อยากให้อายุสัก 15 มีสิทธิ์เลือกตั้งจัง

ถ้าเขาแสดงตัวแสดงความคิดเห็นแล้วไล่ด่าแบนอย่างเดียวก็ไม่มีวันได้รู้หรือว่าเขาคิดอะไร จะไม่รู้ด้วยว่ามีคนคิดต่างจากเราเยอะแค่ไหน ใครจะกล้าคุยด้วยถ้าออกมาแล้วด่าหรือผลักเขาไปเป็นสลิ่มอย่างเดียว

ถ้าเด็กเกินไปยังไม่รู้เรื่องสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เอาแค่ตามกระแสก็อาจจะไม่ดีนะ เพราะถึงเลือกฝั่งประชาธิปไตยแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนฝั่งนี้จะดีหรือเก่งหมดไง

แล้ว 15 ก็อาจจะไม่ใช่วัยที่มีความคิดของตัวเอง ยังโดนผู้ใหญ่ชักจูงอยู่ พาเสพแค่สื่อที่ผู้ใหญ่ต้องการอยู่

การจะคุยกัน คุณต้องยืนอยู่บนหลักการประชาธิปไตยเหมือนกัน ถ้าไม่ยืนอยู่บนหลักการนี้ ควรกำจัดทิ้ง อย่าให้มีบทบาท ชี้นำสังคม ครับ คนไทยเข้าใจหลักประชาธิปไตยผิดตรงนี้ ไม่ใช่จะคุย จะคุย กันได้ทุกอย่าง ทุกแบบ

สู้กันไปอีก20-30 ปีถึงเวลานั้นน้ำท่วมไปครึ่งกรุงเทพละมั้ง ยื้อมาอีก20ปี โลกแตกตายกันไปสุดท้ายไม่ได้อะไรกลับมา ผมนับถือแกนนำที่อยู่ในคุกมากนะ ต่อให้แม่งโดนจ้างมารึอะไรก็เถอะ ใจแม่งได้จริงๆ

เข้าใจว่าอยากตัดแนวคิดที่ไม่ชอบออกไป แต่บางครั้งเขาแค่บอกถึงเหตุผลว่าทำไมชอบหรือไม่ชอบอะไร

บางคนไม่ใช่ว่าเขาชอบการปกครองแบบเผด็จการแต่ชอบนโยบาย ชอบประโยชน์ ชอบตัวบุคคล ชอบอะไรก็ตามที่เราไม่รู้ เราจะได้รู้แล้วคุยโน้มน้าวกันได้

เวลาถามฝั่งรัฐบาลว่าทำไมเขาถึงชอบ มันจะมีสักกี่คนที่บอกว่าชอบเพราะมีความเป็นเผด็จการ เขาก็ตอบว่าเพราะชอบโครงการ ชอบนโยบายต่างๆ เป็นต้น ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าถ้าทักษิณหรือธนาทรเป็นเผด็จการฆ่าหรือจำกัดสิทธิประชาชนแล้วเขาจะเฮดีใจเปลี่ยนฝั่งมาสักหน่อย

บางเรื่องเราอาจจะเอามาปรับใช้ได้ด้วยซ้ำถ้ามันเป็นเรื่องที่ดี

ผลเขตหลักสี่
น่าจะเสร็จเพื่อไทย ไม่ก็ พปชร. แหละผมว่า

เพราะ ก็เหมือนเดิม ฐานเสียงเก่าก็มีอยู่แล้ว สร้างนิดสร้างหน่อยให้คนเค้าจดจำ แถมคนบางคนในเขตหลักสี่-จัตุจักรก็ยังนิยมชมชอบกับคนเก่าๆ อยู่เพราะมีการทำนู่นทำนี่ให้
(ถึงจะไม่ยกระดับชีวิต แต่ก็มีเจอหน้ามีการใช้....ช่วย มีการทำให้ "ดูเหมือน" จะดีขึ้น)
และก็เป็นคนเก่าคนแก่ ผูกมิตรบ้างอะไรบ้างกับคนอื่นอยู่แล้ว
แต่ให้อีก 5-10 ปีข้างหน้า ก็น่าจะเปลี่ยนไปเพราะหลายๆ อย่างแล้วละ

โลกมันไปไวมากๆ แล้ว ข้อมูลหลายๆ อย่าง ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าคนหลายๆ คนเข้าไม่ถึงมันนะ
แต่ภายใน 5-10 ปี ข้างหน้านี้ ยังไงก็เปลี่ยน Mind-Set ของคนก็เปลี่ยน

ขนาดกับ Monarchy ยังเปลี่ยนไปมากระดับนึงเลย
ถึงขนาดตอนนี้อีกฝั่งต้องทำทุกวิธีทางเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการต่อสู้ครับ

เอาจริงๆปะ เลิกเรียกว่าเขตหลักสี่เหอะครับ เขตจตุจักรแขวงที่มีสิทธิเลือก จำนวนคนเท่าเขตหลักสี่เลย

ถ้าคุณปรับใช้เท่ากับ คุณหลุดหลักการประชาธิปไตย แล้วครับ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร อย่าไปหวังกับคนรุ่นก่อน แต่จงปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้ยืนในหลักการประชาธิปไตยครับ พวกต่างประเทศที่เขามั่นคงกับประชาธิปไตย เขาจะทุ่มให้กับเยาวชนมากเพราะเป็นวัยที่ปลูกฝังได้ แล้วรอให้คนรุ่นนี้เจริญเติบโต ดีกว่าไปลงทุนแทบตายกับการเปลี่ยนคนอายุที่มีอีโก้ มีความเชื่อ กันแล้วว่าจะยืนอยู่ข้างใด แล้วระยะยาวประชาธิปไตยมันค่อยๆเข้มแข็งขึ้นมาเอง

ที่บ้านทำท้องถิ่นอยู่บอกได้เลย เงิน+ผลประโยชน์ล้วนๆที่ชาวบ้านจะเลือก บอกได้เลยว่าด่าไปเลย ไม่ต้องไปกลัวไม่ต้องไปเเอ๊บทำเป็นคนดี เพราะมันเรื่องจริงทั้งนั้น เลือกตั้งเเต่ล่ะครั้งขนกันกันไปตั้งเท่าไหร่ กู้กันไปตั้งเท่าไหร่

ถึงได้บบอกไงมีโอกาสย้ายประเทศได้อย่าได้ลังเล

ลึกๆสลิ่มมันมีเหลืออีกเยอะ ไม่งั้นวีรกรรมที่ผ่านมาประเทศมันไม่เละเทะเเบบนี้หรอก

อนาคตก็ยังเป็นเหมือนเดิม ด้วยโครงสร้างที่มันเละเทะเเบบนี้ประเทศไม่มีทางเจริญไปไหนได้ทั้งนั้น

มันจะหลุดได้ยังไงถ้าเอาเรื่องดีมาปรับใช้ ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องมันจะเป็นเรื่องเผด็จการไปหมดสักหน่อย มัวยึดติดแต่เรื่องนี้ โจมตีเขาแค่เรื่องนี้ก็จะมีแต่อคติปิดกั้นตัวเองปล่าวๆ

ถ้าไม่หวังก็ไม่มีหวัง โอกาสเป็น 0% ทั้งที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย มันคุ้มกันไหมครับ ​คิดว่าไม่มีสักคนเดียวเลยหรอที่เปลี่ยนฝั่งในช่วงที่ผ่านมา ถ้าคิดแบบนั้นจะมีการชุมนุมมีการให้ข้อมูลรณรงค์อะไรกันไปมันคุ้มหรอ

ผมกลับมองว่าคิดแบบนี้ก็เป็นอีโก้พอๆ กันที่แค่อยากเอาชนะคนที่เห็นต่างให้เขาแพ้ไปเลยแทนที่จะปรับความคิดกัน เพราะบางเรื่องฝั่งเราเองก็อาจจะผิดก็ได้ ไม่ใช่จะ perfect ทุกเรื่อง การรับฟังกันนี่คือสิ่งที่ทำให้ชาติพัฒนาตามหลักประชาธิปไตย

แล้วไม่ใช่ว่าคนรุ่นเก่าจะอยู่ฝั่งเราหมด คนรุ่นใหม่วัยรุ่นก็มีฝั่งอื่น แล้วเด็กๆ ก็ยังโดนผู้ใหญ่ชักจูงง่ายอยู่ดีถ้ายังไม่โตพอที่จะมีความคิดของตัวเอง

คิดง่ายๆเลย ถ้าประชาชนมีความคิดไปในทิศทางเดียวกันป่านนี้รัฐบาลนี้เด้งไปนานละ

จะเอาอะไรมาเด้งกับรัฐบาลเผด็จการที่ยึดอำนาจเข้ามา ทั้งเเจกเงินทั้งเเจกกล้วยกันในสภา นอกสภาก็ยังมีรถถังพร้อมล้มกระดานอีกรอบ

ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ทำไมต้องไปหาข้ออ้างอะไรให้กับสิ่งที่ผิดขนาดนั้น
ไม่ต้องมองไปไหนไกล สมัยรัฐประหารก็คิดกันเเบบนั้น ประเทศมันถึงได้ชิบหายกันขนาดนี้ไง เพราะการไปประนีประนอมกับสิ่งที่ผิดไง

บอกแล้วว่าไม่ใช่ทุกเรื่องมันจะเกี่ยวกับเผด็จการหรือรัฐประหารไปหมดไง บอกแล้วว่าอย่าไปยึดติดกับเรื่องเดียว

ไม่ใช่ว่ามันจะผิดไปทุกเรื่อง แล้วการแค่รับฟังให้โอกาสพูดอธิบายมันก็ไม่เสียหายอะไร อย่างเรื่องนโยบายต่างๆ ส่วนใหญ่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเผด็จการเลย มันก็มีข้อดีข้อเสียให้คุยกันได้ จะได้รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบหรือไม่ชอบอะไร ไม่ใช่มันจะดีหรือแย่ไปหมด