เริ่มศึกษาคริปโตมาไม่นาน เริ่มแรกจาก btc ก่อน
คือเก็ทไอเดียมันอยู่นะ ที่ว่าไม่มีใครควบคุมจริงจัง มีการจ่ายโอนระบบบล็อกเชน ไม่มีตัวกลางควบคุม มีปริมาณเหรียญค่อนข้างจำกัด

จึงสงสัยไปถึงเหรียญอื่นๆว่า เหรียญอื่น มีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันมั้ยครับ หรือว่าสามารถผลิตเหรียญเพิ่มได้ไม่อั้น

เพราะเหมือน bitkub เคยบอกว่ามีเหรียญในมืออีกจำนวนนึง ที่ไม่ได้ปล่อยออกตลาด แต่จะทยอยปล่อยออก

ถ้าเป็นอย่างที่คุณท็อปบอก มันก็ไม่ได้ decentralized จริงหรือเปล่าครับ เพราะมีเจ้ามือใหญ่ที่ผลิตเหรียญในมือ แบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากการปั๊มแบงค์เลย





ผู้รู้เล่าให้ฟังหน่อยครับ

คือปกติแล้วการทำเหรียญขึ้นมาซักเหรียญเนี่ย เค้าจะมีการแจ้งชัดเจนครับว่า mint ขึ้นมาเท่าไหร่ Max supply เท่าไหร่ จะเอาไปทำอะไรอย่างไรบ้างในแต่ละไตรมาสเป็น Roadmap ของเหรียญนั้นๆ (เราเรียกว่า Whitepaper) เราเองสามารถเข้าไปเช็คบนเชนของเหรียญนั้นๆหรือเช็คบนเชนที่เหรียญนั้นรันอยู๋ได้ครับ อันนี้คือปกติของเหรียญทั่วๆไปในตลาดนะครับ

แต่พูดถึง Kub อันนี้มีการแก้ Whitepaper มาแล้วครั้งนึง คือตอนแรก mint เหรียญมาทั้งหมดพันล้าน Kub พอช่วงที่ราคาตกมากๆเหลือ 13-15บาทมั้ง ก็มีการแก้ Whitepaper และลดจำนวนซัพพลายของเหรียญ(เผาเหรียญในระบบทิ้ง)ไป 89% โดยอ้างว่าเหรียญในระบบมีเยอะเกินไปมั้งผมจำไม่ค่อยได้ อันนี้เราก็มองได้ว่าค่อนข้างแปลกหรือมองว่าทำเพื่อปั่นราคาก็ได้เหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าอ่ะเนอะเงินทั้งนั้น

มีเหรียญอยู่ใน Wallet ของพวก Founder หรือ Dev มันคนละเรื่องกับการเสกเหรียญนะครับ
ไม่ได้พูดถึง Kub นะ แต่ทุกเหรียญอ่ะ

แล้วสามารถเสกเหรียญเพิ่มออกมาได้อีกมั้ยครับ หรือมีการจำกัดปริมาณแล้ว

คือปกติแล้วการทำเหรียญขึ้นมาซักเหรียญเนี่ย เค้าจะมีการแจ้งชัดเจนครับว่า mint ขึ้นมาเท่าไหร่ Max supply เท่าไหร่ จะเอาไปทำอะไรอย่างไรบ้างในแต่ละไตรมาสเป็น Roadmap ของเหรียญนั้นๆ (เราเรียกว่า Whitepaper) เราเองสามารถเข้าไปเช็คบนเชนของเหรียญนั้นๆหรือเช็คบนเชนที่เหรียญนั้นรันอยู๋ได้ครับ อันนี้คือปกติของเหรียญทั่วๆไปในตลาดนะครับ

แต่พูดถึง Kub อันนี้มีการแก้ Whitepaper มาแล้วครั้งนึง คือตอนแรก mint เหรียญมาทั้งหมดพันล้าน Kub พอช่วงที่ราคาตกมากๆเหลือ 13-15บาทมั้ง ก็มีการแก้ Whitepaper และลดจำนวนซัพพลายของเหรียญ(เผาเหรียญในระบบทิ้ง)ไป 89% โดยอ้างว่าเหรียญในระบบมีเยอะเกินไปมั้งผมจำไม่ค่อยได้ อันนี้เราก็มองได้ว่าค่อนข้างแปลกหรือมองว่าทำเพื่อปั่นราคาก็ได้เหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าอ่ะเนอะเงินทั้งนั้น

เหรียญเยอะ ๆแบบนั้นจะปั่นก็ลำบาก

เพราะความเชื่อถือ จริงๆ btc มันเทคโนโลยีเก่า ต้นทุนในการขุดก็สูงแล้ว มันเลยกลายเป็นข้อดีเพราะไม่มีใครทำแบบนี้อีกแล้ว ตัวใหม่ๆ ทำมาเพื่อพัฒนาด้านอื่น และมีความ centralize สูงกว่า

เข้าเว็บที่ coinmarketcap ครับจะมีแสดงอยู่เหรียญในมี max supply นั้นคือมีจำกัดส่วนไม่มีคือ สร้างออกมาได้เรื่อยๆแต่บางตัวจะมีการปรับอัตราออก หรือ เบรินเพื่อ ลดการเฟ้อของเหรียญ เช่น eth xmr ส่วน kub แก้ max supply ด้วยมั้งหรือไรสักอย่างเนี่ยแหละ

แล้วแต่ whitepaper แต่ละเหรียญเลยครับ
อย่าง eth อันดับสองก็ไม่มี max supply นะ
แต่ kub นี่เอาเถอะ จะเปลี่ยน white paper ก็เปลี่ยนมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือเท่าไหร่
ถ้าจะเอาความ decentralized ตอนนี้ที่ดีสุดก็ต้อง btc แหละ แต่ก็ไม่ได้ decen ขนาดนั้นนะ

แล้วแต่ Project ครับ มีจำกัดก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ระยะยาวราคาดีขึ้นหรือสูงกว่าพวกที่ผลิตเรื่อยๆเสมอไป ขึ้นอยู่กับการกำหนด Tokenomics ของเหรียญนั้นๆ บางเหรียญปล่อยออกมา แต่มีกลไก burn ทิ้งเรื่อยๆ ถ้าอัตราการ burn สูงกว่าอัตราการปล่อยเหรียญก็เข้าสภาวะแบบ deflation ได้

แต่โดยปกติทั่วไป ถ้าเป็นการพัฒนาเหรียญที่ดีๆ จะมีการกำหนด timeline ปริมาณการเพิ่มของเหรียญ การปลดล็อคเหรียญสำหรับนักลงทุนต่างๆไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว กรณีแบบ bitkub เราจะไม่ค่อยเห็นใน project ที่ดีๆเท่าไหร่

ผมสงสัยทำไมแต่ละเหรียญเค้าไม่เอาบิทคอยน์มาค้ำเพื่อออกจำนวนเหรียญไปเลย จะได้เหมือนระบบgold standardสมัยก่อน ยังงี้เหมือนแต่ละเหรียญสามารถกำหนดตามใจได้เลยว่าจะออกเหรียญเท่าไหร่ จะดึงเหรียญออกเท่าไหร่ก็ได้ รู้สึกไม่แฟร์

หรือไม่ก็ก่อนจะทำอะไรทำไมไม่ให้มีการโหวตก่อนจะเปลี่ยนแปลง แล้วการโหวตไม่ควรขึ้นกับจำนวนเหรียญด้วย กันเดฟกั๊กหรือพวกวาฬกั๊ก ไม่งั้นก็จะเป็นเหมือนทุนนิยมที่ใครมีมากกว่าก็มีอำนาจเยอะกว่า

decen ที่แท้จริงคือการไม่ decen เนี่ยแหละแบบที่จารตั๊มบอกถ้ามันเสรีจริงจะไม่มีอะไรมากำหนดได้ ทำให้เจ้ามือสามารถ manipulate ตลาดได้

Dopx แจ้ง max supply 1 ร้อยล้านเหรียญ

สุดท้าย ออกมาเกือบหมื่นล้าน

ในความเห็นผมแนวคิดของพวกเชนหลายๆอัน หรือ project ทั้งหลาย มันคือทุนนิยมอยู่แล้วครับ proof of stake หรือแม้แต่ decentralized autonomous organization ที่นิยมกัน มันให้ความรู้สึกว่า decentralized แต่จริงๆสุดท้ายถ้าใครครองเหรียญมากกว่าก็มีอำนาจมากกว่าอยู่ดี อีกอย่าง decenralized มันไม่ได้ต้องเป็นคู่ตรงข้ามกับ ทุนนิยมด้วยนะ ผมว่า

ส่วนเรื่องเอา btc ค้ำ ผมว่ามันไม่ได้อยู่แล้ว พวกเชนหลายๆอันที่ออกมา มันมีทั้งที่เป็น proof of stake / proof of authority / proof of history แล้วก็อีกหลายๆแนวคิดขึ้นมา ไม่ได้เป็น proof of work เหมือน btc ทั้งหมด แต่ละเชนก็มีแนวคิด ประโยชน์ในการใช้งานต่างกัน มันไม่ได้มีความจำเป็นต้องอิงกับ btc เลย เหมือนโลหะ ทองแดง มันก็เป็นแร่ชนิดนึงที่มีการใช้งานของมันเอง คุณค่าของมันไม่ได้จำเป็นต้องไปอิงกับทองคำแหละครับ

BTC ไม่ Decentralized จุดไหนครับ ขอความรู้หน่อย

เผื่อผมมองข้ามไป

ขอบคุณครับ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าโลกเราเปลี่ยนไปใช้บิทคอยน์อย่างที่อ.ตั๊มว่า มันจะเป็นยังไง

ข้าวของที่มูลค่าผันผวนไปมา หรือพวกวาฬทั้งหลายอย่าง อีลอนมัส ,ไมเคิล เซเลอร์ ,แจ๊ค ดอร์ซีย์ที่ครองเหรียญเป็นแสนๆบิทคอยน์จะมีอำนาจมากขนาดไหน ทวิตทีโลกสะเทือนไปหมด คนจนที่เข้าไม่ถึงจะอยู่ยังไง แล้วถ้าแบ่งย่อยไปเป็นซาโตชิ พวกวาฬก็ยิ่งรวยขึ้นไปอีก เสรีเกินไปดีจริงหรือ ผมยังหาคำตอบไม่ได้เลย