Preview: Italian Grand Prix 2020

ชื่อสนาม: ออโตโดรโมดิมอนซ่า (สนามถาวร)
ทิศทางการวิ่ง: ตามเข็มนาฬิกา
จำนวนรอบแข่งขัน: 53 รอบ
จำนวนโค้ง: 11 โค้ง
ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 1922
ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 1950
ความยาวของสนาม: 5.793 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 306.72 กม.
สถิติสนามต่อรอบในการแข่งขัน: 1:21.046 (รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ / เฟอร์รารี่ - 2004)

การเลือกยางของปิเรลลี่:
ฮาร์ด - C2 (สีขาว)
มีเดียม - C3 (สีเหลือง)
ซอฟต์ - C4 (สีแดง)

DRS Zone:
1) ระหว่างโค้ง 7 ถึงโค้ง 8 เริ่มที่ระยะ 170 เมตรหลังโค้ง 7 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 95 เมตรก่อนโค้ง 7
2) ทางตรงหน้าพิต ระหว่างโค้ง 11 ถึงโค้ง 1 เริ่มที่ระยะ 115 เมตรหลังเส้นชัย โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 20 เมตรก่อนโค้ง 11
จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขัน

พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน
วันศุกร์ - ท้องฟ้าสดใส อุณหภูมิสูงสุด 28 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส / โอกาสเกิดฝน 10%
วันเสาร์ - ท้องฟ้าสดใส อุณหภูมิสูงสุด 29 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส / โอกาสเกิดฝน 10%
วันอาทิตย์ - มีแดดเป็นส่วนมาก อุณหภูมิสูงสุด 28 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส / โอกาสเกิดฝน 20%

ผู้ได้ตำแหน่งโพลอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2019 - ชาร์ล เลอแคลร์ (เฟอร์รารี่) 1:19.307
2018 - คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 1:19.119
2017 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:35.544

ผู้ชนะอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2019 - ชาร์ล เลอแคลร์ (เฟอร์รารี่)
2018 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส)
2017 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส)

เวลาต่อรอบเร็วที่สุดในอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2019 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:21.779 รอบที่ 51
2018 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:22.497 รอบที่ 30
2017 - แดเนียล ริกคาร์โด้ (เร้ดบูล) 1:23.361 รอบที่ 49

รู้หรือไม่?
- มอนซ่าเป็นสนามแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้จัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวันชิงแชมป์โลกครบ 70 ครั้ง
- มีผู้ชนะอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ เพียงแค่ 4 จาก 17 ครั้งหลังสุดที่ไม่ได้มาจากตำแหน่งโพล
- ไม่มีนักขับคนใดได้คะแนนจากการสตาร์ทอันดับที่ 20 มาตั้งแต่ปี 1993
- ในการแข่งขันวันอาทิตย์ คิมี่ ไรค์โคเน่น จะทำสถิติเทียบเท่ามิชาเอล ชูมัคเกอร์ ในฐานะนักขับที่สตาร์ทการแข่งขันด้วยเครื่องยนต์เฟอร์รารี่มากที่สุดจำนวน 180 ครั้ง
- ลูอิส แฮมิลตัน เป็นเจ้าของสถิติลงแข่งขันด้วยเครื่องยนต์รายเดียวมากที่สุด โดยเขาลงแข่งกรังด์ปรีซ์ทุกครั้งตั้งแต่สนามแรกด้วยเครื่องยนต์เมอร์เซเดสนับถึงปัจจุบันรวมแล้ว 257 ครั้ง

*ข้อมูลจาก f1starfanclub

ดร.พูดถึงผลงานของ Alex โดยเริ่มจากสนามแรกที่ Alex เกือบได้ขึ้นโพเดี้ยม แต่มีการชนกับ Hamilton ซะก่อน

“นั่นเป็นเรื่องของความมั่นใจ” แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผลงานของ Alex ออกมาเช่นนี้ เพราะส่วนสำคัญจริงๆแล้วคือรถของ Alex ที่ทางทีมและโรงงานเองยังมองว่าทำออกมาได้ไม่ดีพอ

“อีกด้านนึงคือ Chassis ของรถ Alex ยังไม่สามารถทำ Downforce ได้ตามความเป็นจริง จากการทดลองในอุโมงค์ลม ทางทีมเลยต้องทดลองต่างๆและพยายามจูนอยู่หลายๆครั้ง แต่ยังไม่ได้ผลที่ต้องการ”

ดร.ยังบอกอีกว่า ในการแข่งปีนี้ แต่ละสนามแต่ละเรซจัดใกล้กันทุกสัปดาห์ ทำให้ทางทีมมีไม่มีเวลาสร้างชิ้นส่วนหรือพาร์ทต่างๆได้ทันสำหรับ 2 คันพร้อมๆกัน

“นั่นแปลว่า Alex ต้องแข่งภายใต้ชิ้นส่วนและพาร์ทที่แตกต่างจาก Max เกือบทุกเรซ ทำให้ทางทีมต้องลองปรับหลายๆอย่างในรอบซ้อม เลยทำให้ Alex ต้องลงไปลองขับโดยที่ช่วงล่างแทบไม่เคยเหมือนเดิมเลย”

นั่นหมายถึงว่ารถของ Alex นั้นยังไม่เคยเจอ setting ที่เรียกได้ว่ามั่นคงและเป็นพื้นฐาน หรือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับรถของเค้า แน่นอนว่า Max ก็ยังทำได้ดีในรถของเค้า แต่นั่นมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Max ด้วย

ดร.ทิ้งท้ายว่า “แน่นอน นี่เป็นแค่ปีที่ 2 ของ Alex เท่านั้น เค้าอยู่กับท้อปทีมและยังมี Max เป็นทีมเมทที่แข็งแกร่ง ขนาดที่ว่าถ้าเอานักขับคนอื่นๆที่มีดีกรีแชมป์มา ก็ยังต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเลย”

แปลโดยคุณ Obb Ansusinha

Alex Albon Thailand Fan Club

โดนลบเวลากันรัวๆ

ทำไมมันเหนื่อยๆๆเชียช่วงนี้

บ้อนเกือบแตก หวังดูดตูดกันจนหัวร้อน 5555555555555

Monza Q นี่สนุกจริงๆ

บ้อนดวงแข็งจัง 55555555555 แกสลี่ก็ขยี้ไม่หยุด

โดนลบเวลา

อย่างฮา เมอรีบออก ออกตามกันเพียบ

รถเร้ดบูลกากสนามนี้

ที่ 9 โดนด่าอี้กกกก 55555555555555