ผมแฟนผีนะ
ผมว่านี่คือยุคทองของเค้าจริงๆ หยิบจับอะไรก็ดีไปหมด
ความสำเร็จได้มาเรื่อยๆ ลุ้นทุกถ้วยต่อเนื่องหลายปี
ชนะ ก็ยิงขาด คู่แข่งแย่งแชมป์ก็ยังสะดุดบ้างไรบ้างยังไม่เข้าที่ แต่หงส์เข้าที่ไปมากกว่าแล้ว
บทจะแพ้ๆ ก็มีโมเมนต์พิเศษมาให้เห็นหลายนัด ประคองได้แต้มมาตลอด
ซื้อตัวใหม่เข้าระบบ ตัวเก่าหลายตัวๆยังฟอร์มประคองทีมได้ ตัวที่ขายก็ได้ราคาดี ดาวรุ่งก็มีต่อยอด
ผู้บอก็ทุ่มทุนสร้าง โค้ชเองก็มาแล้วต่อยอดได้เลย แฟนบอลเองก็ น่าจะแฮปปี้กันยาวๆ

ส่วนทีมผมนะเหรอ
ซ์้อทองได้ขี้
นักเตะเก่าก็เล่นไปวันๆ นักเตะใหม่ก็ห่อเหี่ยว โค้ชเป็นโรคซึมเศร้า บอร์ดดื้อด้าน ประธานโกงเงินบริษัทให้ตัวเอง
โค้ชเก่าหลอกขายนักเตะฟันเปอร์เซนต์ผ่านเอเยนต์(ข่าวลือ)
สนามหลังคารั่ว(ซ่อมแล้วแหละ)
อันดับตกมาต่ำกว่า 10 เป็นเรื่องปกติ
ไม่มีลุ้นแชมป์มาหลายปีติดกัน
นักเตะใหม่ก็โดนหลอกขายโคตรแพง นักเตะเก่าก็ด่าสโมสรทุกรอบ หลอกแดกเงินค่าตัว ขายไม่ออกอีก
โมเมนต์ตั้มขี้หมาขี้แมวจริงๆ

เธอทำให้ฉันรู้สึก เหมือนตอนสิบสี่
ตอนที่ฉันมีแฟนคนแรก
ลึกลึกข้างใน มันหวั่นมันไหวแปลกแปลก
เธอรู้ไหม ฉันเหมือนสิบสี่อีกครั้ง

ขาขึ้นของชาวหงส์บ้าง

หลังจากตกต่ำมาหลายปี

กว่าจะมีวันนี้ ก็มีแต่ทรงกับทรุดมาจะ 30 ปีละท่านเอ้ยย

เอาจริงๆ ผมไม่เคยฝันเลย ว่าจะออกจากยุค รอย ฮอดสัน ได้
ตอนนี้คือเชียบอลโคตรดิ่ง นั่งหน้าทีวีรอดู ทั้งๆที่รู้ว่าจะแพ้
ถึงปู่รอยคุมไม่นาน แต่ฝันร้ายช่วงนั้นยาวนานเหลือเกิน

เอาจริงๆผมเชื่อในเรื่องข้อมูล+ทีมงานเบื้องหลังมาตลอด

แต่ของแมนนยูฯนี่เหมือนมันมีเรื่องความซวยเข้ามาด้วยรึเปล่าไม่รู้ อะไรๆก็ดูโบ๊ะบ๊ะชิบหายผิดจังหวะไปหมด

ไม่ว่าเรื่องโค้ช หรือเรื่องการซื้อตัว คือพูดแบบแฟร์ๆตอนดีลมันก็ไม่ได้น่าเกลียดขนาดนั้น อย่างโค้ชไม่ว่าจะเทนฮาค หรือ อโมริม

ทั้งแฟนตัวเอง หรือกระทั่งแฟนทีมอื่นๆยังมองว่ามีอนาคต ดูน่ากลัวด้วยซ้ำ comeback แน่ๆ เสียงแตกน้อยมาก

(ลองไปเทียบกับหงส์ตอนมีข่าวกับสลอท อย่าว่าแฟนทีมอื่นฮาเลย แฟนทีมเดียวกันเองยังเสียงแตก ว่าไหวหรอวะ โปรไฟล์แค่นี้)

แต่ผลงานกลับกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ ทั้งปัญหาแทคติก ทั้งปัญหาคาแรคเตอร์ ผจก. เต็มไปหมด (ตอนอยู่ทีมเก่าไม่เห็นเป็น)

หยิบจับอะไรก็ดิ่งซะส่วนใหญ่ นักเตะเข้าทีมตอนซื้อผมว่าชื่อชั้น,ฟอร์มไม่แย่เลย ข้อเสียอย่างเดียวคือแค่แพงไปหน่อย

แต่ฟอร์มในสนาม ทำไมกลายเป็นแบบนี้ฟระ ฟอร์มก็ตก ตัวซื้อมาดันห่วย ตัวปล่อยออกดันออกไปเล่นดี

ก่อนยุค JK ผมยังมองภาพว่า Liverpool จะเป็นอย่างตอนนี้ (2025) ไม่ออกเลยครับ ว่ามันจะมาถึงจุดนี้ได้

ตอน JK ประกาศลาออก ... ในใจก็รู้สึกว่า คงไม่หวังลุ้นแชมป์แล้วละ ติด top 4 ไป UCL ให้ได้ทุกปีก็พอ
** แต่สภาพทีมปัจจุบัน คือ ดีเกินคาด **


ต้องยกเครดิต ให้ทีมบริหาร ทีมงานเบื้องหลัง (DOF) ที่พัฒนาระบบต่อเนื่องมา 10 ปี+
>> เป็นจุดแข็งให้ทีมในตอนนี้ <<

+ การคัดเลือกบุคลากร จัดว่าดีมาก อัตราความสำเร็จค่อนข้างสูง (ทั้ง ผู้จัดการทีม ทีมงาน และ ผู้เล่น)
+ การหารายได้ทางการตลาด สปอนเซอร์ โฆษณา ดีขึ้นมา มี Partner ชั้นนำมากขึ้น จากทุกมุมโลก
+ เพิ่มความจุสนาม Anfield มาต่อเนื่อง รวมถึง พัฒนาความทันสมัยในสนาม และรอบๆสนาม
+ สร้าง สนามซ้อม AXA Training มีความพร้อม ความทันสมัย อันดับต้นๆของยุโรป ทำให้ศักยภาพหลายๆด้าน ของ นักเตะชุดใหญ่ และ ชุดเยาวชน มีการพัฒนาที่ดีขึ้น จากสถานที่ และระบบการซ้อมที่พร้อมใช้งานในระดับสูง

กดผิดครับ

หลังบ้านหงส์แน่นจริงๆ
ผิดแผนแค่เทร้นจริงๆ
ซึ่งใครมันจะคิดว่าเทร้นมันจะทำงี้วะ 555555
นอกนั้นคือเป้ะมาก ทุกอย่างลงล้อคไปหมด

ผีคือแก้เฉพาะหน้า แก้ด้วยเงิน
มันไม่ได้ลงรากฐานอะไรเลย
ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปนานๆ บุญเก่าหมด จะลำบากเอา

ผมก็ว่าช่วงนี้ทีมลิเวอร์ทำอะไรก็ดีหมด ซื้อนักเตะ ขายนักเตะ ฟอร์มการเล่นแทบไม่มีเป๋เลย ยังมีโมเม้นของผู้ชนะอีก

เวลาผ่านไปเร็วมากนะ นี่จะครึ่งทางของ 30 ปี แล้ว ตั้งแต่แมนยูจบอันดับ 1 ของตารางพรีเมียร์ลีกส์แล้ว

เพราะฉะนั้น 30 ปี ไม่นานเกินรอเลย

ผมคิดว่าบอลยุคนี้ จะประสบความสำเร็จ มันพึ่งหลายปัจจัยเลย ถ้าหลังบ้านไม่แน่น ไม่มีทางไปถึง
ยิ่งในพรีเมียร์ลีกส์ แข่งขันกันเข้มข้นมาก

แมนยู อาจต้องลุ้นเปลี่ยนบอร์ด หรือยกโครงสร้างอีกสักครั้ง ถ้าหลังบ้านเป็นแบบนี้ ในสนามเอาใครมา ก็ตะกุกตะกักครับ

เอาตรงๆยุคทองตั้งแต่ FSG เข้ามาปรับโครงสร้าง แล้วดึงโคตรผู้จัดการทีมอย่าง JK เข้ามา

เป็นการปลุกจิตวิญญาณทั้งของนักเตะ และแฟนบอลนี่แหละ ส่วนระบบการสร้างทีมให้เครดิตหลังบ้านจริงๆ

หันกลับไปมองตั้งแต่สมัยก่อนกว่าจะถึงวันนี้แฟนหงส์ก็เจ็บปวดมาเยอะครับ ส่วนแมนยูก็รอปรับโครงสร้าง

วางระบบใหม่อาจจะต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าเดี๋ยวก็กลับมาได้แฟนบอลเยอะให้การสนับสนุนตลอด

พูดไปก็ต้องกลับไปเรื่องหลังบ้านอีกนั้นแหละครับ

อย่าว่างั้นงี้เลย เอาแค่ช่วงเวลา 3-4 ปีก่อนละกัน หงส์เนี่ยแหละ ที่หลังบ้านต้อง Restructure ใหม่ ขนาดตอนนั้น หงส์มี JK นะที่ว่ากันว่าเก่งระดับ Top 3 ละกัน ยังเจอปัญหาเลย

ผมไม่รู้เรื่องหลังบ้านของผีนะ แต่ของหงส์มันเลือกทางนี้แบบแน่ชัด ซึ่งแน่นอนแฟนทีมเดียวกันก็ด่ายับ เข้าเน็ทแล้วพิมพ์คำว่า FSGOUT ดูครับ ฮ่าๆๆๆๆ

เอาตรงๆนะครับ ถ้าเอาแค่เรื่องหัวๆ ผมว่าหงส์กับผีต่างกันแค่ เจ้าของครับ

ผมไม่เคยเห็นเจ้าของหงส์มันเข้ามายุ่งย่ามกับการตัดสินใจใดๆของทีมเลย แม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่มัน Takeover มาอะ ถ้าพูดแบบตรงๆก็คือ ผมว่าเฮนรี่มันรู้ตัวงเองว่าตัวเองรู้ หรือ ไม่รู้อะไร ไอเรื่องที่ไม่รู้ก็ให้มืออาชีพที่รู้เรื่องทำ เช่น ให้เอ็ดเวิร์ดจัดการเป็น Dof หรือคนต่อๆมาอย่าง Ward .... ซึ่งพอมีปัญหา JK ต้องไปดึงชมัคเค่มาช่วยอะ

กลับไปของแมนยู เอาตั้งแต่เกลเซอร์ที่มีผู้ช่วยอย่างเอ็ด หรือแม้แต่เซอร์จิม มันเหมือนแนวทางมันไม่ชัด แล้วก็มักจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าการวางแผนอะครับ

ส่วนผลงานในสนามก็ตามนั้นอะ กว่าหงส์มันจะกลับมาได้แชมป์แรก ถ้าผมจำไม่ผิด FSG เข้ามา 10/11 มั่ง กว่าจะได้ถ้วยเมเจอร์แรกจริงๆ โน้นอะ UCL ของ JK อะ 19/20 เกือบ 10 ปีอะ กว่าทุกอย่างจะลงตัวจริงๆ