886/97217-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-Hakeem-Ali-Mohamed-Ali-Al-Oraibi.html (ฝังลิงค์ยังไงวะเนี่ย รกมาก)

มีเพียงหมายแดงของอินเตอร์โปล ซึ่งไม่ใช่รัฐ ไม่มีกองกำลังและประชาชนเป็นของตัวเอง ไม่มีอำนาจบังคับ และการขอตัวฮาคีมจากไทยเมื่อ 27 พ.ย. โดยทางการบาห์เรน (ที่ยังไม่มีเอกสารส่งมาจนถึงทุกวันนี้ นำมาซึ่งการฝากขังตามกระบวนการ พรบ ผู้ร้ายข้ามแดนของไทย) แปลว่าตอนนี้บาห์เรนและออสเตรเลียไม่มีสิทธิพิเศษมากไปกว่าใครครับ และในทางหลักการเราไม่มีหน้าที่ต้องไปเคารพกฎหมายประเทศอื่นบนดินแดนของเรา ก็ต้องไปพิจารณาว่าเรามีสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกว่ากับใคร ผมเห็นด้วยนะครับว่าการตัดสินใจรอบนี้กระทบความสัมพันธ์ทางการทูตของสักฝั่งใดฝั่งหนึ่งแน่ แต่การเมืองระหว่างประเทศมันก็แบบนี้ครับ ทางการทูตก็ต้องผสานประโยชน์กันไป ทางการเมืองก็ดีดลูกคิดเอาว่าแทงข้างไหนแล้วจะได้ประโยชน์ดีสุด ผมสงสัยมากว่าถ้าพวกประเทศพัฒนาแล้วสนับสนุนการส่งตัวกลับออสเตรเลีย แล้วไทยไปเคารพกฎหมายบาห์เรน ส่งตัวเขากลับไปติดคุกที่นั่น ดีดลูกคิดยังไงมันจะคุ้ม เพราะไอ้พฤติกรรมแบบต่างตอบแทนเนี่ย มันเกิดได้กับทั้งบาห์เรน-ไทย และออสเตรเลีย-ไทย จะพิจารณาแต่ไอ้ทางบาห์เรนข้างเดียวก็ไม่ได้

สถานะผู้ลี้ภัยที่ออสเตรเลีย ที่เคยได้ยินมามันขอกันยากอ่ะครับ (ที่ไหนก็ยาก กระบวนการขอสถานะผู้ลี้ภัยที่ UNHCR ในเมืองไทยใช้เวลานับหลักกันเป็นปีครับ ถ้าไม่ติดอะไรก็ 1-3 ปี ถ้าติดก็ยาวไปเลย) นั่นสะท้อนว่าออสเตรเลียมั่นใจแล้วว่าไอ้หนุ่มนี่หนีภัยอันตรายมาแน่ๆ ข้อมูลจากองค์กรสิทธิก็บอกว่าเขาโดนทรมานมาก่อน โดนยัดข้อหาว่าไปทำลายโรงพัก ทั้งๆ ที่ตอนนั้นตัวเองแข่งฟุตบอลถ่ายทอดสดทางทีวีอยู่แท้ๆ โอเคแหละ อันนี้เถียงได้ว่าการรับผู้ลี้ภัยมันมีการเมืองในนั้นอยู่ แต่ข้อมูลมีเท่านี้ครับ แหะๆ

ทีนี้ใหญ่กว่าสนธิสัญญาไหม ไทยกับบาห์เรนไม่มีสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน แต่จารีตระหว่างประเทศที่ทำกันก็คือ รัฐจะไม่ส่งคนที่หนีภัยมา กลับไปเผชิญอันตรายที่เขาหนีมาแล้ว (Non-Refoulement) ซึ่งอันนี้เป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่ถ้าจะทำก็ทำได้ครับ

ความเห็นคุณเรื่องรอให้เขาไม่ส่งใบเรียกตัวมามันก็อาจจะเกิดขึ้นครับ บาห์เรนก็อาจจะแก้เกี้ยว เห็นคนค้านเยอะก็คงทำเมินๆ ไม่ส่งไป ให้ไอ้หนุ่มนี่ติดคุกสักสองเดือนแล้วก็กลับออสไป เรื่องพวกนี้ไม่หลุดมาให้เราได้ยินแน่ๆ และมันไม่ได้อยู่ในพิสัยที่เราท่านจะทำอะไรได้ แต่ถ้าเรื่องจบแบบนั้น ไอ้ที่ไทยไปสัญญาเอาไว้ในเวทีโลกก็เป็นลมปากเฉยๆ การทูตบ้านเราถนัดแทงกั๊กแบบนั้นอยู่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเป็นแบบนั้น รักษาความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย ออสคงมีเคืองหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถูกส่งกลับนี่ ก็ยังโอเคบ้าง บาห์เรนก็ไม่ได้เสียหน้า

edit: เขายังเป็นนักฟุตบอลที่ลีคออสเตรเลียครับ เล่นแบ๊คขวาที่สโมสร Pasco Vale FC

 


โอ้วขอบคุณครับ
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามนั้นในส่วนทางปฏิบัติตามกฎหมายผมก็คิดว่าชัดเจนดังที่ท่านว่านะครับ เพราะผมเองเพิ่งรู้เรื่องนี้จากโพสท่านกับลิงค์ข่าวในเว็บนี้นี่เอง
ยิ่งถ้าข้อมูลจากองค์กรสิทธิก็บอกว่าเขาโดนทรมานมาก่อน โดนยัดข้อหาว่าไปทำลายโรงพัก ทั้งที่ตอนนั้นตัวเองแข่งฟุตบอลถ่ายทอดสดทางทีวีผมจะไม่เถียงในส่วนนี้ ถ้าขอเท็จจริงเป็นไปตามนี้ผมคิดว่าท่านมีเหตุผลที่ดีกว่า

แล้วในส่วนทางปฏิบัติ ส่วนที่เป็นความเห็นท่านว่าควรแก้อย่างไร ในส่วนนี้ท่านเห็นว่าหลักคือควรคำนึงความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าต้องเลือกควรเอนไปทางออสเตรเลีย ผมเข้าใจถูกไม๊ครับ
ส่วนนี้ขอถามแลกเปลี่ยนเป็นความรู้เฉยๆครับ



แต่ที่ผมพูดมายืดยาวในคอมเม้นก่อนเพราะต้องการท้าวความในส่วนนี้มากกว่าครับ
คือเรื่องจดหมายของฟีฟ่า ผมยังคิดว่าไม่น่าเข้ามาเกี่ยวข้องนะครับ
เพราะกรณีไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลย หรือหากว่ามีกฎของทางฟีฟ่าแล้วทางเราได้ลงนาม
แต่กฎฟีฟ่าก็ไม่ใช่หรือไม่ได้มีศักดิ์เทียบเท่ากฎหมายที่เราต้องปฏิบัติตามโดยการให้ความสำคัญเสมอกฎหมาย (แต่ กม.ระหว่างประเทศรากมันจริงๆก็เป็นเพียงจารีตประเพณีระหว่างประเทศที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเนอะ ถ้าระหว่างประเทศใดไม่มีตัวสัญญามันก็ไม่มีตัวบทกฎหมายจริงๆ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะใหญ่กว่ากฎฟีฟ่าที่เราลงนามอยู่ดี ไม่แน่ใจผมเข้าใจถูกไม๊ครับอันนี้ ?? แฮ่ )
ทีนี้ด้วยผมเห็นว่ากรณีตามข้อกล่าวหาไม่ใช่ความผิดเกี่ยวกับฟุตบอล แล้วเช่นนี้ทำไมฟีฟ่าถึงเลือกที่จะเชื่อว่าสิทธิมนุษยชนในการช่วยเหลือคนๆนี้เหนือกว่ากฎหมายภายในหรือกระบวนการยุติธรรมของประเทศบาห์เรนที่พิพากษาว่าคนๆนี้มีความผิด
นั่นไม่เท่ากับว่าฟีฟ่าเอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวโดยเลือกถือหางข้างนี้หรอครับ
(กรณีนี้ผมเห็นว่าฟีฟ่าฟังว่านักบอลคนนี้ไม่ผิด หรือแม้จะผิดแต่ได้รับความคุ้มครองโดยออสเตรเลีย ฟีฟ่าจึงส่งจดหมายมากดดันเรา ผมคิดว่าฟีฟ่าถือหางข้างนี้แล้ว) อย่างนี้ไม่ก็เท่ากับว่าฟีฟ่าเอาตัวเองเข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง ชี้นำ หรือตัดสินปัญหาซึ่งน่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองหรอครับ
แล้วฟีฟ่ามีอำนาจอะไรในการออกความเห็นเช่นนี้ แม้จะบอกว่าคนๆนี้เป็นนักฟุตบอลก็เถอะ มันมีน้ำหนักขนาดนั้นเลยหรอที่ฟีฟ่าต้องยื่นมือเข้ามา
แล้วถ้าจะคว่ำบาตรเราในทางฟุตบอลเพราะถ้าหากรัฐบาลเราไม่ปฎิบัติตามคำขอของออสเตรเลียขึ้นมาจริงๆนี่มันสมเหตุสมผลหรอครับ
หรือถ้าจะตอบว่ากฎฟีฟ่าเขียนไว้อย่างนี้แล้วเราลงนามเอง อันนี้ผมพาลไปถึงกฎเลยนะประเด็นนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel