เปิดรับสมัครไปก่อนหน้านี้จะเดือนนึงแล้ว ไม่มีใครผ่านเลยครับ หลายคนแปลดีแต่พอทดสอบจริงๆไม่ผ่านเลย กำลังมองหาเพชรเม็ดงามอยู่ ใครคิดว่ามีความสามารถซ่อนอยู่มาจอยกันครับ

- เข้างานตั้งแต่ 1 ทุ่ม แปลข่าววันละ 10 ข่าว (อยู่ทำรายงานผลบอลช่วงกลางดึกได้เช่นบอลกลางสัปดาห์ 02.45 น.) หมายเหตุ ทำงานอยู่กับบ้านนะครับ บ้านใครบ้านมัน ออนไลน์ แชทคุยงาน ไม่มีการเดินทางใดๆ
- ชอบดูบอล นอนดึก เล่นเน็ตไปเรื่อยจะเหมาะกับงานนี้มาก มีธุระน้อยไม่ล่ก ไม่ออกสังคม หรือ งานสังสรรค์
- มีเงินเดือนให้ อาจจะไม่เยอะ เน้นใจรัก(ถ้าทำแล้วพิสูจน์ตัวเองว่าเจ๋งมีของ เดี๋ยวขึ้นให้เอง)
- หยุดอาทิตย์ละวัน
- มีโบนัสให้ (ถ้าอยู่ครบปี)


สิ่งที่ต้องทำตอนนี้
- แปลข่าว 3 ข่าวลงในกระทู้นี้ (โดยแปลตามแพทเทิร์นหน้าข่าวของ SS ทั้งสีของฟอนท์ในการพาดหัว ขนาดฟอนท์ การจัดวางรูปประกอบ พร้อมแนบลิงค์ต้นฉบับเพื่อทำการตรวจสอบ เพราะผมจะดูอะไรหลายๆอย่าง)
- ทำรายงานผลบอล คู่ไหนก็ได้เอาที่สบายใจ อันนี้จะดูสไตล์การรายงาน การขึ้นพาดหัว (ปรับสีฟอนท์ของจังหวะแต่ละนาที และ รายชื่อ ให้ด้วย)
- จะดูไหวพริบการตีความสิ่งที่ผมต้องการอะไรหลายๆอย่างในกระทู้นี้ ชอบคนลงมือทำไม่ถามเยอะ ไม่ยุกยิก คนมีของพูดน้อยลงมือทำเยอะ
- ขอรับเฉพาะคนที่มี ID นะครับ ต้องการคนที่มี ID เพราะการันตีได้อย่างนึงว่าคนพวกนี้สมัครจะแค่อ่าน หรือ นานๆโพส หรือ รอจังหวะมาทดสอบแปลข่าว คนไม่มีผมมองว่าเค้าไม่ได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า รวมถึงคนที่เห็นกระทู้รับนักข่าวแสดงว่าต้องเข้าเว็บบ่อย ส่งผลงานก่อนแสดงว่าเข้าเว็บเรื่อยๆโอกาสที่จะได้ใจผมก็มีมากกว่าคนมาแปลตอนตลาดวาย

ผมจะเข้ามาอ่านเรื่อยๆครับ แล้วจะหลังไมค์ไปหาเพื่อให้มาเทสทดสอบกับนักข่าวผมอีกที(แบบออนไลน์) ฉะนั้นเช็ก PM บ่อยๆครับ ถ้านานจนผมไม่รอขออนุญาตเรียกคนลำดับต่อไป

ปล.เดี๋ยววันไหนผมจะทยอยลบโพสที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแปลข่าวนะครับ มันจะได้ไม่ตกมาก ขอบคุณครับ

Exclusive:โปเช็ตติโนแฉน้ามูเกือบล่อไดเออร์จากเล้าไก่สำเร็จ



ในฤดูกาลที่แล้วเมาริโอ โปเช็ตติโนได้มีความกังวลเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของ อีริค ไดเออร์ นักเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติอังกฤษ จากนั้นเขาได้รู้ว่า ไดเออร์ถูกเข้าหาโดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นไดเออร์และมูรินโญ่หัวเราะและพูดคุยกันหลังเกมที่ท็อตแน่มพ่ายยูไนเต็ด 1-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ยืนยันว่าเขาได้แก้ไขสถานการณ์นี้เรียบร้อย และเขาได้อธิบายถึงวิธีการของของที่ทำให้ไดเออร์หมดความกังวลใจต่อยูไนเต็ด และกลับสู่ฟอร์มที่ดีของเขาอีกรอบ

โปเช็ตติโน่เกริ่นว่า “ผมบอกกับอีริคมาตลอดนะถึงสิ่งที่เขาจำเป็นต้องมีในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในอังกฤษ เราได้ใส่เงื่อนไขลงไปเพื่อให้เขาพัฒนาตนเอง แต่ดูเขาจะชอบเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับมากกว่า เพราะเขาติดทีมชาติอังกฤษจากตำแหน่งนี้แล้วก็ทำประตูสำคัญๆได้”

เฮดโค้ชชาวอาร์เจนไตน์เล่าต่อว่า “หลังจากเราเซ็นสัญญากับ วิคเตอร์ [เวนยาม่า], อีริคไม่ค่อยพอใจพวกเราเพราะเขาคิดว่าการมาของวิคเตอร์จะหยุดพัฒนาการของเขาในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ หลังจากนั้นผลงานของเขาเริ่มดรอปลง ผมได้ทำการพูดคุยกับเขามาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ได้เล่าให้ผมฟังทั้งหมด หลังจากนั้น ผมพยายามอีกครั้งที่จะเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ในใจของอีริคและเสนอที่จะช่วยเหลือเขาในทุกๆทาง

กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้อีริคไขว้เขวคือยูไนเต็ด พวกเขาได้เข้าหาอีริคและกดดันเขา ถึงแม้พวกเขายังไม่ได้ยื่นข้อเสนออะไรก็ตาม

มูรินโญ่กับผมพึ่งให้สัมภาษณ์นักข่าวเสร็จหลังเกมที่เราพ่ายยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด (ธันวาคม 2016 ) และผู้เล่นของผมก็ยืดเส้นอยู่ในสนามกำลังจะเสร็จ จากนั้นมูรินโญ่ไปยืนรอที่ปากอุโมงค์เพื่อทักทายผู้เล่นที่กำลังจะเข้าห้องแต่งตัว
เขาทักทายมุสซ่า [ซิสโซโก้] จากนั้นเขาสวมกอดอีริค พวกเขาสองคนเดินผ่านผมไประหว่างทางกลับห้องแต่งตัว พวกเขาหัวเราะและพูดคุยกันในภาษาโปรตุเกส ผมไม่รู้ว่านี่อาจจะเป็นแท็คติกที่มูรินโญ่ใช้เป็นประจำรึเปล่า แต่ยูไนเต็ดนี่แหล่ะตัวการทำให้อีริคไขว้เขว เขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้หลังจากความพ่ายแพ้



”คุณเป็นเพื่อนกับมูรินโญ่เหรอ?” ผมถาม “เปล่า แต่ผมรู้จักเขามานานแล้วตั้งแต่อยู่โปรตุเกส หนึ่งในลูกบุญธรรมของเขาเคยเป็นโค้ชผมน่ะ เขาเลยทักทายผมตลอดแหล่ะ” อีริคตอบ

จากนั้นในวันรุ่งขึ้นหลังมื้อกลางวัน ผมใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมงนั่งคุยกับอีริคถึงเรื่องราวทั้งหมด: เอเยนต์ของเขา,ครอบครัวของเขา,และสถานการณ์ของเขาในตอนนั้น

สำหรับเรื่องของอีริคกับมูรินโญ่ “ผมจะทำอะไรได้หล่ะบอส?” อีริคถามผม อีริคเล่าให้ผมฟังถึงความสนใจของยูไนเต็ดตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2016 และผมก็อธิบายสถานการณ์ของเขาให้ฟังอย่างชัดเจน

“ฟังนะอีริค, คุณจะไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้นเพราะคุณพึ่งจะเซ็นสัญญาห้าปีไปกับเราในเดือนสิงหาฯ คุณเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆของสโมสรในวัยเพียง22ปี คุณสำคัญกับเราและคุณสามารถกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก”

หลังจากการพูดคุยครั้งนั้น อีริคยอมรับกับผมว่าเขาสามารถรอให้มูรินโญ่ไปให้ลับสายตาก่อนได้ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องแต่งตัว

ในเดือนมกราคม ผมนั่งคุยกับเขาอีกทีเพื่อปรับโฟกัสของเขาให้เหมือนเดิม หลังช่วงเวลา 6 เดือนที่กระท่อนกระแท่น “คุณไม่ใช่อีริคคนเดิมในปีก่อนที่โชว์ฟอร์มที่ดีในยุโรปนะ”

เราเจอสิ่งที่แตกต่างออกไปในทุกๆวัน ตัวอย่างก็เช่นในวันหนึ่ง ผมทำตารางเช็คลิสต์เรื่องลูกโหม่งให้กับเขา มันมีอยู่4ช่อง: ดี,ดีเยี่ยม, สุดยอด, และ เวิลด์คลาส จากนั้นผมใส่ชื่อ มาราโดน่า เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโดเข้าไปในช่องที่ 4 และถามอีริคว่าเขาเห็นตัวเขาอยู่ตรงไหน

“ดีเยี่ยม” อีริคตอบ ผมบอกเขาว่า “ใช่ คุณอยู่ตรงนั้นแหละ และมันก็ใช้ระยะทางนิดเดียวจากคำว่าดีเยี่ยมไปสู่สุดยอด”
ผมถามเขาต่อ “แล้วคุณอยู่ตรงไหนบ้างล่ะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับและเซ็นเตอร์แบ็ค?” ผมไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ อีริคคิดว่าเขาเล่นได้ดีกว่าในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ และผมไม่เห็นด้วย เราใช้เวลาถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างยาวนาน ในตอนจบ ผบบอกกับเขาไปว่า มันไม่สำคัญหรอก ถ้าเขาให้ 100% ทุกๆครั้งไม่ว่าจำเล่นตำแหน่งไหน มันจะเป็นไปอย่างดี

นี่คือสิ่งที่นักฟุตบอลต้องค้นพบด้วยตัวเอง...



ฟอร์มของอีริคดีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ และผมสังเกตเห็นบางอย่างที่ดีขึ้นในตัวอีริค เขาได้ค้นพบสมาธิอันแข็งแกร่งของเขาอีกครั้ง มีการตัดสินใจที่ดีขึ้น และเข้าใจในขอบเขตของเขามากขึ้น เราต้องไม่ลืมว่าเขาพึ่งขึ้นมาสู่ระดับท็อป ไม่นานมานี้ผมเห็นอีริคกำลังฝึกฝนในยิมอย่างหนักหน่วง ผมเดินเข้าไปหาเขาและบอกว่า “อีริคคนเดิมกลับมาแล้ว”

ณ ตอนนี้ อีริค ไดเออร์ยังคงเป็นกำลังสำคัญของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ในฐานะเซ็นเตอร์แบ็ค เขาและเพื่อนร่วมทีมพาไก่เดือยทองขึ้นมาอยู่ที่อันดับ3 โดยห่างจากยูไนเต็ดแค่ 3 คะแนน และแข่งน้อยกว่า 1 นัด...


__________________________________
เวนเกอร์ยันยังมีความมุ่งมันเต็มเปี่ยมกับปืน

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของอาร์เซนอลได้ออกมายอมรับว่าเขากลัวต่อความเป็นไปได้ของการเกษียณจากตำแหน่งโค้ช แต่ยังคงมั่นใจในภารกิจที่เขามีต่อ “ไอ้ปืนใหญ่”

เวนเกอร์จะนำทีมของเขาไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ในวันนี้ซึ่งเป็นวันเกิดของเขาในวัย 68 ปี และเป็นเกมที่ 400 ในพรีเมียร์ลีกของเขา

เวนเกอร์พึ่งต่อสัญญาไป ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ขยายระยะเวลาของเขากับอาร์เซน่อลไปอีก 2 ปี ในขณะที่เขายอมรับว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าชีวิตหลังอาร์เซน่อลจะเป็นอย่างไร แต่เขายังคงยืนกรานว่า ความมุ่งมั่นรวมถึงความเชื่อมั่นในความสามาถของเขาในการคุมทีมนั้นไม่ได้ลดน้อยลงไปจาก 35 ปีก่อนที่เขาเริ่มต้นการเป็นผู้จัดการทีมเลย

“ผมเริ่มอาชีพนี้ตอนอายุ 33 ปี ดังนั้นผมทำมา 35 ปีแล้วโดยไม่หยุดเลยแม้แต่นิดเดียว” เวนเกอร์กล่าวกับ สกาย สปอร์ต
“มันไม่มีการหยุดพัก สิ่งที่ผมทำคือ 35 ปีแห่งความมุ่งมั่นและทุ่มเทแก่โลกฟุตบอล”

“ทำไมถึงยังทำอยู่หล่ะ? เพราะผมรักมัน เพราะมันคืออาชีพที่สามารถสร้างผลกระทบในทางบวกต่อชีวิตของผู้คน ต่อมุมมอง, แนวทาง, และคุณค่า ของสโมสร ซึ่งผมคิดว่า อย่างแรกที่สำคัญที่สุดของสโมสรคือคุณค่าภายในตัวของมัน ซึ่งผู้คนลืมไปกันเยอะในปัจจุบัน ผมรู้สึกว่านี่คือภารกิจที่ผมจะนำคุณค่าเหล่านี้เข้าไปสู่สโมสร เพราะผมคิดว่าสโมสรจะได้รับการเคารพจากทั่วโลกด้วยคุณค่าในตัวของมัน และสิ่งเหล่านี้จะคงอยู่ไปจากรุ่นสู่รุ่น”

เวนเกอร์ได้เริ่มเส้นทางการคุมทีมกับน็องซี สโมสรฝรั่งเศสในปี 1984 หลังจากนั้นเวนเกอร์บอกว่ามันเป็นเหมือนโชคชะตาที่ฟุตบอลพาเขาไปต่อที่ โมนาโก และ ญี่ปุ่น ก่อนที่จะมา นอร์ธ ลอนดอนในปี 1996 ที่ที่เขาถูกยกย่องว่าเป็นผู้ปฎิวัติสโมสรแห่งนี้

แล้วเขากลัวหรือไม่กับการที่จะหยุดเส้นทางอาชีพที่เขาได้ทุ่มเทมาทั้งชีวิต?



“กลัวสิ เพราะทุกจุดจบมันมีความไม่แน่นอนอยู่ข้างหน้าเสมอ มันจึงเป็นสิ่งทีน่าหวาดหวั่น แต่ผมก็ไม่ได้กลัวมันนักหรอกนะ ผมก็แค่อยากทำในสิ่งที่ผมทำให้นานที่สุดตราบใดที่ผมคิดว่าผมยังทำมันได้ดี และผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำมัน ในเรื่องของความมุ่งมั่น ผมไม่เคยสงสัยตัวเอง”

เวนเกอร์ยอมรับว่าช่วงเวลาในความไม่แน่นอนของเขาทำร้ายอาร์เซน่อลในฤดูกาลที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคว้า เอฟเอ คัพ มาเป็นรางวัลปลอบใจ แต่อาร์เซนอลก็จบนอกท็อปโฟร์เป็นครั้งแรกใน 21 ปีของการคุมทีมของเขา

มีเสียงก่นด่ามาจากสแตนด์เชียร์ฝั่งพวกเขาเอง และแฟนบอลเกิดความแบ่งแยกมากขึ้นเรื่อยๆ แตในขณะที่เวนเกอร์ยอมรับว่าเขาเป็นคนดื้อรั้น เขาอยากที่จะโฟกัสไปในมุมบวกของการไม่ลดละความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จมากกว่า



“ผมเป็นคนที่มีความหลงไหลในฟุตบอลอย่างมากและผมคิดว่าครอบครัวของผมคงเห็นด้วยกับผมว่าผมเป็นคนดื้อรั้นเช่นกัน มันมีเส้นกั้นบางๆระหว่างความดื้อรั้นกับความโง่เขลา แต่หากคุณยอมแพ้อะไรง่ายๆในชีวิต คุณไม่มีวันทำอะไรได้ดีหรอก ความอุตสาหะเป็นคุณภาพที่ผู้คนมักมองข้ามนะ หากคุณมองไปในผู้คนที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามักมีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะทำอะไรให้สำเร็จ”

อาร์เซน่อลจะบุกไปเยือนเอฟเวอร์ตันตอนค่ำวันอาทิตย์นี้ และนี่คือโอกาสของพวกเขาในการที่จะตอบโต้ความพ่ายแพ้จากวัตฟอร์ด

“มันคือฝันร้ายของเหล่าผู้จัดการทีมเมื่อเกิดความพ่ายแพ้ และมันไม่ได้ง่ายขึ้นเมื่อผมอายุมากขึ้นหรอกนะ แต่ผู้คนคิดกันเกินไปว่าเหล่าผู้เล่นไม่ได้ใส่ใจกับความพ่ายแพ้ นักเตะน่ะอยากจะเป็นฮีโร่ เป็นสตาร์ของแฟนบอล พวกเขาอยากจะชนะทุกเกม ผมเชื่อว่าทีมเรามีคุณภาพระดับท้อป และนั่นเป็นเรื่องที่เราต้องพิสูจน์ในวันอาทิตย์ มันเป็นสิ่งที่เราต้องแสดงออกมาจนกว่าจะจบฤดูกาล เราอยู่ในการแข่งขันหลายรายการ และทุกๆทีมต้องเจอกับผลการแข่งขันที่แย่ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตอบโต้ยังไง

อาร์เซน่อลอยู่ในอันดับที่7 ตามหลังจ่าฝูงอย่างซิตี้ถึง 12 คะแนน แต่เวนเกอร์ปฏิเสธที่จะคิดว่าทีมของเขาจะพบกับจุดจบแบบเดิม

“ฟุตบอลมันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในตอนนี้นะ สิ่งที่ดูหยุดยั้งไม่ได้ในเดือนตุลาคมอาจไม่เป็นช่วงนั้นในเดือนธันวาคม แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทีมอื่นๆเชื่อมั่นในคุณภาพของพวกเขาเอง”

เวนเกอร์-ในอาร์เซน่อล, ตัวเขาเอง, และนักเตะของเขา ยังคงไม่หยุดที่จะเชื่อมั่น....




__________________________________________________
น้ามูบ่นทัศนคติผู้เล่นห่วยกว่าเกมอุ่นเครื่อง


โจเซ่ มูรินโญ่ผู้จัดการทีมของ”ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาตำหนิทัศนคติลูกทีมของเขาในเกมที่พบกับฮัดเดอร์สฟิลด์ว่าแย่ยิ่งกว่าเล่นเกมอุ่นเครื่องเสียอีก

ฮัดเดอร์สฟิลด์ออกนำไปก่อนในครึ่งแรกสองประตู ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ดจะมาทำประตูปลอบใจในช่วยงท้ายเกม

ความพ่ายแพ้นัดแรกของยูไนเต็ดในฤดูกาลทำให้พวกเขาโดนคู่ปรับร่วมเมืองอย่างซิตี้ทิ้งห่างไป 5 คะแนน

“เมื่อคุณแพ้การแข่งขันเนื่องจากทัศนคติ มันเป็นสิ่งที่แย่เอามากๆ” อดีตนายใหญ่ของเชลซีกล่าว

ยูไนเต็ดได้เก็บคลีนชีตถึง 7 จาก 8 เกมหลังสุด แต่ความผิดพลาดของ มาต้า และ ลินเดเลิฟ ในช่วงเลาไม่ถึง 5 นาทีทำให้พวกเขาโดนลงโทษไปถึง 2 ประตูจากเจ้าบ้าน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะครองบอลมากถึง 80% แต่ยูไนเต็ดยิงตรงกรอบแค่ 3 ครั้งเท่านั้น

“ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเรามีเกมอุ่นเครื่องที่ทีมมีทัศนคติแย่แบบนี้ตอนไหน เราสามารถได้ประตูที่สองและผลเสมอ แต่พูดกันตามตรงเราไม่สมควรจะได้รับมันอยู่ดี ถ้าผมเป็นแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคงจะผิดหวังเพราะคุณสามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้หากคู่ต่อสู้มีคุณภาพดีกว่า แต่ไม่ใช่เมื่อคู่ต่อสู้มีทัศนคติที่ดีกว่าเรา”

__________________________________

* ผลบอลกำลังเขียนนะครับ:)

ค่าเหนื่อยเท่าไหร่ครับ เพชรเม็ดงาม

400k/วีค

400k ปอนด์

ครับ

กระทู้ที่แล้วเห็นหลายท่าน โพสข่าวได้น่าสนใจนึกว่าได้แล้วครับ

ถ้าตำแหน่ง CEO, CFO, CTO, COO, CIO,
Board of Director, Internal Audit

ว่างเมื่อไหร่ รบกวนท่านอีเมลย์เรียกผมด้วยนะครับ

น่าสนใจ

ทำงานอญูบ้านได้เดือนเป็นหมื่นอัพนี่แจ่มเลยนะ แต่ผมอังกฤษ ป.1 เองง่ะ

Exclusive:โปเช็ตติโนแฉน้ามูเกือบล่อไดเออร์จากเล้าไก่สำเร็จ



ในฤดูกาลที่แล้วเมาริโอ โปเช็ตติโนได้มีความกังวลเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของ อีริค ไดเออร์ นักเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติอังกฤษ จากนั้นเขาได้รู้ว่า ไดเออร์ถูกเข้าหาโดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นไดเออร์และมูรินโญ่หัวเราะและพูดคุยกันหลังเกมที่ท็อตแน่มพ่ายยูไนเต็ด 1-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ยืนยันว่าเขาได้แก้ไขสถานการณ์นี้เรียบร้อย และเขาได้อธิบายถึงวิธีการของของที่ทำให้ไดเออร์หมดความกังวลใจต่อยูไนเต็ด และกลับสู่ฟอร์มที่ดีของเขาอีกรอบ

โปเช็ตติโน่เกริ่นว่า “ผมบอกกับอีริคมาตลอดนะถึงสิ่งที่เขาจำเป็นต้องมีในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในอังกฤษ เราได้ใส่เงื่อนไขลงไปเพื่อให้เขาพัฒนาตนเอง แต่ดูเขาจะชอบเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับมากกว่า เพราะเขาติดทีมชาติอังกฤษจากตำแหน่งนี้แล้วก็ทำประตูสำคัญๆได้”

เฮดโค้ชชาวอาร์เจนไตน์เล่าต่อว่า “หลังจากเราเซ็นสัญญากับ วิคเตอร์ [เวนยาม่า], อีริคไม่ค่อยพอใจพวกเราเพราะเขาคิดว่าการมาของวิคเตอร์จะหยุดพัฒนาการของเขาในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ หลังจากนั้นผลงานของเขาเริ่มดรอปลง ผมได้ทำการพูดคุยกับเขามาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ได้เล่าให้ผมฟังทั้งหมด หลังจากนั้น ผมพยายามอีกครั้งที่จะเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ในใจของอีริคและเสนอที่จะช่วยเหลือเขาในทุกๆทาง

กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ทำให้อีริคไขว้เขวคือยูไนเต็ด พวกเขาได้เข้าหาอีริคและกดดันเขา ถึงแม้พวกเขายังไม่ได้ยื่นข้อเสนออะไรก็ตาม

มูรินโญ่กับผมพึ่งให้สัมภาษณ์นักข่าวเสร็จหลังเกมที่เราพ่ายยูไนเต็ดที่โอลด์แทรฟฟอร์ด (ธันวาคม 2016 ) และผู้เล่นของผมก็ยืดเส้นอยู่ในสนามกำลังจะเสร็จ จากนั้นมูรินโญ่ไปยืนรอที่ปากอุโมงค์เพื่อทักทายผู้เล่นที่กำลังจะเข้าห้องแต่งตัว
เขาทักทายมุสซ่า [ซิสโซโก้] จากนั้นเขาสวมกอดอีริค พวกเขาสองคนเดินผ่านผมไประหว่างทางกลับห้องแต่งตัว พวกเขาหัวเราะและพูดคุยกันในภาษาโปรตุเกส ผมไม่รู้ว่านี่อาจจะเป็นแท็คติกที่มูรินโญ่ใช้เป็นประจำรึเปล่า แต่ยูไนเต็ดนี่แหล่ะตัวการทำให้อีริคไขว้เขว เขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้หลังจากความพ่ายแพ้



”คุณเป็นเพื่อนกับมูรินโญ่เหรอ?” ผมถาม “เปล่า แต่ผมรู้จักเขามานานแล้วตั้งแต่อยู่โปรตุเกส หนึ่งในลูกบุญธรรมของเขาเคยเป็นโค้ชผมน่ะ เขาเลยทักทายผมตลอดแหล่ะ” อีริคตอบ

จากนั้นในวันรุ่งขึ้นหลังมื้อกลางวัน ผมใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมงนั่งคุยกับอีริคถึงเรื่องราวทั้งหมด: เอเยนต์ของเขา,ครอบครัวของเขา,และสถานการณ์ของเขาในตอนนั้น

สำหรับเรื่องของอีริคกับมูรินโญ่ “ผมจะทำอะไรได้หล่ะบอส?” อีริคถามผม อีริคเล่าให้ผมฟังถึงความสนใจของยูไนเต็ดตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2016 และผมก็อธิบายสถานการณ์ของเขาให้ฟังอย่างชัดเจน

“ฟังนะอีริค, คุณจะไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้นเพราะคุณพึ่งจะเซ็นสัญญาห้าปีไปกับเราในเดือนสิงหาฯ คุณเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดเป็นลำดับต้นๆของสโมสรในวัยเพียง22ปี คุณสำคัญกับเราและคุณสามารถกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก”

หลังจากการพูดคุยครั้งนั้น อีริคยอมรับกับผมว่าเขาสามารถรอให้มูรินโญ่ไปให้ลับสายตาก่อนได้ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องแต่งตัว

ในเดือนมกราคม ผมนั่งคุยกับเขาอีกทีเพื่อปรับโฟกัสของเขาให้เหมือนเดิม หลังช่วงเวลา 6 เดือนที่กระท่อนกระแท่น “คุณไม่ใช่อีริคคนเดิมในปีก่อนที่โชว์ฟอร์มที่ดีในยุโรปนะ”

เราเจอสิ่งที่แตกต่างออกไปในทุกๆวัน ตัวอย่างก็เช่นในวันหนึ่ง ผมทำตารางเช็คลิสต์เรื่องลูกโหม่งให้กับเขา มันมีอยู่4ช่อง: ดี,ดีเยี่ยม, สุดยอด, และ เวิลด์คลาส จากนั้นผมใส่ชื่อ มาราโดน่า เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโดเข้าไปในช่องที่ 4 และถามอีริคว่าเขาเห็นตัวเขาอยู่ตรงไหน

“ดีเยี่ยม” อีริคตอบ ผมบอกเขาว่า “ใช่ คุณอยู่ตรงนั้นแหละ และมันก็ใช้ระยะทางนิดเดียวจากคำว่าดีเยี่ยมไปสู่สุดยอด”
ผมถามเขาต่อ “แล้วคุณอยู่ตรงไหนบ้างล่ะในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับและเซ็นเตอร์แบ็ค?” ผมไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ อีริคคิดว่าเขาเล่นได้ดีกว่าในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ และผมไม่เห็นด้วย เราใช้เวลาถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างยาวนาน ในตอนจบ ผบบอกกับเขาไปว่า มันไม่สำคัญหรอก ถ้าเขาให้ 100% ทุกๆครั้งไม่ว่าจำเล่นตำแหน่งไหน มันจะเป็นไปอย่างดี

นี่คือสิ่งที่นักฟุตบอลต้องค้นพบด้วยตัวเอง...



ฟอร์มของอีริคดีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ และผมสังเกตเห็นบางอย่างที่ดีขึ้นในตัวอีริค เขาได้ค้นพบสมาธิอันแข็งแกร่งของเขาอีกครั้ง มีการตัดสินใจที่ดีขึ้น และเข้าใจในขอบเขตของเขามากขึ้น เราต้องไม่ลืมว่าเขาพึ่งขึ้นมาสู่ระดับท็อป ไม่นานมานี้ผมเห็นอีริคกำลังฝึกฝนในยิมอย่างหนักหน่วง ผมเดินเข้าไปหาเขาและบอกว่า “อีริคคนเดิมกลับมาแล้ว”

ณ ตอนนี้ อีริค ไดเออร์ยังคงเป็นกำลังสำคัญของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ในฐานะเซ็นเตอร์แบ็ค เขาและเพื่อนร่วมทีมพาไก่เดือยทองขึ้นมาอยู่ที่อันดับ3 โดยห่างจากยูไนเต็ดแค่ 3 คะแนน และแข่งน้อยกว่า 1 นัด...


__________________________________
เวนเกอร์ยันยังมีความมุ่งมันเต็มเปี่ยมกับปืน

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของอาร์เซนอลได้ออกมายอมรับว่าเขากลัวต่อความเป็นไปได้ของการเกษียณจากตำแหน่งโค้ช แต่ยังคงมั่นใจในภารกิจที่เขามีต่อ “ไอ้ปืนใหญ่”

เวนเกอร์จะนำทีมของเขาไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ในวันนี้ซึ่งเป็นวันเกิดของเขาในวัย 68 ปี และเป็นเกมที่ 400 ในพรีเมียร์ลีกของเขา

เวนเกอร์พึ่งต่อสัญญาไป ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ขยายระยะเวลาของเขากับอาร์เซน่อลไปอีก 2 ปี ในขณะที่เขายอมรับว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าชีวิตหลังอาร์เซน่อลจะเป็นอย่างไร แต่เขายังคงยืนกรานว่า ความมุ่งมั่นรวมถึงความเชื่อมั่นในความสามาถของเขาในการคุมทีมนั้นไม่ได้ลดน้อยลงไปจาก 35 ปีก่อนที่เขาเริ่มต้นการเป็นผู้จัดการทีมเลย

“ผมเริ่มอาชีพนี้ตอนอายุ 33 ปี ดังนั้นผมทำมา 35 ปีแล้วโดยไม่หยุดเลยแม้แต่นิดเดียว” เวนเกอร์กล่าวกับ สกาย สปอร์ต
“มันไม่มีการหยุดพัก สิ่งที่ผมทำคือ 35 ปีแห่งความมุ่งมั่นและทุ่มเทแก่โลกฟุตบอล”

“ทำไมถึงยังทำอยู่หล่ะ? เพราะผมรักมัน เพราะมันคืออาชีพที่สามารถสร้างผลกระทบในทางบวกต่อชีวิตของผู้คน ต่อมุมมอง, แนวทาง, และคุณค่า ของสโมสร ซึ่งผมคิดว่า อย่างแรกที่สำคัญที่สุดของสโมสรคือคุณค่าภายในตัวของมัน ซึ่งผู้คนลืมไปกันเยอะในปัจจุบัน ผมรู้สึกว่านี่คือภารกิจที่ผมจะนำคุณค่าเหล่านี้เข้าไปสู่สโมสร เพราะผมคิดว่าสโมสรจะได้รับการเคารพจากทั่วโลกด้วยคุณค่าในตัวของมัน และสิ่งเหล่านี้จะคงอยู่ไปจากรุ่นสู่รุ่น”

เวนเกอร์ได้เริ่มเส้นทางการคุมทีมกับน็องซี สโมสรฝรั่งเศสในปี 1984 หลังจากนั้นเวนเกอร์บอกว่ามันเป็นเหมือนโชคชะตาที่ฟุตบอลพาเขาไปต่อที่ โมนาโก และ ญี่ปุ่น ก่อนที่จะมา นอร์ธ ลอนดอนในปี 1996 ที่ที่เขาถูกยกย่องว่าเป็นผู้ปฎิวัติสโมสรแห่งนี้

แล้วเขากลัวหรือไม่กับการที่จะหยุดเส้นทางอาชีพที่เขาได้ทุ่มเทมาทั้งชีวิต?



“กลัวสิ เพราะทุกจุดจบมันมีความไม่แน่นอนอยู่ข้างหน้าเสมอ มันจึงเป็นสิ่งทีน่าหวาดหวั่น แต่ผมก็ไม่ได้กลัวมันนักหรอกนะ ผมก็แค่อยากทำในสิ่งที่ผมทำให้นานที่สุดตราบใดที่ผมคิดว่าผมยังทำมันได้ดี และผมมีความมุ่งมั่นที่จะทำมัน ในเรื่องของความมุ่งมั่น ผมไม่เคยสงสัยตัวเอง”

เวนเกอร์ยอมรับว่าช่วงเวลาในความไม่แน่นอนของเขาทำร้ายอาร์เซน่อลในฤดูกาลที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคว้า เอฟเอ คัพ มาเป็นรางวัลปลอบใจ แต่อาร์เซนอลก็จบนอกท็อปโฟร์เป็นครั้งแรกใน 21 ปีของการคุมทีมของเขา

มีเสียงก่นด่ามาจากสแตนด์เชียร์ฝั่งพวกเขาเอง และแฟนบอลเกิดความแบ่งแยกมากขึ้นเรื่อยๆ แตในขณะที่เวนเกอร์ยอมรับว่าเขาเป็นคนดื้อรั้น เขาอยากที่จะโฟกัสไปในมุมบวกของการไม่ลดละความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จมากกว่า



“ผมเป็นคนที่มีความหลงไหลในฟุตบอลอย่างมากและผมคิดว่าครอบครัวของผมคงเห็นด้วยกับผมว่าผมเป็นคนดื้อรั้นเช่นกัน มันมีเส้นกั้นบางๆระหว่างความดื้อรั้นกับความโง่เขลา แต่หากคุณยอมแพ้อะไรง่ายๆในชีวิต คุณไม่มีวันทำอะไรได้ดีหรอก ความอุตสาหะเป็นคุณภาพที่ผู้คนมักมองข้ามนะ หากคุณมองไปในผู้คนที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามักมีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะทำอะไรให้สำเร็จ”

อาร์เซน่อลจะบุกไปเยือนเอฟเวอร์ตันตอนค่ำวันอาทิตย์นี้ และนี่คือโอกาสของพวกเขาในการที่จะตอบโต้ความพ่ายแพ้จากวัตฟอร์ด

“มันคือฝันร้ายของเหล่าผู้จัดการทีมเมื่อเกิดความพ่ายแพ้ และมันไม่ได้ง่ายขึ้นเมื่อผมอายุมากขึ้นหรอกนะ แต่ผู้คนคิดกันเกินไปว่าเหล่าผู้เล่นไม่ได้ใส่ใจกับความพ่ายแพ้ นักเตะน่ะอยากจะเป็นฮีโร่ เป็นสตาร์ของแฟนบอล พวกเขาอยากจะชนะทุกเกม ผมเชื่อว่าทีมเรามีคุณภาพระดับท้อป และนั่นเป็นเรื่องที่เราต้องพิสูจน์ในวันอาทิตย์ มันเป็นสิ่งที่เราต้องแสดงออกมาจนกว่าจะจบฤดูกาล เราอยู่ในการแข่งขันหลายรายการ และทุกๆทีมต้องเจอกับผลการแข่งขันที่แย่ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตอบโต้ยังไง

อาร์เซน่อลอยู่ในอันดับที่7 ตามหลังจ่าฝูงอย่างซิตี้ถึง 12 คะแนน แต่เวนเกอร์ปฏิเสธที่จะคิดว่าทีมของเขาจะพบกับจุดจบแบบเดิม

“ฟุตบอลมันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในตอนนี้นะ สิ่งที่ดูหยุดยั้งไม่ได้ในเดือนตุลาคมอาจไม่เป็นช่วงนั้นในเดือนธันวาคม แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทีมอื่นๆเชื่อมั่นในคุณภาพของพวกเขาเอง”

เวนเกอร์-ในอาร์เซน่อล, ตัวเขาเอง, และนักเตะของเขา ยังคงไม่หยุดที่จะเชื่อมั่น....




__________________________________________________
น้ามูบ่นทัศนคติผู้เล่นห่วยกว่าเกมอุ่นเครื่อง


โจเซ่ มูรินโญ่ผู้จัดการทีมของ”ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาตำหนิทัศนคติลูกทีมของเขาในเกมที่พบกับฮัดเดอร์สฟิลด์ว่าแย่ยิ่งกว่าเล่นเกมอุ่นเครื่องเสียอีก

ฮัดเดอร์สฟิลด์ออกนำไปก่อนในครึ่งแรกสองประตู ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ดจะมาทำประตูปลอบใจในช่วยงท้ายเกม

ความพ่ายแพ้นัดแรกของยูไนเต็ดในฤดูกาลทำให้พวกเขาโดนคู่ปรับร่วมเมืองอย่างซิตี้ทิ้งห่างไป 5 คะแนน

“เมื่อคุณแพ้การแข่งขันเนื่องจากทัศนคติ มันเป็นสิ่งที่แย่เอามากๆ” อดีตนายใหญ่ของเชลซีกล่าว

ยูไนเต็ดได้เก็บคลีนชีตถึง 7 จาก 8 เกมหลังสุด แต่ความผิดพลาดของ มาต้า และ ลินเดเลิฟ ในช่วงเลาไม่ถึง 5 นาทีทำให้พวกเขาโดนลงโทษไปถึง 2 ประตูจากเจ้าบ้าน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะครองบอลมากถึง 80% แต่ยูไนเต็ดยิงตรงกรอบแค่ 3 ครั้งเท่านั้น

“ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเรามีเกมอุ่นเครื่องที่ทีมมีทัศนคติแย่แบบนี้ตอนไหน เราสามารถได้ประตูที่สองและผลเสมอ แต่พูดกันตามตรงเราไม่สมควรจะได้รับมันอยู่ดี ถ้าผมเป็นแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมคงจะผิดหวังเพราะคุณสามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้หากคู่ต่อสู้มีคุณภาพดีกว่า แต่ไม่ใช่เมื่อคู่ต่อสู้มีทัศนคติที่ดีกว่าเรา”

__________________________________

* ผลบอลกำลังเขียนนะครับ:)

เจ๊ปวดหัว...เวนเกอร์บ่นตัวรุกเก่งจัดเลือกใช้ไม่ถูก

ไม่รู้ว่าแฟนบอลจะเห็นด้วยรึเปล่าเมื่อ อาเซน เวนเกอร์ ออกมาคุยว่าเมื่อไหร่ที่แนวรุกของเขานั้นฟิตกันครบเขาถึงกับต้องปวดหัวในการเลือกใช้กันเลยทีเดียว

คาดกันว่าทีมของกุนซือหน้าเหี่ยวจะมีการโรเตชั่นในเกมที่จะเปิดรังเอมิเรตส์รับ นอวิช ซิตี้ ใน คาราบาว คัพ คืนวันอังคารที่ 24 นี้ หลังจากในเกมที่ไปไล่ถล่ม เอฟเวอตัน ถึง กูดิสัน พาร์ค 2-5 เวนเกอร์ได้จับนักเตะอย่าง แจ็ค วิลเชียร์, โอริวิเย่ ชิรูด์, ธีโอ วัลคอตต์ และ อเล็ค อิโวบี้ นั่งม้านั่งสำรอง โดยที่สองรายแรกไม่ได้ลงสนามอีกด้วย

"มันเป็นความหรูหราของผมในขณะนี้" เวนเกอร์พูดถึงแนวรุกที่ฟิตสมบูรณ์ของเขา

"แต่มันก็เป็นความยากลำบากของผมเช่นเดียวกัน เพราะทุกๆคนกำลังทำหน้าที่ได้ดี ทุกคนสมควรจะได้ลงเล่น แต่เรามีเกมสำคัญในทุกสัปดาห์ ผมเลยต้องทำให้ทุกๆคนได้โอกาสลงสนาม"

อาร์เซนอล เอาชนะ ดอนคาสเตอร์ ได้ 1-0 ในคาราบาวคัพรอบที่ 3 ที่ผ่านมา และเวนเกอร์มองการแข่งขันรายการนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ใช้งานทีมของเขาอย่างทั่วถึง

"ใช่แล้ว,ผมจะหมุนเวียนทีมของผมต่อไป"เวนเกอร์เสริม

"ผมใช้นโยบายนี้มาซักพัก ผมจึงต้องทำมันต่อไปโดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งสองทีมโชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมและยังกระตุ้นกันและกัน"

"การที่เราเอาชนะนอกบ้านแบบที่เราได้ทำไปได้นั้นสำคัญมาก หวังว่าเราจะโชว์ความยอดเยี่ยมแบบนั้นอีกกับ นอวิช ซิตี้"

http://www.skysports.com/football/news/11670/11095647/wenger-admits-selection-headache

ลูกพี่ผม!เจซุสหวังกุนทำลายสถิติดาวยิงเรือใบ

กาเบรียล เจซุส กองหน้าฟอร์มฮอตของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แผล่บรุ่นพี่ในทีม เซอร์จิโอ อาเกวโร่ คู่ควรที่จะเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรและเขาต้องการที่จะช่วยทำมัน

เป็ป กวาร์ดิโอล่า ตั้งใจที่จะใช้กองหน้าคู่ กาเบรียล เจซุส กับ เซอร์จิโอ อเกวโร่ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่โชคร้ายที่กุนดันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนซี่โครงแตก

เกมพรีเมียร์ลีคสัปดาห์ที่ผ่านมา เซอร์จิโอ อเกวโร ซัดประตูที่ 8 ของฤดูกาลทำให้สถิติประตูรวมของเขาเป็น 177 ประตูเทียบเท่าสถิติที่ เอริค บรู๊คส์ เคยทำไว้

"ผมเข้ากับเขาได้ดีมาก"เจซุสกล่าว "เขาเป็นคนที่สุดยอดมาก, พวกเรารู้ดีว่าเขาเป็นผู้เล่นที่พิเศษขนาดไหน"

"มันดีมากๆที่ได้เล่นกับเขา,เรามีความสัมพันธ์นอกสนามที่ดีนั่นทำให้การประสานงานในสนามง่ายขึ้นไปอีก"

"เราช่วยเหลือกันและกันซึ่งนั่นก็ช่วยทีมของเรา เราร่วมมือกันในสนามแบบเดียวกับเรื่องนอกสนาม,ผมสนับสนุนเขาและหวังว่าเขาได้เป็นดาวยิงสูงสุด เขาคู่ควรกับมัน"

กาเบรียล เจซุส ดาวยิงสุดฮอตประจำชั่วโมงนี้ซัดไปแล้ว 8 ประตูในซีซั่นนี้ให้กับทีมจ่าฝูงไร้พ่ายในลีคของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ที่ชนะรวด 11 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ

http://www.skysports.com/football/news/11679/11095940/jesus-out-to-assist-aguero-record

ต้องยอม!ชิรูด์สกอเปี้ยนคิคซิวโกล์ออฟเดอะเยียร์

ลูกสกอเปี้ยนคิคสุดคลาสสิคใส่ คริสตัล พาเลซ ของ โอริวิเย่ ชิรูด์ ดาวยิงสุดหล่อประจำแค้มป์ไอ้ปืนใหญ่ ได้รับการโหวตเป็นอันดับหนึ่งของประตูที่สวยที่สุดแห่งปี ซิวรางวัล ปุสกัส อวอร์ด ไปครอง

โอริวิเย่ ชิรูด์ งัดบอลที่ลอยมาด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดลอยเช็คคานเข้าประตูไปอย่างไม่น่าเชื่อสายตาในวันปีใหม่ที่ผ่านมา ส่งผมให้ อาร์เซนอล เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไป 2-0

"มันเป็นเกียรติสำหรับผมอย่างมาก" ชิรูด์กล่าวหลังจากรับรางวัลในงานที่จัดขึ้นที่ลอนดอน พัลลาเดียม ในวันจันทร์

"ผมรู้สึกยอดเยี่ยมที่ได้รับรางวัลนี้ต่อหน้าเหล่าตำนานมากมายที่มาเข้าร่วมงาน ผมอยากขอบคุณทุกๆคนที่โหวตให้ผม และขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าชิงรางวัลทั้ง 10 คนที่ทำประตูได้อย่างสุดยอดเช่นกัน"

"และแน่นอนผมขอขอบคุณทีมของผม ถ้าไม่มีพวกเขาผมคงทำประตูนี้ไม่ได้,ขอขอบคุณครอบครัวของผม"

งานรับรางวัลที่จัดขึ้นที่ ลอนดอน มีนักฟุตบอลชื่อดังทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้าร่วมมากมาย เช่น ดิเอโก้ มาราโดนา,โรนัลโด,แฟรงค์ แลมพาร์ด,เซอร์จิโอ รามอส และ แฮรี่ เคน ซึ่งการโหวตนั้นมาจากตัวแทนสโมสร,ตัวแทนจากสื่อ,โค้ช และแฟนๆ





http://www.skysports.com/football/news/11670/11095798/arsenals-olivier-giroud-wins-fifa-puskas-award-for-scorpion-kick-goal

รายงานผล

ให้เลี้ยงไปยิงเองไหม? ชมคลิป เด เคอา โชว์เหนือยกบอลข้ามหัวแข้งฮัดเดอร์สฟิลด์

ดาบิด เด เกอา โชว์ความนิ่งกระดกบอลข้ามหัวโลรองต์ เดอปัวร์ตกองหน้าของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ในเกมเมื่อคืนนี้

กำเนิดยูซฯดาวรุ่ง : เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ดาวเตะคนใหม่ของไอ้ปืนใหญ่
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ฮีโร่คนใหม่ของชาวเดอะ กันเนอร์ส แต่ดาวเตะวัยกระเตาะในศึกคาราบาว คัพ เขาคือใครกันแน่ ?

เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ไอ้ปืนใหญ่อาร์เซน่อล เกือบพลาดท่าปราชัยในสนามเหย้าของตนเอง ด้วยการโดนนกขมิ้นเหลืองอ่อนออกนำไปก่อน ในนาทีที่ 34 โดยประตูของ จอร์ช เมอร์ฟี่ย์ แต่แล้วในนาทีที 85 อาร์แซน เวนเกอร์
กุนซือหน้าเหี่ยวแห่งค่ายปืนโตก็ได้ส่งเจ้าหนู วัย 18 ปี ลงสนาม และกองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ U-19 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการใช้สัมผัสแรกของตัวเองกับลูกฟุตบอลและใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น ในการยิงประตูตีเสมอ ให้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อลได้
ไม่เพียงแค่นั้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ เจ้าตัวมาบวกประตูเพิ่ม เป็นประตูที่สองของตัวเองและประตูที่สองของอาร์เซน่อล ทำให้ไอ้ปืนใหญ่ พลิกกับมาแซง นอริช ซิตี้ และจบเกมด้วย สกอร์ 2 ประตูต่อ 1 เขี่ยนอริช ซิตี้ตกรอบ 16 ทีม คาราบาว คัพ 2017

เจ้าหนู เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้ใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการ ตะบันประตูแรก ในการลงสนามชุดใหญ่ให้กับอาร์เซน่อล โดยประตูที่เขายิงได้ทำให้เข้าหนูคนนี้เป็นผู้ทำสถิติเป็นคนแรกที่เกิดหลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ เข้ามาคุมอาร์เซน่อลแล้วสามารถยิงประตูได้ ทำให้เป็นที่กล่าวขวัญของแฟนๆอาร์เซน่อลและเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่

ถูกปล่อยตัวจากเชลซี

อาร์เซน่อลได้ เซ็นสัญญาคว้าตัวเอ็นเคเทียห์ หลังจากที่เขาถูกปล่อยตัว จากทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เมื่อหน้าร้อน ปี 2015 โดยกองหน้าชาวอังกฤษ รายนี้ ได้เริ่มเล่นฟุตบอลให้กับทีมท้องถิ่นทางตอนใต้ของลอนดอน ก่อนที่จะถูก"สิงห์บลูส์"เชลซี ดึงตัวไปร่วมชายคา อะคาเดมี่ ในวัย 9 ขวบ แต่แล้วเดอะกันเนอร์สก็ได้จัดการเซ็นสัญญาฟรีกับเจ้าหนูรายนี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยเหตุที่ว่า เจ้าตัวไม่ได้รับทุนจากอะคาเดมี่สิงห์บลูส์ต่อไป

โดยเจ้าหนูเอ็นเคเทียห์ถูกรับเชิญมาร่วมฝึกกับทางไอ้ปืนใหญ่เพียงไม่กี่วัน ก่อนที่ทางสิงโตน้ำเงินครามจะประกาศปล่อยเจ้าตัวออกจากสโมสร และเขาใช้เวลาเพียง หนึ่งสัปดาห์ ในการทดสอบฝีเท้า และได้รับทุนการศึกษาจากอาร์เซน่อลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เกิดมาเพื่อทำประตู

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เป็นกองหน้าที่มีความเร็ว มีทักษะสูง และมีความเฉลียวฉลาดในการวิ่งทำลายแผงหลังของฝั่งตรงข้าม
อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ของอาร์เซน่อลได้ใส่ชื่อเขาเป็นตัวสำรอง ในศึกคาราบาว คัพ ในรอบสาม ที่เจอกับ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์สและมีการกล่าวถึง เจ้าหนูคนนี้ “ผมชื่นชอบการเคลื่อนที่อันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพของเขา การหาพื้นที่ว่าง ความแข็งแกร่ง ความมุ่งมั่นในจังหวะสุดท้าย และความทุ่มเทในการเล่นฟุตบอล” เวนเกอร์กล่าว

โดยเจ้าหนูวัย 18 ปีเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีม Arsenal U-18 โดยยิงประตูไปถึง 24 ประตู ใน 28 นัด ในฤดูกาล 2015/2016 และยิงประตุอีก 20 ประตู ในการลงสนามให้กับอาร์เซน่อล ทั้ง U-18 ตลอดจน U-23,เมื่อปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ดาวยิงคนใหม่ในอนาคต

เอ็ดดี้ ได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสรไอ้ปืนใหญ่เมื่อช่วงเดือน กันยายนของปีที่แล้ว แต่แล้วเวนเกอร์ก็ไม่รอช้าหนีบเอ็ดดี้ร่วมทีมเดินทางไปปรีซีซั่น เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยการลงสนามนัดแรกอย่างเป็นทางการของเจ้าหนูเอ็ดดี้ คือเกมที่ปืนใหญ่บุกไปเยือน บาเต้ โบริซอฟ ยอดทีม0kd เบลารุส ในศึกยูโรป้าลีก เมื่อท้ายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 89 ของเกม

ขณะที่ที่ผู้คนไปโฟกัสให้ความสนใจ สตาร์ของไอ้ปืนใหญ่ต้องการที่จะย้ายออกจากทีม นี่เป็นเครื่องเตือนความจำได้ว่า เหล่าเยาวชนของอาร์เซน่อลก็สามารถสร้างความประทับใจได้ ถ้าหากให้โอกาสพวกเขาเหล่านั้น ขณะที่เจ้าหนูเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หวังว่าเจ้าตัวจะมีส่วนร่วมกับทีมในรอบ 8 ทีม สุดท้าย ของศึกคาราบาว คัพ 2017 และทีมของเวนเกอร์อาจจะมาถึงรอบ 8 ทีมนี้ไม่ได้ หากไม่มีเจ้าหนูรายนี้






ของเขาดีจริงๆ...คอนเต้รับพอใจบรรดาดาวรุ่งอัดท็อฟฟี่ร่วงคาราบาว คัพ

อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ของเชลซี รู้สึกยินดีที่ได้เห็นทั้ง ชาลี มูซองดา,เคเนดี้ และอีธาน อัมปาดูโชว์ฟอร์มโหดในนัดที่เปิดบ้านอัดเอฟเวอร์ตันร่วงลีกคัพ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 1

โดยสองประตูที่เชลซียิงได้มากจาก อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ปราการหลักทีมชาติเยอรมัน และวิลเลี่ยน ปีกบราซิลเลี่ยนก็เพียงพอที่จะทำให้สิงไฮโซเปิดบ้านอัดท็อฟฟี่ร่วง กรุยทางเข้าสู้รอบ 8ทีมสุดท้ายของศึกคาราบาว คัพไปได้

โดยนัดนี้กุนซือชาวอิตาเลี่ยนของเชลซี ได้เปลี่ยนแปลงรายชื่อนักเตะ หลังจากนัดที่ชนะแตนอาละวาดมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้โอกาส อีธาน อัมปาดู ที่ลงสนามในนามชุดใหญ่ของสิงบลูเพียง 2 นัด ทำหน้าที่คุมเกมในแดนกลาง ขณะที่ ทางกราบซ้าย ใช้ ชาลี มูซองดา ยืนเป็นปีกซ้าย และ เคเนดี้ ยืนประจำเป็นวิงแบ็คซ้าย

หลังจากจบเกม คอนเต้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพอใจกับฟอร์มของ บรรดานักเตะดาวรุ่งที่ส่งลงไป “มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีมากๆ โดยเฉาพะในครึ่งแรก เราสามารถสร้างโอกาสในการทำประตูได้มากมาย” คอนเต้กล่าว “ในช่วงครึ่งหลังเราประสบกับปัญหาเล็กน้อย แต่มันเป็นเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อคุณต้องเจอกับทีมระดับอย่างเอฟเวอร์ตัน”

“เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่ดีและพึ่งเปลี่ยนผู้จัดการทีม ทำให้นักเตะของเขาต้องพยายามที่จะงัดศักยภาพของตัวเองออกมา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่อันตรายสำหรับเรา”

“แต่ตัวผมเองก็มีความสุขอย่างมากที่วันนี้ได้เห็นสิ่งดีดีมากมาย ผลงานของบรรดาดาวรุ่งทั้ง มูซองด้า,เคเนดี้ อัมปาดู ที่พึ่งจะอายุ 17 ปีเท่านั้น โชว์ผลงานได้ดีในสนาม”

“มันเป็นเรื่องสำคัญนะที่ต้องเชื่อมั่นใจตัวพวกเขาและผมก็มีความสุขกับพวกเขามาก เพราะว่าได้คำตอบคือฟอร์มการเล่นที่ดีจากพวกเขา นั่นเป็นคำตอบที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอชม และเรายังได้รับข่าวดี ที่ได้เห็น แดนนี่ ดริ้งค์วอเตอร์ลงสนามด้วยเช่นกัน”

“ผมคิดว่ารูปแบบเกมในรูปแบบนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุน้อยที่กำลังพัฒนาควรจะดูอัมปาดูในคืนนี้ว่ามันสำคัญ เพราะว่าเรามีผู้เล่นเยาวชนที่เราสามารถพัฒนาเป็นจำนวนมากและให้โอกาสพวกเขาได้”

“ผู้เล่นเยาวชนเหล่านี้ต้องการที่จะปรับปรุงและทำงานผ่านทางด้านของการซ้อมของทีม ผมมีความสุขมาก" คอนเต้กล่าว

โดยศึกคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะมีการจับติ้วทีม ในวันพฤหัสบดี ที่ 26 เวลา 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

ฮีธาน อัมปาดู






























เพื่ออนาคต...ลียงจับนายด่านดาวรุ่งเซ็นสัญญาอาชีพ

อองโธนี่ ราช็อปปี้ นายด่านดาวรุ่งวัย 18 ปี เซ็นสัญญาอาชีพ ฉบับแรกกับสโมสร โอลิมปิก ลียง ยอดทีมของฝรั่งเศสแห่งศึก ลีกเอง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามการรายงานของ เดอะ โรห์น คลับ โดยนายด่านดีกรีทีมชาตฺสวิสเซอร์แลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 20ปี เซ็นสัญญา 3 ปี โดยสัญญาจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2018

มือกาวดาวรุ่งรายนี้ ได้ลงสนามในฤดูกาลในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 3 เกม ให้กับทีมสำรองของ โอลิมปิค ลียง โดยที่หวังว่าจะได้เป็นนักเตะมืออาชีพในอนาคต

“ผมมีความสุขและภาคภูมิใจในการลงสนามในนามของสโมสรแห่งนี้ แต่ก่อนไปถึงจุดนั้น ผมจะต้องฝึกซ้อมให้มากขึ้นให้มากเท่ากับที่มืออาชีพเขาฝึกซ้อมกัน ผมอยู่ในช่วงที่กำลังก้าวหน้าในอาชีพ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้” นายด่านชาวสวิส กล่าว











สิงห์หนุ่มโดนยาสลบ!เลเวอร์ฯฟอร์มแรง โดนก่อนพลิกชนะ 1-5


วลีที่ว่าใส่ก่อนได้เปรียบไม่เป็นจริงก็วันนี้นั่นแหละ ด้วยการที่”สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคที่นำการคุมทีมโดย ดีเตอร์ เฮคกิ้ง ผู้จัดการทีมฝีมือดี เปิดบ้านโดน “ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นของ ถล่มเละเทะ คาถิ่น โบรุสเซีย ปาร์ค สนามเหย้าของตนเอง ทั้งๆที่ฝ่ายสิงห์หนุ่มเองเป็นฝ่ายออกนำก่อน ในช่วงครึ่งเวลาแรก แต่ครึ่งหลัง ฝ่ายห้างขายยาแก้เกมมาโดย ไฮยโก้ แฮริค ยิงคืน 5 ประตูรวด ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 9 ของตาราง บุนเดสลีก้า เยอรมัน ฤดูกาล 2017/2018


เปิดฉากเริ่มเกมขึ้นมาเจ้าถิ่นได้ประตูแรก ในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ ธอร์กอง อาชาร์ เติมเกมขึ้นมาทางกราบขวา ได้รับบอลแจกแดนกลาง แล้วเปิดบอลครอสเข้าไปในกรอบเขตโทษ เป็นฟาเบียน จอห์นสัน วิ่งเข้ามาชาร์จ เป็นประตู ออกนำให้เจ้าถิ่น 1 -0 จบครึ่งแรกด้วย สกอร์ที่เจ้าบ้านได้เปรียบ นำอยู่ 1-0

เริ่มเกมในครึ่งหลังด้านของไฮยโก้ แฮริค แก้เกมด้วยการส่งยูเลี่ยน บรันดท์ ลงมา ถอดเอาอลาริโอ้กองหน้าของทีมออกไปพัก

ในนาทีที่ 48 ของ ไค ฮาเวิทส์ เปิดมุมฝั่งขวาเข้าไป แยนน์ ซอมเมอร์ มือกาวของสิงห์หนุ่ม ออกมาไม่โดนบอล บอลไปเข้าพิกัดของ สเวน เบนเดอร์ จิ้มบอลเข้าไป ทีมเยือนตีเสมอ 1-1

อีก 11 นาทีต่อมา นาทีที่ 59 ทีมเยือนได้ประตูออกนำเป็น 1-2 เมื่อจังหวะที่ ฮาเวิทส์จ่ายบอลขึ้นมาทางกราบขวาให้ ลีออน ไบลี่ ลากตัดเข้ามายิง บอลโค้งๆ เสียบเสาสองสุดสวยทำให้ทีมยืนพลิกกลับมานำเป็นครั้งแรกของเกม

ไม่กี่อึดใจอีก 2 นาทีต่อมา ยูเลี่ยน บรันดท์ที่พึ่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งเวลาหลัง บวกสกอร์ให้ทีมเพิ่มเป็น 1-3 จากจงหวะที่ ไค ฮาเวิทส์ ตัดเกมตรงกลางได้ จ่ายทะลุช่องให้ ยูเลี่ยน บรันด์ ที่วิ่งมาทางกราบซ้าย ส่งบอลลอดขาซอมเมอร์เข้าไป อย่างหมดจดนับเป็น แอสซิสต์ที่ 3 ในเกมนี้ของกองกลางอนาคตไกลรายนี้

ในนาที่ที่ 69 ทีมเยือน ได้ประตูออกนำเป็น 1-4 จังหวะที่ เวนเดลล์ แบ็คซ้ายทีมเยือน จ่ายคิลเลอร์พาส ตัดแนวรับของ สิงห์หนุ่ม ให้กับ เควิน โพลลันด์หลุดเดี่ยว ซัดด้วยอีซายเข้าไป
ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 81 ยังมีอีก1 ประตู จังจังหวะสวนกลับขึ้นมาทางกราบซ้ายเป็นยูเลี่ยน บรันดท์ สปีดขึ้นไปควบบอล แล้วตบกลับมาบริเวณกรอบ 6 หลา ให้โยแอล โบห์ยานพาโลแท็ปอินง่ายๆเข้าไป ทีมเยือน ออกนำ 5 ประตูต่อ 1

จบเกมทีมเยือน ลูกทีมของ ไฮยโก้ แฮริค บุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับกลัดบัค ถึงถิ่น โบรุสเซียปาร์ค 1-5 ทำให้ทีมของพวกเขาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9 ของาตาราง บุนเดสลีกา เยอรมัน 2017/2018


โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 1 – 5 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ประตู:1-0 ฟาเบียน จอห์นสัน น.7,1-1 สเวนอ เบนเดอร์ น.48,1-2 ลีออน ไบลี่ น.59,1-3 ยูเลี่ยน บรันดท์ น.61,1-4 เควิน โฟลลันด์ น.69,1-5 โยแอล โบห์ยานพาโล น.81

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (4-4-2):แยนน์ ซอมเมอร์,นิโก้ เอลเวดี้,มาธิอัส กินเตอร์,ยานนิค เวสต์เทอร์การ์ต,ออสก้า เวลดท์-ธอร์กอง อาร์ซาร์,เดนนิส ซากาเรีย,ไมเคิล คุยแซง (โยนาส ฮอฟแมน น.66),ฟาเบียน จอห์นสัน (อิบราฮิมม่า ตราโอเล่ น.65) -ลาร์ส สตินเดิ้ล (แพทริก แฮร์มันน์ น.84),รัฟฟาเอล

นาโปลี(4-4-1-1):แบร์ เลโน่,พานาจิโอทิส เรทซอส,โจนาธาน ทาห์,สเวน เบนเดอร์,เวนเดลล์-เควิน โพลลันด์ (โยแอล โบห์ยานพาโล น.79),ยูเลี่ยน บอมการ์ตลิงเกอร์,ลาร์ส เบนเดอร์,ลีออน ไบลี่(คาริม เบลลาราบี้ น.84)-ไค ฮาเวิทส์-ลูคัส อลาริโอ้ (ยูเลี่ยน บรันดท์ น.46)

สรุปได้คนแปลรึยังครับ

ยังครับ ไม่ผ่าน และ ไม่เข้าตาซักคนเลย