ไล่'น้องเป้'! PSG หืดจับเร่งท้ายเกมชนะนีมส์ 4-2
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกือบเอาตัวไม่รอดเมื่อเป็นฝ่ายขึ้นนำ 2-0 แต่โดนทีเด็ดนีมส์ที่เล่นได้ดีมากไล่ตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จในครึ่งหลัง ก่อนที่คีเลียน เอ็มบาปเป้ คือความแตกต่างวอลเล่ย์พลิกเกมให้ทีมเยือนบุกมาชนะในที่สุด 4-2 โดยเกมนี้เหลือผู้เล่นฝั่งละ 10 คนช่วงทดเจ็บ หลังปีกทีมชาติฝรั่งเศสเดือดแตกมีมวยเล็กน้อยช่วงทดเจ็บ
นีมส์
Starting Formation: 4-3-3
18.
ธีโอ วอลล์ส
87'
7
2.
มัสตาฟา ดิยาลโล่
46'
6
25.
บัปติสเต้ กิลลัวเม่
66'
6.5
ตัวสำรอง
9.
คลีม็อง เดเปรส
66'
6
14.
อองโตนิน โบบิชอง
46'
7
19.
อูมุต โบซอค
87'
6
ฟุตบอลลีก เอิง ฝรั่งเศส
สนาม สต๊าด เดส์ คอสติเย่เรส
วันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2561
กรรมการ เฌเรมี่ บริซาร์
นีมส์
2
4
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
อองโตนิน โบบิช็อง 63'
เตฌิ ซาวานิเย่ร์ 70' (Pen.)
เนย์มาร์ 36'
อังเคล ดิ มาเรีย 40'
คีเลียน เอ็มบาปเป้ 77'
เอดินสัน คาวานี่ 90+2'
ธีโบป่วนริมเส้นมากและทีมโดนทำฟาวล์
ธีโบทำได้ดีกับการป่วนเกมทางกราบขวา จังหวะนี้เขาได้ผ่านบอลเข้ามากลางประตู และก็เป็นธิอาโก้ ซิลวา ที่แซะไปที่เท้าของโบบิชองก่อนจะได้ยิง ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
ออกสตาร์ตนีมส์เตรียมตัวมาดี
เริ่มเกมช่วงแรกเจ้าถิ่นยังทำได้ดี สามารถยืนหยัดสู้กับยอดทีมเบอร์หนึ่งของลีกอย่างเปแอสเชได้แบบไม่เป็นรองมากนัก
น้องเป้ได้ลุ้นสองหนติด
เปแอสเช มีลุ้นขึ้นนำสองหนติดๆจากเอ็มบาปเป้ จังหวะแรกรับบอลโยนยาวจากแนวลึกหนีแนวรับฝั่งตรงข้ามก่อนได้ซัดติดบล็อค และต่อเนื่องด้วยลูกเตะมุมที่เขาได้ยิงโล่งๆที่เสาไกลแต่ก็ยังไม่ดีพอจะเป็นประตูอีก
น้องเป้ใบเหลืองหลังโวยผู้ตัดสิน
เอ็มบาปเป้ ได้รับใบเหลืองจากผู้ตัดสินหลังไปก่อกวนคู่แข่งด้วยการเขี่ยบอลทิ้งไม่ให้ตั้งเตะ เจ้าตัวหงุดหงิดผู้ตัดสินหนักจนถึงขั้นเนย์มาร์ต้องเข้ามาช่วยให้สงบสถิติอารมณ์
เปแอสเชยังกดใส่เจ้าถิ่นไม่ได้
เกมผ่านไป 20 นาที ภาพรวมทางเปแอสเชก็ยังไม่ได้กดใส่เจ้าถิ่นอย่างที่ควรจะเป็น กับเป็นฝั่งนีมส์ด้วยซ้ำที่ครองบอลเปิดเกมรุกสู้ชนิดไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี
นีมส์น่าได้ประตูออกนำ
นีมส์ น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งตั้งให้ริปาร์ได้หวดหน้าประตูเปแอสเช แต่ข้ามคานไปเหลือเชื่อ
เจ้าถิ่นยังทำงานได้ดีอยู่
นีมส์ ทำการบ้านมาดีตั้งโซนคุมตำแหน่งได้เหนียวแน่นจนเปแอสเชขึ้นเกมรุกได้ลำบาก และดูเหมือนพวกเขามักชอบโยนยาวแนวลึกทิ้งไปให้เอ็มบาปเป้ใช้ความคล่องตัวเล่นงานเจ้าถิ่นอยู่บ่อยครั้ง
เปแอสเชต่อบอลสวย,เนย์มาร์จบนำ 1-0
นีมส์ทำได้ดีแต่ เปแอสเชมีทีเด็ดทีขาดเหนือกว่า ซึ่งก็ช่วยทำให้พวกเขาทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จจากการประสานงานต่อบอลจังหวะเดียวอย่างงดงาม เริ่มจากมูนิเยร์เบิลบอลทำชิ่งกันเอ็มบาปเป้ทางขวาก่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษจ่ายตัดขวางผ่านหน้าปากประตูให้เนย์มาร์ มาตามนัดจบสกอร์ง่ายดาย
ดิมาเรียเตะมุมโหดปั่นเข้าประตูเลย,เปแอสเชนำ 2-0
พอขึ้นนำได้สำเร็จทุกอย่างก็ปลดล็อคหนีห่างเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว จากความยอดเยี่ยมของ ดิ มาเรีย ยิงลูกเตะมุมเข้าประตูไปเลย ส่วนหนึ่งของโทษผู้รักษาประตูนีมส์ที่อ่านเกมพลาดไม่คุมเสาแรกจนเปิดช่องให้สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินาปั่นโค้งเข้าประตูไปเลย
เจ้าถิ่นยังมีลุ้นเรื่อยๆที่จะตีตื้น
ช่วงท้ายครึ่งแรก นีมส์ ไม่ท้อพยายามบุกเพื่อแก้ประตูคืน และก็ทำได้ดี ได้ลุ้นในพื้นที่สุดท้ายหลายหน โดยเฉพาะจากกิลัวเม่ที่พลิกตัวหนีตัวประกบเข้าไปซัดส่งบอลหนีมืออเรโอล่าได้แล้ว แต่ดันบานปลายหลุดกรอบหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว
นีมส์ส่งโบบิชองแทนดิยาลโล่
นีมส์ แก้เกมอย่างรวดเร็วด้วยการส่งโบบิชอง แทนที่ดิยาลโล่ ที่เลี่ยงได้รับใบแดงหลังรับเหลืองไปตั้งแต่ครึ่งแรก
เปแอสเชคอนโทรลเกมได้ดี
ออกสตาร์ตครึ่งหลังช่วงแรก เปแอสเช ทำได้ดีกับการใช้วิธีคอนโทรลบอลเอาแน่นอนไว้ก่อน แต่หลังจากนั้นเจ้าถิ่นเริ่มตั้งหลักได้ และได้บุกเพื่อหวังแก้ประตูคืนมากขึ้นกว่าเดิม
น้องเป้มีโอกาสอีกครั้งแต่ยังไม่ดีพอ
เอ็มบาปเป้ น่ากดสกอร์เพิ่มได้จากลูกหวดยิงจังหวะแรกหน้าประตูนีมส์ แต่บอลดันไปตรงตัวผู้รักษาประตูซะก่อน
ตัวสำรองซัดนีมส์ไล่มา 1-2
เจ้าถิ่นกลับสู่ทีมได้สำเร็จ เมื่อ ธิโบ ไหลบอลให้ตัวสำรอง โบบิชอง ปั่นด้วยขวาส่งบอลโค้งมุมลงใต้สามเหลี่ยมหมดปัญญาที่อเรโอล่าจะบินไปถึง นีมส์ ตีตื้น 1-2
เปาขอดู VAR ก่อนให้จุดโทษเจ้าถิ่น
หลังโดนนักเตะนีมส์ประท้วง ผู้ตัดสินขอดู VAR เกมหยุดไป 2-3 นาที ก่อนตัดสินว่าเป็นการทำฟาวล์จริงให้เป็นจุดโทษ
ซาวานิเยร์ซัดไม่พลาด,นีมส์ตีเสมอ 2-2
ซาวานิเยร์ รับหน้าที่สังหาร อเรโอล่าพุ่งไปถูกทางแล้วแต่ไม่ทัน สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2
โมเมนตั้มพลิกนีมส์กดหนัก
เจ้าถิ่นได้ใจบุกหนัก แต่น่าจะแซงขึ้นนำจากจังหวะที่เปแอสเชสะกัดบอลไม่ขาด ลูกมาเข้าทางปืนนีมส์ได้ซัดหน้าประตู บอลชนคานพลาดโอกาสไปน่าเสียดาย
น้องเป้คือความแตกต่างซัดหนี 3-2
นีมส์บุกอย่างเมามัน แต่เปแอสเชมีทีเด็ดที่เอ็มบาปเป้ เมื่อคิมเพนเป้ใช้เมสวนกลับเร็ว ทิ้งบอมบ์ยาวจากในแดนตัวเองให้ปีกทีมชาติฝรั่งเศสดูดบอลลงหนึ่งจังหวะแล้ววอลเล่ย์ตูมเดียวแสกหน้าหายไปนอนจมที่ก้นตาข่ายอย่างเด็ดขาด ทีมเยือนกลับมานำอีกครั้ง 3-2
คาวานี่ปิดหีบ 4-2 ทดเจ็บ
เปแอสเชมาได้ประตูส่งท้าย 4-2 จากจังหวะที่เอ็มบาปเป้สะกิดข้ามบอลนิดนึงทำให้คาวานี่ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปจบสกอร์
แจกแดงน้องเป้,เหลือฝั่งละ 10 คน
เกมมาเดือดท้ายเกม เมื่อทั้งสองฝ่ายเหลือ 10 คน หลังซาวานิเยร์ ไปเสียบน่าเกลียดใส่เอ็มบาปเป้ จังหวะนี้ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสไม่พอใจลุกขึ้นมาเอาเรื่องหวิดมีมวยเล็กน้อย แต่ที่แน่ๆ ทั้งเอ็มบาปเป้ และซาวานิเยร์ ได้ใบแดงไปทั้งคู่
แจกใบแดงเสร็จก็ไม่เหลือเวลาให้ทำอะไรอีกแล้ว สุดท้าย เปแอสเชบุกเอาชนะไป 4-2 แบบหืดจับ
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
Starting Formation: 4-2-3-1
11.
อังเคล ดิ มาเรีย
83'
7.5
36.
สแตนลีย์ เอ็นโซกิ
67'
6.5
10.
เนย์มาร์
90+1'
8
ตัวสำรอง
4.
ธิโล เคห์เรอร์
67'
6
23.
ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์
83'
6
24.
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
90+1'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Sep 02, 2018 07:07, ทั้งหมด 21 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker
