ซิลลิคผู้ผลิต ออกจดหมายบอก ว่ากาชาดจองก่อนแล้ว 1 ล้าน ตั้งแต่เดือน เมษา แต่ตอนนั้นจองตรงไม่ได้ และซิลลิคก็แจ้งไปทาง องค์การเภสัช ตอนที่จะจองแล้วว่า 1 ล้าน ใน 5 ล้าน ต้องเป็นของ กาชาด เพราะเค้าจองมาก่อน

ส่วน รพ เอกชน แต่ละราย รวมยอดสรุปยอดจองให้องค์การเภสัช ไปตอนไหน อันนี้ไม่แน่ใจเวลา

https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/covid-19/675217/

ผมเพิ่งมีตอบ comment นึงไป

ซิลลิคเค้าออกจดหมายชัดเจนว่า กาชาดเคยติดต่อซื้อเค้าไปแล้ว แต่ยังซื้อตรงไม่ได้ ต้องให้องค์การเภสัชสั่ง ตั้งแต่เดือน เมษา จนองค์การเภสัชสั่ง ซิลลิคก็แจ้งไปที่องค์การเภสัชว่า 1 ล้าน ใน 5 ล้านต้องให้กาชาด เพราะเค้าสั่งก่อน

รพ เอกชน แต่ละรายกว่าจะรวมยอดแจ้ง องค์การเภสัช คิดว่าหลังจาก เม.ย.ต้นเรื่อง พอสมควร

ประเด็นคือ ล็อตแรกเข้ามา 1.9 ล้าน 40% นั่น ทำไมต้องให้สภากาชาด 60% ครับ

นั่นหมายถึงว่า รพ.เอกชนทั้งหมดจะได้ 40% ของ 1.9ล้าน เท่าๆกันทั้งหมด

แต่สภาดาชาดหรือซักองค์กรนึง จะได้ไป 60% ซึ่งคำถามคือ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น

ทั้งๆที่ตอนซื้อ สัญญาล็อกแรกสภากาชาดซื้อไป 22% ส่วนสัญญาที่สองซื้อไป 24%

ถ้าว่ากันตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น 1.9 ล้านโดสแรก เอกชนก็ควรจะได้ไปราวๆ 70-80% หนิครับ

สภากาชาดก็ควรได้ไปแถวๆ 20% ตามสัดส่วนที่มันควรจะเป็น

ส่วนล็อต2และอื่นๆที่จะเข้ามา สัดส่วนก็ควรจะเป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน

แต่ตามข่าว 1.9ล้านโดส เอกชนจะได้ 40% ส่วนสภากาชาดจะได้ 60% ไม่แปลกๆหรอครับ

มีวันนี้ได้เพราะใคร

อ่านข่าวแล้วตีความไปได้งั้นเหรอ ??

ผมตีความได้ว่า ทุกคนที่จองได้ 40% ของยอดจอง

เช่น

กาชาดจอง 1 ล้าน ได้ 4 แสน

รพ เอกชน ที่ 1 จอง 1 แสน ได้ 4 หมื่น

รพ เอกชน ที่ 2 จอง 3 แสน ได้ 1.2 แสน

มันเป็นงี้ไหมครับ

Link ต้นทางไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ว่า 60% ไปไหน
เดี๋ยวหากันต่อไป

โคตรเฮีย

กาฝากไม่ควรเบียดเบียนเงินของประชาชนที่ได้ชำระจองไปกับรพ.เอกชน เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะปกติการจองวัคซีนต้องวางเงินมัดจำ ซึ่งผมก็ไม่เห็นกาฝากเอาเงินของตนเองมาจ่ายนะ อันนี้คือเหมือนกับเอาเงินประชาชนไปPre Order พอของจะมาก็ชุบมือเปิดแย่งเอา

มันต้องมีใครโกหกซักคนนั้นแหละ

https://www.bbc.com/thai/thailand-57705203

ต้นjulอันนี้ผอ.ของอภ. ชี้แจงว่ารัฐไม่ได้มีงบสำหรับโมเดอน่า ต้องให้เอกชนรวบรวม

พอเอกชนรวมเสร็จjul-aug กาชาตได้เงินจากที่ครม.ประกาศเดือนsepให้มีงบประมาณไปซื้อวัคซีนมาปาดหน้่ร่วมวงด้วย

ส่วนเมษาอะไรมันปากเปล่าอะครับ บ.ได้สิทธิการนำเข้าจากรัฐ กาชาตแทรกเข้าร่วมการจองโดยได้งบจากรัฐบาล บ.ออกจดหมายว่ากาชาตจองปากเปล่าก่อนแล้ว
ส่วนตัวผมมองว่าสมประโยชน์กันครับเลยออกจดหมายนั้นมา ถ้ามีเอกสารที่ทางกาชาตยื่นน่าจะมีมาละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรอกมธ.ตรวจสอบดีกว่าเป็นแค่คหสต.

ส่วนตัวผมว่าคุณน่าจะไปไล่timelineใหม่ก่อน ผมว่าtimelineที่ผมพูดน่าจะถูกกว่า แต่แย้งได้คับ

อีกคำถามคือถ้ากาชาตสั่งจริง บ.แจ้งอภ.จริง

ทำไมอภ.ไม่เคยแจ้งรพ.เอกชนก่อนส่งยอดจอง?

หรือบอกแล้วแต่รพ.เอกชนไม่บอกลูกค้า?

ทำไมไม่เคยมีข่าวหรือแถลงอะไรจากฝ่ายไหนเลยหลุดมาก่อนหน้าเอกสารชี้แจงนี้?

ผมถึงบอกต้องมีซักคนที่โกหกหรือฮั้วกัน

ซึ่งอย่างที่แจ้งไปข้างบนที่น่าสงสัยไม่รวมรพ
เอกชน เพราะฝ่ายอื่นนอกจากรพ.เอกชนมันมีประโยชน์ทับซ้อน

พอมานั่งคิดเลขดีดี ผมเข้าใจท่านและ

สงสัยผมจะคิดผิดเอง และคนวิเคราห์ตามที่จขกท.โควทมา ก็คิดเลขผิดด้วย

ผมไปอิงจากเลขนั้นเยอะไปหน่อยทำให้ งงตามไป ขออภัยครับ ผมว่าท่านคิดถูกแล้ว

http://www.soccersuck.com/boards/topic/2063975/1#46235981

ทุเรศชิบ

อ่านจากข่าวอาจตีความผิดได้ แต่ความน่าจะเป็นน่าจะเป็นตามตัวอย่างนะครับ

ผมว่าลองมาคิดดีดี ดีกว่าครับ จากที่ผมมาดูดีดี ปรากฎว่าท่าน khunnongtik น่าจะคิดถูก

Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล - อ้างอิงจากข้อมูลจากท่านนี้เลย

5 ล้านโดสแรก 1.1เป็นของรัฐ 3.9เป็นของเอกชน

ล็อตแรกเข้ามา 1.9 ล้านโดส

เอกชนได้ไปเจ้าละ 40% ก็คือ 3.9*0.4 = 1.56 ล้านโดส

ที่เหลืออีกราวๆ 1.9 - 1.56 ล้านโดส = 0.34 ล้านโดส ก็เป็นของรัฐไป

ส่วนที่รัฐควรจะได้ก็คือ 1.1*0.4 = 0.44 ล้านโดส

ซึ่งตัวเลขทั้งหมดปัดไปมา แปลว่าทุกคนก็ได้ 40% เหมือนกัน

แบบนี้ผมว่าหลายท่านอาจจะเข้าใจผิดไป ตามคุณ Sarinee Achavanuntakul อยู่นะครับ