ยึกๆยักๆ พอกัน  

ใช่ครับ หลักๆคือ บอกผมจะเป็นศูนย์กลางและลีดเดอร์ของโปรเจคนะ แต่มีคูลิกับราฮีมเด็กใหม่ค่าเหนื่อยมากกว่า

พอเกือบจะตกลงกันได้แต่ติดภารกิจบอลโลกกลับมา ส่งลูกน้องอีกคนมสคุยแทนบอกข้อเสนอเดิมไม่อยู่แล้วนะ อันนี้ข้อเสนอใหม่น้อยลงกว่าเดิม กับเป็นระยะสั้น

ถ้าผมมีทางเลือกอื่นผมก็ไป

แต่ในมุมสโมสรก็ไม่ผิดเพราะผู้บริหารใหม่ก็คงมีแนวทางอื่นที่ต้องการเดินไป ดังนั้นแยกย้ายกันคือทางที่เหมาะสมที่สุดแล้ว  

ที่เม้าท์ย้ายไม่เกี่ยวกับเงินครับ แต่เชลซีให้ค่าเหนื่อยไม่เท่ากับที่เม้าท์ขอแค่นั้นเอง  

เชลซี ดูไม่มั่นใจกับเม้าท์ เลยไม่กล้าทุ่มค่าเหนื่อยเต็มตัว + ฟอร์มนักเตะดรอป

พอระยะเวลาสัญญาเหลือน้อย ทำให้เชลซี ต้องตัดสินใจ ขายดีกว่าเสียนักเตะฟรีแบบ รูดิเกอร์

จังหวะพอดี ที่แมนยู เสนอ ทั้งค่าตัว และค่าเหนื่อย ที่เหมาะสม เม้าท์และเชลซี รับได้กับข้อเสนอแมนยู จบด้วยทุกฝ่ายได้ สิ่งที่ต้องการ

แต่แฟนบอลส่วนใหญ่ก็ตามด่าเม้าท์ เพราะคิดว่านักเตะต้องจงรักภักดี ยอมเสียสละให้สโมสรมากกว่านี้  

ตอนนี้เป็นปัญหาของแฟนบอลที่กำลังหาข้อมูลมาแลกกันเพื่อหาข้อสนับสนุนน้ำหนักแนวคิดของตัวเอง
ฝั่งนึงต้องการค่าตัว ค่าเหนื่อยกับทีมใหม่ให้มันดูสูงๆ ฝั่งนึงต้องการให้ค่าเหนื่อยไม่สูง
สุดท้ายก็มาวัดกันที่เทียร์นักข่าวที่ตัวเองอยากเชื่อ ดันเทียร์เดียวกันอีก
 

ตอนแรก เชลซี ให้รวมๆเท่า เจมส์ ละครับ 250K แต่จะเป็นในรูปแบบ มีแอดออนโบนัส ได้เยอะ ตามผลงาน + ลดค่าเหนื่อยถ้าไม่ได้ไป UCL


ซึ่ง เมาท์ ไม่เอา เมาท์ อยากได้แบบ สเตอริ่ง กับ คูลิบาลี่ ( ซื้อ 2 คนนี้มาก่อนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเซ็นสัญญาเป็น เน้นแอดออน + ใส่เงื่อนไขลดค่าเหนื่อยถ้าอดไป UCL ) คือ ขอเงินต้นเยอะเลย และ ไม่มีเงื่อนไขลดค่าเหนื่อย


ถ้าจะขอแบบ ริ่ง กับ คูลิ คือ ขอเกือบๆ 300k นั่นแหละ


เชลซี เลยไม่ตกลง ก็คุยๆกันไปซักพัก เมาท์ ไปบอลโลก ฟอร์มห่วย กลับมา ฟอร์มห่วย เลยยกเลิกข้อเสนอที่คุยไว้ก่อนหน้านี้ ( ที่ว่าจะให้รวมๆแล้วเท่า เจมส์ )


แล้วคุยมาถึงกุมภาก็ ขอขยายก่อน 1 ปี ให้ 200k + ค่าฉีก 70 ล้าน เพื่อขยายเวลาการเจรจา


แต่ เมาท์ มองว่า ขยายเพื่อเอาไปเป็นข้อได้เปรียบในการเจรจาขายนี่หว่า ก็เลยไม่เอา


สุดท้าย เชลซี มองว่า เมาท์ คงตัดสินใจย้ายละ ก็เลยไม่คุยอีกเลย  

เห็นพิมกันเยอะมากเชลซียื่นไป 1 ปี