#เซฟพอตเตอร์! JWP ฟรีคิกปลิดชีพสิงห์ 'คาบ้าน' 1-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แกรม พอตเตอร์ ก้นร้อนระอุสุดๆ หลังเกมรุกยังมีปัญหาเจาะประตูไม่ได้ แถมมาโดนทีเด็ดฟรีคิกกดสูตรของ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ตุงตาข่ายเป็นประตูโทนพา เซาธ์แฮมป์ตัน บ๊วยของตารางบุกมากำชัยเหนือเชลซี 1-0 ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี
Starting Formation: 4-2-3-1
21.
เบน ชิลเวลล์

84'
6
26.
คาลิดู คูลิบาลี่

46'
6
28.
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า

84'
6.5
19.
เมสัน เม้าท์

64'
5.5
31.
โนนี่ มาดูเอเก้

64'
6.5
27.
เดวิด ดาโตร โฟฟาน่า

46'
6
ตัวสำรอง
14.
เทรโวห์ ชาโลบาห์

84'
6
33.
เวสลี่ย์ โฟฟาน่า

46'
6
15.
มีคายโล่ มูดรีค

64'
6
23.
คอเนอร์ กัลลาเกอร์

84'
6
29.
ไค ฮาแวร์ตซ์

64'
6
17.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

46'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566
กรรมการ เดวิด คูต
เชลซี
0
1
เซาธ์แฮมป์ตัน
0-1 เจมส์ วอร์ด-เพราส์ 45+1'
เชลซี ปรับนักเตะหลายตำแหน่งในเกมนี้ แล้วเป็น เดวิด ดาโตร โฟฟาน่า ได้โอกาสออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในแดนหน้า โดยมี เชา เฟลิกซ์, เมสัน เม้าท์ และโนนี่ มาดูเอเก้ คอยทำเกมเสริมด้านหลัง ด้านเซาธ์แฮมป์ตัน หนีตายวางให้ปอล โอนูอาชู กับ คามัลดีน ซูเลมาน่า เป็นคู่หัวหอก
นักบุญได้ลุ้นก่อน
เริ่มเกมมา นักบุญ มีโอกาสก่อนเมื่อ ซูเลมาน่าฉกบอลจากบาเดียชิล ได้ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ไม่ผ่านเซฟของเกปาที่ออกมาจากเส้น แล้วจังหวะต่อมาอาร์มสตรองพยายามยิงนอกกรอบก็ไปติดบล็อคคูลิบาลี่ที่ตามมาสกัดก่อนพ้นเส้น
โอนูอาชูโขกไม่ถนัด
เซาธ์แฮมป์ตันได้โอกาสจากการครอสบอลของวอร์ด-เพราส์เข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนเป็นโอนูอาชู ที่โดนชิลเวลล์หนุนอยู่ได้โขกแต่บอลก็ข้ามคานออกไป
มาดูเอเก้ลากครึ่งสนามยิงติดเซฟ
จังหวะสวนกลับของเชลซีได้ลุ้นเลย มาดูเอเก้ ฉกบอลได้จากกลางสนามก่อนลากขนานริมเส้นซ้ายจนเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงยัดเสาแรกทันทีแต่บาซูนูยังปัดเอาไว้ในจังหวะแรกก่อนเสียเตะมุม
เดฟหลุดซัดมุมแคบ
อัซปิลิกวยต้าได้บอลจากโฟฟาน่าที่เบิ้ลจังหวะเดียวให้เขาหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบแต่บอลก็เข้าข้างตาข่ายเท่านั้น
เฟลิกซ์ได้แค่โขก
เชลซีพยายามตั้งเกมบุกเข้าใส่แล้วได้จบ อัซปิลิกวยต้าหยอดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เฟลิกซ์ เทคตัวขึ้นโขกแต่เป็นจังหวะที่ตกลงมาเลยเบาเกินไปแถมไม่ตรงกรอบอีกด้วย
โฟฟาน่าซัดไกลเบาเกินอีก
สิงห์บลูส์ พับสนามเลยแล้วมีโอกาสลุ้นอีกที โฟฟาน่าเกี่ยวบอลลงก่อนหนีตัวประกบได้แล้วลองส่องไกลนอกกรอบแต่ก็เบาเหลือเกินบาซูนูรับสบายเลย
ลูกสูตร! วอร์ด-เพราส์ฟรีคิกงาม 1-0
นักบุญ ได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะพอดิบพอดี 22 หลา กลางประตู เป็นทางวอร์ด-เพราส์ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงก่อนผ่านมือเกปาที่มาไม่ทันซุกก้นตาข่าย 1-0!!!
ราฮีมลงมาช่วยสิงห์
พอตเตอร์ลงมาครึ่งหลังแก้เกมเปลี่ยน 2 คนเอา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ลงสนามแทน คูลิบาลี่ กับเดวิด ดาโตร โฟฟาน่า
ราฮีมเกี่ยวยิงติดบล็อคอีก
ราฮีม ลงมาวูบวาบเลยคราวนี้รับบอลมาจากบาเดียชิลก่อนยิงด้วยซ้ายแต่ไปติดบล็อคแล้วกระดอนออกหลัง
เดฟพักยิงยังหาเรดาร์ไม่เจอ
บอลโยนยาวจากโควาซิชเข้ามาในกรอบเขตโทษอัซปิลิกวยต้าที่แอบเข้ามาพักอกลงก่อนตวัดยิงทันทีแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
สี่ยไนลส์เซฟนักบุญ
ยังเอาประตูตีเสมอไม่ได้สำหรับเชลซี ฮาแวร์ตซ์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนเลือกจ่ายมาให้ราฮีมวิ่งเข้ามายิงแต่ยังมีเมียตแลนด์-ไนลส์วิ่งมาขวางเอาไว้ได้อีก
สิงห์อดเสมอไม่น่าเชื่อ
ไม่น่าเชื่อว่าเชลซี ยังไม่ได้ประตูอีก คราวนี้ ฮาแวร์ตซ์ เฟลิกซ์หลุดมาทางซ้ายก่อนเปิดไปทางเสาไกลให้ ราฮีม โหม่งผ่านบาซูนูแล้วแต่ยังมีเปอร์โรด์สกัดบนเส้นแล้วราฮีมตามซ้ำก็ยังไม่ได้อีกไปติดบล็อคของลาเวีย
เกปาเซฟ!อาร์มสตรองชาร์จไม่ผ่าน
วัลค็อตต์กระชากขึ้นมาทางขวาก่อนเงยหน้าแล้วปาดเรียดมาให้อาร์มสตรองวิ่งเข้ามาแปที่จุดนัดพบแต่ต้องชมเกปาที่ออกมาขวางทางเอาไว้ทัน
มาร่าเล่นอันตรายฟาดเดฟร่วง
เกมต้องหยุดลงชั่วขณะ เป็นจังหวะอันตรายที่มาร่าไปฟาดเข้าที่หน้าของอัซปิลิกวยต้าดังสนั่นจนล้มลงไป กรรมการเป่าแล้วให้แพทย์ลงมาดูอาการทันทีพร้อมแจกใบเหลือง ส่วนคู่กรณีต้องหามออกจากสนามไปแล้วให้ โดยเกมต้องหยุดร่วม 10 นาทีเลย
บาซูนูเซฟเบิ้ลสิงห์ยิงไม่เข้า
ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษทางซ้ายของเชลซี เฟลิกซ์ปั่นไปติดเซฟของบาซูนู แล้วจังหวะต่อมา กัลลาเกอร์ ลากหลุดเข้ากรอบเขตโทษทางขวาก่อนยิงไปติดบาซูนูอีกรอบ
สิงห์หมดท่าพ่ายบ๊วย 0-1
หมดเวลาช่วงทดเจ็บ 12 นาที เชลซีก็ยังยิงไม่ได้ทำให้ต้องพ่ายไป 0-1 ส่วนเซาธ์แฮมป์ตัน เก็บแต้มสำคัญระหว่างการหนีตายได้สำเร็จ
เซาธ์แฮมป์ตัน
Starting Formation: 5-3-2
3.
ไอน์สลี่ย์ เมียตแลนด์-ไนลส์

90+5'
7.5
17.
สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง

59'
6.5
24.
โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่

87'
6.5
45.
โรเมโอ ลาเวีย

87'
6.5
12.
ปอล โอนูอาชู

59'
7
20.
คามัลดีน ซูเลมาน่า

59'
6
ตัวสำรอง
4.
ลีอันโก้

90+5'
6
26.
คาร์ลอส อัลคาราซ

87'
6
27.
อิบราฮิม่า ดิยาลโล่

87'
6
9.
อดัม อาร์มสตรอง

59'
6
18.
เซคู มาร่า

59'
6
32.
ธีโอ วัลค็อตต์

59'
6
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Sun Feb 19, 2023 00:27, ทั้งหมด 17 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ