ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: คนเรา... หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2009
ตอบ: 5706
ที่อยู่: แกแล็คซี่ทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 08:53
การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ


การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ

ปรับธาตุดิน คือ การกินอาหารให้มีประโยชน์ งดกินอาหารแสลง เช่น ข้าวขาว ของหมักดอง ผงชูรส ของรสจัด ของทอด ปิ้ง ย่าง มันๆ เป็นต้น

ปรับธาตุน้ำ คือ การ ดื่มน้ำให้เป็นยา งดดื่มน้ำแสลง เช่น น้ำแช่เย็น น้ำแข็ง น้ำอัดลม เหล้า โซดา เบียร์ กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง ยาบ้า ยาเสพติด เป็นต้น

ปรับธาตุลม คือการ หายใจเอาอากาศที่บริสุทธิ์ งดสูดดม กลิ่นลมแสลง เช่น ควันบุหรี่ ควันพิษ กาว ทินเนอร์ เป็นต้น รวมถึงการนวดตัวให้เลือดลมเดินสะดวก ไล่ลมตามเส้น ไม่ให้ท้องผูก ขับถ่ายก่อน 7 โมงเช้าทุกวัน

ปรับธาตุไฟ คือ การ ปรับอารมณ์ให้ ปกติ เป็นทางสายกลาง ไม่เครียด ไม่หนักไปทางหนึ่งทางใดมากเกินไป ไม่เป็น “ โรคประหลาด 3 อาการ ” ปฏิเสธ, เอาเรื่องเอาราว, มีแต่คำถาม ? , ต้องมีสติรู้ตัว ยอมรับความจริง งดยึดติดกับคำพูดที่ว่า ฉันก็คือฉัน ใครจะทำไม ? นั่นคือคติของคนป่วย “ ฉันจะป่วย ใครจะทำไม ?”

การ กินข้าวกล้อง กินผักปลอดสารพิษ เป็นการ ปรับธาตุดิน
การ ดื่มยาสมุนไพร เป็นการ ปรับธาตุน้ำ
การ นวดตัวแผนไทย เป็นการ ปรับธาตุลม
การ ยอมรับ ความจริง เป็นการ ปรับธาตุไฟ


เมื่อปรับธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้แล้ว สุขภาพกาย สุขภาพใจ ก็จะดีขึ้นตามลำดับ จากหนักเป็นเบา จนทุเลาในที่สุด

http://chongmassage.tripod.com/four_thai.html


Spoil
การบูชาไฟและฝึกควบคุมธาตุสี่



ปกติมีวิธีฝึกธาตุสี่หลายวิธี บางท่านใช้ “คาถา” เป็นตัวนำ เช่น การฝึกธาตุสี่แบบฉบับของพระสังฆราชสุก (ไก่เถื่อน) ใช้คาถาเดินธาตุเป็นตัวนำ ทว่า นั่นก็เป็นเพียงหนึ่งวิธีของการฝึกธาตุสี่ ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถฝึกธาตุสี่ได้ ในบทความฉบับนี้ ขอเสนอการฝึกธาตุสี่ โดยเริ่มต้นจากการบูชาไฟ ซึ่งจะก่อให้เกิดธาตุไฟสะสมในร่างกายก่อน ดังนี้



๑) การบูชาไฟเพื่อเพิ่มพลังธาตุไฟในร่างกาย

เริ่มต้นจากการบูชาไฟ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ในบางท่านใช้ตะเกียงอาระตี ซึ่งมีผู้ประดิษฐ์ขึ้นในภายหลังแต่มีราคาแพง บางท่านใช้เทียนในการบูชาไฟ แต่บางท่านก็อาจดัดแปลงขึ้นมาในแบบของตนก็ได้ ขอให้สามารถบูชาได้อย่างเหมาะสม โดยบูชาไฟนี้ ทำโดยตรงต่อพระพุทธเจ้าก็ได้ ในสมัยโบราณตามบันทึกในพระไตรปิฎก ได้กล่าวถึงพระนิตยโพธิสัตว์หลายองค์ที่กระทำพิธีบูชาไฟต่อพระพุทธเจ้าเช่นกัน บางองค์ถึงขนาดใช้ผ้าพันตัวราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาตัวเองบูชาเลยทีเดียว การบูชาไฟเป็นเพียงวิธีการหนึ่งของการเรียนรู้เรื่องธาตุไฟเช่นเดียวกับการเพ่งธาตุไฟ, เพ่งดวงไฟ, เพ่งดวงอาทิตย์ หรือวิธีการเรียนรู้ธรรมชาติในแบบอื่นๆ อันเป็นพื้นฐานให้จิตมีกำลังมากพอ มีอินทรีย์กล้าแข็งพอที่จะรับธรรมะจากพระพุทธเจ้าต่อไปในภายภาคหน้า การบูชาไฟทำให้ได้ทั้งศรัทธา, วิริยะ, สติ, สมาธิและกำลังจิตเหลือแต่เพียงปัญญาเท่านั้น ที่อาจยังไม่รู้แจ้ง แต่ก็พร้อมเต็มที่ที่จะรับธรรมะจากพระพุทธเจ้า ดังนั้น พราหมณ์จำพวกหนึ่งก็นิยมกระทำกัน และพระพุทธเจ้าเองก็นิยมโปรดพราหมณ์ที่มีความตั้งใจกระทำด้วยเช่นกัน เมื่อกระทำถึงจุดหนึ่งแล้ว ธาตุไฟในร่างกายจะเพิ่มขึ้นมาก ถ้ามากเกินไป จะทำให้เกิดอาการ ธาตุไฟในร่างกายกำเริบ คือ มากเกินขีดจำกัดของสังขาร ต้องค่อยๆ หาวิธีจัดการต่อไป




๒) การปรับพลังธาตุไฟให้กลายเป็นธาตุลม

เมื่อรู้ตัวว่าธาตุไฟในร่างกายเริ่มมากเกินไปแล้วกำเริบแล้วคือ มีอาการของธาตุไฟกำเริบเช่น ความหุนหันพลันแล่น, ความคิดสว่างไสวฉับไว (แต่ยังไม่รู้แจ้ง), เกิดแผลร้อนในในปาก ฯลฯ เหล่านี้ เป็นอาการของธาตุไฟในร่างกายมากเกินไปจนกำเริบขึ้น ให้ฝึกปรับธาตุไฟในร่างกายให้ลดความร้อนลง ถ้าสามารถควบคุมความร้อนของธาตุไฟได้สำเร็จ จะเป็นคนที่มีจิตใจเย็นลง แล้วธาตุไฟในร่างกายก็จะเปลี่ยนสภาพเป็น “ธาตุลม” จากธาตุไฟจะดับลงเพราะดับความร้อนของใจได้ ธาตุไฟดับก่อเกิด “ธาตุลม” ต่อ ให้สังเกต อาการภายในร่างกายและรอบตัว มีสัญญาใดที่แสดงให้เห็นว่าธาตุไฟดับ ก่อเกิดธาตุลม เช่น อาการรอบตัวเคยร้อนอบอ้าวมากๆ พอเราฝึกสำเร็จ มีไหมที่กลายเป็นเย็นลงทันที โดยก่อนจะเย็นลงมีลมพัดมาก่อน ลมพัดเอาความหนาวเย็นมาแทนที่ นั่นอาจเป็นสัญญา บ่งบอกว่าการฝึกปรับธาตุไฟของเราสำเร็จเป็นธาตุลมแล้ว ช่วงนี้ ความคิดและพฤติกรรมของเราจะเปลี่ยนแปลงไปคือ จากเดิมสว่างไสว, ร้อนแรง, ใจร้อน ฯลฯ เหมือนไฟ ก็เป็นใจเย็นลง แต่ยังไม่นิ่ง จะคล้ายลมพายุก่อน คือ ว่องไว, หุนหัน, ผันผวนแปรปรวน, ไม่ยึดติด, ไม่มีรูปแบบ, ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน, ใสและมองไม่เห็น บางคนฝึกสำเร็จ ทำให้อยู่บนโลกนี้ ราวกับไม่มีคนรู้เห็นก็มี แต่คนจะรู้ได้จากการเคลื่อนไหว เพราะฤทธิ์จากธาตุลม นอกจากนี้ อาการร้อนในในร่างกายจะลดลง เป็นอาการธาตุลมแทนเช่น อาการลมเวียน, ลมปราณปั่นป่วน ซึ่งเราสามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงของธาตุในร่างกายได้ชัดแจ้ง



๓) การควบคุมธาตุลมจนก่อเกิดเป็นธาตุน้ำ

เมื่อเกิดธาตุลมในร่างกายแล้ว ทำให้เกิดความปั่นป่วนในร่างกายของเราไปจนถึงจุดหนึ่ง ให้ฝึกควบคุมการเคลื่อนไหวของธาตุลม คุมลมในอยู่ในกรอบ ไม่กระจัดกระจายฟุ้งซ่าน ไม่ปั่นป่วน เสมือนสร้างคลองให้น้ำไหลฉะนั้น เมื่อยามนั้น จะทำให้ความคิดไม่ฟุ้งซ่าน ไม่กระจัดกระจาย มีแนวทาง, มีทางเดิน, มีครรลอง “คลองธรรม” ของตน ให้สังเกตว่าธรรมชาติรอบตัวมีการเปลี่ยนแปลงด้วยหรือไม่ จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราฝึกควบคุมธาตุลมได้สำเร็จแล้ว เมื่อธาตุลมดับก่อเกิดธาตุน้ำ ส่งผลให้น้ำในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ เช่น อาจมีอาการน้ำมูกไหลมากกว่าปกติ, น้ำในร่างกายเพิ่มและล้นออกมาจากทวารใดทวารหนึ่งในเก้าทวาร ในรูปต่างๆ เช่น น้ำมูก, น้ำตา, น้ำลาย หรือแม้แต่การถ่ายท้อง ท้องเสีย ก็เป็นอาการหนึ่งของธาตุน้ำกำเริบ เมื่อถึงจุดนี้ ให้สังเกตธรรมชาติรอบตัวด้วย ลมจะเริ่มสงบลง แต่ “น้ำ” จะมาแทนที่ บางทีฝนจะตก บางทีเป็นน้ำค้าง, บางทีเป็นน้ำอื่นๆ



๔) การหลอมรวมธาตุน้ำจนก่อเกิดเป็นธาตุดิน

เมื่อธาตุน้ำในร่างกายมีปริมาณมากแล้ว จนก่อเกิดอาการธาตุน้ำในร่างกายกำเริบ ให้ฝึกต่อไป คือ ฝึกลอมรวมธาตุน้ำ ระลึกเหมือนว่าเรากำลังรวมน้ำกองหนึ่ง น้ำที่เหลวอยู่ ทำอย่างไร ของเหลว ของไหล จะกลายเป็น “ของแข็ง” คือ “ธาตุดิน” ได้ ต้องใช้จิตที่แน่วแน่มั่นคง ไม่หวั่นไหว มีขันติธรรม อดทนยอมรับสภาพต่างๆ ได้ดั่งดินที่รองรับได้ทุกสิ่ง เพื่อปณิธานหรืออุดมการณ์ของตน เมื่อทำจิตได้ดั่งแผ่นดินก็จะก่อให้เกิด “ธาตุดิน” จากพลังธาตุน้ำที่มีอยู่แต่เดิม ยามนี้ ร่างกายจะรู้สึกหนักแน่นขยับยากไม่ค่อยลื่นไหลดังก่อน แต่มั่นคง เข้มแข็ง ด้วยอุดมการณ์ของตน อุปมาเหมือนบุคคลเกิดธาตุไฟมีปัญญาสว่างไสว แต่ใจร้อนรีบเผยแพร่แนวคิด ทำให้เกิดปัญหาลุกลาม ต่อมาก็ปรับความร้อน ความใจร้อนลงได้ก็กลายเป็นฟุ้งซ่านบ้าง แต่ไม่ยึดมั่น เริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสิ่งต่างๆ แต่ไม่กล้าเผยตัวตน เป็นลมที่มองไม่เห็น จากนั้น เริ่มหา “ครรลอง” ที่จะมีแนวทางของตนในการดำเนินไป กลายเป็น “ธาตุน้ำ” จากนั้น จึงแนวแน่มั่นคงในอุดมการณ์ไม่หวั่นไหว แม้ได้รับการกระทบกระทั่งเสียดสีหรือแรงกดดันจากสังคม ที่ไม่เห็นด้วยกับการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ของตน ดังนี้ ก็ก่อกำเนิดธาตุดินได้ในท้ายที่สุด บุคคลย่อมสำเร็จตามปณิธาน



พิจารณาอาการเกิดดับของธาตุทั้งสี่

ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ และ ไฟ, ลม, น้ำ, ดิน หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป ไม่จีรัง ไม่เที่ยง ไม่อาจยึดได้ แปรเปลี่ยนได้สารพัน แท้แล้วไม่ต่างกัน มีธาตุพื้นฐานมาจากที่เดียวกัน แต่อาการเปลือกนอกต่างกันเท่านั้น เหมือนมีดินเหนียวก้อนหนึ่งจะปั้นให้เป็นอะไรก็ตามแต่ใจของเรา เมื่อใจเราเปลี่ยนแปลง ธาตุในร่างกายก็แปรปรวนตามนั้น ใจร้อนก็เกิดธาตุไฟ ใจแปรปรวนก็เกิดธาตุลม ใจลื่นไหลในคลองธรรม ก็เกิดธาตุน้ำ ใจแน่วแน่ในปณิธานอดทนอดกลั้นต่อการถูกกระทำ ก็เกิดธาตุดิน ดังนี้ จึงผันแปรได้ดังใจปรารถนา

การฝึกธาตุสี่แบบนี้ ให้ผลทั้งด้าน “อิทธิฤทธิ์” และ “ปัญญา” ซึ่งหากต้องการให้ผลมากทางปัญญาให้พิจารณามากๆ บ่อยๆ ให้แยบคาย รอบคอบ รอบด้าน ให้ละเอียดมากๆ ก็จะได้ปัญญาความรู้มาก หากประสงค์จะเน้นหนักไปทางอิทธิฤทธิ์มากๆ ให้เน้นกระทำให้มากโดยไม่ต้องเน้นการพิจารณา ก็จะทำให้เกิดมวลพลังธาตุพื้นฐานมากมาย แล้วแปรเปลี่ยนไปตามแต่ใจกำหนด ใจเป็นอย่างไร มวลพลังก็ก่อเกิดได้อย่างนั้น ไม่อาจยึดว่าจะต้องเป็นธาตุใดเสมอไป จากธาตุหนึ่งแปรเปลี่ยนไปเป็นอีกธาตุหนึ่งได้สารพัน



วิธีการฝึกธาตุสี่แบบนี้ค่อนข้างง่าย เพราะไม่ต้องใช้คาถา ไม่ต้องจดจำอะไรมาก ใช้การบูชาไฟเป็นจุดเริ่มต้นก็พอ และคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมไทยอยู่แล้ว เพราะคนไทยก็บูชาพระพุทธเจ้าด้วยไฟเหมือนกัน แต่ใช้ “ธูปเทียน” เป็นสำคัญ ในการบูชาไฟก็เพียงปรับรูปแบบเล็กน้อย ให้สามารถเห็นเปลวไฟของสิ่งที่บูชาได้ชัดเจน เช่น การใช้สำลีเป็นไส้ตะเกียง ใช้พาชนะที่สามารถถือได้ไม่ร้อนรองรับ แล้วใส่น้ำมันลงไป จุดไฟติดแล้วบูชา ก็สามารถบูชาไฟได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ปรับรูปแบบทำตามความเหมาะสม

ในการฝึกธาตุสี่นั้น จะส่งผลให้ธาตุสี่ในร่างกายเปลี่ยนแปลง เมื่อฝึกธาตุใด ธาตุนั้นจะเปลี่ยนแปลงตาม ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามแสดงว่า “ฤทธิ์ทางใจ” ยังไม่เกิด และเมื่อมีฤทธิ์ทางใจมากขึ้น ให้สังเกตดู ธรรมชาติรอบตัวจะเปลี่ยนแปลงธาตุในร่างกายของเราด้วย แต่ธรรมชาติรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงตามเรานี้ จะมีรัศมีวงกว้างขนาดไหน ขึ้นอยู่กับตบะ กำลังฤทธิ์ กำลังจิตของเราเอง ฝึกได้ฤทธิ์มาก ก็ส่งผลได้ไกลมาก ท้ายที่สุดนี้ ผู้เขียนขอให้ท่านแสวงหาครูบาอาจารย์แล้วเริ่มทดลองปฏิบัติพิสูจน์ด้วยตนเองเถิด

http://www.oknation.net/blog/buddhabath/2009/11/24/entry-3
 


4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


http://player.7msport.com/53754/index.shtml
ชีวิตคือนักพเนจรในระบบสุริยะ
Spoil
 
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2302
ที่อยู่: ใต้ดิน บนฟ้า
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 08:58
ถูกแบนแล้ว
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
ใครฝึกแล้ว โชว์ที
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ทีมดาวิใบเฟิร์น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 60869
ที่อยู่: สเปอร์ส&ชมรมคนรักหนัง&เนย
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:01
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
TaKaSuGi~ พิมพ์ว่า:
ใครฝึกแล้ว โชว์ที  




5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: แผลที่มีอยู่ ไม่เจ็บแล้ว แต่มันยัง จำได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Aug 2007
ตอบ: 4898
ที่อยู่: ใต้หลังคาแอนฟิว
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:04
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2302
ที่อยู่: ใต้ดิน บนฟ้า
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:06
ถูกแบนแล้ว
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
moowarn พิมพ์ว่า:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ  
เข้าใจอะไรผิดป่ะเนี่ย
มนุษย์ทุกคนประกอบด้วย ธาตุทั้ง4 ดินน้ำลมไฟ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: คนเรา... หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2009
ตอบ: 5706
ที่อยู่: แกแล็คซี่ทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:15
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
moowarn พิมพ์ว่า:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ  


สังเกตจากอาการของเราเองครับ เช่นกรณีดราม่าบอร์ดบอลนอก
ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมสูงมากๆก็แสดงว่าธาตุไฟกำเริบแล้วครับ

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


http://player.7msport.com/53754/index.shtml
ชีวิตคือนักพเนจรในระบบสุริยะ
Spoil
 
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ทีมดาวิใบเฟิร์น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 60869
ที่อยู่: สเปอร์ส&ชมรมคนรักหนัง&เนย
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:22
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
เกรียนจอห์นสัน พิมพ์ว่า:
moowarn พิมพ์ว่า:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ  


สังเกตจากอาการของเราเองครับ เช่นกรณีดราม่าบอร์ดบอลนอก
ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมสูงมากๆก็แสดงว่าธาตุไฟกำเริบแล้วครับ

 


ถ้าชอบดู 18+ ในบอร์ดวาไรตี้ละครับ ธาตุไร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 7105
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:23
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
ตอนปกติ สงบนิ่งดั่งดิน
ตอนเหงียน ร้อนแรงเหมือนไฟ
ตอนเสร็จ เย็นสบายเหมือนน้ำ
หลังจากนั้น...สงบนิ่งดั่งสายลม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Sep 2010
ตอบ: 5570
ที่อยู่: .
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:23
ถูกแบนแล้ว
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
โหสุดยอดครับ ผมเคยฝึกบังคับให้ธาตุลม

เดินตามครรลองเพื่อไปออกทางทวาร

ร้อยละ 90 ทำได้อย่างแม่นยำครับ

แต่มีบางครั้งอีกร้อยละห้า ผมสามารถทำให้ธาตุลม

กลายเป็นน้ำได้ครับ ปู๊ด แพร่ด ๆ ๆ ๆ

หรือบางครั้งอาจจะมีธาตุดินแล่บออกมาครับ


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: คนเรา... หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2009
ตอบ: 5706
ที่อยู่: แกแล็คซี่ทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:32
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
kalakasong พิมพ์ว่า:
เกรียนจอห์นสัน พิมพ์ว่า:
moowarn พิมพ์ว่า:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ  


สังเกตจากอาการของเราเองครับ เช่นกรณีดราม่าบอร์ดบอลนอก
ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมสูงมากๆก็แสดงว่าธาตุไฟกำเริบแล้วครับ

 


ถ้าชอบดู 18+ ในบอร์ดวาไรตี้ละครับ ธาตุไร  


ราศี ช่วงเวลา ธาตุ

ราศีเมษ 13 เมษายน – 13 พฤษภาคม ธาตุไฟ
ราศีพฤษภ 14 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน ธาตุดิน
ราศีเมถุน 15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม ธาตุลม
ราศีกรกฎ 16 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม ธาตุน้ำ
ราศีสิงห์ 17 สิงหาคม – 16 กันยายน ธาตุไฟ
ราศีกันย์ 17 กันยายน – 16 ตุลาคม ธาตุดิน
ราศีตุลย์ 17 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน ธาตุลม
ราศีพิจิก 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม ธาตุน้ำ
ราศีธนู 16 ธันวาคม – 13 มกราคม ธาตุไฟ
ราศีมังกร 14 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ ธาตุดิน
ราศีกุมภ์ 13 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคม ธาตุลม
ราศีมีน 14 มีนาคม – 12 เมษายน ธาตุน้ำ

ด้านบนคือธาตุหลักตามธรรมชาติของแต่ละคนครับ เกี่ยวเนื่องกับช่วงเวลาที่โลกกระทำกับสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาในฤดูกาลนั้นๆครับ

ส่วนเรื่องบ้ากามมาจากธาตุอะไร ส่วนตัวคิดว่าเป็นธาตุไฟกำเริบก่อน จากนั้นธาตุลมก้แปรปรวณครับ แก้ไขได้ด้วยการละจากสิ่งที่กระตุ้นให้ธาตุกำเริบ แล้วทำอาณาปานสติกำหนดรู้ดูลมหายใจเพื่อให้เราตื่นจากโมหะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


http://player.7msport.com/53754/index.shtml
ชีวิตคือนักพเนจรในระบบสุริยะ
Spoil
 
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: เอานมมา .. เอาแผล่บไป ♥♥
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Oct 2013
ตอบ: 6670
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:36
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
moowarn พิมพ์ว่า:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ  




http://osodstarn.blogspot.com/2014/03/blog-post.html
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: "I'm GUNNER"
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Aug 2008
ตอบ: 18964
ที่อยู่: ปาปัวนิวกีนี
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 09:52
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
ผมธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินครับ...
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: Searching heavens for another earth
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 54994
ที่อยู่: Fox River State Penitentiary. Joliet , Illinois.
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 10:21
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
ดูตามราศีบอกธาตุลม แต่เคยดูที่นึงวันเกิดบอกธาตุไฟ(อาทิตย์ 30 มิ ย)

งง เฟ้ย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: คนเรา... หว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2009
ตอบ: 5706
ที่อยู่: แกแล็คซี่ทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 11:01
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
sukiojenny พิมพ์ว่า:
ดูตามราศีบอกธาตุลม แต่เคยดูที่นึงวันเกิดบอกธาตุไฟ(อาทิตย์ 30 มิ ย)

งง เฟ้ย  


ที่ไม่เหมือนกันเพราะเป็นโหราศาสตร์คนละระบบครับ โดยโหราศาสตร์ที่ใช้จักรราศีจะมี 2 ระบบหลัก ได้แก่

1. ระบบสายนะ (Tropical Astrology) เป็นระบบที่เปลี่ยนราศีประมาณวันที่ 21 ของแต่ละเดือน คือ ซึ่งเป็นระบบที่โหราศาสตร์ตะวันตกนิยมใช้กัน รวมถึงโหราศาสตร์ยูเรเนียนด้วย เป็นระบบที่อ้างอิงฤดูกาล เช่น 21 มีนาคม อาทิตย์จะเข้าราศีเมษ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของซีกโลกเหนือ เป็นวันที่แนวโคจรของดวงอาทิตย์ (รวิมรรค) ตัดกับแนวศูนย์สูตรของโลก เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้จะเริ่มผลิใบออกดอก เปรียบเสมือนการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ราศีเมษจึงให้ความหมายว่าเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆครับ

2. ระบบนิรายนะ (Sidereal Astrology) เป็นระบบที่เปลี่ยนราศีประมาณวันที่ 13-15 ของแต่ละเดือน มาจากการอ้างอิงจักรราศีกับกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า (Sidereal แปลว่าเกี่ยวกับดวงดาว) นั่นคือ เริ่มราศีเมษเมื่ออาทิตย์โคจรเข้ากลุ่มดาวฤกษ์ราศีเมษ ระบบนี้นิยมใช้ในโหราศาสตร์ฝั่งตะวันออก เช่น โหราศาสตร์อินเดีย โหราศาสตร์ไทย ฯลฯ

หลายพันปีก่อน เมื่อเริ่มมีวิชาโหราศาสตร์ขึ้นมา จุดเริ่มต้นราศีเมษของทั้งสองระบบเป็นจุดเดียวกัน ต่อมา การควงส่ายของการหมุนรอบตัวเองของโลก ทำให้จุดเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิกับจุดเริ่มต้นดาวฤกษ์ราศีเมษเคลื่อนออกจากกัน (ระยะห่างนี้เรียกว่า อายนางศ) และจะมีการขยับห่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างช้าๆเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ โหราศาสตร์ทางฝั่งกรีกได้ยึดระบบสายนะ ส่วนระบบที่มายังอินเดียและเผยแพร่มายังโหราศาสตร์ไทยยึดระบบนิรายนะ

แม้ว่าทั้ง 2 ระบบจะมีจุดเปลี่ยนราศีต่างกัน แต่พบว่าการพยากรณ์ทั้ง 2 ระบบก็ให้ความแม่นยำเช่นเดียวกัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อความแม่นยำจะมาจากความรู้ของตัวผู้พยากรณ์มากกว่าหลักวิชาครับ

สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ทางโหราศาสตร์ ก็ไม่ต้องสับสน เวลาอ่านคำพยากรณ์ก็ดูว่าผู้พยากรณ์ระบบว่าวันไหนเป็นราศีอะไร ก็อ่านตามนั้นครับ

อ้างอิงจาก:
http://www.horauranian.com/selected-astrology-forum/sun-sign-difference.html  
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


http://player.7msport.com/53754/index.shtml
ชีวิตคือนักพเนจรในระบบสุริยะ
Spoil
 
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: ท้องฟ้าสีเทา กับไดโนเสาร์กินแมว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1327
ที่อยู่: มุมมืด ปล.มืดจริงๆนะ
โพสเมื่อ: Sat Aug 02, 2014 12:36
[RE: การปรับธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ]
kalakasong พิมพ์ว่า:
เกรียนจอห์นสัน พิมพ์ว่า:
moowarn พิมพ์ว่า:
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราธาตุอะไรครับ  


สังเกตจากอาการของเราเองครับ เช่นกรณีดราม่าบอร์ดบอลนอก
ถ้าเรามีอารมณ์ร่วมสูงมากๆก็แสดงว่าธาตุไฟกำเริบแล้วครับ

 


ถ้าชอบดู 18+ ในบอร์ดวาไรตี้ละครับ ธาตุไร  

แรกๆจะเป็นธาตุไฟ(ราคะ) หลังจากนั้นเราจะควบคุมให้กลายเป็นธาตุน้ำ(ุพุ่งออกมา)
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel