ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกต้องแบนซุปเปอร์คาร์เหมือนที่แบนไม่ให้พวกนักกีฬาเล่นพวกกีฬาเอ็กตรีมทั้งหลาย ขับเร็วๆมันก็อาวุธเคลื่อนที่ดีๆนี่เอง  

อย่าขนาดนั้นเลยครับ โตกันแล้วเงินก็เงินเค้าชีวิตเค้าเองใช้วิจารณญาณเอาเถอะ  

เป็นสิ่งนึงที่ผมไม่เข้าใจ และอาจจะไม่เข้าใจไปทั้งชีวิตเลยด้วยมั้ง..

ทำไมคนที่รวยมากๆ ต้องขับรถสปอร์ต และต้องขับให้มันเร็วจนอันตราย

โอเคล่ะรถสปอร์ตมันอาจจะบ่งบอกถึงฐานะ แต่มันก็ขับช้าได้นี่หว่า

ต้องขับ 200 ขึ้นไปตลอดเหรอ เครื่องมันจะดับรึไงนะ

เคสนี้ก็ใช่ เคสของพอล วอคเกอร์ ก็ใช่อีก.. ถ้าขับปกติ เรื่องพวกนี้คงไม่เกิดขึ้น

 

ผมเดานะน่าจะลมยางอ่อนด้วย ลืมเติมลมยาง สันนิษฐานนะครับ  

แต่สโมสรมีสัญญาผูกพันนะครับ อันนี้ผมมองในมุมเป็นห่วง ไม่งั้นก็ต้องไลเซ่นเฉพาะไปเลย นอกเหนือจากไล่เซ่นรถปกติ  

นอกเรื่องนิดนึง..พูดถึงเรื่องความเร็ว

แม้แต่ผมเคยทำงานกับบริษัทเกือบ 10 ปี ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจ..ถนนแทบทุกเส้นในโลก มีความเร็วตามกฏหมาย limit ไว้ทั้งนั้น

แต่ตัวรถจากโรงงาน มีแค่ไม่กี่ประเทศที่ล็อคความเร็วสูงสุดไว้ที่ระดับนึง (คือมันเร็วกว่ากฏหมายแน่ๆแหละ แต่ก็แค่พอแซง)

แต่ที่เหลือ แทบไม่มีกฏหมายควบคุมให้ล็อคความเร็วรถเลย จะเหยียบเท่าไหร่ก็สุดตามแรงม้าจากเครื่อง เหยียบเกินก็ให้ตำรวจจับเอา

แน่ๆคือมีญี่ปุ่นละ 1 รถขายในประเทศล็อคแน่ๆ(เมื่อก่อนล็อคที่ 180) แต่พอไปขายประเทศอื่นก็ไม่มีล็อค เพราะไม่มีกฏหมายบังคับไว้

เพราะอะไรหว่า บังคับต้นทาง ง่ายยิ่งกว่าเอาเครื่องไปตรวจจับความเร็ว เอาตำรวจไปนั่งเฝ้า และจับได้แค่คนที่มันขับเกินไปแล้ว

กลับไม่คิดจะทำกัน คือกลัว super car หรือรถแรงๆม้าเยอะๆแต่ไม่ได้ใช้ แล้วจะขายไม่ออกหรอ

 

ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกต้องแบนซุปเปอร์คาร์เหมือนที่แบนไม่ให้พวกนักกีฬาเล่นพวกกีฬาเอ็กตรีมทั้งหลาย ขับเร็วๆมันก็อาวุธเคลื่อนที่ดีๆนี่เอง  

พอล วอคเกอร์นั้น ขับในสนามแข่งไม่ใช่เหรอ?