ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 62, 63, 64 ... 74, 75, 76
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 11:46
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
สอบราชการ

http://www.khonlung.com/

http://www.khonlung.com/clients_test/question1.php#section01



http://www.khonlung.com/law.php

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 03, 2020 12:04
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Mar 05, 2020 08:01
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
ทีมครู

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Mar 08, 2020 23:40
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2020 09:13
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]










0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2020 09:13
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
พิมฐา











0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Mar 10, 2020 13:26
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]

https://www2.imgtrue.com/2019/06/17/005I6izOly1g0bzwtv7k1j30u00u0wp3ec52192c40e382d8.jpg

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 11, 2020 05:08
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
มินจุงโฮ พิมพ์ว่า:
พิชิต "นิติราม 2 ปีครึ่ง" ทำอย่างไร ? By วิท นมเย็น







กล่าวนำ
ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณพี่ซาเล้ง พี่ว่าน พี่ส้ม และก็มาย ที่ให้ผมได้มีโอกาสเป็นแอดมินเพจ นิติราม พ่อขุนได้มาทำงานเพื่อสาธารณะครั้งนี้ และขอขอบคุณชาวเพจทุกๆท่าน สำหรับการแบ่งปันข้อมูลจนทำให้ผมสำเร็จเป็น(่ว่าที่)นิติศาสตรบัณฑิตในวันนี้นะครับ
การเขียนบันทึกเพจนี้ ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการวิธีการเรียนเพื่อสำเร็จเป็นนิติศาสตรบัณฑิตด้วยระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี ไม่มากก็น้อย และหากว่าบันทึกเพจนี้ผิดพลาดประการใด ผมก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ และข้อความส่วนใดที่ท่านเห็นว่ายาังไม่สมบูรณ์ ก็สามารถติชม หรือบอกให้ผมแก้ไขได้ตลอดนะครับ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ :D

ประวัติการศึกษา
หัวข้อนี้เขียนเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในตัวผมครับ เดี๋ยวทุกท่านจะสงสัยว่าไปเอาใครที่ไหนมาเขียน มันมั่วหรือเปล่าอะไรยังไง 55555
- จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายศิลป์-คำนวณเกรดเฉลี่ย 3.52
- สะสมหน่วยกิตครบ 140 หน่วยกิตตามหลักสูตรคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยอายุ 17 ปี 11เดือนและ 18 วันซึ่งใช้เวลาในการเรียนจริง 2 ปีครึ่ง

แรงบันดาลใจ
เนื่องจากชีวิตในช่วงม.ต้นเป็นเด็กเกเรทำให้ทางบ้านเสียใจถึงขนาดที่พ่อจะให้เลิกเรียน ส่วนแม่เกิดความเครียดจนจะตรอมใจแต่ไม่ว่าผมจะเกเรอย่างไรก็ตามผมก็ยังยืนยันที่จะทำตามความฝันของผมอยู่เสมอ
เมื่อขึ้นม.4 ผมได้ศึกษาในระบบ Pre-Degree โดยการสนับสนุนของพ่อและผมก็ได้เรียนจนกระทั่งสามารถสะสมหน่วยกิตครบตามหลักสูตรคณะฯ ซึ่งความสำเร็จของผมนั้นก็ได้มาจากเหตุการณ์ในอดีตอันเป็นแรงบันดาลใจนั่นเอง โดยผมถือมาตลอดว่า "ถึงแม้ความดีที่เราทำในวันนี้มิอาจทดแทนหรือลบล้างความผิดอันเลวร้ายในวันวานได้ แต่ในเมื่อเรามีโอกาสได้ทำแล้ว ก็จะต้องทำดีให้ถึงที่สุด"
ในหัวข้อนี้ ผมอยากยกให้ทุกท่านเห็นว่า ผมเองก็ไม่ใช่คนดีหรือคนเก่งอะไร แต่ผมก็สามารถทำสิ่งที่ฝันให้สำเร็จได้ หวังว่าในหัวข้อนี้ จะทำให้หลายๆ ท่านได้ฉุกคิดถึงเรื่องไม่ดี หรือเรื่องต่างๆ เพื่อยกมาเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ทุกท่านนะครับ

การลงทะเบียนเรียน
การลงทะเบียนเรียนนั้ นบางท่านอาจจะเลือกลงโดยยึดจากวันวันสอบบ้าง ตามรหัสวิชาบ้าง ตามอารมณ์ตามใจบ้างหรือแม้กระทั่งลงวิชาง่ายไปก่อนแล้ววิชายากค่อยเก็บทีหลังแต่สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำสำหรับการลงทะเบียนเรียนก็คือ
1.เก็บวิชาพื้นแท่นให้ครบโดยเฉพาะวิชา ENG1001 และ ENG1002 อันเป็นวิชามหาหินของชาวนิติศาสตร์ส่วนใหญ่และวิชาที่แต่ละท่านไม่ถนัดไว้ก่อนหรืออาจกล่าวได้ว่าวิชาใดยาก วิชาใดโหดควรลงไว้เป็นวิชาต้นๆ เนื่องจากเมื่อเราสอบไม่ผ่านในการลงครั้งที่ 1-2 เราก็สามารถลงเร้าหรือวิชาเหล่านั้นไปจนมีความเชี่ยวชาญและสามารถสอบผ่านได้ โดยไม่เป็นการรั้งเวลาที่จะทำให้เราจบช้าลง
ผมขอยกประสบการณ์ของลุงผมมาอธิบายเพื่อประกอบความเข้าใจว่า..."ลุงผมเป็นคนที่ไม่ถนัดวิชาภาษาอังกฤษเขาจึงเก็บวิชาภาษาอังกฤษไว้ลงในปี 4 เทอมสุดท้ายแต่ปรากฏว่า เขาสอบไม่ผ่านในเทอมนั้นเขาจึงต้องลงเร้าหรือจนมาจบเมื่อปี 7 ครึ่ง....นะฮะ !!
2.ควรลงวิชาที่วันสอบของแต่ละวิชามีระยะห่างกัน 2 วันหรือมีเวลาเตรียมตัวในการสอบแต่ละวิชา 2 วันเพราะเวลา 2 วันเป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การเตรียมตัวสอบวิชาหนึ่งๆ อันไม่ถือว่าน้อยหรือมากจนเกินไป
3.ควรลงและสอบผ่านวิชาที่อยู่ในหลักสูตรอนุปริญญาก่อนเพื่อที่จะเป็นประโยชน์แก่การสอบใบอนุญาตว่าความก่อนจบปริญญาตรีอันเป็นการร่นระยะเวลาในการเตรียมตัวสอบในชั้นความรู้ที่สูงกว่าได้
4.ควรลงวิชาที่เนื้อหาสาระใกล้เคียงหรืออยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน เพราะอ่านวิชาหนึ่งก็อาจทำให้เราเข้าใจอีกวิชาหนึ่งได้โดยง่าย เนื่องจากอาศัยหลักการและทฤษฎีทางกฎหมายในลักษณะเดียวกัน อีกทั้งท่องตัวบทเพียง 1 มาตราแต่สามารถใช้ตอบข้อสอบได้ถึง 2 วิชาเลยทีเดียว โดยลำดับการลงและวิชาที่ควรลงคู่กันจะกล่าวในหัวข้อต่อไป
5.วิชาที่ควรลงในภาคฤดูร้อนได้แก่ LAW1003 นิติกรรม , LAW3005 วิธีพิจารณาความแพ่ง 1 , LAW3007 วิธีพิจารณาความแพ่ง 2 , LAW3006 วิธีพิจารณาความอาญา 1 , LAW3008 วิธีพิจารณาความอาญา 2 , LAW3010 กฎหมายล้มละลาย และ LAW400 7นิติปรัชญา

ลำดับการลงและวิชาที่ควรลงคู่กัน
1.ลง LAW1001 หลักกฎหมายมหาชนก่อน LAW2004 กฎหมายรัฐธรรมนูญ และ LAW3012 กฎหมายปกครองเนื่องจาก LAW1001 เป็นพื้นฐานของทั้งสองวิชาและทั้ง 3 วิชานี้เป็นกลุ่มกฎหมายมหาชนเหมือนกัน หากเราแน่นพื้นฐาน LAW1001 จะทำให้เราต่อยอดและสอบผ่าน LAW2004 และ LAW3012 วิชาโหดขั้นเทพได้โดยง่าย
2.LAW1002 หลักกฎหมายเอกชนสามารถลงเพียงตัวเดียวได้เป็นพื้นฐานของกฎหมายแพ่งทุกวิชา
3.LAW1003 นิติกรรมสามารถลงเพียงตัวเดียวได้และถือเป็นวิชาพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายแพ่งทุกวิชาดุจเดียวกัน
4.LAW2001 ทรัพย์ควรลงคู่กับ LAW2005 ซื้อขาย และหรือ LAW4008 กฎหมายที่ดิน
5.LAW2002 หนี้ควรลงคู่กับ LAW2010 ค้ำประกัน เพราะทั้ง 2 วิชามีเนื้อหาที่สัมพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง โดย LAW2002 เป็นพื้นฐานของ LAW2010
6.LAW2003 ละเมิดลงคู่กับ LAW2006 กฎหมายอาญา 1 ก็จะดี เพราะเป็นวิชาที่มีทฤษฎีในเนื้อหาการเรียนเป็นลักษณะเดียวกัน
7.ลง LAW2006 กฎหมายอาญา 1 ก่อนลง LAW3001 กฎหมายอาญา 3 หรืออาจจะลงพร้อมกันก็ได้
8.LAW2007 กฎหมายอาญา 2 เป็นวิชาที่สามารถลงตัวเดียวได้
9.LAW2008 เช่าทรัพย์มีเนื้อหาในเรื่อง "จ้างแรงงาน" เป็นอย่างเดียวกันกับ LAW4004 กฎหมายแรงงาน และยังเป็นพื้นฐานของ LAW4004 อีกด้วย
10.LAW2009 ยืม, LAW2011 ตัวแทน , LAW2012 ประกันภัย , LAW2013 ตั๋วเงินเป็นวิชาที่สามารถลงตัวเดียวได้ เนื่องจากเป็นวิชาที่ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กับวิชาใดๆ แต่อย่างไรก็ตามควรได้เคยเรียน LAW2002 หนี้และ LAW1003 นิติกรรมมาเสียก่อน
11.LAW3002 หุ้นส่วนฯ สามารถลงตัวเดียวหรืออาจลงคู่กับ LAW3010 กฎหมายล้มทั้งยืน อุ๊ย !!... ล้มละลายก็ได้ เพราะทั้งสองวิชามีความสัมพันธ์กันเพียงเล็กน้อย
12.LAW3003 ครอบครัวมีเนื้อหาที่สัมพันธ์กับ LAW3009 มรดกเป็นอย่างมาก หากลงพร้อมกันจะได้เนื้อหาที่ต่อเนื่อง แต่จะต้องท่องตัวบทกันตาลอยปากห้อยเลยทีเดียว
13.ก่อนลง LAW3007 กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 2 ต้องเคยเรียน LAW3005 กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 1 มาก่อนและก่อนลง LAW3005 ควรเรียนบรรดากฎหมายแพ่งมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
14.ก่อนลง LAW3008 กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 2 ต้องเคยเรียน LAW3006 กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 1 มาก่อนและควรเรียนบรรดากฎหมายอาญามาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
15.ก่อนลง LAW3004 พระธรรมนูญศาลยุติธรรมควรเคยเรียน LAW3005-LAW3008 มาก่อนเพื่อประโยชน์ในการเข้าใจเนื้อหาที่ง่ายขึ้น
16.ก่อนลง LAW3011 กฎหมายลักษณะพยานควรเคยเรียน LAW3005-LAW3008 มาก่อน
17.LAW4001 กฎหมายภาษี , LAW4008 กฎหมายที่ดิน , LAW4009 กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และ LAW4010กฎหมายการค้าระหว่างประเทศเป็นวิชาที่ลงเดี่ยวๆ ได้เป็นวิชาที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กับวิชาใดๆมาก
18.LAW4002 ว่าความ และ LAW4005 หลักวิชาชีนักกฎหมายมีเนื้อหาที่สัมพันธ์กันเป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องวิชาชีพนักกฎหมายและการปลูกฝังจิตสำนึกสำหรับวิชาชีพนักกฎหมายดุจเดียวกันแต่หาจำต้องลงคู่กันแต่อย่างใดไม่
19.LAW4003 คดีเมือง และ LAW4006 คดีบุคคลเป็นวิชาในกลุ่มเดียวกัน
20.LAW4007 นิติปรัชญาควรเคยเรียนบรรดากฎหมายทั้ง 37 วิชาก่อนหน้ามาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เพื่อที่จะเข้าใจแก่นของกฎหมายอย่างลึกซึ้ง

เทคนิคการเรียน
1.การอ่านหนังสือ
ในเรื่องของการอ่านหนังสือนั้นเราสามารถแบ่งได้เป็น 2 ช่วงเวลาคือ ช่วงที่เรียนปกติและช่วงเตรียมตัวสอบ
สำหรับในช่วงที่เรียนปกติเราสามารถอ่านตำราของสำนักพิมพ์รามได้เลย เพราะเรามีเวลาในอ่านช่วงนี้ถึง 4 เดือนโดยควรอ่านหนังสือให้ได้วันละ 1–2 ชั่วโมงเพื่อขยายความเป็นการสร้างความเข้าใจให้แก่ตัวเองและทบทวนเนื้อหาภายหลังจากที่ฟังบรรยายในชั้นเรียนอีก พร้อมทั้งท่องตัวบทให้ได้วันละ 3–5 มาตรา
ส่วนในช่วงเตรียมตัวสอบนั้นจะใช้เวลาในการเตรียมตัวสอบวิชาละ 2 วันประกอบด้วยการอ่านโน๊ตย่อหรือชีทสรุปเนื้อหาใช้เวลาประมาณ 1 วันครึ่งและเวลาที่เหลือทำข้อสอบเก่าและทวนตัวบท

2.การท่องประมวล
ในการท่องประมวลนั้นแต่ละคนก็อาจมีวิธีการที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่อยากให้ทุกท่านเสริมไปด้วยก็คือ “การเขียน” เพราะการเขียนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำได้ถึง 90% โดยเขียนมาตราละ 5 ครั้ง ถึงแม้จะเป็นวิธีการท่องที่ช้าแต่มันก็ส่งผลให้เรามีตัวบทที่ถูกต้องและแม่นยำติดตัวอยู่ตลอดเวลาอันเป็นประโยชน์แก่การตอบข้อสอบของเรา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหลักกฎหมายหรือการวินิจฉัยก็ตาม ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากอาจารย์จะให้คะแนนแก่ผู้ที่เขียนตอบโดยใช้ถ้อยคำภาษากฎหมายได้ดีและถ้อยคำภาษากฎหมายเหล่านั้นก็อยู่ในตัวบทที่เราท่องจำนั่นเอง
ประมวลที่ใช้ควรมี 2 เล่มหรือกว่านั้นขึ้นไปครับ คือ เล่มหลักที่ใช้ในการเข้าเรียน ควรใช้เล่มใหญ่ๆ ใหญ่เท่าบ้านไปเลย ยย ย เพื่อที่เราจะได้โน๊ต หรือจดข้อสังเกตต่างๆ ลงในประมวลได้สะดวก และขนาดเล็ก(พกพา) เพื่อที่เวลาเราไปไหนมาไหน เราจะได้พกไปท่องด้วย

3.การเขียนตอบ
1.)การเขียน ต้องเขียนตัวบรรจงขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปซึ่งก็ประมาณครึ่งบรรทัดไม่ต้องเว้นบรรทัดเมื่อขึ้นหัวข้อหรือประเด็นใหม่ก็ต้องขึ้นย่อหน้าใหม่อย่าเขียนเป็นย่อหน้าเดียวกัน เพราะเป็นการยากต่อการให้คะแนนของอาจารย์ผู้ตรวจในส่วนของเลขมาตราหากเราไม่แน่ใจก็ไม่ควรเขียนลงไป ถึงแม้ไม่เขียนก็ไม่มีผลใดๆต่อคะแนน ถ้าหากเขียนผิดจะโดนหักคะแนน
2.)การตอบข้อสอบกฎหมาย มีอยู่ 2 ลักษณะได้แก่ การตอบแบบอธิบายและการตอบแบบวินิจฉัย
2.1.)อธิบาย
ข้อสอบประเภทนี้ต้องการวัดทั้งความเข้าใจและความจำของผู้สอบไปด้วยในตัว การตอบข้อสอบอธิบายเราจึงต้องอธิบายขยายความในถ้อยคำต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ประกอบกับการยกตัวอย่างพร้อมอธิบายตัวอย่างนั้นๆ เพื่อแสดงให้อาจารย์ผู้ตรวจเห็นว่า เรามีความเข้าใจในเนื้อหาสาระของหัวข้อนั้นเป็นอย่างดีและ 1 ข้อควรเขียนให้ได้ 2 หน้าเป็นอย่างน้อย
หากถามว่า “2 หน้ามันเยอะไปไหม จะเขียนมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ?” ดังกล่าวแล้วข้างต้น การตอบจะต้องมาจากความเข้าใจหลักการอย่างถ่องแท้ซึ่งเกิดจากการอ่านให้ทะลุปรุโปร่งในเนื้อหาวิชานั้นๆ ยิ่งเราเข้าใจและจดจำเนื้อหาได้มากขึ้นเท่าใด เราก็ย่อมมีสิ่งที่จะเขียนในสมุดคำตอบมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดีสิ่งที่จะขาดเสียมิได้ในการตอบข้อสอบอธิบายก็คือ การยกตัวอย่างประกอบการอธิบายหัวข้อดังที่ได้กล่าวไว้สำหรับส่วนความจำก็คือ จำว่าตัวอย่างมีอะไรบ้างและจะเขียนอธิบายอย่างไรให้มีสำนวนโวหารในการพูดความสัมพันธ์ระหว่างตัวอย่างกับหลักการได้อย่างนุ่มนวลดังนั้น จะเห็นได้ว่าการเขียนตอบให้ได้ 2 หน้า จึงไม่ถือว่าเป็นการเขียนที่เยอะเกินไปแต่อย่างใด
ข้อสอบอธิบายการเขียนมากเท่าใดย่อมเป็นประโยชน์แก่เรามากเท่านั้นเป็นการแสดงออกถึงความรู้ความเข้าใจ และการตรวจข้อสอบของอาจารย์ผู้ตรวจก็จะหาจุดที่จะให้คะแนนเราได้หลากหลายขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็ค่าหมึกปากกา...แต่อย่างไรก็เขียนให้มันเกี่ยวข้องกับที่ข้อสอบถามนะครั บไม่ใช่ซัดไป 2 หน้า เป็นเนื้อเพลงลอยกระทงบ้า งเพลงช้างบ้าง ฯลฯ อะไรแบบนี้ไม่เอานะครับ 5555:D
วิชาที่ข้อสอบเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบแบบอธิบาย ได้แก่ LAW1001 หลักกฎหมายมหาชน ,LAW1002 หลักกฎหมายเอกชน(ข้อ1) , LAW2004 กฎหมายรัฐธรรมนูญ , LAW2013 ตั๋วเงิน, LAW3012 กฎหมายปกครอง , LAW4003 คดีเมือง , LAW4005 หลักวิชาชีพ , LAW4006 คดีเมือง , LAW4007 นิติปรัชญา , LAW4009 กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และ LAW4010การค้าระหว่างประเทศ
2.2.)วินิจฉัย
ข้อสอบลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ชาวนิติศาสตร์ถนัดเป็นอย่างมาก ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านสามารถตอบข้อสอบได้แบบขั้นเทพ สำหรับหัวข้อนี้จะขอแนะนำเพียงการเขียนเพื่อเรียกคะแนน อันได้แก่ การเขียนตามโครงสร้างของการตอบกฎหมายการอธิบายหลักกฎหมายก่อนเริ่มวินิจฉัยและการวินิจฉัยแบบล้อตัวบท
-การเขียนตามฟอร์มของการตอบข้อสอบกฎหมาย ซึ่งเข้าไปดูรูปตามลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับผม (เนื่องจากผมทำเป็นรูปลงในบันทึกแล้วมันเล็กจนดูไม่รู้เรื่องจึงต้องใช้วิธีฝากไฟล์น่ะครับ)
ฟอร์มการเขียนตอบ : http://image.ohozaa.com/view2/xPBKeWPh8phaJSbz
“การอธิบายตัวบท คืออะไร?” ... คือการนำถ้อยคำในตัวบทมาอธิบายให้เป็นภาษาทางการทั่วไปที่สามารถเข้าใจได้โดยง่ายประกอบกับอธิบายข้อยกเว้นไปด้วย
การอธิบายตัวบทเป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจหลักและข้อยกเว้นของมาตรานั้นและถึงแม้ว่าจะวินิจฉัยฟันธงผิด แต่เราก็ยังมีคะแนนในส่วนอธิบายหลักนี้อยู่ แต่ถ้าเราวินิจฉัยฟันธงถูกพร้อมทั้งมีการอธิบายตัวบท เช่นนี้ก็ไปกันใหญ่เลยครับ ได้ B+ ถึง A ได้สบายเลยครับ
-การวินิจฉัยแบบล้อตัวบทและการใช้คำว่า “หา...ไม่”
การวินิจฉัยแบบล้อตัวบทถือเป็นศิลป์ในการตอบข้อสอบอย่างยิ่ง เพราะคำในตัวบทล้วนแล้วแต่เป็นถ้อยคำภาษากฎหมายทั้งสิ้นยิ่งเราใช้ถ้อยคำภาษากฎหมายได้ดีเท่าไรเกรด A ก็จะปรากฏแก่เราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น
การใช้คำว่า “หา...ไม่” จะใช้ต่อเมื่อเป็นการปฏิเสธข้อเท็จจริงก่อนการสรุปผล ในแต่ละประเด็นมักจะใช้ “หา...ไม่”เพียงครั้งเดียวเท่านั้นเพื่อเป็นการเน้นน้ำหนักความสำคัญประนั้นนั้นก่อนสรุปนั่นเอง
-ตัวอย่างการเขียนตอบ (ตามลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ มี 2 ลิ้งค์ 2 หน้าครับ หากเขียนไม่ดี หรือเขียนแล้วไม่เข้าใจ ต้องขออภัยนะครับผม)
หน้า 1 http://image.ohozaa.com/view2/xPBEiYTmNv4iAwwt
หน้า 2 http://image.ohozaa.com/view2/xPBEmSERUH9m4fML


เนื้อหาที่สำคัญของแต่ละวิชา
ในหัวข้อนี้เป็นเพียงการสรุปเนื้อหาในส่วนที่สำคัญของแต่ละวิชาเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าอาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องหรือจะออกข้อสอบในแต่ละเทอมนอกจากนี้อีกนะครับ โดยสามารถติดตามได้โดยการเข้าเรียนนั่นเอง หรือฟังคำบรรยายย้อนหลังนั่นเอง :D

LAW1001 หลักกฎหมายมหาชน
- ความหมายของกฎหมายมหาชนกฎหมายมหาชนมีอะไรบ้าง , หน่วยงานทางปกครอง ,นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน, เจ้าหน้าที่
- ความแตกต่างระหว่างกฎหมายมหาชนกับกฎหมายเอกชน
- การควบคุมการใช้อำนาจรัฐ
- ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายมหาชนและหน่วยงานส่วนต่างๆ
- หลักประโยชน์สาธารณะ
- วิวัฒนาการของกฎหมายมหาชน

LAW1002 หลักกฎหมายเอกชน
- มาตรา 4 การใช้และการตีความตัวบทกฎหมายและการอุดช่องว่างของกฎหมาย
- มาตราที่สำคัญ 4, 15 , 19-25 , 28-30 , 32 , 34 และ 61

LAW1003 นิติกรรมและสัญญา
มาตราที่สำคัญ 149-150 , 155-162 , 164-166 , 168-169 , 172 , 175 , 178-181 , 193/3 , 193/5 , 193/9-193/10 , 193/14-193/15 , 193/30 และ 356-372

LAW2001 ทรัพย์
มาตราที่สำคัญ 144-148 , 1299-1300 , 1308 , 1310-1312 , 1316-1318 , 1329-1330 , 1332 , 1336 , 1349-1350 และ 1357-1361

LAW2002 หนี้
มาตราที่สำคัญ 203-204 , 207 , 213 , 215 , 219 , 221-222 , 224 , 226-227 , 237 , 291-299 และ 303-306

LAW2003 ละเมิด
มาตราที่สำคัญ 420 , 423 , 425-426 , 429-430 , 432-436 , 443-446 และ 448

LAW2004 รัฐธรรมนูญ
- ความหมายของรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐธรรมนูญ
- ลักษณะของรัฐธรรมนูญ
- วิธีการตรารัฐธรรมนูญ
- รูปแบบของรัฐ
- ระบอบการปกครองแบบรัฐสภา, ประธานาธิบดี , กึ่งประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภาและทั้ง 3 ระบอบการปกครองมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
- ประวัติรัฐธรรมนูญไทย

LAW2005 ซื้อขาย
มาตราที่สำคัญ 453-454 , 456 , 458-462 , 465-466 , 472-477 , 479 , 483-485 , 491-492 , 494-495 , 499 , 501 , 521 , 523 , 525-526 และ 535

LAW2006 อาญา 1
มาตราที่สำคัญ 4-5 , 18 , 59-62 , 68 , 72 , 80-84 และ 86

LAW2007 อาญา 2
มาตราที่สำคัญ 136-138 , 143-149 , 157 , 161 , 172 , 175 , 217 , 219 , 220 , 225 , 264-265 , 276 , 278 , 282 และ 284

LAW2008 เช่าทรัพย์
มาตราที่สำคัญ 537-538 , 544 , 546-548 , 552-554, 564 , 566-570 , 572-575 , 581-583 , 587 , 591 , 596 , 598-599 , 601 และ 605

LAW2009 ยืม
มาตราที่สำคัญ 643-645 , 653-654 , 659-660 , 672-675 และ 677

LAW2010 ค้ำประกัน
มาตราที่สำคัญ 680-681 , 685 , 687-691 , 693-695 , 698 , 702 , 705 , 709 , 711-712 , 714+152 , 716-721 , 725-726 , 728 , 730-733 , 747 , 756 , 758 , 760 , 764 และ 767-769

LAW2011 ตัวแทน
มาตราที่สำคัญ 798 , 801 , 803 , 805-806 ,810-811 , 815-816 , 819 , 840 , 843 และ 845-846
มาตราในวิชาอื่นที่มักจะออกร่วมกับวิชาตัวแทน 152 , 456 , 572 และ 653

LAW2012 ประกันภัย
มาตราที่สำคัญ 861-863 , 865 , 869 , 870 , 877 , 879 , 887 , 889 , 890-891 และ 895

LAW2013 ตั๋วเงิน
มาตราที่สำคัญ 856 , 904-905 , 914 , 917-918 ,921 , 931 , 940 , 967 , 989 , 998 และ 1007

LAW3001 อาญา 3
มาตราที่สำคัญ 288 , 290-291 , 295 , 297 , 301-304 , 309-310 , 313 , 317-319 , 326 , 328-330 , 334 , 336-341 และ 352

LAW3002 หุ้นส่วน
มาตราที่สำคัญ 1038 , 1050-1052 , 1054 , 1066 , 1068 , 1079-1080 , 1082 , 1088 , 1095 , 1113 , 1129 , 1175 , 1194-1195 และ 1220

LAW3003 ครอบครัว
มาตราที่สำคัญ 1436-1437 , 1439-1440 , 1445 , 1452-1454 , 1469 , 1471 , 1473-1474 , 1476 , 1480 , 1488 , 1490 ,1495 , 1498 , 1514-1517 , 1533 , 1536 , 1546-1547 และ 1557

LAW3004 พระธรรมนูญศาลยุติธรรม
มาตราที่สำคัญ 8-9 , 11 , 13 , 15-16 , 18-19 , 22(1) และ 24-33

LAW3005 วิธีพิจารณาความแพ่ง 1
มาตราที่สำคัญ 4-4ตรี , 5 , 55 , 57 , 58-59 , 145 , 148 , 176 , 177 , 179 , 198ทวิ และ 200-204

LAW3006 วิธีพิจารณาความอาญา 1
มาตราที่สำคัญ 2(4)(7)(8)(10)-(11) , 3-5 , 15 , 18-19 , 22 , 28-30 , 32-33 , 35-39 , 46-47 , 66 , 68-69 , 78-80 , 82 , 84 , 92 , 120-121 , 126 , 134/1-134/4 และ 135

LAW3007 วิธีพิจารณาความแพ่ง 2
มาตราที่สำคัญ 223ทวิ , 223-226 , 227-228 , 229 , 254-255 และ 264

LAW3008 วิธีพิจารณาความอาญา 2
มาตราที่สำคัญ 158 , 162 , 165-166 , 170 , 173 , 176 , 192 และ 218-219

LAW3009 มรดก
มาตราที่สำคัญ 1599-1601 , 1603-1608 , 1612 ,1615 , 1617-1618 , 1620-1624 , 1627 , 1629-1631 , 1633 , 1635 , 1639 และ 1754

LAW3010 ล้มละลาย
มาตราที่สำคัญ 6 มติพิเศษ พิทักษ์ทรัพย์ , 9-10 , 14 , 22 , 24 , 42 , 45-46 , 52 , 56 , 60-63 , 90/8 ,90/12(4)-(7)(8) , 90/17 , 90/27 , 91 , 96 , 131 และ 135

LAW3011 พยาน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตราที่สำคัญ 84 , 84/1 , 90 , 94 , 104 , 112 , 130 , 177 และ 183
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตราที่สำคัญ 15 , 173/2 , 226 , 230 , 232 และ 237ทวิ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตราที่สำคัญ 437-438, 653 และ 1373

LAW3012 ปกครอง
- การจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน , การรวมอำนาจ, การแบ่งอำนาจ, การกระจายอำนาจข้อดีและข้อเสียและความเหมือนหรือแตกต่างของทั้ง3 หลักการ
- คำสั่งทางปกครอง
- การปกครองส่วนท้องถิ่น
- บริการสาธารณะ
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ.2542 มาตราที่สำคัญ 9, 42 , 49 , 51-52 และ 72
พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองพ.ศ.2539 มาตราที่สำคัญ 5 วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง คำสั่งทางปกครอง กฎ เจ้าหน้า, 12-13 , 15-16 , 27 , 30-32 และ 34-35
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ.2551 มาตราที่สำคัญ 36, 52-55 , 85 , 88 , 90 และ 96-97
พ.ร.บ.เทศบาลพ.ศ.2496 มาตราที่สำคัญ 50
พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลพ.ศ.2537 มาตราที่สำคัญ 47-47ตรี

LAW4001 ภาษี
มาตราที่สำคัญ 39 , 40(1)-(3)(4)(ก)(ข)(ช) (5)(ก) (7)(8) , 41 , 42(1)(9)(10)(11)(13)(14) , 56-56ทวิ , 66 , 47(1)(ก)(ข)(ค)(ง)(ฉ)(ญ)(ฎ) (2)(6)(7) , 47ทวิ , 57-57ทวิ , 65 , 67, 70 และ 76ทวิ

LAW4002 การว่าความ
เขียนคำฟ้องอาญา, เขียนคำฟ้องแพ่ง, เขียนสัญญา, เขียนคำให้การ/แถลง

LAW4003 กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง
- มาตราการรีทอร์ซั่น(Retorsion), รีไพรซัล(Reprisal)
- การตั้งข้อสงวน
- การแทรกแซงที่ชอบด้วยกฎหมาย
- ประเภทของข้อพิพาทระหว่างประเทศ
- องค์กรของรัฐในความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
- ข้อพิพาทดินแดนของรัฐ
- การได้ดินแดน
- ความรับผิดชอบของรัฐ

LAW4004 แรงงาน
พ.ร.บ.คุ้มรองแรงงานพ.ศ.2541 มาตราที่สำคัญ 17, 30 , 32 , 57 , 61-63 และ 118-122
พ.ร.บ.เงินทดแทนพ.ศ.2537 มาตราที่สำคัญ 5 ประสบอันตราย สูญหาย เจ็บป่วย , 13 ,15-16 , 18 และ 20-21
พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์พ.ศ.2518 มาตราที่สำคัญ 5 สภาพการจ้าง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ข้อพิพาทแรงงาน การปิดงาน การนัดหยุดงาน , 13 , 16 , 18 , 20 , 31 และ 123

LAW4005 หลักวิชาชีพนักกฎหมาย
- องค์กรวิชาชีพ
- หน้าที่ของนักกฎหมาย
- ความยุติธรรม
ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529 ข้อที่สำคัญ 7 , 12-15 และ 18-19
ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการข้อที่สำคัญ 6, 26 , 29 , 31 และ 41-43

LAW4006 กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
- หลักเกณฑ์การส่งผู้ร้ายข้ามแดน
- สลัดอากาศ
- การฉ้อโกงระหว่างประเทศ
- โจรสลัด
พ.ร.บ.สัญชาติพ.ศ.2555 มาตราที่สำคัญ 5 , 7ทวิ , 10 และ 11 (ในการใช้สอบจะต้องใช้ฉบับอื่นๆประกอบด้วยนะครับ)
พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมายพ.ศ.2481 มาตราที่สำคัญ 4-11
ประกาศคณะปฎิวัติฉบับ 337 ข้อ 1-3

LAW4007 นิติปรัชญา
- ปรัชญากฎหมายธรรมชาติ
- ทฤษฎีปฏิฐานนิยม
- ทฤษฎีนิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยา
- การนับถือกฎหมายและการดื้อแพ่งของ
- หลักนิติธรรม
- หลักกฎหมายยุติธรรม
- หลักคุณธรรมในปรัชญากฎหมายไทย

LAW4008 กฎหมายที่ดิน
ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตราที่สำคัญ 4ทวิ, 27ตรี ,58-58ทวิ , 59-59ทวิ , 71-72 และ 83
พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.2497 มาตราที่สำคัญ 8วรรคสอง และ 9

LAW4009 ทรัพย์สินทางปัญญา
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์พ.ศ.2537 มาตราที่สำคัญ 3 วรรณกรรม ศิลปกรรม งานแพร่เสียงแพร่ภาพ ทำซ้ำ การโฆษณา , 6 , 8-11 , 15-18 , 19 , 21-22 , 27-31 และ 32(1)(2)(7)
พ.ร.บ.สิทธิบัตรพ.ศ.2522 มาตราที่สำคัญ 3 สิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร การประดิษฐ์ กรรมวิธี แบบผลิตภัณฑ์ , 5-8 , 9(5) , 10-11 , 56-58 , 65ทวิ และ 65ตรี
พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าพ.ศ.2534 มาตราที่สำคัญ 4 เครื่องหมาย เครื่องหมายการค้า ผู้ได้รับอนุญาต , 6 , 8 , 10 , 44 และ 46

LAW4010 การค้าระหว่างประเทศ
- Incoterms
- Letter of Credits
- การชำระเงินในทางการค้าระหว่างประเทศโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร
- การเรียกเก็บเงินตามตั๋วธนาคาร
พ.ร.บการรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 มาตราที่สำคัญ 3 หน่วยการขนส่ง , 8-11 , 12 , 14-17 , 22 , 28 , 39 , 41 , 43-45 , 48 , 51 , 52(1)(9)(10)(13) และ 58-60


การสอบ E-Testing
คือการนำวิชาพื้นฐานที่ได้ลงไว้เทอมนั้นมาลงทะเบียนสอบโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเราสารถเลือกวันและเวลาสอบเองได้ และข้อดีของการสอบ E-Testing ก็คือ รู้เกรดทันทีที่สอบเสร็จและถึงแม้ว่าเราจะสอบ E-Testing ไม่ผ่านเราก็ยังสามารถที่จะสอบในวันเวลาสอบตามปกติที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ใน มร.30 ตามเดิมได้ด้วยแต่ E-Testing จะสอบได้เฉพาะวิชาปรนัยที่มหาวิทยาลัยกำหนด

สำหรับน้องๆ Pre-Degree
การเรียนควบมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กม.ปลายอย่างพวกเราแต่มันก็หาใช่ยากแต่อย่างใดไม่ การเรียนให้สบายและประสบความสำเร็จสามารถกระทำได้โดยเรียนแบบ “ไม่แบกโลก” อย่าเอาโลกทั้งใบมาไว้ที่เราคนเดียวอย่าเก็บสิ่งต่างๆมาเป็นปัญหาแก่ชีวิตอันจะก่อให้เกิดความเครียดและเป็นอุปสรรคในการเรียนของเราต่อไปอีก
งานที่โรงเรียน ก็ควรแบ่งกับเพื่อนทำ ไม่ใช่ว่าเราจะเอาุทุกอย่าง ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง งานใดเราถนัดเราก็สามารถทำเอง และนำของเพื่อนมาช่วยทำให้พวกเขา เพราะเมื่อถึงเวลาที่งานใดเราไม่ถนัด เราก็ยังสามารถแบ่งให้เพื่อนเหล่านั้นทำให้เราได้เช่นกัน เป็นการประหยัดเวลา และแบ่งเบาภาระในการวิตกกังวลได้นะครับ
ส่วนในเรื่องการสอบที่โรงเรียน วิชาใดที่เราถนัดเราก็อ่านวิชานั้นให้หนักๆ ส่วนวิชาไม่ถนัดก็ดูแค่คร่าวๆ และแบ่งให้เพื่อนที่ถนัดวิชานั้นๆ ดูเพื่อเตรียมสอบ และเมื่อถึงเวลาก่อนสอบ ก็นำความรู้ที่ได้จากการอ่านมาแบ่งปันกัน โดยการติวนั่น เพราะคนที่อ่านย่อมรู้ว่าจุดใดคุณครูจะออกข้อสอบ และเขาสามารถบอกเราให้ตอบข้อสอบได้ วิธีนี้ช่วยลดความเครียดในการอ่านหนังสือให้เราได้เยอะเลยทีเดียว เพียงเท่านี้เราก็สามารถได้ความรู้ที่จะใช้สอบในห้องเรียนโดยง่ายแล้วครับ ^_^  
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 11, 2020 08:40
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
: ปลายฟ้า ชุดนักศึกษา 5 รูป ละมุนมาก








วาป : https://www.instagram.com/pf_ornt/

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 13, 2020 02:54
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 13, 2020 04:46
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
การตลาด ราม

http://old-book.ru.ac.th/e-book/inside/html/dlbook.asp?code=MK301

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 18, 2020 01:05
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]



หมอเตย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Mar 18, 2020 01:17
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในเรื่องการดูดวงชะตาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพยากรณ์ในแบบโหราศาสตร์ไทย

แต่ส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจผิดในเรื่องราศีเกิด โดยคิดว่าการดูเพียงแค่วันที่เกิด และเดือนเกิด ก็ทำให้สามารถรู้ได้ว่าตนเองนั้น

เป็นคนราศีอะไร ซึ่งความเข้าใจแบบนี้ เป็นความเข้าใจผิดที่มีกันมานานแล้ว เพราะการจะทราบราศีเกิดได้จำเป็นต้องผูกดวงชะตา

เท่านั้น และการหาราศีเกิดไม่ได้มีหลายวิธีตามที่หลายๆ ท่านเข้าใจ การหาราศีเกิดมีเพียงวิธีการเดียวเท่านั้น คือ การผูกดวงชะตา


การผูกดวงชะตา คืออะไร

การผูกดวงชะตา คือ การคำนวณดวงชะตาเพื่อหาลัคนาหรือจุดเกิด และความหมายของคำว่า ผูกดวงชะตา หมายถึงกรณีนี้กรณีเดียว

เท่านั้น มีบางคน บางกลุ่ม นำคำว่า ผูกดวงชะตาไปใช้ในความหมายอื่น ซึ่งไม่ถูกต้อง ทำให้คนทั่วไปและคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกับคำว่า

ผูกดวงชะตาว่าต้องเกี่ยวข้องกับวิธีการทางไสยศาสตร์ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่

ฉะนั้น ผู้มาดูดวงชะตาต้องดูดวงอย่างมีสติ ถ้าพบเจอคำว่าผูกดวงชะตาแตกต่างไปจากนี้ และมีการต้องเสียเงินทองในการผูกดวงชะตา

ขอให้ท่านพิจารณาโดยระมัดระวังว่านั่นไม่ใช่การผูกดวงชะตาในความหมายที่แท้จริงดังที่ได้อธิบายไป


การผูกดวงชะตา เป็นการคำนวณดวงชะตาเพื่อหาลัคนาหรือจุดเกิด โดยนักโหราศาสตร์ ข้อมูลที่ต้องใช้ในการผูกดวงชะตามีดังนี้

วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดตามสูติบัตร และสถานที่เกิด เมื่อผู้มาดูดวงชะตาให้ข้อมูลข้างต้นมาครบถ้วน นักโหราศาสตร์ก็จะนำข้อมูล

ดวงชะตาทั้งหมดนั้นมาคำนวณดวงชะตาเพื่อหาลัคนาหรือจุดเกิด รวมไปถึงตำแหน่งดาวอื่นๆ ในดวงชะตา เมื่อผูกดวงชะตามาแล้ว

ได้ที่ลัคนาราศีใด คุณก็เป็นคนที่เกิดในราศีนั้น และไม่ว่าจะไปอ่านคำพยากรณ์ที่ใดให้อ่านคำพยากรณ์ที่ราศีนั้นได้เลย

ดังนั้น

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีเมษ คุณก็เป็นคนราศีเมษ

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีพฤษภ คุณก็เป็นคนราศีพฤษภ

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีมิถุน คุณก็เป็นคนราศีมิถุน

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีกรกฎ คุณก็เป็นคนราศีกรกฎ

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีสิงห์ คุณก็เป็นคนราศีสิงห์

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีกันย์ คุณก็เป็นคนราศีกันย์

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีตุลย์ คุณก็เป็นคนราศีตุลย์

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีพิจิก คุณก็เป็นคนราศีพิจิก

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีธนู คุณก็เป็นคนราศีธนู

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีมังกร คุณก็เป็นคนราศีมังกร

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีกุมภ์ คุณก็เป็นคนราศีกุมภ์

ผูกดวงชะตาได้ที่ลัคนาราศีมีน คุณก็เป็นคนราศีมีน


คนหนึ่งคนจะเกิดได้ในราศีเดียวเท่านั้น ดังนั้น ผูกดวงชะตาแล้วได้ลัคนาที่ราศีใด คุณก็เป็นคนที่เกิดในราศีนั้น

ไม่มีว่าลัคนาอยู่ราศีหนึ่ง และราศีเกิดอยู่อีกราศีหนึ่ง เช่น ลัคนากุมภ์ ราศีสิงห์ อย่างนี้ไม่ถูกต้อง กลายเป็นคนสองราศีไปแล้วเสียอย่างนั้น

ทั้งกุมภ์ ทั้งสิงห์ การดูดวงคงต้องปวดหัวน่าดู สิ่งที่ถูกต้องคือ ลัคนาราศีกุมภ์ ก็เป็นคนราศีกุมภ์ ไม่เกี่ยวใดๆ กับราศีสิงห์


หลักการของโหราศาสตร์ไทย และโหราศาสตร์สากล หรือโหราศาสตร์ของชาติใดๆ ก็ตาม ที่ใช้ดวงดาวในการพยากรณ์ดวงชะตามนุษย์

ซึ่งมีหลักการเหมือนกันในทุกสายวิชาว่า ลัคนาของเจ้าชะตาอยู่ราศีใด ก็เป็นคนเกิดในราศีนั้น

เกิดราศีหนึ่ง ลัคนาอยู่อีกราศีหนึ่ง เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในวิชาโหราศาสตร์



เมื่อเรารู้ว่าเราเป็นคนราศีใดแล้ว ไม่ต้องสนใจการแบ่งช่วงราศีเกิดที่ระบุว่า วันที่เท่านั้น เดือนนั้น ถึง วันที่เท่านี้ เดือนนี้ แล้ว

เพราะเรารู้ราศีเกิดของเราอย่างถูกต้องแล้วจากการคำนวณดวงชะตาของนักโหราศาสตร์ หรือโปรแกรมผูกดวงชะตาที่มีตามเวบดูดวง

ทั่วไป ที่ต้องเน้นอย่างนี้ เพราะจากที่อ่านในหลายๆ กระทู้ในห้องพรหมชาติยังเห็นว่าคนส่วนใหญ่ถูกแนะนำหรือให้ความรู้ ในเรื่องราศีเกิด

กันมาแบบผิดๆ จากผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องโหราศาสตร์ไม่มากเพียงพอ หรือ ถูกแนะนำจากผู้ที่ไม่เคยศึกษาในวิชาโหราศาสตร์

เลย จึงทำให้คนที่มาดูดวงชะตาเข้าใจโหราศาสตร์ในแบบที่ผิดๆ หรือเข้าใจโหราศาสตร์ในแบบครึ่งๆ กลางๆ โดยที่ไม่รู้ว่าข้อมูลที่ได้รับ

การอธิบายนั้น อันไหนผิด อันไหนถูกกันแน่


หลายๆ ท่านคงสงสัยว่าแล้วมันมาจากไหน เกิดวันที่เท่านั้นเดือนนั้นๆ ถึงวันที่เท่านั้นๆ เดือนนั้นๆ เป็นคนราศีนั้น

ตัวอย่างเช่น เกิดวันที่ 15 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์ เป็นคนราศีมังกร ?????

คำตอบคือ มันมาจากความเข้าใจผิด เพราะที่จริงแล้ว การพยากรณ์ดวงชะตาในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารซึ่งเริ่มมาจากอดีตที่ไม่นานมานี้

มีปัญหาว่าผู้อ่านไม่ทราบว่าตนเองมีลัคนาอยู่ในราศีอะไร ผู้พยากรณ์จึงนำหลักการของโหราศาสตร์สากลที่มีวิธีการว่า

เมื่อไม่ทราบว่าลัคนาของตนเองอยู่ราศีอะไรแล้ว ให้ใช้ดาวอาทิตย์พยากรณ์แทน

ในวันเกิดดาวอาทิตย์อยู่ราศีอะไร ก็ให้อ่านคำพยากรณ์ของราศีนั้น

คำอธิบายที่ถูกต้องซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือมากมายเขาจึงเขียนว่า

“บุคคลผู้มีลัคนาอยู่ราศีเมษ หรือเกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน ถึง 13 พฤษภาคม”

เขาบอกไว้ชัดเจนแล้วว่า คำพยากรณ์นั้นสำหรับ ผู้ที่มีลัคนาอยู่ในราศีเมษ หรือท่านที่เกิดระหว่างวันและเดือนดังกล่าว และเขาไม่ได้บอก

เลยว่า ผู้ที่เกิดระหว่างวันเดือนดังกล่าวเป็นคนเกิดราศีเมษ


ดังนั้น หากท่านจะอ่านคำพยากรณ์ดวงชะตาแบบโหราศาสตร์ไทย ท่านจำเป็นต้องให้นักโหราศาสตร์ผูกดวงชะตาของท่านเสียก่อนว่าท่าน

เป็นคนราศีใดและการให้ข้อมูลดวงชะตาที่ครบถ้วนจะเป็นประโยชน์แก่นักโหราศาสตร์ โดยเฉพาะเวลาเกิดและสถานที่เกิด ซึ่งมีความ

สำคัญอย่างยิ่งในการผูกดวงชะตา หากผู้มาดูดวงชะตาให้ข้อมูลแต่เพียง วันเดือนปีเกิด ข้อมูลเหล่านั้นยังไม่สามารถใช้ผูกดวงชะตาได้


ผู้เขียนพบปัญหามากเกี่ยวกับการให้ข้อมูลดวงชะตาของหลายๆ ท่านที่เข้ามาสอบถามดวงชะตา นั่นก็คือ การไม่ดูเวลาเกิดที่แน่นอน

จากสูติบัตร แต่บอกเวลาเกิดที่เป็นตัวเลขประมาณมา เดา คิดเวลาเอาเองว่าตนเองน่าจะเกิดเวลานั้นๆ ตัวเองน่าจะจำไม่ผิด หรือ

ฟังจากคำบอกเล่าที่บอกมาจากผู้ให้กำเนิด ซึ่งโดยมากมักเจอว่าผู้ให้กำเนิดมักจะจำเวลาเกิดผิด และบางท่านให้ข้อมูลมาโดยไม่ให้

สถานที่เกิดหรือจังหวัดมา เพราะคิดว่าไม่มีความสำคัญ ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการคำนวณดวงชะตา

สำหรับผู้ที่เกิดต่างประเทศก็จำเป็นต้องทราบข้อมูลเมืองที่เกิดและประเทศที่เกิด สำหรับเวลาเกิดของคนที่เกิดที่ต่างประเทศนั้น

ควรบอกเวลาตามเวลาของประเทศนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องแปลงมาเป็นเวลาไทย นักโหราศาสตร์จะเป็นผู้ที่คำนวณดวงชะตาและจัดการ

ในเรื่องตรงนี้เอง


สำหรับท่านที่ไม่รู้เวลาเกิด การหาเวลาเกิด สามารถทำได้แต่ไม่ทุกคนไป ข้อมูลพื้นฐานคือต้องทราบ วัน เดือน ปี สถานที่เกิด

และถ้าสามารถระบุได้คร่าวๆ ว่าเป็นช่วงเวลาใด ก็จะเป็นประโยชน์ เช่น เช้าๆ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เที่ยงไปแล้ว เย็น ค่ำแล้วเพราะมืดแล้ว

หรือข้อมูลอะไรที่พอจะประมาณเวลาได้ หลังจากนั้นจะต้องได้ รูป ประวัติชีวิตโดยละเอียด ซักถามประวัติ ก็คล้ายๆ แพทย์ตรวจอาการ

คนไข้ซึ่งป่วยแต่ไม่ทราบว่าป่วยด้วยโรคอะไร


การเกิดที่ต่างประเทศ ต้องทราบเมืองหรือรัฐหรืออะไรก็ได้ที่พอจะหาหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า วัน ที่บอกมานั้นถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ทราบว่า

เกิดวันจันทร์ จะได้ประมาณว่ามันใช่วันจันทร์จริงหรือไม่ หรือถ้ามีใบเกิดของฝรั่งแต่เขาไม่จดเวลามาให้ ก็พอจะใช้ยืนยันเรื่อง วัน เดือน ปี

ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่รู้แม้กระทั่ง วัน เดือน ปี จริงๆ แล้วในทางโหราศาสตร์พอจะหาลัคนาหรือจุดกำเนิดของเจ้าชะตาได้

ใช้พยากรณ์ได้แม่นยำในระดับหนึ่ง ดีกว่าไม่รู้เลยว่าตนเองเป็นคนราศีอะไร ซึ่งจะพยากรณ์กันไม่ได้เลย


การผูกดวงชะตาบุคคลทั่วไปนั้น แม้จะมีข้อมูลครบถ้วน แต่หากเกิดความผิดพลาดมาในขั้นตอนรับทราบข้อมูล เช่น มารดามีลูกหลายคน

นำเวลาเกิดของคนหนึ่งไปบอกว่าเป็นของอีกคนหนึ่งสลับกัน มีลูกคนเดียว แต่สับสนจำเวลาผิด เมื่อผูกดวงชะตาแล้วพยากรณ์ออกมา

ย่อมจะผิดไปทั้งหมด การสอบทานดวงชะตาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผูกดวงชะตา


หวังว่าบทความเรื่องลัคนาราศี คงทำให้ผู้ที่สนใจในเรื่องดวงชะตามีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องราศีเกิดไม่มากก็น้อย

ในช่วงปีหน้า ต้นปี 60 จะมีดาวบาปเคราะห์ทำมุมส่งกำลังถึงคนหลายราศีและจะส่งผลให้หลายๆ ท่านจะมีปัญหามากในช่วงเวลานั้น

โดยเฉพาะเรื่องของความรัก ดิฉันกำลังเขียนบทความนี้อยู่ ท่านใดที่สนใจอย่าลืมติดตามได้ค่ะ


**ไม่รับข้อความทางหลังไมค์ค่ะ**

เครดิต https://pantip.com/topic/35832259
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Mar 21, 2020 04:59
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
https://www.blockdit.com/posts/5d80d7e3581b8e1b53c3bd22

Law Lecture


How To เรียนนิติราม 2 ปีจบ เรียนด้วยตัวเองที่บ้าน ทำงานไปด้วย เกรดเฉลี่ยระดับเกียรตินิยม!
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Mar 21, 2020 09:53
[RE: ( คุก! คุก! ) พลอยชมพูสู้ๆ .. สาวใสวัย 13 ปีคนนี้ ทำให้ตรูทึ่ง ตรูเสี่ยงเข้าซังเต]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 62, 63, 64 ... 74, 75, 76
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel