[RE: รุ่นพี่น้องเอิร์ธ ที่ถูกขังจุดไฟเผา ยันแค่แกล้งหยอกล้อ]
Glorius พิมพ์ว่า:
freedomkop พิมพ์ว่า:
Glorius พิมพ์ว่า:
freedomkop พิมพ์ว่า:
Glorius พิมพ์ว่า:
Internal2Afair พิมพ์ว่า:
[JAMES] พิมพ์ว่า:
ด้วยระบบกฎหมายมันไม่เอื้อ แต่ถ้าจริงๆแล้ว
ผมอยากให้ระบบกฎหมายเราเน้น ตาต่อตาฟันต่อฟันมากกว่า
ฆ่าคนโดยเจตนา = ประหาร
ห้ามลดหย่อนโทษที่จำนนด้วยหลักฐาน ต่อให้สารภาพก็ไม่ลด
แต่สำคัญที่สุดคือศาลนี่แหละ ตัวดีเลยไอพวกนี้
จะเอากฎหมายฮัมมูราบี(ตาต่อตาฟันต่อฟัน) อายุ2-3 พันปีก่อน มาใช้แทนกฎหมายที่พัฒนา ในปัจจุบันหรอครับ?
อยากให้อธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับว่า ศาลไม่ดีในเคสไหนยังไง?
ขออนุญาติตามนะครับ ผมก็สนใจแนวคิดว่าทำไมกฏหมายในลักษณะ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถึงดีกว่า
รีวิวเคสซัก 5 ปี คดีร้ายแรงได้เลยครับ กลับมาทำผิดซ้ำซากเพิ่มเหยื่ออาชญากรกี่คน กลับตัวมาประกอบอาชีพสุจริตได้กี่คน ประโยชน์ที่สังคมได้จากนักโทษคดีร้ายแรงกลับตัวมีเท่าไหร่ เทียบกับประโยชน์ที่สังคมสูญเสียจากเหยื่ออาชญากรรมซ้ำซากเป็นเท่าไร บทลงโทษหนักจะลดนักโทษคดีร้ายแรงในอนาคตได้เท่าไร มันเยอะจนพิมไม่หวาดไม่ไหวอะครับ เปลี่ยนเป็นขอเหตุผลคนสนับสนุนบทลงโทษแบบไม่ตาต่อตาฟันต่อฟันแล้วรอนักโทษกลับตัวให้ผมฟังหน่อยดีกว่าครับ
เคยได้ยินคำพูดที่ว่า "ปล่อยคนร้ายสิบคนดีกว่าลงโทษผู้บริสุทธิ์คนเดียวมั้ยครับ"
ตาต่อตาฟันต่อฟัน มันติดสินกันเร็ว ถ้าล็อคผลดีๆ แพะไม่มีสิทธิดิ้นเลยครับ เช่นเดียวกับคนตายอ้าปากพูดยากกว่าคนเป็น ถ้าคุณเป็นคนที่บริสุทธิ์ที่ถูกจัดฉาก คุณคงไม่อยากให้มีกฏหมายลักษณะนี้รึเปล่าครับ
งั้นผมยกตัวอย่างคดีเด็ก ป.สาม จ้าง ม.หนึ่ง ข่มขืน ป.สอง ถ้าใช้ลักษณะตาต่อตา ฟันต่อฟัน เด็กกลุ่มนั้นคงโดนประหารแล้วรึเปล่า และเมื่อเด็กคนนั้นตายอย่างไม่สมเหตุผล นักข่าว สื่อ หรือรวมถึงเกรียนคีย์บอร์ด จะรับผิดชอบต่อการตายนั้นมั้ยยังไง ถ้าบอกว่าตายชดใช้ตามหลัก ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เดี่ยวจะหาว่าไม่แฟร์อีก หนึ่งชีวิตแลกหลายชีวิต
อันนี้ผมว่าหลุดประเด็นไปไม่น้อยนะครับ อันนี้มันความบกพร่องโดยสุจริตหรือไม่ก็แล้วแต่ของเจ้าหน้าที่ หรือทุจริตของใครในกระบวนการสักคนหนึ่ง คุณไม่โดนประหารคุณก็ติดคุกเสียอนาคต คดีที่พลิกกลับมาเป็นสุจริตได้คนที่ออกมาได้ก็แทบจะเสียสังคมหน้าที่การงานเสียอนาคตไปแล้ว ผมย้ำอีกครั้งว่าเหตุการณ์แบบนี้ตัวกฎหมายเบาแรงมันไม่ใข่ประเด็นเท่าไร การที่คุณโดนจัดฉากป้ายความผิดขนาดนี้ต่อให้คุณมีโอกาสสู้ มันจะสู้อำนาจคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ได้สักเท่าไร benefit ของคุณมีอย่างอื่นอีกมั๊ยครับ เอาแบบที่คนร้ายผิดจริงๆ คดีแบบโทษประหารไปเลย แล้วคุณให้โอกาสเค้าเนี่ย เทียบ risk benefit ให้เห็นภาพหน่อยครับ ไม่ใข่แต่ข้อดีอย่างเดียวนะ บอกตรงๆตาชั่งในหัวผมมันเอียงมาฝั่ง risk แบบติดดินอะ
ประโยชน์ต่อสังคมกรณีทำผิดแล้วกลับตัว: ผมมองว่ากลุ่มนี้คือขยะรีไซเคิลอะ ทำประโยชน์ได้แต่ก็ใช้แทนจริงๆได้ยาก อันนีัคือคำตอบที่คุณถาม
คราวนี้ผมจะบอกประโยชน์ที่ไม่ควรใช้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ประโยชน์ในแง่ภาพลักษณ์: อันนี้อิงประวัติศาสตร์ได้เลยครับ
สำคัญสุด ในแง่ผู้กระทำ:ถ้าคุณมีลูก แล้วลูกคุณขโมยของร้านสะดวกซื้อ หากใช้หลักตาต่อตา ฟันต่อฟัน ต้องตัดมือทิ้งกันการก่อเหตุซ้ำ แฟรดีมั้ยครับ หรือ คุณขับรถชนคนทำให้คนคนนึงพิการพิการ ไม่ว่าจะมาจากประมาทหรือเจตนาทำเพื่อระงับเหตุ แต่เกินกว่าเหตุ ตามกฏต้องตัดขาทิ้ง
คราวนี้มาดูว่าสังคมเสียอะไรบ้าง
กรณีเด็ก เกิดจากคึกคะนอง เพื่อนยุ หรืออะไรก็แล้วแต่ เสียบุคลากรซึ่งมีค่า X ไปหนึ่งคน ผมแทนค่าด้วย X เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง คราวนี้ลองนึกย้อนดูนะครับว่าวัยเด็กทำอะไรไปบ้าง ถ้าใช้กฏอย่างที่อยากได้จะเป็นไงทุกวันนี้
กรณีผู้ใหญ่ ที่เข้าข่ายประมาทหรือเกินกว่าเหตุ เสียบุคลากรในสายงานนั้นๆอีกหนึ่งคนแทนที่จะเสียจากผู้ถูกกระทำเพียงอย่างเดียว
สรุป
กฏหมายที่พัฒนาใช้ในปัจจุบันเขาทำเพื่อปกป้องคนที่ยังมีประโยชน์ต่อสังคมที่ทำผิดผลาดครับ แต่กฏหมายใช้บังคับเท่าเทียมกันทุกคน ขยะจึงได้รับการคุ้มครองด้วยแค่นั้นครับ
ขอแชร์ประสบการณ์จากที่เคยไปช่วยมูลนิธิที่เกี่ยวกับผู้ต้องขังอยู่บ้างนะครับ
ผมขอบอกเลยว่า พวกนักโทษเนี่ย ถ้าเขากลับใจจริงๆ แล้วเนี่ย ส่วนใหญ่จะกลายเป็นผู้สร้างประโยชน์ต่อสังคมมากเลยล่ะครับ
เพราะคนพวกนี้ เขาจะสำนึกได้ว่า ตัวเองเคยทำผิดพลาดไป อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อชดเชยสิ่งเลวร้ายที่เขาเคยทำในอดีต
แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครสำนึกผิดแล้วนี่แหละครับ
ซึ่งก็ต้องเป็นอย่างที่บอก คือภาครัฐต้องเข้มแข็งมาก มากพอที่จะติดตามผลได้อย่างเต็มที่
ซึ่งบ้านเราก็อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ แค่จับคนผิดยังทำกันไม่ได้เลย มันก็เลยไม่น่าวางใจเท่าไหร่นี่แหละครับ