12 ดาร์บี้แมทช์หยุดโลก แห่งยุคปัจจุบัน
www.baahball.com/12 ดาร์บี้แมทช์หยุดโลก แห่งยุคปัจจุบัน
12. ดาร์บี้ ดิตาเลีย
อินเตอร์ มิลาน ปละ ยูเวนตุส คือสองทีมในอดีตที่มีศักดิ์ศรีและแชมป์สคูเดตโตคู่คี่กัน แต่ความขลังของคู่นี้ลดลงไปมากจากยุครุ่งเรืองที่ผ่านมา และดูจะเป็น ยูเวนตุส ที่ผลงานข่มกว่า แม้ต่างฝ่ายต่างเอาชนะกันยากทุกครั้งที่เจอกันก็ตาม
11. เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้
เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูล เจอกันเมื่อไหร่ก็ได้บรรยากาศของกองเชียร์ที่เป็นใจให้เกมคู่นี้สู้กันมันส์หยดและชนะกันยากในยุคหลังๆ แต่คงไม่ใช่เกมดาร์บี่้ที่ เบรนแดน รอดเจอร์ส จะปลื้มนักเพราะต้องสังเวยเก้าอี้หลังศึกดาร์บี้ไปในฤดูกาลนี้
10. แดร์ กลาสิกเกอร์
ความขลังของคู่ดาร์บี้แห่ง นอร์ธ ไรน์ เวสฟาเลน ยังคงมีอยู่แต่อาจไม่เข้มข้นเหมือนอย่างยุคก่อนหน้า เมื่อบุนเดสลีกา โหมให้ความสำคัญกับคู่ปรับคู่ใหม่ที่เพิ่งจะขยับขึ้นมาเป็นคู่ทาบรัศมีในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา
แดร์ กลาสสิกเกอร์ เพิ่งจะเผยตัวชัดในฤดูกาลนี้ว่าเป็นยุคของ บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ทั้งบรรยากาศในสนาม ศักดิ์ศรี ผลงาน และการลุ้นแชมป์ขับเคี่ยวเข้มข้นที่สุดโดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ แม้นัดล่าสุดจะพากันเสมอ 0-0 ก็ตาม
9. แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้
แมนฯ ซิตี้ เคยเป็นลูกไล่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคก่อนหน้า แต่เมื่อถึงยุคของอาหรับมันนี่ สีสันของเกมดาร์บี้แมทช์แห่งแมนเชสเตอร์ก็กลับมาเดือดน่าดูอีกครั้ง แต่การพบกันในนัดแรกของฤดูกาลนี้จัดว่ากร่อยจนน่านอนทั้งคู่ แม้ครั้งหนึ่งจะเคยเป็นเกมที่แฟนๆ ยูไนเต็ด จำไม่ลืมจากประตูชัยนาทีสุดท้ายของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี และเคยเป็นไฮไลท์แห่งฤดูกาลในการตัดสินการคว้าแชมป์เมื่อปี 2010 มาแล้ว
8. นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้
ว่ากันว่าดาร์บี้แมทช์ที่ดุเดือดที่สุดในกรุงลอนดอนยุคนี้ควรเป็นของ อาร์เซนอล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สองทีมไม่ว่าจะป้อแป้กันมาจากไหน แต่เมื่อเจอกันก็ใส่เต็มและมักจะจบด้วยผลเสมอแบบเกมสนุก ซึ่งก็เป้นผลดีกับ สเปอร์ส เมื่อพวกเขาทำผลงานดีในฤดูกาลนี้ ศักดิ์ศรีที่เคยเป็นรอง อาร์เซนอล ในช่วง 10 ปีก่อนจึงเริ่มจะกลับมาเขย่าทีมปืนใหญ่ได้มากในยุคนี้
7. มิลาน ดาร์บี้
หากเป็นช่วง 10 ปีก่อนที่ฟุตบอลอิตาลียังรุ่งเรืองสุดขีด อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน คือคู่ดวลที่เข้มข้นที่สุดของอิตาลี ทั้งความขลังของบรรยากาศและรูปเกมซึ่งต่างฝ่ายต่างก็เคยมีนักเตะชั้นนำของโลกอยู่ในทีมทั้งคู่ ซึ่งก็หวังว่าคงอีกไม่ช้าที่จะได้เห็นดาร์บี้แมทช์แห่งเมืองมิลานกลับมาเดือดอีกครั้งหากทั้ง 2 ทีมตื่นจากการเป็นยักษ์หลับ
6. เฟเนร์บาห์เช v กาลาตาซาราย
โหดสุดทั้งในและนอกสนามต้องยกให้คู่ดาร์บี้หมายเลข 1 ของ 2 ทีมมหาอำนาจแห่งฟุตบอลตุรกี ที่เตะกันนัดไหนไม่เคยไม่มีแฟนบอลตีกัน และไม่นัดไหนที่นักเตะจะออกสนามได้อย่างปลอดภัยหากเป็นเกมที่เจ้าบ้านเป็นฝ่า
5. โรม ดาร์บี้
อิตาลีขึ้นชื่อเรื่องศึกแห่งศักดิ์ศรีมาตลอดในการเจอกันของ 2 ทีมคู่ปรับ และดาร์บี้แมทช์แห่งกรุงโรมระหว่าง โรม่า และ ลาซิโอ ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเดือดของเกมทุกยุค และมักจะมีทายาทนักเตะสืบทอดความโหดต่อเนื่องทุกปี
4. เอล เดร์บี มาดริเลนโญ
เมื่อ แอตเลติโก มาดริด ไม่ใช่ทีมลูกไล่ของ เรอัล มาดริด อีกต่อไปในยุคนี้ เพราะมีศักดิ์ศรีเป็นแชมป์ ลา ลีกา เมื่อปี 2014 ก็ไม่จำเป็นที่พวกเขาต้องเกรงบารมีทีมราชันซึ่งท่าดีทีเหลวต่อเนื่องในยุคหลังๆ แต่หากเจอกันในเกมยุโรป ก็ยังคงเป็น เรอัล มาดริด ที่โชว์ความเก๋าทำได้ยอดเยี่ยมกว่าในนัดชิง ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ปีเดียวกัน
และในฤดูกาลปัจจุบัน ทีมชุดขาวก็เพิ่งจะเสียท่าแพ้ทีมตราหมีมาหมาดๆ 1-0 ด้วย
3. ศึกแดงเดือด
เพราะเป็น 2 ทีมที่มีแฟนบอลทั่วโลกมากที่สุด ศักดิ์ศรีและชื่อชั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล เมื่อเจอกันจึงมักจะมีไฮไลท์สำคัญทุกครั้ง แม้ยุคหลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาทีม จะไม่ได้เต็มไปด้วยความเก๋าและเกมป่วนประสาทมากเท่าในอดีตก็ตาม
แต่ที่น่าสนใจคือ เมื่อ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาคุมทีมปีศาจแดง แม้ผลงานโดยรวมจะย่ำแย่ แต่ก็พาทีมชนะหงส์แดงรวด 4 นัด สถิติ 100% และจะเป็นสถิติที่สร้างความตื่นเต้นในการเจอกันในศึก ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมแน่นอน
2. โบคา จูเนียร์ส v ริเวอร์ เพลท
ความเถื่อนอาจไม่พอสำหรับคู่ดวลคลาสสิคตลอดกาลของอเมริกาใต้ ไปกันที่ อาร์เจนตินา การเจอกันของ ริเวอร์เพลท และ โบคา จูเนียร์ส คือเกมที่โหดและห้ำหั่นกันมันส์เสนอในสนามด้วยพลังปลุกเร้าของสองกองเชียร์
1. เอล กลาสิโก
เมื่อทีมหมายเลข 1 ของโลก มาเจอกับคู่ปรับอันดับ 1 ตลอดกาล นี่ไม่ใช่แค่เกมที่ข่มและแข่งกันด้วยผลงาน แต่ยังมีเรื่องของวัฒนธรรมและความเป็นมหาอำนาจลูกหนังขับเคี่ยวกันอยู่ด้วย
10 ปีให้หลังมานี้ บาร์เซโลนา กลายเป็นทีมที่แทบจะเหนือกว่า เรอัล มาดริด ในทุก
ด้าน โดยเฉพาะความสำเร็จในการคว้าแชมป์ทุกรายต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่ เรอัล มาดริด ต้องยอมรับสภาพ และโดยเฉพาะในยุคนี้ พวกเขาต่างมีนักเตะเบอร์ 1 และ 2 ของโลก อย่าง ลิโอเนล เมสซี และ คริสเตียโน เป็นตัวชูโรง ก็ยิ่งกลายเป็นที่สุดของแมทช์หยุดโลกแห่งยุคปัจจุบันไปแล้ว
บทความอื่นๆ
+ 5 แข้งที่ย้ายมาเปลี่ยนชะตาของสโมสรไปตลอดกาล
+ ส่องเป้าหมาย 9 แข้งใหม่จิ้งจอกลุย UCL
+ 8 แข้งที่อาจกลายเป็นเวิลด์คลาสถ้าไม่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน
+ 8 สโมสรยักษ์หลับแห่งโลกลูกหนังปัจจุบัน
+ 7 แข้งดังที่ปฏิเสธ ข้อเสนอก้อนโตจากลีกมังกร
+ สถิติน่าทึ่ง ทีมเดียวในอังกฤษที่ไม่เคยแพ้ บาร์ซ่า
+ 10 แข้งที่ย้ายทีมตอนอายุ 16 ปี ค่าตัวแพงที่สุด
+ 5 แข้งที่เหมือนขี้เกียจ แต่จริง ๆ เทพชัด ๆ
+ 5 สถิติของเปเล่ ที่จะไม่ถูกทำลายโดย โด้-เมสซี
+ 8 แข้งหัวการค้า แววอาเสี่ยนอกสนาม
เครดิต: 90min.com