เพิ่งออกจากโรงสดๆ ร้อนๆ คงเพราะเพิ่งได้ออสการ์ไปเมื่อตอนกลางวัน รอบที่ผมดูถือว่าคนเยอะใช้ได้




ถามว่าชอบมั้ย ก็คงต้องบอกว่าค่อนข้างชอบ ถึงจะไม่ได้อินกับเรื่องราวของคนผิวสีเท่าไหร่

Moonlight เป็นหนังสไตล์เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่เร้าอารมณ์คนดู แต่โอเคเลยนะ ไม่น่าเบื่อ

ต้องยอมรับว่าผกก.เล่าเรื่องเก่ง ตลอดความยาวหนังเค้าร้อยเรียงเรื่องราวได้เนียนกริ๊บ ไม่มีอารมณ์สะดุดเลย แถมภาษาภาพ (รวมถึงสัญญะในหนัง เท่าที่ผมจับความได้) ก็ทำได้แบบกลมกลืนไปกับเรื่อง

แล้วมันก็ไม่ใช่หนังเกย์จ๋า เป็นประเภททำน้อยแต่ได้มาก มีจุดนึงในหนังที่ดูจบแล้วติดหัวออกมาจากโรง ผมรู้สึกว่ามันคือความสวยงามของหนังเรื่องนี้เลย (มันไปขมวดเอาท้ายเรื่อง ไปดูเอาเองนะครับ)




พอดูเรื่องนี้จบก็ลองมาประมวลผลร่วมกับหนังชิงออสการ์เท่าที่ดูไป ปรากฏว่าผมก็ยังชอบ Arrival ที่สุด รองลงมาคือ La La Land

โทนหนังของ Moonlight อาจจะเทียบได้กับ Hell or High Water คือเล่าไปเรื่อยๆ แต่เอาคนดูอยู่ ซึ่งผมก็ชอบเรื่องหลังมากกว่า (เดาว่า Manchester by the Sea ก็คงประมาณสองเรื่องนี้) ส่วน Hacksaw Ridge กับ Hidden Figures ส่วนตัวคิดว่ามันฮอลลีวู้ดมากๆ

จะด้วยความดีงามของหนังเอง หรือจะประจวบเหมาะกับที่สังคมอเมริกาอยากจะตะโกนอะไรบางอย่างออกมา เลยหยิบยืมหนังเรื่องนี้เป็นโทรโข่ง สุดท้าย มันก็คือหนังออสการ์ประจำปีนี้ ซึ่งก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรเลย




ปล. ชอบเพลงเก่าที่หนังใช้มาก โคตรเพราะ

ลุงตู้ไม่ให้คะแนนเหรอ

รีวิวได้ดีครับ

7.99/10 ละกันครับ 55555


Hidden Figures 7.75/10

ยังไม่ได้ดู hidden เลยอ่ะสนุกมั้ยครับ

ชอบแบบนี้ใช่มั้ย เสยเข้าไป เสยเข้าไป

บ้าาาา เฮลลออไฮ หนุกกว่าเยอะ

ยิ่งแมนซิตี้ ต้องดูเลยฮะ ไม่เหมือนมูนไลท์แน่นอน

เรื่องนี้มันเป็นสไตล์หนังซันแด๊นชัดๆ ไม่ออสกาเลยย

ผมไม่ถูกจริตอย่างแรง

บางคนเอาไปเทียบ กับหนังหว่อง กับบอยฮูด

แต่ผมว่าความรู้สึกต่างเยอะเลย

อย่างบอยฮูด ผมโคตรชอบ แต่เรื่องนี้....

(ว่าแต่ เจออองรีรับเชิญมั้ยฮะ อิๆ)

ก็เป็นหนังดีนะครับ แต่ผมไปคาดหวังผิดทางไปหน่อย

คือในเรื่องมันเล่นได้สองประเด็น คือเรื่องการเหยียดผิว กับเรื่องความเก่งกาจอัจฉริยะของผู้หญิง

ผมชอบหนังที่ตัวละครเก่งๆ แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้ชูประเด็นเหยียดผิวกับการต่อสู้มากกว่า ประมาณ 70/30 เลยแหละ เลยผิดคาดไปหน่อย

แต่ก็สนุกดีนะครับ

keyabingo มาล้าวววว

อย่ามาโชว์ความติ่ง


มีอองรีด้วยเหรอครับ มันคนดำทั้งเรื่องเลยอ่ะ บางทีก็รู้สึกว่าหน้าคล้ายกันไปหมด

เช่าบน iTunes US แล้วเพราะคิดว่าคงไม่มีเวลาไปดูโรงแน่ๆ

แต่คิดอยู่ว่าจะดูวันนี้เลยดีมั้ย หรือจะเก็บไว้ดูวันอื่น เพราะตอนนี้อารมณ์พังมาก เพิ่งดู Manchester by the Sea รอบที่สองจบ ตามด้วย In America ดูแต่หนังพังๆ ติดกันรัวๆ 555

Spoil

แต่นี่ชอบ Manchester by the Sea มากเลยนะ อวย! อวย! อวย!

ตั้งแต่ปีที่แล้วในซันแดนซ์ พอดีมีคนในแวดวงหนัง(อินดี้)ที่เคย(บังเอิญได้)คุยนิดหน่อยไปงานพอดี แล้วเค้าอวยเรื่องนี้มาก เลยทักไปคุยอีกรอบ แล้วพี่แกคงอารมณ์ดีเลยตอบมาแบบอวยๆ อีก ก็ได้ความว่าหนังจะเข้าช่วงธันวา

ปรากฏช่วงธันวาไม่เข้าไทย เราก็คิดว่าอาจจะไม่เข้าแล้ว เลยบิทดูโลด 55555555

ชอบ Lucas Hedges แบบอวยๆ (หัวเราะ) ถึงเคซี่จะเป็นแกนกลางของเรื่อง เป็นเจ้าของบรรยากาศซึมเศร้า แต่เราว่าลุคเป็นอะไรที่มีความหมายมาก เหมือนมันทำให้เรื่องกลมกล่อม อีกคนที่ชอบก็ภรรยาเก่าของลี ตอนที่พูด "My heart was broken, and I know yours is broken, too" นี่คือสะเทือนจริงจัง

เมื่อกี้ Manchestery by the Sea อีกรอบ (กด iTunes) แล้วอยู่ๆ ก็นึกถึง In America (หนังเก่าปี 2002) ขึ้นมา เลยดูต่อกันเลย ดูจบนี่เหมือนอารมณ์พังมาก ช่วงเวลาแห่งความซึมเศร้า แต่ดูเหมือนเราจะชอบแนวนี้จริงๆ 555  

ฮิดเด้นยังไม่ได้ดูเลย เป็นไงบ้างฮะ

ชอบmanchesterกว่า
อันนั้นน่าจะอินกว่า