[RE: ธุรกิจที่บ้านvsทำงานบ.ดีๆข้างนอก]
hamealone พิมพ์ว่า:
rafa van roo vart พิมพ์ว่า:
ผมเข้าใจนะ ผมก็เป็นอยู่ตอนนี้ ปัญหาคล้ายๆผมเลย โดยเฉพาะเรื่องไอเดีย/ความคิดเนี่ย มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรง่ายๆ คือเขาทำแบบนี้มาทั้งชีวิตเขา จะให้เปลี่ยนอะไรคงยากแหละ เขาไม่ใช่ไม่ฟังเรานะ เขาฟังเรา เขายอมให้เราทำบางอย่างแหละ แต่บางอย่างก็หัวเด็ดตีนขาดยังไงเขาก็ไม่ยอม ผมก็ทำใจยอมรับละ ก็มีความคิดช่วงหนึ่งเหมือนกันที่อยากไปทำงานบริษัท รอเขาหมดไฟค่อยกลับมาทำ
เรื่องความไม่มั่นคงอีก ทำงานบริษัท การันตีรายได้ชัวๆ เป็นเจ้าของธุรกิจปีนี้ขายได้เยอะ ปีหน้าใช่ว่าจะขายได้เหมือนเดิม ต้องสำรองเงิน/เตรียมพร้อมไว้เสมอ ต้องวางแผนใช้เงินเป็นปีเลย ยิ่งเพื่อน จขกท. บอกว่ากำไรค่อยๆหายไป ผมเข้าใจว่าคงอยู่ในช่วงที่เห็นบริษัทตัวเองกำลังจะไปไม่รอด คงคิดว่าไปเริ่มงานเป็นพนักงานบริษัทตอนอายุยังไม่เยอะยังไปได้อยู่ แต่ถ้าอายุสามสิบกว่าสี่สิบจะไปเริ่มเป็นพนักงานบริษัทคงช้าไปแล้ว เหลือแค่ทำธุรกิจตัวเอง ซึ่งถ้าอันเก่าไม่รอด ก็ต้องเริ่มใหม่หมด ดีไม่ดีอาจจะไม่มีเงินเหลือมากด้วยซ้ำจากการที่ใช้ไปในการยื้อบริษัทเก่า(ซึ่งมาจากการตัดสินใจของพ่อแม่ที่ต้องการยื้อบริษัทตัวเอง)
เรื่องไม่มีวันหยุดนี้เข้าใจเลย คือบางวันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็ต้องสแตนบายรอไว้เผื่อมีอะไร ข้อดีก็คือเราจะตื่น 9 โมง 10 โมง ก็ได้ บางวันก็ไม่ได้ทำอะไร อยู่หน้าคอม+เล่นกับหมาไปวันๆ
ท่านให้กำลังใจตัวเองอย่างไรครับ
เปล่านะ ผมไม่ได้มีช่วงแบบม้อหรืออยากเลิกเลย ช่วงที่อยากไปเป็นพนักงานก็อยากไปทำอะไรตามใจตัวเองหรือที่ตัวเองชอบแค่นั้นแหละ ไม่ได้คิดอยากจะไปทำถาวร ช่วงนั้นเป็นช่วงเซ็งพ่อตัวเองเฉยๆ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันคือปล่อยให้แกทำอะไรตามใจแกแหละ ผมกับแม่พูดอะไรก็ไม่ยอม รอแกหมดไฟผมค่อยมาทำต่อ คือยอมรับสิ่งที่แกเป็นนั่นแหละ
เรื่องธุรกิจมีทีท่าไปไม่รอด ผมยังไม่เคยถึงจุดนั้นอะ แต่เคยเห็นคนอื่นๆมาบ้าง สุดท้ายคนเหล่านี้ก้ต้องเริ่มต้นธุรกิจใหม่นั่นแหละ ไปจับอย่างอื่น มันก็วนๆเวียนๆ อยู่แถวนี้ บางคนที่ไปไม่รอดล้มแล้วล้มอีกก็มักจะพูดหรือตัดท้อว่าไปเป็นพนักงานบริษัทดีกว่าหรือมีลูกก็ไม่อยากให้ลูกทำธุรกิจ ซึ่งเหรียญมันมี 2 ด้านอยู่เสมอแหละ
ส่วนเรื่องเพื่อนท่าน ก็อยุ่ที่เพื่อนท่านแหละว่าจะเลือกทางไหน เราก็ไม่ควรไปตัดสินใจแทนเขา เขาเลือกแล้วก็ให้กำลังใจในสิ่งที่เขาเลือก