ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status:
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2013
ตอบ: 34856
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:15
จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...
แค่เชียร์คนละทีมก็ด่ากัน แทบจะฆ่ากันตาย เหตุการณ์แบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นที่ไทยประเทศเดียวหรอกครับ

หลายที่ในโลกก็เป็น บางคนเสียเพื่อนไปเพราะอยู่ทีมตรงข้ามกัน โดนเยาะเย้ย ถากถาง เจอปากหมาใส่จนทนไม่ไหว เลิกคบมันเลยดีกว่า

ทำให้เกิดคำถามว่า กีฬามันมีเอาไว้สร้างมิตร หรือ มีไว้เพิ่มศัตรูกันแน่นะ?

----------------------------------------

ในสมัยเป็นนักเตะเยาวชน คนที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ สนิทด้วยมากที่สุด คือแฟรงค์ แลมพาร์ด

ทั้งคู่เป็นคนอังกฤษเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเป็นคนลอนดอนเหมือนกัน บ้านอยู่ไม่ห่างกันเลย จากนั้นก็มาสังกัดอคาเดมี่ของเวสต์แฮมพร้อมกันอีก

ด้วยความที่อายุห่างกันแค่ 4 เดือนนิดๆเท่านั้น ทำให้ทั้งคู่เป็นบัดดี้กันอย่างรวดเร็ว

ริโอ กับแลมพาร์ด สนิทสนมกันมาก เพราะทั้งคู่มีความทะเยอทะยาน และต้องการเป็นนักเตะอาชีพเหมือนกัน นอกจากนั้น ด้วยการที่ไม่ได้เล่นตำแหน่งเดียวกัน ทำให้ ไม่ใช่คู่แข่งกันโดยตรง มีอะไรจึงปรึกษากันตลอด

"เราโตขึ้นมาด้วยกัน ถ้าคุณเจอผม คุณเจอแฟรงค์ด้วย และถ้าคุณเจอแฟรงค์ คุณก็เจอผมด้วยเหมือนกัน เราสนิทกันเหมือนเงาตามตัว" เฟอร์ดินานด์เผย

ในปี 1995 ทั้ง 2 คน ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของเวสต์แฮมพร้อมกัน และกลายเป็น 2 ดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในประเทศอังกฤษ

เฟอร์ดินานด์ ติดทีมชาติอังกฤษก่อนในปี 1997 จากนั้นปี 1999 แลมพาร์ด ก็ติดทีมชาติอังกฤษตามมา

ในเกมระดับสโมสร เวลาไปเล่นทีมเยือน ทั้งคู่นั่งรถบัสข้างๆกัน และ นอนโรงแรมห้องเดียวกัน เช่นเดียวกับทีมชาติอังกฤษทั้งคู่นอนโรงแรมห้องเดียวกัน

เพื่อนซี้ที่ดีที่สุด คนที่เข้าใจกันทุกอย่าง โตมาด้วยกัน แจ้งเกิดมาด้วยกัน และวาดฝันจะเป็นสตาร์ไปด้วยกัน

ไม่มีใครรู้เลยว่า อีกไม่กี่ปีต่อมา พวกเขาสองคนจะไม่คุยกันอีก



----------------------------------------

จุดแตกหักของทั้งสองคนเกิดขึ้นในปี 2002 เมื่อริโอ เฟอร์ดินานด์ ย้ายไปอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่แลมพาร์ดย้ายไปเชลซี 1 ปีก่อนหน้านั้น

ยิ่งโรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทกโอเวอร์เชลซี มันทำให้ทั้งสองทีมกลายเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์กันโดยตรง ระหว่างปี 2004-2011 ระยะเวลา 7 ฤดูกาล มีแชมป์พรีเมียร์ลีกแค่ 2 ทีม คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเชลซี สลับกันได้แชมป์ไปมา

"พอผมไปแมนฯยูไนเต็ด และเขาไปเชลซี เราก็ไม่คุยกันอีกต่อไป" ริโอเผย

"เราค่อยๆห่างกันไปเรื่อยๆ และก็กลายเป็นไม่คุยกันเลยสักคำเดียว"

ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอันรู้กันว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะมี "Silence Code" หรือคำสั่งให้เงียบ ห้ามผู้เล่นในทีม เอาเรื่องภายในของสโมสร ไปเล่าให้คนอื่นฟังเด็ดขาด ถ้าหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับนักเตะทีมอื่นได้ก็จะดีที่สุด โดยเฉพาะ เวลาต้องไปเก็บตัวทีมชาติ

ดังนั้นมันจึงทำให้ ริโอ กับ แลมพาร์ด มีความระมัดระวังตัวกัน จากบัดดี้ ที่เคยสนิทกันทุกอย่าง กลายเป็นคนสองคนที่เหมือนไม่รู้จักกันเลย

"ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ผมรู้สึกไม่ชอบเขาไปแล้ว เพราะเขาได้ชูโทรฟี่แชมป์ที่ผมต้องการ"

นักเตะในทีมชาติหลายคนไม่เคยรู้เลยว่าสองคนนี้สนิทกันมาก่อน เพราะทั้งคู่ไม่คุยกันเลย และดูไม่ชอบหน้ากันด้วยซ้ำ มีแต่การทักทายกันเล็กน้อยตามมารยาทเท่านั้น

"ผมกลัวว่า ถ้าผมเล่าอะไรไปให้แฟรงค์ฟังสักอย่าง เขาจะเอาเรื่องที่ผมเล่าไปทิ่มแทง และไปเล่าต่อให้เพื่อนร่วมทีมเชลซีฟัง ซึ่งผมยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้"



----------------------------------------

เฟอร์ดินานด์ มารู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เขากำลังจะแขวนสตั๊ด

ในปี 2014 ริโอ ย้ายออกจากแมนฯยูไนเต็ด ไปอยู่ควีนสพาร์ก เรนเจอร์ส และเริ่มเขียนหนังสืออัตชีวประวัติ ชื่อ Rio Ferdinand 2sides

การเขียนอัตชีวประวัติของตัวเอง ทำให้เขาย้อนนึกถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมา และเขาก็เพิ่งมานึกได้ว่า ตัวเองกับแลมพาร์ด สมัยเป็นเยาวชนทั้งคู่เคยสนิทกันมากขนาดนั้น แล้วทำไมวันนี้ ความสัมพันธ์ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้

แค่เรื่องฟุตบอลเนี่ยหรอ? แค่เพราะอยู่กันคนละทีมเท่านั้นเองหรอ? ที่ทำให้คนที่เคยเป็นเพื่อนไม่คุยกันอีก

ริโอ ตัดสินใจเขียนเรื่องของเขากับแลมพาร์ดลงไปในหนังสือด้วย โดย อธิบายอย่างละเอียดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไปตอนไหน

และก่อนมันจะตีพิมพ์ ริโอรวบรวมความกล้า ส่งหนังสือตัวอย่าง ให้แลมพาร์ด พร้อมแนบข้อความมาด้วยว่า "ถ้าฉันจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับเราสองคนลงหนังสือ นายจะโอเคไหม"

แลมพาร์ดเมื่ออ่านหนังสือเสร็จ เขาส่งข้อความกลับมาว่า "ถ้าฉันจะเขียนสักบทในหนังสือ ที่เกี่ยวกับนาย"

"ฉันก็จะเขียนเหมือนกันทุกคำเลย"

จากคนสองคนที่ไม่คุยกัน ในที่สุด ความสัมพันธ์ก็เริ่มผลิบานอีกครั้ง ทั้งคู่เริ่มเปิดใจให้กัน และกลายมาเป็นเพื่อนกันอีกรอบ

อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ ทั้งเฟอร์ดินานด์ กับ แลมพาร์ด ต่างก็ร่วมงานกันในฐานะนักวิเคราะห์ฟุตบอลของบีบีซี ทั้งคู่กลับมาหยอกล้อกันสนุกสนานเหมือนเดิม

"เราเคยแยกเดินกันคนละทางและไม่คุยกันอีก แต่ตอนนี้เรากลับมาคุยกันแล้ว" ริโอสรุป

"ไม่น่าเชื่อว่ากีฬา สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของคน 2 คน พังทลายได้ คือมันเป็นเรื่องที่บ้ามาก"

จากปี 2002 จนถึง ปี 2014 ที่ทั้งคู่ไม่คุยกัน ระยะเวลารวม 12 ปีเต็ม

จากเพื่อนสนิท กลายเป็นคนอื่นคนไกล เพียงเพราะแค่พวกเขาอยู่คนละฝั่งของสีเสื้อแค่นั้นเองจริงๆ



----------------------------------------

เมื่อโตขึ้น สิ่งที่เราหลงลืมกันเสมอ คือ 3 คำพื้นฐานของกีฬา ที่เราเรียนกันมาตอนเด็ก

3 คำง่ายๆ - รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

การเชียร์ฟุตบอล เราสามารถสนุกได้ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างศัตรู ไม่ต้องเกลียดชังอีกฝ่ายแบบเอาเป็นเอาตาย จนไปด่าพ่อล่อแม่เขา

แซวกันสนุกสนาน อย่างมีลิมิต แต่ไม่ใช่เลยเถิด ถึงขนาดขึ้นคำหยาบคายอะไรขนาดนั้น

แล้วก็ไม่ใช่ ว่าเวลาโดนคนอื่นแซว ก็เก็บเอามาคิดมาก จนหัวร้อน คือกีฬาที่ควรจะดูเพื่อความบันเทิง กลับมาทำให้ตัวเองเสียสุขภาพจิต คือมันโอเคหรอ?

อย่าลืมว่าสุดท้าย กีฬามันก็คือการแข่งขัน มันไม่ใช่สงคราม สู้กันเต็มที่ เชียร์กันให้สุดชีวิต แต่เกมจบก็เป็นเพื่อนกัน

เกมฟุตบอลมันมีแข่งทุกวัน เราแพ้วันนี้ พรุ่งนี้เราก็ชนะ

เราโดนแซววันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจได้แซวคืน

และมันคงเศร้าน่าดู ถ้าในที่สุดทีมของเราชนะ เราพร้อมแล้วที่จะแซวเพื่อน

แต่มารู้ตัวอีกที เรากลับไม่มีเพื่อนเหลือให้แซวเลยสักคน




Spoil
202
0
หากโดน 344 เรื้อน จะถูกแบน
El Raden , joydivision1976 , Artilaz , tongmadrid , loppeooo , สังกะสี , NINJA_CR , J_Allen27 , เบน ฟรีคิก , Believe , กระดกบอลข้ามหัว , paopao8 , threesmart , BungSoap , luciferzz , SNOWFEG , Gofen , zignal , Quesnas , Sl4 , ruka7 , Jaaom , Sense- , 15thwednesday , Josh , Optimus Prime , Gingsui , Red_Duckza , ComeCameCome , MaiMee1DonBan , Hodor , British Indy , 777er , Oscapril , Untraman , kuboss , TheAnfieldIrons , Taker , innocenceXXX , Na_eem , จักรกลคนเกเร , ไรอันเนล , Surawutk , ผมเป็นคนชอบJET , WinTage , Failed , 87HerO , xaax , `Dou|3|e~Up` , bird_romantic , Joe Cool , Spaghetti Vongole , Kris Pinto , Hit_Madrate , dont wanna wake up , JJames , Limited bb , bazenkii , kokerkoker2 , Leo Ronal , u9ted , Yu#MaNia , Sologood_Return , นิ้วด้าน , ชินโน๊ะ , CheQueZky , Hyde88 , อ๊อดหมัดหนัก , OscarHahae , Luxiaofeng323 , I'm Henry , insula , Maamiint , โสยบอย ไม่เคย ไม่กล้า , Centrinos , made in heaven , fallinz , sungkabuay , Park-the-[Fxxx]-Bus , FreeZMiNo , FlyingFinger , HOMJEAW~ , puttiano , StJimmies , innocenty , Steven's , northstar , genflpb , Si Señor! , Hypervenom1998 , SudsoiFC , KiRuKoV , Edward Woodward , LoversMoon , hihiphop , tumchicchic , Dekgang , Legend18 , D.Drogba11 , Macor , WazZa27 , B777-300 , เซย์มายเนม , manoodtangdao , 'kungyongunn , I am LiverBirD , Nagamoa , volunteer , share , ผมว่า , Akashi1 , Ryo , BTCETH , กัมจั๊กก้า , PO-Un-Pun* , Payetllu่uou , George Clooney , Therdsak , Noonam001 , nofaint07 , tteetouch , Kaoru Okita , 腾飞的蓝龙 , PunPunUdomsil , angrybirds , JackSparrow , Erotic 4 , Seaball , BIG_BOY , あっ、海だ。 , Sicario_artist , Felicio , cantona69 , AGGLE , johnterry , rodfan , spykidmans , itoonggy , จึ๊กกะดึ๋ย , SoCute , Qseries1 , Preside@MTUTD , G_V3 , Tancred , YEDI , Adonis.Kop , Goonersmart , CATCATCAT , อ่อนต่อโลก , O___o , CLASSI9C , ไม่หล่อแต่โสด , Abojang , Snookie13 , kitagawa , MK_Martinho , REPRESENT , Jeibreaüh , นายแบงค์ติดสตั๊ด , pk1899 , Lisaverpool , imop28 , Fatherblesss , ThibautCech , ชาวี อัมราภรณ์ , ก่อกองทราย , kraben , bnh , lingkate , 4-3-3 , Jimmycool , boat_sohappy , teethekop , pikkachu , ไอ้หนุ่มเมาหมัด , หม้อแกง&นะโม , nobikung1 , Djib , Celes18 , KnightX007 , ถั่วแดง , TunJaa , Migratory_Celestial_Eye , Assa , jirayun , Rakuel , PogBOO , toroking , kittisakka , tOp_KunG , metzelders , ton5940 , Pla_Kor , Oh! แม่สาวน้อย , chokunsmart , Mymind!_Poker , เด็กผี...ทะเล , Thrash_Til_Death , LM10 , ibazashi , ซูริ อักษรสว่าง , bigblue_ce
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: word not enough to talk about football
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Jun 2010
ตอบ: 17478
ที่อยู่: Urban Forest
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:18
จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...
ศัตรูที่รัก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Feb 2009
ตอบ: 51
ที่อยู่: stamford bridge
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:26
[RE]จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...
น่าจะเพราะเทอรี่ ด้วยมีส่วน
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
EDEN HAZARD #10

ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 7914
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:30
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
บางอารมณ์มองด้านอาชีพ หน้าที่ มันก็ต้องมืออาชีพในอาชีพของเรา หากเรามีเพื่อนทำรับเหมาแล้วเราก็ทำ เราจะเอาข้อมูลองค์กรหรือโปรเจคงานมาคุยกับเพื่อนคนนี้หรือเปล่า !? งั้นอาจเพราะหน้าที่การงานนั้นแหละที่อาจทำให้เราจำเป็นต้องห่างเพื่อนคนนี้ไป แต่พอเราย้ายมาเปิดร้านกาแฟ .. เพื่อนคนนี้ก็สามารถกับมานั่งจิบกาแฟร้านเราแล้วคุยเล่นแบบสบายใจได้เหมือนเคย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jul 2008
ตอบ: 9719
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:32
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
อ่านละซึ้งดีครับ ชาว SS ก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเสมอมา ให้แซวกันได้ตลอด แต่เริ่มเลดน้อยลงไปบ้าง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 19958
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:35
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
อยากให้คนในนี้ได้อ่านบทความนี้เยอะๆ

เอากันจะเป็นจะตายตลอดอ่ะ 5555
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: ใจเป็นเช่นไร การกระทำและคำพูดจะเป็นเช่นนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Nov 2006
ตอบ: 3342
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:40
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
อ้างอิงจาก:
และมันคงเศร้าน่าดู ถ้าในที่สุดทีมของเราชนะ เราพร้อมแล้วที่จะแซวเพื่อน

แต่มารู้ตัวอีกที เรากลับไม่มีเพื่อนเหลือให้แซวเลยสักคน  


1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 1470
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:46
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
แผล่บหมดซะและ มาเจอบทความดีๆ ตอนสิ้นเดือน 555 จะแลกแผล่บสะสมก็เสียดาย 555 ขอติดไว้ก่อนนะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: (O....o)olo
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 2595
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:51
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
แสดงว่า 2 คนนี้มองสโมสรมาก่อนสินะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Manchester united

ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 7889
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 12:57
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
เหมือนเดิมครับ

แซวคนอื่น บอกขำๆ

โดนแซวคืน ด่ายันรากเหง้า

ความคิดหรือสำนึกบางอย่าง มันต้องผ่านวัยที่มากขึ้น วัยน้อยที่คิดได้ก็มีเยอะ แต่วัยน้อยที่ยังคิดไม่ได้มีเยอะกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: - ยิ่งชนะยิ่งเชียร์ ยิ่งแพ้ ก็ยิ่งต้องเชียร์ " ..
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 1328
ที่อยู่: Old Trafford Manchester
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 13:10
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
ถ้าว่างหามาให้อาานอีกนะครับ เพลินดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
[ In United We Trust ]


Grory Grory Man United
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 1814
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 13:17
ถูกแบนแล้ว
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
สมัยนั้นทีมชาติอังกฤษมันเจ๊งเพราะไอ้ silence code ด้วยป๊ะน่ะ ห้ามเปิดอกคุยกัน เล่นแบบตัวใครตัวมัน ทั้งๆที่ผู้เล่นแม่งดังทุกตัว
แก้ไขล่าสุดโดย Hodor เมื่อ Mon Jul 30, 2018 13:19, ทั้งหมด 1 ครั้ง
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Nov 2009
ตอบ: 2384
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 13:20
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
กีฬา มันสร้างเพื่อนอยู่แล้ว

แต่นี่เป็นงานมากกว่า ในเคสริโอกับแลมพาร์ด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: ตอบมาได้ไงฟร่ะ ขำแฟ่บ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2010
ตอบ: 8387
ที่อยู่: สนามกีฬาโคลอสเซียม
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 13:41
[RE]จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...
ก่อนอื่นต้องแยกก่อนน่ะว่า กีฬากระชับมิตร กับกีฬาอาชีพ
มันต่างกันตรงนี้แหละ. การใช้ชีวิต. ระเบียบวินัย อาหารการกิน
มันต่างกัน.
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: เหรียญมันยังมีสองด้าน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jun 2007
ตอบ: 18159
ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น.....
โพสเมื่อ: Mon Jul 30, 2018 14:10
[RE: จากที่สนิทกันมากจนไม่คุยกันมา 1ทศวรรษ2ปี จนกระทั่ง...]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
จะเพื่อนกิน..หรือเพื่อนตาย..ก็เพื่อนเรา..แล้วเราจะไม่เดินเดียวดาย....


ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel