ตามนี้เลยครับ​ สตาร์ที่ต้องกาาค่าเหนื่อยจะต้องกระจายไปสํ่ทีมอื่นๆ​

แต่จุดบอดก็มีอีกคือการเลื่อนชั้นตกชั้นเนี่ยแหละที่จะเป็นปัญหา

จะให้ทำยังไงกับสตาร์ของทีมตกชั้น​

จริงอย่างท่านว่าเลนครับ แต่ในทางปฎิบัติ มันก็คงต้องใช้การจ่ายผ่านทางสปอนเซอร์แทนการจ่ายเป้นค่าจ้างตรงๆ แล้วทีมเล็กการที่นักเตะที่ผลงานดีอยู่แล้วจะย้ายมาเพื่อคว้าแชมป์ มันก็เป็นไปได้ยาก นอกจากการปั้นนักเตะ ผมยังมองไม่ออกเลยถ้ายังเป็นการซื้อขายนักเตะแบบยื่นสัญญาค่าเหนื่อยแบบนี้ ทีมใหญ่ก็ต้องการนักเตะเก่งๆที่สามารถสร้างผลงานได้เลย ทีมเล็กก็ต้องการเงินอย่างรวดเร็ว แต่เงินจากการคว้าแชมป์ มันก็ต้องใช้เวลานานอยู่ดีสำหรับทีมเล็กๆ

ทำมาเป็นบอกว่ารายได้นักกีฬาจะลดยังงั้นยังงี้ ทำยังกะกฏเพดานค่าเหนื่อยไม่ดี

โทษทีนะ นักกีฬาที่รวยที่สุดในโลกเกินครึ่งอยู่โซนอเมริกา ที่มีกฏนี้รึเปล่า

ในอียูน่าจะปฏิวัติได้คล่องกว่า แต่อย่าถามbrexitเลย อนุรักษ์นิยมหัวเก่า ไม่กล้ารื้อระบบ/ปรับโครงสร้างหรอก

อันนี้เห็นด้วยและคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก

แต่ขั้นตอนที่จะทำให้เกิดขึ้นจริงน่าจะนานและยากอยู่ ต้องคุยตกลงหลายฝ่าย
แต่การแข่งขันจะสูสีและเข้มข้นขึ้นแน่ๆ

ถ้ามีเพดานเงินเดือนปีละ 5 แสน จะจ้างนักเตะกี่คนก็ได้

ทีม A
- จ้าง เมสซี่ + โด้ + เดอบรอย คนละ 1 แสน เท่ากับจะเหลือ 2 แสนให้จ้างคนอื่นเพิ่ม
- เอาเงิน 2 แสนที่เหลือไปจ้างผู้เล่นเกรด b สัก 6-7 คน เกรด c สัก 10-11 คน

ทีม B
-เอางบ 5 แสนมาจ้างผู้เล่นเกรด A 11 คน แล้วที่เหลือจ้างผู้เล่นเกรด B มาเป็นสำรอง

แข่งกันในลีค 38 นัด คิดว่าทีมเล็กกับทีมใหญ่ gap น้อยลงหรือยังครับ

ระบบนี้มันไม่แฟร์ 100% หรอก แต่มันก็แฟร์กว่าที่เป็นอยู่มหาศาล ทีมเล็กลุกขึ้นมาเป็นแชมป์ง่ายกว่าเยอะ

จริงๆยังมีระบบ draft ระบบอะไรอีกเยอะ แต่มันปฏิบัติในโลกจริงไม่ได้

มันไม่ได้ช่วยให้ role play ได้เงินเยอะขึ้นดูเกมกันเกมดเงินห่างกันเป็นทุ่งแต่มันลดการสร้าง super team ทีมนึงมีสตาร์แ่ไม่กี่ตัวไม่ก็ต้องสร้างเองขึ้นมา ไม่ใช่ไปไล่กวาดสตาร์ทีมอื่นมา แบบนี้มันจะทำให้มีตัวแบกแต่ละทีม

เอาห้าแสนเป็นตัวตั้ง อังกฤษ สเปนแด๊กภาษี 50 เปอ อิตาลี กับฝรั่งเศษน้อยกว่านั้น เยอรมันไม่รุเท่าไหร่ มาที่ค่าครองชีพอังกฤษน่าจะแพงมาก ๆ ชาติอื่นไม่แน่ใจแต่น้อยกว่าแน่ ๆ ว่ากันถึงสภาพอากาศความเป็นอยู่ อังกฤษฝนตกตลอด ลมก็แรง ที่อื่นไม่รุแต่น่าจะดีกว่า ว่ากันถึงเงินถ่ายทอดสดอันนี้อังกฤษยืนหนึ่ง ส่วนนึงก็เพราะแข่งขันเข้มข้น แต่อีกส่วนก็เพราะว่าดารานักเตะ ถ้าดารามันไหลออกไปลีกอื่นมากขึ้นงั้นเงินถ่ายทอดสดมันจะเหลือเท่าไหร่

ตั้งค่ากลางเอาส่วนต่างของพวกที่ได้เงินเยอะๆ ใช้ดูแลเป็นกองทุนดูแลนักเตะ หรือเป็นกองทุนเพื่อวิจัยเรื่องผลกระทบจากการเล่น หรือเอาไปพัฒนาด้านอื่นๆดีกว่า ผมว่าเส้นทางการเงินนักเตะพอที่จะตรวจสอบได้นะไม่เหมือนสโมสรองค์กรมันใหญ่ซับซ้อนกว่า ตราบใดที่คุณลงทะเบียนเป็นนักเตะรายได้ทุกอย่างก็ต้องแบ่งเข้าส่วนกลางบ้างไม่ว่าจะเป็นค่าโฆษณาหรืออะไรก็ตามแต่ คล้ายๆภาษีประมาณว่าเอ็งได้เยอะยิ่งโดนเยอะทำให้ส่วนต่างถึงแม้ดูว่ามากแต่ก็ไม่มากจนเกินเวอร์ไป ถ้าตรวจสอบจริงๆนะเอาเฉพาะรายใหญ่ๆก็น่าจะได้หลายอยู่นะ ทีนี้ทีมไหนจะบ้าจ้างซักร้อยล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ก็ว่าไป แต่ทีมเล็กๆเอ็งไม่พัฒนาฝีเท้าเอ็งก็กินแกลบต่อไป ถ้าเป็นเพดานค่าจ้างน่าจะยากถ้าตั้งเป็นค่ากลางน่าจะพอได้ พวกค่าจ้างน้อยๆก็ไม่ต้องเสียค่าชดเชยอะไรนี่ คือพวกที่ายได้สูงโดดกว่าชาวบ้านผมว่ามีไม่กี่คนหรอก คิดค่าตามค่าสัมประสิทธิแต่ละลีคมาคำนวน ทีนี้ลีคไหนที่บ้าเก็บภาษีเยอะหรือน้อยก็ไม่มีผลเท่าไหร่แล้ว

แต่ไอ้ super team นี่แหละที่เป็นตัวแบกวงการฟุตบอล แฟนฟุตบอลที่ประท้วงเพราะกลัวความสนุกของลีกจะน้อยลง แต่ที่ยูฟ่า และทีมอื่น ๆ กลัวจริง ๆ มันคือค่าถ่ายทอดสด

คนดูเมกันเกมส์จะเก็ตง่ายหน่อย ว่าระบบcapมันดียังไง

แต่ถ้าเอามาใช้กับฟุตบอลที่มีระบบเลื่อนชั้นตกชั้น คงต้องปรับอีกพอสมควร

ผมว่า ไม่น่าจะหมายถึง เพดาน ของนักเตะรายคน แต่น่าจะหมายถึง ทั้งทีมแบบ Salary Cap ของ NBA/NFL

https://thestandard.co/salary-cap/

ก็จะกลายเป็น Star กินแคป แล้วrole play เอาเศษๆ มาแบ่งที่เหลือๆ
แต่มันมีตกชั้น แล้วเงินหายด้วยนะ ไม่เหมือน ลีคอเมริกา
จะจัดการความเสี่ยงได้หรอ?

ก็บอกอยู่ว่าอธิบายข้อดีของ salary cap มันทำให้ทีมเล็กทีมใหญ่ในลีคมันแข่งขันกันได้

ถ้าลีคอื่นมันทำเหมือนกัน มันก็จะยิ่งแฟร์ไปใหญ่

แบกจริงๆเหรอ คนที่เชียส่วนใหญ่ก็ดูตามทีมนิ ไม่ได้ตาม star เป็นคนๆด้วยซ้ำ