ภายใน 5 ปีนี้ ไฟฟ้ามีโอกาสจะขึ้นราคามากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนน้ำมันมั้ยครับ เอาเฉพาะที่เป็นแบบเติม Fast charge ตามปั๊มนะ ผมว่ายิ่งคนใช้เยอะ ปั๊มก็น่าจะยิ่งอยากทำกำไร กลัวว่าวันนึงเติมไฟฟ้าจะแพงพอๆกับการเติมน้ำมันป่ะครับ คือจากคอนเสปประหยัด จะเปลี่ยนเป็น รักษ์โลกแทนงี้

อิงตามค่าไฟแหละครับ แหล่งเดียวกัน

ถ้าคนใช้เยอะจริงก็คงจะมีพวกกฏหมายการควบคุมราคาแหละครับ แต่ยังไงส่วนที่ต่างจากน้ำมันแน่ๆ คือคนชาร์จไฟที่บ้านได้นะครับ บางคนขับทั้งปีอาจจะไม่ต้องไปชาร์จที่จุดชาร์จเลยก็ได้

แพงขึ้นแน่นอน แต่จ่ายต่อกิโลไม่น่าเท่าน้ำมัน(มั้ง)

กลุ่มเพื่อนผมที่ขุดบิทกันก่อนโควิด ติดโซล่าเซลกัน พอมาใช้รถไฟฟ้ากันหมดสบายจัดเลย
ส่วนถามว่าอนาคตตามปั้มจะขึ้นราคาไหม ก็อาจจะขึ้่นได้ครับ ตอนนี้บางจุดก็แพงอยู่ครับ แต่มันอยู่ที่เราแหละว่าเราวางแผนเดินทางแบบไหน รถไฟฟ้านี่มันได้หลายแบบมากๆแม้กระทั่งจอดนอนม่านรูดข้างทางชาทไฟ

ราคาไฟฟ้าต่อหน่วยถูกควบคุมโดยหน่วยงานรัฐ กกพ. และ คณะกรรมการวางแผนนโยบายพลังงาน ซึ่งตอนนี้มันเหลือเยอะมากกกกกกกก เลยไปลงเป็นค่าFt ตอนนี้ไทยมีพลังงานสำรองเหลือเยอะเกินความต้องการถ้าภายใน 5ปีนี่มีรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น2เท่ายังไงก็ยังพอเพราะส่วนใหญ่พลังงานสำรองที่ตั้งไว้นั้นเพื่อรองรับการเติบโตในฝั่งอุตสาหกรรมมากกว่า(ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ยุคนายกยิ่งลักษณ์ตอนนั้นหากเราไม่โดนรัฐประหารไปก่อน)

ตามปั๊มอาจจะขึ้นครับ ลงทุนตู้นึง2-3ล้านได้กำไรหน่วยละสลึงเอง แล้วรถคันนึงเติมแค่ 30-50หน่วย กว่าจะคืนทุน

แต่ตามบ้านไม่น่าขึ้นเพราะกระทบทุกคน
ของผมสบายเลยชาร์จมิเตอร์TOUถูกๆ ก่อนนอนก็ชาร์จตื่นมาก็เต็มไม่เคยชาร์จนอกบ้านสบายๆครับ

ถ้าค่าไฟแพง มันกระทบทั้งประเทศ (จะมากกว่าน้ำมัน)

ดังนั้น รัฐบาล ต้องหาวิธี ทำให้ค่าไฟ ไม่สูงกระทบประชาชน

การได้มาซึ่งไฟฟ้า ภาคประชาชน ก็ยังมี โซล่าเซลส์ ในการจัดหามาติดตั้ง

ในช่วง 10ปีนี้ ค่าไฟ ก็จะผันแปรไปตาม ราคาน้ำมันอยู่เหมือนเดิม

ไฟฟ้าแพงตามราคาก๊าซโลกครับ ไทยมีแผนจะเปลี่ยนเป็นน้ำลมแดดในอีกไม่กี่สิบปีตามนโยบายซีโร่คาบอนของฝรั่ง

แต่ตอนนี้ไทยใช้ก๊าซ70% กาซราคาขึ้นจากสงครามไฟก็แพงตามครับ

ถึงจุดๆนึง ต้องมีโรงไฟฟ้านิวเคลียมะ

ถ้าคิดตามที่ควรจะเป็น แบบสมมตินะ ถ้าทั้งโลกเลิกให้รถน้ำมัน(เฉพาะรถส่วนบุคคลก็ได้) ราคาค่าไฟควรที่จะถูกลง เพราะถ้าเอาน้ำมันจากรถที่ใช้น้ำมันทั้งหมดมาผลิตเป็นไฟฟ้าแล้วนำไปใช้กับรถไฟฟ้า ความสูญเปล่าจะน้อยกว่ารถน้ำมันที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันโดยตรง เท่าที่เคยอ่านมาเค้าบอกรถใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนแค่ 20% แค่นั้นเองที่เหลือเสียไปกับเรื่องความร้อนและอื่นๆ เพราะฉะนั้นการที่โรงไฟฟ้านำน้ำมันมาผลิตน่าจะใช้ได้คุ้มค่ากว่า เพราะฉะนั้นน่าจะถูกกว่าจากต้นทุนของน้ำมันที่ความต้องการใช้น้อยลง แต่ส่วนตัวมองไปที่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน มากกว่าถ้าทำได้จริงนี่ค่าไฟน่าจะลดลงได้อีกเยอะเลย

พูดถึงค่าไฟ บ้านเราใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟเยอะ ถ้าราคาก๊าซขึ้นค่าไฟก็จะขึ้นตาม

พูดถึงปริมาณการใช้ EV ถ้าชาร์จตามบ้านราคาตามที่ใช้ในบ้านปกติ ถ้าชาร์จตามปั้มก็เป็นอีกราคาหนึ่ง

ตอนนี้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบ้านเราเหลือๆ เลยครับ ผมว่าเรื่องการใช้ EV ไม่น่ากระทบค่าไฟ

ตามหลักการมันไม่ควรจะแพง

เอาราคาน้ำมันก็ได้ ราคาต้นทุนจริงๆเท่าไหร่ มีอะไรที่บวกเข้ามาล่ะ?

วันนึงคนใช้รถไฟฟ้า ไม่คิดว่ารัฐจะหาเหตุผลมาบวกเพิ่ม?

เบนซิน ดีเซล ยังมีส่วนต่างที่ไม่เหมือนกัน

ไฟบ้าน ไฟโรงงาน อนาคต อาจจัดเก็บผ่านหม้อแปลงเฉพาะ ไฟชาร์จรถ

หรืออาจจัดเก็บตามราคาเรท บลาๆ ก็ไม่รู้จะหาเงินทางไหน

ตัวอย่างไม่นานก็ที่ช่วงค่าไฟแพง ยังจะเป็นจะตายกันเลย

ยังไงก็ถูกกว่า ระยะยาวก็ดีกับโลกใบนี้ด้วย
ขอแค่มีการพัฒนาความจุ วิ่งได้ครั้งละ 800 กม.

ถ้าค่าไฟแพงจัดติดโซลาเซลเป็นทางเลือกได้ครับ