[รีวิวสั้น] Manchester by the sea (สปอยล์บางๆ)
"ปี 2017 ผ่านมาแค่สองเดือน แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่า Manchester by the sea จะเป็นหนังที่ดีที่สุดในปีนี้สำหรับตัวเอง"
ก่อนหน้านี้ไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับหนังเลย ไม่รู้แม้แต่พล็อตเรื่อง ที่น่ารันทดสุดคือ คิดว่าเป็นหนังอังกฤษที่มีโลเคชั่นในเมืองแมนเชสเตอร์ (ซึ่งจริงๆ แล้ว Manchester-by-the-sea เป็นชื่อเมืองติดทะเลเมืองนึงในรัฐแมสซาชูเซตต์ สหรัฐอเมริกา)
บรรทัดต่อไปนี้อาจเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน แต่ไม่ลงลึกรายละเอียดใดๆ ถ้าท่านเคยอ่านเรื่องย่อจากเว้บอื่นมาแล้วก็สบายใจได้ สปอยล์แค่นั้นแหละครับ แต่ถ้าอ่านๆ ไปแล้วเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ขอให้หยุดไปดูหนังก่อนแล้วค่อยมาคุยกันนะครับ
Manchester by the sea เป็นเรื่องราวชีวิตของ Lee Chandler ชายวัยกลางคนที่ถูกความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวในชีวิตเล่นงานจนชีวิตพังพินาศ ครอบครัวแตกแยก ตัวเขาเองกลายเป็นคนซึมเศร้า แปลกแยกจากสังคม ใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไร้จุดหมาย จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดความพลิกผันขึ้นอีกครั้งในชีวิต เมื่อพี่ชายแท้ๆ ของเขาเสียชีวิตลง ภาระการเป็นผู้ปกครองให้หลานชายจึงตกมาที่เขาแบบไม่ได้ตั้งตัว
"ชีวิตตัวเองยังไม่เห็นค่า แต่ดันต้องมาดูแลอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเติบโต"
ผมชอบไอเดียนี้มากๆ ตัวเองมีพลังชีวิตเหลือแค่ประคองตัวไปได้วันๆ แต่ดันต้องมาจัดการชีวิตทั้งชีวิตของหลานชายแท้ๆ ไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำ แล้วต้องทำให้ดีที่สุดด้วย
ความสวยงามของหนังเรื่องนี้จึงอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างอาหลาน (รวมไปถึงตัวพระเอกกับสังคมรอบข้างด้วย)
แต่จุดที่ผมชอบที่สุดคือตัวละคร Lee Chandler
ในช่วงแรกตัวละคร Lee Chandler อยู่ในโลกที่ซึมเศร้าของเค้าแบบไร้จุดหมาย จนเมื่อเกิดเหตุขึ้น เขาถูกภาระความรับผิดชอบดึงกลับไปยังสังคมที่เขาเคยอยู่ คนที่เคยมีอาการซึมเศร้าอาจจะพอเข้าใจความรู้สึกที่ว่า "โลกของคนปกติ" กับ "โลกของเรา" มันมีเส้นบางๆ กั้นไว้ แต่น่าแปลกที่เราพยายามเท่าไหร่ก็ข้ามเส้นนั้นไปไม่ได้ เราใช้ชีวิตแบบปกติ เราพูดคุย เล่นหัว ยิ้มและหัวเราะแบบปลอดโปร่งเหมือนคนอื่นไม่ได้
Casey Affleck แสดงเป็นคนหัวใจสลาย แปลกแยกจากสังคมได้แบบไร้ที่ติ ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ คือ ถึงจะเล่นน้อย แต่เราสัมผัสได้ว่า เขาต่อสู้กับความคิดตัวเองหนักขนาดไหนเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้หลานชาย
ออสการ์ดารานำชายของ Casey เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
แต่จะเหมาะสมยิ่งกว่านี้ ถ้า Manchester by the sea จะได้ออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปพร้อมกัน!!
สรุป 9/10 ครับ
ปล. จริงๆ แล้วหนังมีรายละเอียดด้านอารมณ์เยอะกว่านี้ แต่ไม่อยากสปอยล์เลยเลี่ยงที่จะพูดถึง ลองหาโอกาสไปดูเองจะดีกว่าครับ