พอดีผมมีคนรู้จัก ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ในเรื่องการค้ำประกันให้คนรู้จัก เค้าเกือบต้องเสียบ้านไป

ผมก็เลยได้คุยกับแฟนเกี่ยวกับ เรื่องนี้ เพราะคนที่มีปัญหาเค้ามายืมตังผม(ใช้คืนหมดแล้ว)

ผมเลยได้สมมุติเหตการว่า ถ้าน้องชายแฟน มาขอให้แฟนผมค้ำให้ เค้าจะค้ำมั้ย (เค้าบอกไม่ตอบ)

ผมเลยถามไปอีกว่า ถ้ามาขอให้ผมค้ำ ผมไม่ค้ำให้ จะโกรธมั้ย เค้าก็ไม่ตอบ

ถ้าเกิดเหตการณ์ขึ้นจริง ผมควรทำยังไงดีครับ

ไม่อยากค้ำ และ ไม่อยากมีปัญหากับแฟน

ค้ำเมื่อไหร่ ชีวิตบันเทิงแน่ๆ กับญาติ พี่น้องก็อย่าไปค้ำ

พ่อแฟนผมไปค้ำให้ญาติ สุดท้ายญาติชิ่ง ผมนี่แหละต้องเอาเงิน 800k ที่ตั้งใจจะเก็บไว้ซื้อบ้าน รีโนเวทบ้านไปจ่ายแทน

ถ้าไม่จ่ายบ้านก็โดนยึด แผนต่างๆ ที่วางไว้หายวับเลย

ค้ำให้สุดท้ายก็มีปัญหาตามมาอยู่ดี
สู้ไม่ค้ำดีกว่า อย่างน้อยก็มีปัญหาแค่กับแฟนเรา

ไม่จำเป็นจริงๆ อย่าไป ค้ำประกัน ให้คนอืนครับ
ให้เค้าหาสิ่งอื่นไป ค้ำประกันแทน

แต่ถ้า หาทางอื่นๆ ไม่ได้แล้ว ให้ประเมิณระดับความเสียหาย หากผิดพลาดขึ้นมา
อย่างแย่ที่สุด จะเป็นเป็นยังไง

อนาคต คาดว่าจะมีประกันภัย ออกกรมธรรม์ ค้ำประกัน ออกมาแน่นอน
ตอนนีก็มีแล้ว กรณีที่เราไม่มีเงินวางศาล เค้ามีประกันภัยขายในส่วนนี้อยู่ ไม่ต้องเอาเงินก้อนไปวางศาล

" ทะเลาะกันคงไม่กี่วัน แต่ค้ำประกันคนอื่น นอนผวาไปทุกคืน จนกว่า จะจบเรื่อง "

ต้องดูนิสัยคนกู้ด้วย ใช้หนี้ตรงเวลาไหม การงานมั่นคงไหม ใช้เงินเกินตัวป่าว

อย่างผม กู้รถ กู้บ้าน ถ้าไม่ได้ลูกพี่ค้ำผมก็คงไม่มีรถ ไม่มีบ้าน

ผมให้คนค้ำเป็นผู้มีพระคุณ เหมือน พ่อแม่พี่ ผมเลย

ไม่ค้ำให้โกรธยังมีโอกาศคืนดีกันนะ แต่ถ้าค้ำแล้วชิ่งนี่แทบไม่เผาผีกันเลย

อย่าค้ำ ผมก็ติดภาระค้ำ มีแววต้องชดใช้ 3แสนกว่า

ไม่น่าเลยกรู

เอาจริง ๆ มันต้องดูเป็นคน ๆ ไปนะ
การใช้คำรวม ๆ ว่าห้ามค้ำให้คนโน้น คนนี้น คนนั้น มันคือการ play safe ในรูปแบบนึง
ซึ่งก็รับได้นะ ไม่ใช่ไม่ดี

แค่จะมาบอกว่า มันต้องดูสิ่งต่าง ๆ ประกอบด้วย จะใช้คำแนะนำใด ๆ ตรง ๆ โดยไม่คิดตามไม่ได้ 100%

ยกตัวอย่างผมก็ได้ ทั้งมอเตอร์ไซค์ ทั้งรถกะบะ
ผมก็ให้เพื่อนค้ำให้ มอเตอร์ไซค์นี่ มันค้ำ ผมผ่อนตามปกติ
แต่รถกะบะนี่ ผมค้ำ ชื่อมันผ่อน (รถผมนะ)

ปีหน้าก็จะผ่อนหมดแล้ว

อันนี้คือเพื่อนกัน โทรด่ากันบางช่วงก็ด่ากันทุกวัน
ช่วยเหลือแลกเปลี่ยนกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ และการให้ข้อมูลหรือทำธุระบางอย่างให้

ถ้าจะให้ผมไปค้ำของให้มัน ผมก็ไม่เอานะ เพราะมันชอบมีปัญหาครอบครัวแล้วพ่วงเรื่องการเงินบ่อย ๆ
แต่มันค้ำให้ผมเนี่ย มันไม่ติด

ล่าสุดเดือนที่แล้วคุยเรื่องค่างวดรถกัน มันยังถามเลยว่า
"หมดคันนี้ มึงจะเอาอีกมั้ยล่ะ (ถามแบบกัด ๆ)
แต่คงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะกูไม่ได้ทำงานประจำแล้ว"


เมื่อต้นเดือนผมก็โทรหามัน
"งวดนี้ กูจ่ายคำงวดเลทนะ หมุนเงินไม่ทัน, น่าจะสิ้นเดือนเลย แต่ไม่เกินรอบงวดแน่นอน"

ที่ต้องบอกมัน เพราะว่า ไฟแน้นซ์จะต้องโทรไปหามัน

"คงต้อง 2 เดือนเลยนะ, กว่ากูจะเข้าสภาวะปกติ"

... "เดือนร้อนกูจังเลยนะมึง" (มันบ่น)

--------------------------------------------------------

เล่าให้ฟังเพิ่มเติม
ปีที่แล้ว ผมขับรถไปเที่ยวแม่สอด ระหว่างทางมีด่านตรวจ
แล้วจะตรวจสำเนารถ ดูชื่อเจ้าของ (เข้าใจว่าแถวนั้น ลักลอบขโมยรถไปพม่าเยอะ)

พอบอกเจ้าหน้าที่แล้ว เค้าก็เลยให้ call พร้อมเปิดกล้องคุยกับมัน
โดยให้มันโชว์บัตรประชาชนด้วย (ที่ตรงกับชื่อเจ้าของรถ)

มันยังไม่ตื่น แล้วมันก็เปิดกล้อง call ทั้ง ๆ ที่หัวยังไม่หวี

โคตรบ้าบอ 55555

น่าเห็นใจมากเลยครับท่าน

ผมคิดไม่ตกเลย ถ้ามาขอให้ค้ำจริง ไม่รู้จะใช้คำพูดไหนเลย

เกรงจะบานปลายหนักมากเลยครับท่าน

แฟนผม รักและสนิท กับ น้องชาย คนนี้มาก เป็นห่วงเป็นใยตลอด

เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องถามเค้า
ถ้าเค้ากล้าๆมาถามค่อยตอบไม่

เเละเป็นเรื่องที่ไม่ต้องไปบอกเค้า ถึงเวลาก็เเค่อย่าไปให้เค้าค้ำ

ผมถามไว้ก่อน เค้ายังไม่ตอบ เค้าบอกไม่ตอบ ทำท่าโกรธอีก

นิสัยโอเคอยู่ครับ การใช้เงินประหยัด

แต่ ผมไม่ได้สนิทถึงขั้นรู้นิสัยทุกอย่าง ผมก็ไม่ค่อยอยากเสี่ยง

จริงครับท่าน กลัวจะมองหน้ากันไม่ติดนี่แหละ

ค้ำก็โดน

ไม่ค้ำก็โดน

โคตรแย่เลยท่าน เห็นใจเลยครับ