[RE: ไม่ได้เข้า ss สักพัก กลับเข้ามาเจอมู้ไดกิ้นแล้วแอบเหวอ]
Tpk พิมพ์ว่า:
ชาวนงัตกรรม พิมพ์ว่า:
Tpk พิมพ์ว่า:
ชาวนงัตกรรม พิมพ์ว่า:
Tpk พิมพ์ว่า:
ชาวนงัตกรรม พิมพ์ว่า:
devildog พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวเอาจริงๆ ผมอยู่กลางๆในเรื่องนี้ เพราะทั้ง2ฝ่ายก็มีประเด็นกันทั้งคู่ถ้ามองอย่างเป็นธรรม ไม่ดราม่า
(แน่นอนว่าเรื่องทอง อันนั้นมันชัดเจน ถ้ามีสัญญา ยังไงเรื่องนี้มันต้องได้แน่ๆ)
แต่เรื่องโบนัสและเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องที่ต้องมองให้รอบด้านเหมือนกัน
ด้านแรกเรื่องประเทศ ที่รัฐบาลโง่มายาวนาน จุดแข็งเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆโดยเปรียบเทียบ
ด้านที่สองควรมอง HVAC ให้รอบด้านด้วย ว่าอะไรมันกำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้
อย่ามองแค่ในมุมพนักงานอย่างเดียว อย่ามองแค่ผลประกอบการที่ผ่านมาอย่างเดียว
ถ้าดูถึงอนาคตด้วย HVAC ที่เคยเป็นจุดแข็งของ Daikin กำลังเสื่อมอำนาจ
เพราะคู่แข่งเช่น Haier, Toshiba (Midea) และ Carrier เข้าสู่โหมด Aggressive อย่างเห็นได้ชัด
แค่ลองไปติดตามบริษัทเหล่านี้ จะเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเหล่านี้ Aggressive มากขึ้นขนาดไหน
Daikin ที่ว่าลงทุนสูงแทบทุกปี แต่หันกลับมาดูอีกที IOT แข่งขันกับ Brand คู่แข่ง ไม่ได้แล้ว
คู่แข่งแทบทั้งหมด มี IOT ที่ล้ำเกินกว่า Daikin ไปแล้ว
การแข่งขันในอนาคต คู่แข่ง โดยเฉพาะแบรนด์จากจีน กำลังก้าวไปสู่ Smart Factory แบบมีแบบแผน
ไม่ใช่ฝันลมๆแล้งๆ คำว่า Flexible Manufacturing system ชักเริ่มเป็นเรื่องที่เห็นภาพได้ชัดมากขึ้นทุกวันๆ
ถ้าเปิดใจศึกษาเรื่องพวกนี้ซักหน่อย ผมว่าก็น่าจะเข้าใจทางฝั่งผู้บริหารของ Daikin ได้เหมือนกัน
และก็แน่นอนว่าก็เข้าใจพนักงาน เท่าที่หลายๆคนว่ามามันก็เข้าใจได้ แต่ถ้ามองทั้ง2มุม
สุดท้ายเรื่องประเทศไทย กำลังค่อยๆหมดความสามารถในการแข่งขันลงทุนวันๆ ก็เป็นเรื่องที่จริงขึ้นทุกวันเช่นกัน
เรื่องโบนัสผมมองว่าต้องไปดูฐานเงินเดือน กับตอนคุยตอนรับสมัครครับ เพราะอย่าลืมว่าเงินเดือนสายโรงงานเนี่ยมันไม่เหมือน พนง office ทั่วไปครับ สายโรงงานส่วนมากเงินเดือนน้อยแต่อาศัยเอาโบนัสมาโปะเอา แต่ถามว่าเข้าใจ บ มั้ยก็เข้าใจ แต่ก็ต้องถกเถียงโดยยืนอยู่บนฐานเรื่องเงินเดือนสายโรงงานครับ
แล้วเพราะอะไรละครับ ทำไมฐานเงินเดือนโรงงานมันถึงไม่เท่ากับพนง.ออฟฟิศ ก็เพราะความสามารถ ความรู้คุณมันไปสมัครพนักงานออฟฟิศไม่ได้ไงครับ คุณก็ต้องมาสมัครโรงงานที่เงินเดือนน้อยตาม spec ไม่ใช่ความรู้ความสามารถน้อยแต่อยากเรียกร้องเงินเดือนให้เท่ากับคนมีความรู้ความสามารถมากกว่าให้มัน make sense หน่อย
ส่วนถ้าไม่พอใจก็เลิกจ้าง ก็เนี่ยไงกระบวนการมันกำลังจะไปจุดนั้น ถามกลับแล้วทำไมไอ้ทาสที่คุณบอกไม่ลาออกละเงินเดือนไม่พอใจ เงินเดือนน้อย โดนกดขี่ แต่เสิกไม่ลาออก ยากอะไร งง??
เอ๊ะ ผมบอกตรงไหนว่าคนทำงานโรงงานเงินเดือนเท่าคนทำ office แค่บอกว่าเรทการจ่ายค่าตอบแทนมันต่างกัน จะคิดบนฐานของคนทำงาน office ไม่ได้ปะ อ่านให้แตกก่อนค้อยเม้นท์ครับ
คุณไม่ได้พูดตรงๆไงครับ แต่คุณบอกว่าฐานเงินเดือนพนง.โรงงานมันน้อยเมื่อเทียบกับพนง.ออฟฟิศ เลยต้องเอาโบนัสมาโป๊ะๆเพื่อจะได้เงินใกล้เคียงกับพนงออฟิศ นี้คือคุณกำลังจะสื่อ
ผมเลยก็จะถามว่า ทำไมฐานเงินเดือนของพนง.โรงงานมันถึงต่ำกว่า ฐานของพนง.ออฟฟิศ เพราะอะไร มันโคตรจะเป็นสัจจะธรรมเลยนะ
"เงินเดือนน้อยแต่เอาโบนัสมาโปะ" ผมไม่ได้บอกว่า "เงินเดือนน้อยแต่เอาโบนัสมาโปะเพื่อให้เท่ากับพนักงาน Office" ซะหน่อยนี่ครับ อ่านดีๆ นอกจากนี้แล้วประโยคที่ว่า "เงินเดือนสายโรงงานเนี่ยมันไม่เหมือน พนง office ทั่วไปครับ" คำว่าไม่เหมือนตรงนี้ไม่ได้แปลว่าไม่เท่ากับครับ มันแปลว่าโครงสร้างการจ่ายเงินเดือนของงานสายโรงงานมันไม่เหมือนสาย office ครับ เพราะเหตุนี้ผมถึงเขียนไว้ในหัวมู้ไงครับว่าคนที่จะถกเรื่องนี้ต้องไปศึกษาเรื่องโครงสร้างเงินเดือนสายโรงงานก่อน
เพราะอะไรฐานเงินเดือนถึงไม่เยอะครับ ??
ผมอ่านตั้งแต่แรกคือคุณตั้งธงไว้แต่แรกแล้วหนิ
ยังไงอะ ต้องการการคอนเฟิร์มคำตอบเรื่อง"เพราะเรียนมาน้อยเลยได้เงินเดือนต่ำแบบนี้ แล้ววิธีแก้ปัญหาก็คือไปเรียนให้สูงเพื่อเอาเงินเดือนเยอะแทน" ?
รู้รึเปล่าว่าพวกที่เรียกร้องอะไรพวกนี้ก็มีส่วนนึงที่เรียนป.ตรี เคยพูดแล้วหนิที่ว่าวิศวกรเงินเดือน 3-4 หมื่นก็อยู่ในกลุ่มพวกนี้ด้วย โบนัสที่ได้กันเยอะๆระดับครึ่งปีหรือมากกว่านั้น พวกนี้มันก็ได้ ไลน์ผลิตมันไม่ใช่มีแค่สิ่งที่คุณอยากสื่อว่ามีแต่พวกเรียนน้อยมานั่งทำกันอะ
หรือคุณจะนับว่าพวกทำโตโยต้าหรือคูโบต้าที่เป็นวิศวกรมหาลัยชมพูไปแล้วเกินครึ่ง ที่เขามีสหภาพฯภายในอยู่แล้วงี้คือพวกเรียนน้อยไม่ยอมไปนั่งออฟฟิศหรอครับ