ลงชื่อไว้ อ่านพรุ่งนี้

25หน้า

ทันแล้วกู

25 แล้วโว้ยยยยย

เอาที่ประเมินเอาเอง ก็เป็นการอัดอั้นจากแต่ละจุดที่ทำให้เกิดทํศนคติลบๆต่อกัน
จากประเด็น ซึ่งผมก็มองเรื่องการตีความจากการสื่อสาร จนเกิดการแชทถาม ให้เข้าใจว่าทำงานกับที่นี่
เพราะการที่น้องเขาพาดพิงSSด้วย ถ้ามันไม่เป็นการกรอบข้อมูลบนกระดาษ เราจะเชื่อกันแบบเลือกข้างแบบนี้หรอ
แต่ถ้าใช้เป็นการสัมภาษณ์ ไอ้คนถามก็คงจะขำได้ที่เกิดปมอะไรกันแบบนี้

ผมว่าน้องเขาไม่คาดคิดกับการบานปลายในแต่ละเรื่องที่ก่อเครดิตลบๆกับตัวเขาเองนะ
ไอ้เรื่องมั่นใจในผลงานที่ทำ มันเรื่องปกติมาก เราเจอคนพวกนี้กันได้เรื่อยๆ
แต่กับเรื่องเกณฑ์คนมาโหวต กับจุดให้คนด่า ผมว่าจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แม้เรื่องหลังเขาจะเป็นถึงเวบมาสเตอร์ด้วยก็ตาม
ผมว่าประสบการณ์ชีวิตเขายังน้อยละ และการถูกวางให้เป็นผู้นำในสายตาคนฝั่งของเขา
นั้นก็เป็นเรื่องที่เขามองว่าควรจัดการความพอดีออกมาแบบไหน

น้องจัดการฝั่งของน้องเถอะนะ ยุติอะไรต่ออะไร ถ้าคิดจะเริ่มอะไรใหม่ๆ ปมเล็กๆน้อยๆแยกแยะเป็นเรื่องๆ ตัดสินใจวางเอา ถือมากไปก็เท่านั้น อนาคตน้องมีอะไรให้ถืออีกเยอะ

เป็นคนนอกขออยู่เงียบๆดีกว่า

เราเคยรู้จักกันหรือเปล่าครับ

มาเสพด้วย

ขอเผือกด้วย

ตามนี้ครับ เรื่องสมัครงานเเล้วจะพูดยังไงผมนี่ไม่สนใจ มันไม่ใช่ประเด็น
"ประเด็นหลัก"อยู่ที่เรื่องการลากคนอื่นมาด่าครับ.. มาด่าไม่เท่าไหร่ เเต่ด่าพ่อล่อเเม่จี้ปมครอบครัว (อันนี้ผมเห็นกับตาเพียงเเต่ไม่ใส่ใจจะเเคปเก็บไว้เป็นหลักฐาน)
ส่วนเรื่องการเขียนบทความอวยหรือไม่รับความคิดเห็นคนอื่นก็เเค่ "ประเด็นรอง" อยากให้ถือซะว่าชี้เเนะ ติติง น้องเค้าให้รับฟังไว้จะได้พัฒนาตัวเองด้วย ว่าอันที่จริงเเล้วน้องเค้าเก่งครับ ฝีมือดี ผมอ่านบทความเค้าบ่อยเลยล่ะ

ทีนี้คนส่วนใหญ่ที่นี่ เค้าพูด"ประเด็นรอง"กันมากหน่อย เพราะ "ประเด็นหลัก"มันยังอ่อนในเชิงหลักฐานครับ

ตามทันจนได้
อ่านจนปวดตา เหมือนจะมีแตกประเด็นไปเรื่องอื่น

ในสายตาผมนะ ประเด็นหลักในตอนปัจจุบันทีพี่เบนเปิดขึ้นมา คือ มึงเอาชื่อเวปกูไปแอบอ้าง
ส่วนขยายก็คือ ทั้งที่มึงเคยไปด่ากูไว้ ผมเข้าใจตามนี้นะ

โตแล้วนึกว่านิสัยจะเปลี่ยน

ก็แค่เปลี่ยนจากเกรียนเห่อหมอย เป็นเกรียนแบบมีวุฒิภาวะ

นั่งเฝ้า จนเช้า ก็ยังไม่ถึง 30 หน้า