จั่วหัวมาเหมือนจะเดือด
แต่ไม่เดือดหรอก ดักเฉยๆ
คือแบบนี้ครับ ตั้งแต่ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ นัดสุดท้ายจบลงไป
แฟนหลายๆทีม (ขออนุญาติเอ่ยชื่อ) เช่น สเปอร์ แมนยู มาดริด
ต่างคอมเม้นท์ว่า
"ทำไมลิเวอร์พูลมันทีมนางเอกจังวะ!"
คือเวลาชนะได้เนี้ย มันมักจะเหมือนไปรังแกคนอ่อนแอ หรือชนะได้มันมักจะมีประเดนตลอด
อะไรวะเนี้ย นางเอกจริมๆ
ทำให้นึกได้ว่าอะไรบ้าง ที่เป็นสาเหตุที่หลายๆทีมเข้าใจไปแบบนั้น
ผมว่าสาเหตุหนึ่งคือลิเวอร์พูลไม่ได้เล่นแบบหนักๆมานานมากละครับ
ผมลองไปดูสถิติเก่าๆ ย้อนหลังไปประมาณ 3 ปี
คือฤดูกาล 15/16 16/17 และ 17/18 ซึ่งเป็นปัจจุบัน
สถิติใบแดงนั้นเป็นดังนี้ครับ
ฤดูกาล 15/16
ลิเวอร์พูลได้ 3 ใบแดง นับว่ามากเป็นอันดับที่ 8 จาก 20 ทีมใน Epl
อาเซน่อลได้ 4 ใบแดง เป็นอันดับที่ 6 Epl
และ เซลซีได้ 5 ใบแดง เป็นอันดับที่ 2 ใน Epl
ที่หนึ่งเป็นของเซาแธมป์ตัน ที่ 6 ใบแดง
ฤดูกาล 16/17
ลิเวอร์พูลได้ 0 ใบแดง (ครับอ่านไม่ผิด 0 ใบแดง)
ในขณะที่ แมนซิตี้ 4 ใบแดง นับว่ามากเป็นลำดับที่ 5 ใน Epl
และ อาร์เซนอล 3 ใบแดง อยู่ลำดับที่ 7 ใน Epl
ฤดูกาลล่าสุดที่เพิ่งจบไป 17/18
ลิเวอร์พูล ได้ใบแดง 1 ใบ (น้อยที่สุดในลีค ร่วมกับทีมแมนยู/สโต้ก/เวสบรอมฯ)
ส่วนลำดับที่ 1 ในลีคของปีนี้คือ เลสเตอร์ ซิตี้ 5 ใบแดง
ตามมาด้วยที่ 2 เชลซีที่ 4 ใบแดง
ส่วนสถิติใบเหลืองก็น้อยมากครับ
ฤดูกาลนี้ 2017/18
38 นัด
ลิเวอร์พูลได้ใบเหลือง 44 ใบ อยู่ลำดับที่ 19 (ลำดับที่ 20 คือเชลซี)
แมนยูได้รับใบเหลือง 64 ใบ
แมนซิ 59 ใบ
และอาเซน่อล 57 ใบ ครับ
ฤดูกาลที่แล้ว 16/17
ลิเวอร์พูลได้ 54 ใบ อยู่ลำดับที่ 19 จาก 20ทีม ใน EPL
ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ
ดังนั้นจะเห็นว่าอัตราการเสียใบแดง/เหลือง ของลิเวอร์พูลน้อยมาก
สาเหตุหนึ่งที่ผมคิดได้คือ ตำแหน่ง Hard man ในทีม
"ลิเวอร์พูลไม่มี Hard man" แบบทีมอื่น"
ว่ากันตามตรง Hard man คือปราการด่านสุดท้ายที่หยุดตัวรุก หรือตัวทำทีมฝั่งตรงข้าม
เอาเห็นภาพชัดๆก็ รามอส / เปเป้ หรือในลีคก็เช่น ซาก้า หรือ อัลเดอไวเรล
คือเป็นตัวตัดหนัก หรือเล่นลูกตุกติด ทำลายสมาธิและเกมส์คู่ต่อสู้ กล้าปะทะ
ซึ่งหลายๆทีมในพรีเมียร์มักจะมีตัว Hard man แบบนี้อยู่
ส่วนลิเวอร์พูลผมไม่แน่ใจว่า Hard man ตัวสุดท้ายของทีมคือ ปลาคราฟ์ หรือ สเกอร์เทล หรือเปล่า
หลังจากนั้นมาก็ไม่เจอใครที่ดูเหมือนจะกล้าบวก หรือกล้าเล่นหนักใส่ทีัมอื่นอีกเลย กัปปิตันหัวเจลก็พึ่งพาอะไรไม่ได้ในจังหวะประทะ ส่วนลอฟเรน ซึ่งเหมือนจะมีลูกตุกติก หรือจังหวะเข้าแรงมาก แต่ก็มักเสียเหลี่ยม หรือกลายเป็นทำร้ายตัวเองไปเสียอย่างนั้น
ผมถึงมองว่านี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการที่ดูเหมือนลิเวอร์พูล เป็นทีมถูกกระทำ
(เลยดูเป็นนางเอกไป)
อีกประการหนึ่งซึ่งแฟนๆลิเวอร์พูลบ่นกันมากคือ
การได้ลูกโทษ ซึ่งฤดูกาลนี้ดูยากเย็นมากๆกว่าจะได้ ทั้งๆที่หลายๆจังหวะควรน่าจะได้ลูกโทษ
สำหรับตัวเลขสถิติฤดูกาลนี้เป็นแบบนี้ครับ
ในฤดูกาลล่าสุด 17/18
ลิเวอร์พูลได้ 3 จุดโทษ มากเป็นลำดับที่ 11 ใน Epl (ร่วมกับสเปอร์และแมนยู)
แมนเชสเตอร์ซิตี้ได้ 8 ลูก
อาเซน่อลได้ 5 ลูก
ฤดูกาลก่อนหน้า 16/17
ลิเวอร์พูลได้ 8 จุดโทษ มากเป็นลำดับที่ 4 ของ Epl
ในขณะที่ แมนซิตี้ และสเปอร์ ได้ 9 จุดโทษ (เป็นลำดับที่ 2 ร่วม)
และก่อนหน้านั้นอีก 1 ปี คือ 15/16
ลิเวอร์พูลได้เพียง 2 จุดโทษ (ร่วมกับอาร์เซน่อล) เป็นอันดับที่ 7 ร่วม
และ นอริส ได้จุดโทษน้อยสุดของฤดูกาลคือ 1 จุดโทษ
ในขณะที่แมนซิ ได้ 8 จุดโทษ และเชลซีได้ 5 จุดโทษ
ซึ่งเรื่องจุดโทษมันก็บอกยาก ว่าทีมได้เปรียบหรือเสียเปรียบหรือไม่
จะถูกกลั่นแกล้ง ไม่ให้หรือเปล่า (นางเอกอีกละ)
แต่รวมๆแล้ว
จากสถิติก็พอเห็นได้ในระดับหนึ่งว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เล่นแบบปะทะน้อยมาก (ด้วยความที่ต้องเซฟผู้เล่นตัวหลักด้วย) ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าทุกๆการปะทะ มันจะมีประเดนตามมาตลอด บวกกับทั้งการไม่มีตัวชนเคี่ยวๆ ทำให้ลิเวอร์พูลมักจะกลายเป็นผู้ถูกกระทำ มากกว่าจะได้กระทำเค้า
ส่วนสถิติฟาล์ว ผมหาไม่ได้จริงๆ (เพราะได้แต่ตัวเลข) ซึ่งการฟาล์วมันต้องดูละเอียดไปอีกว่าฟาล์วอะไร ฟาล์วตัดบอล หรือฟาล์วแทคเกิ้ล หรือฟาล์วแบบเจตนา เลยไม่ได้เอาตัวเลขสถิติมาลงครับ
ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่ว่าแต่ละยูสเซอร์มองว่าอย่างไรกันแล้วแหละครับ
::edit คำผิดครับ::