BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
โค้ช B-License
Status: FIAT IUSTITIA, ET PEREAT MUNDUS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 4824
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 06:15
เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย
เหตุการณ์ “ถังแดง” หรือ รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “เผาลงถังแดง” เป็นเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐที่ใช้วิธีการรุนแรงนอกกระบวนการกฎหมายเพื่อลงโทษผู้ต้องสงสัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการคอมมิวนิสต์ในเขตจังหวัดพัทลุงและพื้นที่ใกล้เคียงในช่วงเวลาของทศวรรษ 2510 ปฏิบัติการที่ถูกกล่าวถึงในแง่ลบนี้ คือ การที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐด้วยวิธีการจับกุมผู้ต้องสงสัยมาใส่ในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ซึ่งใส่น้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้ในก้นถังประมาณ 20 ลิตร แล้วจึงเผาผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น โดยที่ผู้ต้องสงสัยบางส่วนถูกทรมานจนเสียชีวิตมาก่อนหน้านั้น ในขณะที่บางส่วนซึ่งยังไม่เสียชีวิตก็จะถูกเผาทั้งเป็น



การเลือกใช้ความรุนแรงของรัฐที่มีต่อผู้ต้องสงสัยในเวลาดังกล่าว เป็นผลมาจากการหล่อหลอมความคิดเรื่องความชิงชังและความเป็นศัตรูระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐกับกลุ่มประชาชนที่ถูกมองว่าเป็นผุ้ปฏิเสธอำนาจของรัฐบาล สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในยุคของสงครามเย็นซึ่งการต่อสู้กันทางด้านอุดมการณ์ทางการเมืองและทางการทหารระหว่าง 2 ขั้วอุดมการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ คือ ประชาธิปไตย และ คอมมิวนิสต์กำลังแพร่หลายทั่วไปทั้งในระดับสากลและภายในประเทศ สำหรับพื้นที่จังหวัดพัทลุงและพื้นที่ใกล้เคียงนั้นก็เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวที่สำคัญทั้งทางการเมืองและทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่สำคัญในการปฏิบัติการทางการเมืองและการทหารของรัฐบาลไทยเช่นกัน

นับตั้งแต่ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา เริ่มมีการเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นซึ่งที่เริ่มตื่นตัวทางการเมืองเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนและความไม่พอใจที่กองทัพญี่ปุ่นคุกคามประเทศจีนและประเทศไทยในช่วงสงคราม กลุ่มชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนเหล่านี้เริ่มรวมตัวกันอย่างลับๆเพื่อดำเนินการต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ต่อมาเมื่อสงครามสงบลงคนเหล่านี้ซึ่งซึมซับอุดมการณ์คอมมิวนิสต์มากขึ้นก็เริ่มเผยแพร่อุดมการณ์ทางการเมืองตามระบอบคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ต่างๆของภาคใต้ เช่น ตรัง หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และพัทลุง เป็นต้น และเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการและมีสมาชิกของพรรคเข้ามาปฏิบัติการทางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ก็ทำให้ประชาชนในพื้นที่จำนวนมากได้รับอิทธิพลจากแนวคิดทางการเมืองดังกล่าวและเข้าร่วมดำเนินงานกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากปัจจัยในเรื่องความยากลำบากในการดำเนินชีวิตและความไม่พอใจต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐทั้งในเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นและกดขี่ข่มเหงประชาชนในพื้นที่

ในขณะที่การดำเนินงานของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในภาคใต้เริ่มเติบโตและมีอิทธิพลต่อประชาชนในพื้นที่มากขึ้น บรรยากาศของความไม่เข้าใจและหวาดระแวงระหว่างรัฐกับประชาชนที่นิยมการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ก็เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของภาคใต้ก็ค่อยเติบโตขึ้นเช่นกัน บรรยากาศเช่นนี้ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มถึงการต่อสู้ด้วยการใช้กำลังอาวุธในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น โดยเฉพาะนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา ซึ่งมีการตั้งค่ายฝึกอาวุธให้สมาชิกที่บริเวณเขาประ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี และในปี พ.ศ. 2508 มีการฝึกอาวุธให้แก่สมาชิกในบริเวณเขาแก้วที่เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดตรังกับจังหวัดพัทลุง โดยในเขตนี้ มีนายประสิทธิ์ เทียนศิริ หรือ กิ้ม หรือ แทน แซ่แต้ หรือ สหายชอบ หรือ สหายชิด เลขาธิการคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ภาคใต้ในระยะนั้น เป็นผู้นำที่สำคัญ และแบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 3 เขต ดังนี้ ค่ายเขตเหนือมีกำลังประมาณ 60 คน มีพื้นที่ปฏิบัติการในตำบลเกาะเต่า ตำบลป่าพะยอม และตำบลพนมวังก์ ในเขต อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ตำบลท่างิ้ว ตำบลหนองปรือ ของอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตำบลท่าประจะ ตำบลท่าเม็ด ตำบลชะอวด และ ตำบลวังอ่าง ของ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตำบลสามตำบล ตำบลร่อนพิบูลย์ และตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ค่ายเขตกลางมีกำลังประมาณ 46 คน มีพื้นที่ปฏิบัติการในตำบลเขาปู่ ตำบลเขาย่า ตำบลตะแพน และตำบลปันแต ของอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง และตำบลปากแจ่ม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ค่ายเขตใต้ มีกำลังพลประมาณ 55 คน มีพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ในตำบลบ้านนา ตำบลเขาเจียก ตำบลท่ามิหรำ ตำบลชะรัด ตำบลร่มเมือง ตำบลโคกชะงาย ตำบลปรางหมู่ และตำบลน่าท่อม อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ตำบลเขาชัยสน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ตำบลละมอง และตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง

จังหวัดพัทลุงและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งมีเงื่อนไขหลายประการที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจต่อการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก็เริ่มเกิดเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายขึ้นเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2507 ที่บ้านควนปลง ใกล้ตัวเมืองพัทลุง โดยเริ่มจากกลุ่มแนวร่วมของขบวนการคอมมิวนิสต์ตัดสินใจยิงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพื่อแย่งชิงปืนไปใช้ในกองกำลังคอมมิวนิสต์ และต่อมาเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ประกาศจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นอย่างเป็นทางการมีชื่อว่า “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย” ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2512 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในเขตภาคใต้จึงได้ประกาศจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธประจำภาคใต้ขึ้นใช้ชื่อว่า “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย” ทางภาคใต้จึงได้ประกาศจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธประจำภาคใต้ขึ้นใช้ชื่อว่า “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทยประจำภาคใต้”



หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในพื้นที่ภาคใต้สามารถหาสมาชิกและแนวร่วมได้มากขึ้น และสามารถขยายขอบเขตความเคลื่อนไหวไปสู่การใช้กำลังอาวุธ ทำให้รัฐบาลซึ่งมีนโยบายที่แข็งกร้าวในการต่อต้านการเติบโตของแนวคิดและขบวนการคอมมิวนิสต์ ได้เพิ่มความเข้มแข็งของการดำเนินงานด้านความมั่นคงและส่งหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้ามาประจำการในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น โดยเฉพาะในเขตจังหวัดพัทลุงและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งมีการเติบโตของขบวนการคอมมิวนิสต์มากเป็นพิเศษ ดังมีหลักฐานว่ากำลังทหารตำรวจเริ่มเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพัทลุงในภารกิจปราบปรามการเคลื่อนไหวของขบวนการคอมมิวนิสต์ในราวปี พ.ศ. 2507 โดยเข้ามาในพื้นที่ ตำบลเกาะเต่า ตำบลควนขนุน และชาวบ้านไปราว 50-60 คน ในข้อหาคอมมิวนิสต์และในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2509 ก็จับชาวบ้านกว่า 40 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ตำบลเกาะเต่า และบ้านสังแกระ ตำบลป่าพะยอม ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 รัฐบาลได้ส่งกำลังทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และอาสารักษาดินแดน (อส.) มาตั้งฐานปฏิบัติการในหมู่บ้านบริเวณชุมชนเทือกเขาบรรทัดหลายจุดด้วยกัน ต่อมา ในปี พ.ศ. 2517 รัฐบาลได้ส่งกำลังทหารจำนวนมากเข้าประจำการในพื้นที่จังหวัดพัทลุง คือ บริเวณพื้นที่บ้านคลองหมวย ตำบลบ้านนา อำเภอเมืองพัทลุง จำนวน 1 กองพัน และแยกกำลังอีกส่วนหนึ่งไปตั้งที่บ้านท่าเชียด อำเภอตะโหมด เพื่อหมายจะปราบปรามคอมมิวนิสต์ให้สิ้นซาก มีการใช้อาวุธสงครามที่มีอานุภาพสูงในการปฏิบัติการ มีการจับกุมแนวร่วมและสมาชิกของขบวนการคอมมิวนิสต์ในพื้นที่

ภายใต้ปฏิบัติการด้านความมั่นคงเหล่านี้ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากถูกจับกุม และนำตัวไปสอบสวนในเขตพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายความมั่นคง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2515 ชาวบ้านบางส่วนที่ถูกนำตัวไปสอบสวนในค่ายทหารบางแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ค่ายเกาะหลุง” ใน ตำบลบ้านนา และ “ค่ายท่าเชียด” ใน ตำบลตะโหมดเริ่มสูญหายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อมีผู้มาสืบถามถึงผู้ที่สูญหายหลังจากการการถูกจับกุมมาให้สอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จับกุมชาวบ้านมาสอบสวนก็จะชี้แจงว่าได้ดำเนินการปล่อยตัวคนเหล่านั้นกลับบ้านไปแล้ว แต่ต่อมาก็เริ่มมีการร่ำลือกันถึงการ “เผาลงถังแดง” แพร่ไปทั่วพื้นที่จังหวัดพัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งขึ้นก็ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงการหายตัวไปดังกล่าว และเริ่มมีการโจษจันถึงการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้กระบวนการ “ถังแดง” เพื่อจัดการกับประชาชนในพื้นที่ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแนวร่วมหรือสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยมักจะอ้างอิงถึงการพบกลุ่มควันไฟต้องสงสัยขนาดใหญ่ที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างบ่อยครั้งในเขตพื้นที่ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง



ต่อมาเมื่อข่าวการสูญหายไปของประชาชนจำนวนมากในพื้นที่กลายเป็นที่โจษจันของชาวบ้านในพื้นที่มากขึ้น ทำให้ประชาชนจังหวัดพัทลุงและผู้ที่เกี่ยวข้องเริ่มนำเรื่องราวเหล่านี้ออกเผยแพร่สู่สาธารณชน โดยเมื่อ13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาและแนวร่วมต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เปิดอภิปรายที่สนามหลวง และมีแถลงการณ์กรณีถังแดง โดยเรียกร้องให้รัฐบาลยุบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)โดยด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยุติการสังหารประชาชนในการปราบปรามคอมมิวนิสต์แบบเหวี่ยงแหและให้รัฐบาลใหม่ชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายทุกครอบครัว 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ชาวบ้านจากจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยนายพินิจ จารุสมบัติ รองเลขาฝ่ายการเมืองศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้เข้าพบ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา ผู้บัญชาการทหารบกในเวลานั้นเพื่อเรียกร้องเกี่ยวกับกรณีถังแดง ซึ่ง พล.อ.กฤษณ์ ยอมรับว่า เรื่องถังแดงนั้นได้เกิดขึ้นจริง พร้อมกันนั้นได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และเตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่ถอนกำลังจาก กอ.รมน. ให้หมดด้วย ขณะที่นายอ่ำ รองเงิน ผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง 3 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกรณีนี้ไปอภิปรายในรัฐสภาและเปิดเผยต่อประชาชนร่วมกับศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ผลพวงจากการเปิดเผยเรื่องราวของเหตุการณ์ “ถังแดง” ยังส่งผลกระทบต่อข้าราชการในพื้นที่ คือ นายจำลอง พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ซึ่งเห็นด้วยกับการเปิดเผยข้อเท็จจริงในกรณีถังแดง แต่กลับถูกถูกนายวิญญู อังคณารักษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นเรียกตัวเข้าพบและตำหนิในท่าทีดังกล่าว

แม้จะเชื่อกันว่ามีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัตินี้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถระบุถึงจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างชัดเจน โดยบางแหล่งข้อมูลระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 3,008 ราย ในขณะที่ข้อมูลจากพันเอกวิจักขพันธุ์ เรือนทอง นายทหารผู้รับผิดชอบภารกิจด้านการเจรจากับกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์ภาคใต้ในเวลาต่อมาระบุว่าจำนวนดังกล่าวเป็นยอดผู้เสียชีวิตในกรณีคอมมิวนิสต์ทั้งหมดของจังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช และสุราษฏร์ธานี มิใช่กรณีของถังแดงเท่านั้น ในขณะที่ พ.อ.หาญ พงศ์สิฏานนท์ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายอำนวยการและประสานงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในในขณะนั้น ยอมรับในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ว่าข่าวที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ได้สังหารชาวบ้านจากหลายอำเภอของจังหวัดพัทลุง ด้วยการจุดไฟเผาซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ศพ นั้นเป็นความจริง และในท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวของการสังหารโหดด้วยวิธีการถังแดงก็ไม่มีการติตตามอย่างจริงจังในการเอาผิดทางกฎหมายแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับเหตุการณ์รุนแรงที่สำคัญอื่นๆอีกหลายครั้งที่กระทำขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อประชาชนในยุคสงครามเย็น

ผลจากกรณี “ถังแดง” ทำให้ชาวบ้านในเขตจังหวัดพัทลุงและพื้นที่ใกล้เคียงก็ดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบาก เพราะประชาชนไม่กล้าเข้าเขตป่าเขาเพื่อหาของป่าหรือล่าสัตว์ รวมถึงไม่กล้าเข้าไปทำไร่ ทำสวนในเขตป่าลึก เนื่องจากเป็นเรื่องต้องห้ามจากทางการที่เกรงว่าชาวบ้านจะเข้าป่าเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของขบวนการคอมมิวนิสต์ ในทางกลับกันชาวบ้านจำนวนมากก็ไม่กล้าติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐเนื่องจากเกรงว่าฝ่ายคอมมิวนิสต์จะเพ่งเล็งว่าตนเป็นศัตรู อย่างไรก็ตามพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวก็เลือกใช้เรื่องราวของกรณี “ถังแดง” เพื่อแสวงหาการสนับสนุนจากประชาชนที่ไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐให้หันมาเข้าร่วมดำเนินงานทางการเมืองกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ดังกรณีของเพลง “ถังแดง” ที่ประพันธ์คำร้องและทำนองขึ้นโดย แสง ธรรมดา นักดนตรีใน “วงจรยุทธ์” ซึ่งมีหน้าที่เคลื่อนไหวทางด้านศิลปวัฒนธรรมและการเมืองให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ในเขตเทือกเขาบรรทัด

ถังแดง
ปังๆโวยว้าย เสียงเจ้านายรบกวน ค่ำมืดลมหวน เสียงมันชวนครางครัน
กระโดดลงใต้ถุนหลบกระสุนนาย กลิ่นควายตายโชยมา

เขาว่าพัทลุงสบาย ฉันว่าอันตรายแท้เชียว
จะไปทางไหนให้หวาดเสียว มันโกรธเรานิดเดียวก็ตาย

จับไปลงถัง ราดน้ำมันแล้วจุดไฟ ข้อหาคอมมิวนิสต์ มันคิดไป
จับเราใส่เตา แล้วเผาไฟ แล้วมันก็ป้ายสีแดง

บ้างเมียก็เสียผัว ถูกตัดหัวเสียบประจาน
มันขี้หกลูกหลาน ว่าสันดานเป็นคอมฯ

แท้จริงมันคือเจ้านาย หัวหน้าตัวร้ายไอ้สอพลอ
มึงต้องออกไปไอ้หัวหมอ ไอ้พวกสอพลอต้องออกไป

ชีวิตคนไทย มันขาย เป็นทาสรับใช้ไอ้กัน
พรากลูกเมียเขาเพื่อเอาเงิน แร่ไทยมันขนกัน สุดประเมิน แล้วยังสรรเสริญเยินยอ

อาจกล่าวได้ว่ากรณี “ถังแดง” อันเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาดของฝ่ายรัฐได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังได้สร้างความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นในหมู่ประชาชนในเขตจังหวัดพัทลุงและพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย ขณะเดียวกันกรณี “ถังแดง” ยังเป็นแรงขับให้ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายเกิดความรู้สึกหวาดระแวง ไม่ไว้ใจ และนำไปสู่ความเกลียดชังที่มีต่อฝ่ายรัฐ และที่สุดแล้วผู้คนเหล่านี้ก็หันไปเข้าร่วมกับขบวนการคอมมิวนิสต์ โดยในบางครอบครัวได้อพยพครอบครัวไปเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับขบวนการคอมมิวนิสต์ในบริเวณเทือกเขาบรรทัด ทำให้ขบวนการคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนผู้ปฏิบัติงานมากขึ้นในเวลาต่อมา


บทความจาก สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง รองศาสตราจารย์ ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต

Spoil
http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%96%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2_%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87  


รูปภาพจาก https://mgronline.com/south/detail/9600000085457
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: LFC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jun 2006
ตอบ: 6153
ที่อยู่: Citizen of Earth
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 08:42
Top Comment [RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
แต่ความรู้สึกผมนะ เหมือนรัฐบาลยุคนั้นนะแหละคือคอม และกลุ่มผู้ปลดแอกคือคนที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพแต่โดนเรียกว่าคอม

ผ่านไปหลายปี ประเทศเราก็เหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากการต่อสู้ด้วยดาบและปืน เป็นการใช้สื่อ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2013
ตอบ: 490
ที่อยู่: แมนเชสเตอร์
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 06:23
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
ได้ยินครั้งแรกก็คิดว่าเวอร์นะ แต่พอดูจากความกลัวคอมขึ้นสมองของกลุ่มผู้นำ กลุ่มคนบางกลุ่ม จนฆ่าคนไปทั่ว อย่างฆ่านักศึกษาตอน6ตุลาแบบป่าเถื่อนมากๆ ผมเชื่อแล้วหล่ะว่าจริง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Once a Foal, always a Foal ❤
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 9980
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 06:37
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
ถังแดงนี่มาได้ยินตอนโตแล้ว แต่ 6 ตุลา 14 ตุลา พฤษภาทมิฬ นี่ได้ยินตั้งแต่เด็กๆ แบบประถม ม.ต้น ไรงี้เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: ์Newbie2006-2016
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 32418
ที่อยู่: สุราษฏร์ธานี
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 06:43
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
ผมงง ไปหมดแล้ว จริงๆ คอม มันเคยมาอาศัยอยู่แถวบ้านผมด้วย ปู่เคยเล่าให้ฟัง

แล้วก็ของใช้บางอย่างหรือปืน ก็ยังมีเหลือ ในครอบครัวของคนที่เคยเป็นคอมมาก่อน

ประมาณทิ้งลูกเมียไว้ แล้วตัวเองหนีเข้าไปอยู่ในป่า ประมาณนั้น

ว่าแต่ คอม นี่หน้ากลัวสุดๆเลยหรอครับ ทำไมสู้คอมไม่ได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Fujiwara Takumi Trueno AE 86
ออนไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 5488
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 07:53
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
ถังแดงมีจริงๆครับ ที่จังหวัดผมเลยยังมีการรำลึกเหตุการณ์อยู่ตลอด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 39842
ที่อยู่: Liverpool In Your Area!
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 07:59
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
Power Tends To Corrupt Absolute Power Corrupts Absolutely

มนุษย์เราลองได้สวมบทบาท สวมหัวโขนแห่งอำนาจสมมติ เป็นต้องแสดงออกพลังของด้านมืดเสมอ SPE Model ชัดๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: ʕ•ܫ•ʔ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2009
ตอบ: 6875
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 08:16
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
pohihi188 พิมพ์ว่า:
ผมงง ไปหมดแล้ว จริงๆ คอม มันเคยมาอาศัยอยู่แถวบ้านผมด้วย ปู่เคยเล่าให้ฟัง

แล้วก็ของใช้บางอย่างหรือปืน ก็ยังมีเหลือ ในครอบครัวของคนที่เคยเป็นคอมมาก่อน

ประมาณทิ้งลูกเมียไว้ แล้วตัวเองหนีเข้าไปอยู่ในป่า ประมาณนั้น

ว่าแต่ คอม นี่หน้ากลัวสุดๆเลยหรอครับ ทำไมสู้คอมไม่ได้
 


ก็น่ากลัวอยู่ครับ บางทีผมก็สู้คอมไม่ได้ถ้ามันเก่งเกินไปถ้ามักจะโกงเราเกินไป บางเกมสร้างไวกว่าเราเงินเด้งไวกว่าเรา

บางเกมนี่หนักเลยเล่นเป๊ะยังไงแฮคแมพ รู้หมดเราจะทำอะไร

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Nov 2008
ตอบ: 2894
ที่อยู่: โพรงข้างต้นสะแบง
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 08:30
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
ระบบคอมมิวนิตส์ มันคือฝันของภารดรภาพ ของ คาร์ล มาร์ก

ส่วนระบบคอมมิวนิตส์ ที่เห็นคือระบบอำนาจเผด็จการแบบสตาลิน


แล้วคอมมิวนิตส์ไทย คือ กลุ่มคนที่อยากมีสิทธิที่แท้จริง ไม่ตกอยู่ในภายใต้การปกครองของชนชั้นนำเพียงกลุ่มเดียว (คือกลุ่มข้าราชการ) และต่อต้านอำนาจรัฐที่กดขี่

หาใด้มีอุดมการณ์แบบ คาร์ล มาร์ก หรือ สตาลิน แท้ ๆ ไม่

ส่วนการฆ่า จะอย่างไร ก็คือการฆ่า

ซึ่งมันก็ฆ่ากันทั้งสองฝ่าย โดยอ้างเหตุผลส่วนของตัวเอง

ฝ่ายรัฐก็อ้างว่าพวกคอมมิวนิต์ไม่ใช่คนเป็นปีศาจ

พวกคอมมิวนิตส์ก็อ้างเหมือนกันว่าฆ่าเพื่อปลดแอก


สรุป คือหาเหตุผลในการ ประหัตประหารกัน
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: LFC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jun 2006
ตอบ: 6153
ที่อยู่: Citizen of Earth
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 08:42
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
แต่ความรู้สึกผมนะ เหมือนรัฐบาลยุคนั้นนะแหละคือคอม และกลุ่มผู้ปลดแอกคือคนที่ต่อสู้เพื่อเสรีภาพแต่โดนเรียกว่าคอม

ผ่านไปหลายปี ประเทศเราก็เหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากการต่อสู้ด้วยดาบและปืน เป็นการใช้สื่อ
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: Give
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 10675
ที่อยู่: Chiangmai
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 09:27
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
ถ้าไม่หลับตาเกินไปก็มองเห็น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: เบื้องหลังการถ่ายรูป
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 11:25
เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย
ในสมัยก่อน คนจีนฝักไฝ่คอม ทำให้เกิดสงคราม คอมกับรัฐในมาเลยเซีย

คนจีนไม่กลัวรัฐบาลมาเลย์ เลยมีสงครามเชื่อชาติและคอมมิวนิส


ในฝั่งไทยก็มีปัญหาโจรใต้


ไทยมาเลย์ เลยตกลงกันว่า ไทยเสนอปราบจีนคอมมิวนิสในมาเลย์ให้
มาเลยเซียต้องปราบโจรใต้ให้ไทย


ชาวจีนที่หลบหนีจากรัฐบาลมาเลยเซีย ไทยจัดหาอาชีพ และกำจัดคอมมิวนิส จนหายเรียบ


ใครเป็นคนจีนทางใต้น่าจะรู้ว่า มีญาติอยู่ฝั่งมาเลย์เซียเป็นเรื่องปกติได้เลย


ผลจากครั้งนั้นชาวจีนฝักไฝ่คอมหนีมาประเทศไทย ทั้งโดนกำจัด และทั้งให้งานให้อาชีพจนเลิกคิดเป็นคอมฯ


ส่วนมาเลยเซียลดบทบาทคนจีนได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาโจรใต้ให้ไทย

โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Jul 2006
ตอบ: 209
ที่อยู่: somewhere in her eyes
โพสเมื่อ: Sun Oct 07, 2018 22:12
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
emula122 พิมพ์ว่า:
ในสมัยก่อน คนจีนฝักไฝ่คอม ทำให้เกิดสงคราม คอมกับรัฐในมาเลยเซีย

คนจีนไม่กลัวรัฐบาลมาเลย์ เลยมีสงครามเชื่อชาติและคอมมิวนิส


ในฝั่งไทยก็มีปัญหาโจรใต้


ไทยมาเลย์ เลยตกลงกันว่า ไทยเสนอปราบจีนคอมมิวนิสในมาเลย์ให้
มาเลยเซียต้องปราบโจรใต้ให้ไทย


ชาวจีนที่หลบหนีจากรัฐบาลมาเลยเซีย ไทยจัดหาอาชีพ และกำจัดคอมมิวนิส จนหายเรียบ


ใครเป็นคนจีนทางใต้น่าจะรู้ว่า มีญาติอยู่ฝั่งมาเลย์เซียเป็นเรื่องปกติได้เลย


ผลจากครั้งนั้นชาวจีนฝักไฝ่คอมหนีมาประเทศไทย ทั้งโดนกำจัด และทั้งให้งานให้อาชีพจนเลิกคิดเป็นคอมฯ


ส่วนมาเลยเซียลดบทบาทคนจีนได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาโจรใต้ให้ไทย

 


ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคับ ในฐานะเป็นคนใต้ อยู่ในพื้นที่ข้างๆบริเวณที่เคยเป็นฐานทัพรองคอมมิวนิสต์

คือในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ยูคพ่อแม่ผมนั้น(ยุค 14 ตุลา 6 ตุลา) รัฐบาลเผด็จการไทยนี้ปราบคอมมิวนิสต์แบบใช้คำว่าฆ่าไม่ยั้งได้เลยนะคับ(แต่ด้วยบริบทสังคมยุคนั้นอาจมองเป็นเรื่องปกติ) คือคุณอาผมนั้นตอนอยู่มัธยมปลาย เวลาเรียนหนังสือ หันไปทางหน้าต่างโรงเรียน ทุกๆวันจะเห็นเครื่องบิน บินไปที่ภูเขาแหล่งซ่องสุมคอมมิวนิสต์แล้วก็ทิ้งระเบิดแบบไม่ยั้งเหมือนในหนังเลย อาผมว่าอย่างงั้น เห็นทุกๆวัน ทั้งรถหุ้มเกราะวิ่งในตัวอำเภอ จนเป็นเรื่องปกติของยุคนั้น....ทีนี้พอผมถามพ่อ,อา ญาติๆ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้น... โห ไม่เคยเห็นในหนังสือเรียนสังคมเลยตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีเลยจริงๆ เห็นมีเฉพาะ เหตุการณ์ 14,6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ ทำให้ผมวิเคราะห์ออกมาได้ว่า

- ฝ่ายปกครองไทยถือว่าปิดหูปิดตาคนไทยได้เก่งมาก ถึงขนาดไม่มีเรื่องราวแบบนี้บรรจุในแบบเรียนให้คนยุคผมหรือยุคถัดๆไปได้รับรู้เลย ต้องอาศัยถามคนที่ทันเหตุการณ์เอาเอง+ใช้ internet ซึ่งก็จะเป็นคนที่ทันเหตุการณ์มาเล่าแต่อาจมีน้อยเพราะส่วนมากอายุก็เยอะพอสมควรไม่ถนัดพิมพ์คอมเท่าไหร่นัก และที่สำคัญหากท่านทั้งหลายไม่ใช่คนในพื้นที่สีแดงในอดีต รับรองแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัฐบาลไทยในอดีตทำเรื่องที่โหดร้ายอะไรเอาไว้บ้าง

- ถ้าท่านทั้งหลายไปศึกษารประวัติศาสตร์ไทย ในช่วงยุคดังกล่าว จะพบความเชื่อมโยงหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มต้นปราบคอมมิวนิสต์ คึกฤทธิ์บินไปจับมือกับเหมาเจ๋อตุง จากนั้นมาไม่นานพรรคคอมมิวนิสต์ไทยค่อยๆเสื่อมถอย(คาดว่าจากการตัดท่อน้ำเลี้ยงจากพี่ใหญ่จีนเอง) จีนทำสงครามสั่งสอนเวียดนามช่วยไทยแบบอ้อมๆ จนเกิดคำสั่ง 66/23 เป็นอันถึงจุดจบคอมมิวนิสต์ไทย

อีกเรื่อง เรื่องโจรใต้ ในพื้นที่ชายแดนอดีตนั้นจะมีคอมมิวนิสต์มาลายา(จีนมาเลย์)มาพึ่งพิงไทย อารมณ์หนีมาสร้างฐานที่ไทย แต่ออกรบที่มาเลย์สู้กับรัฐบาลมาเลเซีย แล้วโจรคอมมิวนิสต์ช่วยข่มโจรใต้ปกป้องไทย(อันนี้จากปากอดีตคอมมิวนิสต์มาเลที่เบตงเล่าให้ฟัง) แต่สุดท้ายไทยดันไปตกลงกับมาเลเซียมาปราบคอมมิวนิสต์ให้มาเลตามที่เม้นบอก แล้วไปๆมาๆ ก็ไปเซ็นสัญญาที่หาดใหญ่ให้คอมมิวนิสต์มาเลเซียยุติบทบาท และทางการมาเลเซียพร้อมจะมอบโอกาศอะไรทำนองนี้ แต่ก็นั้นแหละสุดท้ายโดนหักหลังโจรใต้ก็กำเริบ คอมมิวนิสต์มาเลกลับประเทศตัวเองก็ไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้แหละคับ...ที่ให้โอกาศ ให้สัญชาติ ให้พื้นที่ทำกินแก่บุคคลเหล่านี้ พิมพ์ไปซะยาว(นี้ย่อๆแล้วนะ จริงๆเรื่องราวโคตรจะซับซ้อน)บอกได้เลยครับ รัฐบาลไทยนี้สุดตรีนจริงๆคับเรื่องความมั่นคงและนโยบายปกปิดความจริง5555 แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้สุดยอดมากเลยครับเป็นบุญของคนในยุคพ่อแม่ผมจริงๆครับที่ได้ทันเห็นพระบารมีของพระองค์ท่าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
huader marrrrrayyyyysss
ออนไลน์
โค้ช B-License
Status: FIAT IUSTITIA, ET PEREAT MUNDUS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 4824
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 08, 2018 01:17
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
blackzel พิมพ์ว่า:
emula122 พิมพ์ว่า:
ในสมัยก่อน คนจีนฝักไฝ่คอม ทำให้เกิดสงคราม คอมกับรัฐในมาเลยเซีย

คนจีนไม่กลัวรัฐบาลมาเลย์ เลยมีสงครามเชื่อชาติและคอมมิวนิส


ในฝั่งไทยก็มีปัญหาโจรใต้


ไทยมาเลย์ เลยตกลงกันว่า ไทยเสนอปราบจีนคอมมิวนิสในมาเลย์ให้
มาเลยเซียต้องปราบโจรใต้ให้ไทย


ชาวจีนที่หลบหนีจากรัฐบาลมาเลยเซีย ไทยจัดหาอาชีพ และกำจัดคอมมิวนิส จนหายเรียบ


ใครเป็นคนจีนทางใต้น่าจะรู้ว่า มีญาติอยู่ฝั่งมาเลย์เซียเป็นเรื่องปกติได้เลย


ผลจากครั้งนั้นชาวจีนฝักไฝ่คอมหนีมาประเทศไทย ทั้งโดนกำจัด และทั้งให้งานให้อาชีพจนเลิกคิดเป็นคอมฯ


ส่วนมาเลยเซียลดบทบาทคนจีนได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาโจรใต้ให้ไทย

 


ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคับ ในฐานะเป็นคนใต้ อยู่ในพื้นที่ข้างๆบริเวณที่เคยเป็นฐานทัพรองคอมมิวนิสต์

คือในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ยูคพ่อแม่ผมนั้น(ยุค 14 ตุลา 6 ตุลา) รัฐบาลเผด็จการไทยนี้ปราบคอมมิวนิสต์แบบใช้คำว่าฆ่าไม่ยั้งได้เลยนะคับ(แต่ด้วยบริบทสังคมยุคนั้นอาจมองเป็นเรื่องปกติ) คือคุณอาผมนั้นตอนอยู่มัธยมปลาย เวลาเรียนหนังสือ หันไปทางหน้าต่างโรงเรียน ทุกๆวันจะเห็นเครื่องบิน บินไปที่ภูเขาแหล่งซ่องสุมคอมมิวนิสต์แล้วก็ทิ้งระเบิดแบบไม่ยั้งเหมือนในหนังเลย อาผมว่าอย่างงั้น เห็นทุกๆวัน ทั้งรถหุ้มเกราะวิ่งในตัวอำเภอ จนเป็นเรื่องปกติของยุคนั้น....ทีนี้พอผมถามพ่อ,อา ญาติๆ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้น... โห ไม่เคยเห็นในหนังสือเรียนสังคมเลยตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีเลยจริงๆ เห็นมีเฉพาะ เหตุการณ์ 14,6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ ทำให้ผมวิเคราะห์ออกมาได้ว่า

- ฝ่ายปกครองไทยถือว่าปิดหูปิดตาคนไทยได้เก่งมาก ถึงขนาดไม่มีเรื่องราวแบบนี้บรรจุในแบบเรียนให้คนยุคผมหรือยุคถัดๆไปได้รับรู้เลย ต้องอาศัยถามคนที่ทันเหตุการณ์เอาเอง+ใช้ internet ซึ่งก็จะเป็นคนที่ทันเหตุการณ์มาเล่าแต่อาจมีน้อยเพราะส่วนมากอายุก็เยอะพอสมควรไม่ถนัดพิมพ์คอมเท่าไหร่นัก และที่สำคัญหากท่านทั้งหลายไม่ใช่คนในพื้นที่สีแดงในอดีต รับรองแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัฐบาลไทยในอดีตทำเรื่องที่โหดร้ายอะไรเอาไว้บ้าง

- ถ้าท่านทั้งหลายไปศึกษารประวัติศาสตร์ไทย ในช่วงยุคดังกล่าว จะพบความเชื่อมโยงหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มต้นปราบคอมมิวนิสต์ คึกฤทธิ์บินไปจับมือกับเหมาเจ๋อตุง จากนั้นมาไม่นานพรรคคอมมิวนิสต์ไทยค่อยๆเสื่อมถอย(คาดว่าจากการตัดท่อน้ำเลี้ยงจากพี่ใหญ่จีนเอง) จีนทำสงครามสั่งสอนเวียดนามช่วยไทยแบบอ้อมๆ จนเกิดคำสั่ง 66/23 เป็นอันถึงจุดจบคอมมิวนิสต์ไทย

อีกเรื่อง เรื่องโจรใต้ ในพื้นที่ชายแดนอดีตนั้นจะมีคอมมิวนิสต์มาลายา(จีนมาเลย์)มาพึ่งพิงไทย อารมณ์หนีมาสร้างฐานที่ไทย แต่ออกรบที่มาเลย์สู้กับรัฐบาลมาเลเซีย แล้วโจรคอมมิวนิสต์ช่วยข่มโจรใต้ปกป้องไทย(อันนี้จากปากอดีตคอมมิวนิสต์มาเลที่เบตงเล่าให้ฟัง) แต่สุดท้ายไทยดันไปตกลงกับมาเลเซียมาปราบคอมมิวนิสต์ให้มาเลตามที่เม้นบอก แล้วไปๆมาๆ ก็ไปเซ็นสัญญาที่หาดใหญ่ให้คอมมิวนิสต์มาเลเซียยุติบทบาท และทางการมาเลเซียพร้อมจะมอบโอกาศอะไรทำนองนี้ แต่ก็นั้นแหละสุดท้ายโดนหักหลังโจรใต้ก็กำเริบ คอมมิวนิสต์มาเลกลับประเทศตัวเองก็ไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้แหละคับ...ที่ให้โอกาศ ให้สัญชาติ ให้พื้นที่ทำกินแก่บุคคลเหล่านี้ พิมพ์ไปซะยาว(นี้ย่อๆแล้วนะ จริงๆเรื่องราวโคตรจะซับซ้อน)บอกได้เลยครับ รัฐบาลไทยนี้สุดตรีนจริงๆคับเรื่องความมั่นคงและนโยบายปกปิดความจริง5555 แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้สุดยอดมากเลยครับเป็นบุญของคนในยุคพ่อแม่ผมจริงๆครับที่ได้ทันเห็นพระบารมีของพระองค์ท่าน  


พอจะมีบทความหรือข้อมูลเรื่อง สัญชาติกับพื้นที่ทำกิน ให้ได้ศึกษาเพิ่มเติมไหมครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: เบื้องหลังการถ่ายรูป
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Mon Oct 08, 2018 09:37
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
Internal2Afair พิมพ์ว่า:
blackzel พิมพ์ว่า:
emula122 พิมพ์ว่า:
ในสมัยก่อน คนจีนฝักไฝ่คอม ทำให้เกิดสงคราม คอมกับรัฐในมาเลยเซีย

คนจีนไม่กลัวรัฐบาลมาเลย์ เลยมีสงครามเชื่อชาติและคอมมิวนิส


ในฝั่งไทยก็มีปัญหาโจรใต้


ไทยมาเลย์ เลยตกลงกันว่า ไทยเสนอปราบจีนคอมมิวนิสในมาเลย์ให้
มาเลยเซียต้องปราบโจรใต้ให้ไทย


ชาวจีนที่หลบหนีจากรัฐบาลมาเลยเซีย ไทยจัดหาอาชีพ และกำจัดคอมมิวนิส จนหายเรียบ


ใครเป็นคนจีนทางใต้น่าจะรู้ว่า มีญาติอยู่ฝั่งมาเลย์เซียเป็นเรื่องปกติได้เลย


ผลจากครั้งนั้นชาวจีนฝักไฝ่คอมหนีมาประเทศไทย ทั้งโดนกำจัด และทั้งให้งานให้อาชีพจนเลิกคิดเป็นคอมฯ


ส่วนมาเลยเซียลดบทบาทคนจีนได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาโจรใต้ให้ไทย

 


ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคับ ในฐานะเป็นคนใต้ อยู่ในพื้นที่ข้างๆบริเวณที่เคยเป็นฐานทัพรองคอมมิวนิสต์

คือในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ยูคพ่อแม่ผมนั้น(ยุค 14 ตุลา 6 ตุลา) รัฐบาลเผด็จการไทยนี้ปราบคอมมิวนิสต์แบบใช้คำว่าฆ่าไม่ยั้งได้เลยนะคับ(แต่ด้วยบริบทสังคมยุคนั้นอาจมองเป็นเรื่องปกติ) คือคุณอาผมนั้นตอนอยู่มัธยมปลาย เวลาเรียนหนังสือ หันไปทางหน้าต่างโรงเรียน ทุกๆวันจะเห็นเครื่องบิน บินไปที่ภูเขาแหล่งซ่องสุมคอมมิวนิสต์แล้วก็ทิ้งระเบิดแบบไม่ยั้งเหมือนในหนังเลย อาผมว่าอย่างงั้น เห็นทุกๆวัน ทั้งรถหุ้มเกราะวิ่งในตัวอำเภอ จนเป็นเรื่องปกติของยุคนั้น....ทีนี้พอผมถามพ่อ,อา ญาติๆ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้น... โห ไม่เคยเห็นในหนังสือเรียนสังคมเลยตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีเลยจริงๆ เห็นมีเฉพาะ เหตุการณ์ 14,6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ ทำให้ผมวิเคราะห์ออกมาได้ว่า

- ฝ่ายปกครองไทยถือว่าปิดหูปิดตาคนไทยได้เก่งมาก ถึงขนาดไม่มีเรื่องราวแบบนี้บรรจุในแบบเรียนให้คนยุคผมหรือยุคถัดๆไปได้รับรู้เลย ต้องอาศัยถามคนที่ทันเหตุการณ์เอาเอง+ใช้ internet ซึ่งก็จะเป็นคนที่ทันเหตุการณ์มาเล่าแต่อาจมีน้อยเพราะส่วนมากอายุก็เยอะพอสมควรไม่ถนัดพิมพ์คอมเท่าไหร่นัก และที่สำคัญหากท่านทั้งหลายไม่ใช่คนในพื้นที่สีแดงในอดีต รับรองแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัฐบาลไทยในอดีตทำเรื่องที่โหดร้ายอะไรเอาไว้บ้าง

- ถ้าท่านทั้งหลายไปศึกษารประวัติศาสตร์ไทย ในช่วงยุคดังกล่าว จะพบความเชื่อมโยงหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มต้นปราบคอมมิวนิสต์ คึกฤทธิ์บินไปจับมือกับเหมาเจ๋อตุง จากนั้นมาไม่นานพรรคคอมมิวนิสต์ไทยค่อยๆเสื่อมถอย(คาดว่าจากการตัดท่อน้ำเลี้ยงจากพี่ใหญ่จีนเอง) จีนทำสงครามสั่งสอนเวียดนามช่วยไทยแบบอ้อมๆ จนเกิดคำสั่ง 66/23 เป็นอันถึงจุดจบคอมมิวนิสต์ไทย

อีกเรื่อง เรื่องโจรใต้ ในพื้นที่ชายแดนอดีตนั้นจะมีคอมมิวนิสต์มาลายา(จีนมาเลย์)มาพึ่งพิงไทย อารมณ์หนีมาสร้างฐานที่ไทย แต่ออกรบที่มาเลย์สู้กับรัฐบาลมาเลเซีย แล้วโจรคอมมิวนิสต์ช่วยข่มโจรใต้ปกป้องไทย(อันนี้จากปากอดีตคอมมิวนิสต์มาเลที่เบตงเล่าให้ฟัง) แต่สุดท้ายไทยดันไปตกลงกับมาเลเซียมาปราบคอมมิวนิสต์ให้มาเลตามที่เม้นบอก แล้วไปๆมาๆ ก็ไปเซ็นสัญญาที่หาดใหญ่ให้คอมมิวนิสต์มาเลเซียยุติบทบาท และทางการมาเลเซียพร้อมจะมอบโอกาศอะไรทำนองนี้ แต่ก็นั้นแหละสุดท้ายโดนหักหลังโจรใต้ก็กำเริบ คอมมิวนิสต์มาเลกลับประเทศตัวเองก็ไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้แหละคับ...ที่ให้โอกาศ ให้สัญชาติ ให้พื้นที่ทำกินแก่บุคคลเหล่านี้ พิมพ์ไปซะยาว(นี้ย่อๆแล้วนะ จริงๆเรื่องราวโคตรจะซับซ้อน)บอกได้เลยครับ รัฐบาลไทยนี้สุดตรีนจริงๆคับเรื่องความมั่นคงและนโยบายปกปิดความจริง5555 แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้สุดยอดมากเลยครับเป็นบุญของคนในยุคพ่อแม่ผมจริงๆครับที่ได้ทันเห็นพระบารมีของพระองค์ท่าน  


พอจะมีบทความหรือข้อมูลเรื่อง สัญชาติกับพื้นที่ทำกิน ให้ได้ศึกษาเพิ่มเติมไหมครับ
 


เอกสารของทหาร เป็นระเบียบอ้างอิงแน่น อ่านง่าย

โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Jul 2006
ตอบ: 209
ที่อยู่: somewhere in her eyes
โพสเมื่อ: Mon Oct 08, 2018 13:32
[RE: เหตุการณ์ "ถีบลงเขา เผาลงถังแดง" เคยได้ยินกันไหม ว่ามีผู้เสียชีวิตราว 3,000 ราย]
emula122 พิมพ์ว่า:
Internal2Afair พิมพ์ว่า:
blackzel พิมพ์ว่า:
emula122 พิมพ์ว่า:
ในสมัยก่อน คนจีนฝักไฝ่คอม ทำให้เกิดสงคราม คอมกับรัฐในมาเลยเซีย

คนจีนไม่กลัวรัฐบาลมาเลย์ เลยมีสงครามเชื่อชาติและคอมมิวนิส


ในฝั่งไทยก็มีปัญหาโจรใต้


ไทยมาเลย์ เลยตกลงกันว่า ไทยเสนอปราบจีนคอมมิวนิสในมาเลย์ให้
มาเลยเซียต้องปราบโจรใต้ให้ไทย


ชาวจีนที่หลบหนีจากรัฐบาลมาเลยเซีย ไทยจัดหาอาชีพ และกำจัดคอมมิวนิส จนหายเรียบ


ใครเป็นคนจีนทางใต้น่าจะรู้ว่า มีญาติอยู่ฝั่งมาเลย์เซียเป็นเรื่องปกติได้เลย


ผลจากครั้งนั้นชาวจีนฝักไฝ่คอมหนีมาประเทศไทย ทั้งโดนกำจัด และทั้งให้งานให้อาชีพจนเลิกคิดเป็นคอมฯ


ส่วนมาเลยเซียลดบทบาทคนจีนได้ แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาโจรใต้ให้ไทย

 


ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคับ ในฐานะเป็นคนใต้ อยู่ในพื้นที่ข้างๆบริเวณที่เคยเป็นฐานทัพรองคอมมิวนิสต์

คือในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ยูคพ่อแม่ผมนั้น(ยุค 14 ตุลา 6 ตุลา) รัฐบาลเผด็จการไทยนี้ปราบคอมมิวนิสต์แบบใช้คำว่าฆ่าไม่ยั้งได้เลยนะคับ(แต่ด้วยบริบทสังคมยุคนั้นอาจมองเป็นเรื่องปกติ) คือคุณอาผมนั้นตอนอยู่มัธยมปลาย เวลาเรียนหนังสือ หันไปทางหน้าต่างโรงเรียน ทุกๆวันจะเห็นเครื่องบิน บินไปที่ภูเขาแหล่งซ่องสุมคอมมิวนิสต์แล้วก็ทิ้งระเบิดแบบไม่ยั้งเหมือนในหนังเลย อาผมว่าอย่างงั้น เห็นทุกๆวัน ทั้งรถหุ้มเกราะวิ่งในตัวอำเภอ จนเป็นเรื่องปกติของยุคนั้น....ทีนี้พอผมถามพ่อ,อา ญาติๆ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้น... โห ไม่เคยเห็นในหนังสือเรียนสังคมเลยตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีเลยจริงๆ เห็นมีเฉพาะ เหตุการณ์ 14,6 ตุลา และพฤษภาทมิฬ ทำให้ผมวิเคราะห์ออกมาได้ว่า

- ฝ่ายปกครองไทยถือว่าปิดหูปิดตาคนไทยได้เก่งมาก ถึงขนาดไม่มีเรื่องราวแบบนี้บรรจุในแบบเรียนให้คนยุคผมหรือยุคถัดๆไปได้รับรู้เลย ต้องอาศัยถามคนที่ทันเหตุการณ์เอาเอง+ใช้ internet ซึ่งก็จะเป็นคนที่ทันเหตุการณ์มาเล่าแต่อาจมีน้อยเพราะส่วนมากอายุก็เยอะพอสมควรไม่ถนัดพิมพ์คอมเท่าไหร่นัก และที่สำคัญหากท่านทั้งหลายไม่ใช่คนในพื้นที่สีแดงในอดีต รับรองแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารัฐบาลไทยในอดีตทำเรื่องที่โหดร้ายอะไรเอาไว้บ้าง

- ถ้าท่านทั้งหลายไปศึกษารประวัติศาสตร์ไทย ในช่วงยุคดังกล่าว จะพบความเชื่อมโยงหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มต้นปราบคอมมิวนิสต์ คึกฤทธิ์บินไปจับมือกับเหมาเจ๋อตุง จากนั้นมาไม่นานพรรคคอมมิวนิสต์ไทยค่อยๆเสื่อมถอย(คาดว่าจากการตัดท่อน้ำเลี้ยงจากพี่ใหญ่จีนเอง) จีนทำสงครามสั่งสอนเวียดนามช่วยไทยแบบอ้อมๆ จนเกิดคำสั่ง 66/23 เป็นอันถึงจุดจบคอมมิวนิสต์ไทย

อีกเรื่อง เรื่องโจรใต้ ในพื้นที่ชายแดนอดีตนั้นจะมีคอมมิวนิสต์มาลายา(จีนมาเลย์)มาพึ่งพิงไทย อารมณ์หนีมาสร้างฐานที่ไทย แต่ออกรบที่มาเลย์สู้กับรัฐบาลมาเลเซีย แล้วโจรคอมมิวนิสต์ช่วยข่มโจรใต้ปกป้องไทย(อันนี้จากปากอดีตคอมมิวนิสต์มาเลที่เบตงเล่าให้ฟัง) แต่สุดท้ายไทยดันไปตกลงกับมาเลเซียมาปราบคอมมิวนิสต์ให้มาเลตามที่เม้นบอก แล้วไปๆมาๆ ก็ไปเซ็นสัญญาที่หาดใหญ่ให้คอมมิวนิสต์มาเลเซียยุติบทบาท และทางการมาเลเซียพร้อมจะมอบโอกาศอะไรทำนองนี้ แต่ก็นั้นแหละสุดท้ายโดนหักหลังโจรใต้ก็กำเริบ คอมมิวนิสต์มาเลกลับประเทศตัวเองก็ไม่ได้ แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้แหละคับ...ที่ให้โอกาศ ให้สัญชาติ ให้พื้นที่ทำกินแก่บุคคลเหล่านี้ พิมพ์ไปซะยาว(นี้ย่อๆแล้วนะ จริงๆเรื่องราวโคตรจะซับซ้อน)บอกได้เลยครับ รัฐบาลไทยนี้สุดตรีนจริงๆคับเรื่องความมั่นคงและนโยบายปกปิดความจริง5555 แต่สถาบันกษัตริย์ไทยนี้สุดยอดมากเลยครับเป็นบุญของคนในยุคพ่อแม่ผมจริงๆครับที่ได้ทันเห็นพระบารมีของพระองค์ท่าน  


พอจะมีบทความหรือข้อมูลเรื่อง สัญชาติกับพื้นที่ทำกิน ให้ได้ศึกษาเพิ่มเติมไหมครับ
 


เอกสารของทหาร เป็นระเบียบอ้างอิงแน่น อ่านง่าย

โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา  
Spoil


อ๋อแล้วก็อีกอย่าง ความเอือดอั้นตันใจ ของคนยุคก่อนนั้นบางครั้งมันสุดขีดเหมือนกัน แต่ปัจจุบันจางหายไปเยอะมากจากนโยบายกลืนชาติต่างๆ ผมขอยกตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดในยุคของเราก็แล้วกันนะคับ ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อกลุ่มบุคคลที่กล่าวถึงนะคับ เพียงแต่สิ่งที่นำเสนอนี้เป้นความจริงอย่างแน่นอน

- โรงเรียนจีนในอดีต(50 ปีก่อน ช่วงปราบคอมมิวนิสต์นั้นแหละเอาง่ายๆ) ถูกสั่งปิด ปราบหมด หรือไม่ก็ต้องยกเลิกการสอนภาษาจีน ปรับเป็นโรงเรียนสามัญทั่วๆไป เป็นการบังคับเด็ดขาด แต่เมื่อหันซ้ายหันขวาไปมองโรงเรียนสอนศาสนา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเปิดได้ตามปกติ ไม่มีอะไรปิดกั้น.....จวบจนถึงปัจจุบัน หลายๆท่านสามารถ google หาเอาได้เลยคับ โรงเรียนสอนศาสนาเต็มภาคใต้ตอนล่าง เยอะมากๆผุดขึ้นไม่ลดลงเลย ผมเคยคุยกับคุณหมอท่านนึงที่หาดใหญ่ ปัจจุบันยังมีชีวิตนะคับอายุ 80 นิดๆ เป็นหมอยุคบุกเบิกวางรากฐานของคณะแพทยศาสตร์ให้เป็นระบบเลยก็พูดได้เต็มปาก ท่านบอกว่าท่านจบจากโรงเรียนคณะราษบำรุง จ.ยะลา ในยุคท่านนั้นคนโซน 3 จังหวัดที่ศาสนาอิสลามปฏิเสธความเป็นไทยคับ ไม่พูดภาษาไทย ไม่นับตนเองเป็นคนไทย อันนี้อยากให้หลายๆท่านที่กำลังสงสัยว่ามันจริงหรอได้ลองหาโอกาศพบเจอคนแก่ๆที่อยู่ 3 จังหวัดใต้แล้วลองคุยดูนะคับว่าเค้าคิดยังไงกับประเทศไทยตอนเป็นเด็ก(แต่ต้องมีล่ามนะคับส่วนมากพูดไทยไม่ได้) กลับมาต่อ ทีนี้พอคนยุคผมโตขึ้นมาเห็นผลลัพธ์ของการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันโดยรัฐในอดีต...ได้แต่ส่ายหน้าคับ แล้วก็พูดได้แค่ เหอๆๆๆ อีกซัก 20 ปี รับรองจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของภาคใต้แน่นอนคับ รับรองได้ถ้ารัฐยังไม่มีมาตรการจัดการกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้  
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
huader marrrrrayyyyysss
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel