MK เปิดใจหลังกำไรไตรมาส1ลดลง32%
เอ็มเค สุกี้ เปิดใจ ในวันกำไรลด 32%
“ยักษ์ปรับตัว” ลุยบุฟเฟต์ -เพิ่มเมนูคุ้มค่าถึงเวลาบุกตลาดต่างประเทศ

M หรือ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในหุ้นที่ถูกจับตาเสมอ ในทุกครั้งที่มีการประกาศผลการดำเนินงาน เพราะด้วยการคุกคามของผู้เล่นรายใหม่มากมายที่เข้ามาถล่มตลาดหม้อต้ม ด้วยเกมบุฟเฟต์ราคาถูก
.
ผู้เล่นรายเดิมที่ครองตลาดอย่าง M ย่อมได้รับผลกระทบ และในไตรมาส 1 ของปี 2568 ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผลออกมา มีกำไร 234 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนถึง 32% ซึ่งความน่าห่วงคือ ยอดขายสาขาเดิมของ M ยังปรับลดลงอีก 10%
.
ซึ่งการประกาศงบในครั้งนี้ M มาพร้อมกับการเปิดใจครั้งแรกกับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดย M ยอมรับว่า ธุรกิจหม้อต้มสุกี้นั้นเปลี่ยนไปแล้ว ด้วยการแข่งขันที่รุนแรง เศรษฐกิจที่ชะลอตัว
.
และถึงเวลาที่ยักษ์ใหญ่อย่าง M ถึงเวลาต้องปรับตัวเช่นกัน โดย M จากเนื้อหาที่ออกมา สะท้อนว่า M ได้ยินเสียงของผู้บริโภคที่มากขึ้น โดย M ประกาศลงสนามบุฟเฟต์ เร่งออกเมนูที่คุ้มค่า เพื่อให้ลูกค้าง่ายในการตัดสินใจซื้อ พร้อมหาธุรกิจใหม่ๆ เข้าลงทุนเพื่อต่อยอดการเติบโต
.
โดยสารที่ออกมาจาก M สรุปได้ดังนี้
.
- M ยอมรับว่า ธุรกิจร้านอาหาร ถึงแม้ว่าภาพรวมยังไม่เติบโตเท่าที่ควร ไตรมาส 1 ปี 2568 เผยรายได้รวม 3,626 ล้านบาท รายได้จากการขายและบริการ 3,541 ล้านบาท ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรสุทธิ 234 ล้านบาท ลดลง 32.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
.
- สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภาระหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค การแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในธุรกิจร้านอาหาร และต้นทุนวัตถุดิบบางประเภทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จนสร้างผลกระทบต่อตลาดธุรกิจร้านอาหารในไทยเป็นวงกว้าง ตั้งแต่เชนร้านอาหารขนาดใหญ่ ขนาดกลาง จนถึงร้านอาหารขนาดเล็ก
.
- M เตรียมแผนรับมือ พร้อมปรับโมเดลธุรกิจใหม่ โดยทาง MK Restaurants จะมีการปรับ Store Conversion บางสาขาเป็นโมเดลรูปแบบบุฟเฟต์แทน (MK Buffet) เพิ่มเมนูและปรับราคาให้เข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมกับการกระตุ้นยอดขายด้วย Value Promotion ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึก ‘คุ้มค่า’ ที่สุดในการตัดสินใจซื้อ
.
- ต่อยอด แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดคือ HIKINIKU TO COME (ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ) ปัจจุบันก็ยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คาดมีโอกาสเติบโตและวางแผนเตรียมขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 MK GROUP มีร้านอาหารในเครือทั้งหมด 13 แบรนด์ รวม 723 สาขา
.
โดยในประเทศจำนวน 688 สาขา คือ MK Restaurants, MK Live, MK Gold, YAYOI, แหลมเจริญ ซีฟู้ด, HIKINIKU TO COME, HAKATA Ramen, MIYAZAKI, เลอ สยาม, ณ สยาม, BIZZY BOX (Grab&go), LE PETIT, Multi Brand
.
สาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศอีก 35 สาขา คือ MK Restaurants สาขาประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว, สาขาแฟรนไชส์ แหลมเจริญ ซีฟู้ด สาขาประเทศมาเลเซีย, MIYAZAKI สาขาประเทศลาว
.
- มีแผนจะขยายสาขาในประเทศ เพิ่มอีก 15 สาขา แบ่งเป็น MK Restaurants 5 สาขา, Yayoi 3 สาขา, แหลมเจริญ 5 สาขา และ HIKINIKU TO COME 2 สาขา ซึ่งในส่วนของการขยายแฟรนไชส์ต่างประเทศคือ แหลมเจริญ มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย
.
- สุดท้าย MK GROUP ยังคงมองหาบริษัทและสินทรัพย์ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง เข้ามาเติม Portfolio ให้แข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงการมองหาผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาร่วมทุน (Master Franchise) เพื่อช่วยขยายธุรกิจร้านอาหารให้มากขึ้นอีก โดยตลาดที่ยังคงให้ความสนใจคือ South East Asia เป็นหลัก
ที่มา เพจ think plus investor