[RE: F1 : Formula1 70th Anniversary Grand Prix 2020]
เจเจ พิมพ์ว่า:
ต้นโพสนี้เป็นบทสรุปของสจ๊วตเกี่ยวกับประเด็นที่เรซซิ่งพอยต์ (RP) ถูกประท้วงนะครับ มันยาวละเอียดยิบมาก แต่ผมจะไล่เรียงไทม์ไลน์ให้ก่อนละกันครับ (ยาวมาก โปรดสละเวลานั่งอ่าน)
>>> เริ่มจาก RP20 นั้นเปิดตัวออกมาเหมือนตัวแข่ง W10 2019 ของเมอร์เซเดส ทีมคู่แข่งเริ่มเพ่งเล็งจากจุดนี้ แต่ยังไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
>>> จากผลงานสนามแรกที่ออสเตรียนกรังด์ปรีซ์ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าของก็อปของ RP นั้นไม่ธรรมดา มันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นจึงทำให้เรโนลต์ตัดสินใจประท้วงในสนามที่ 2 สตีเรียนกรังด์ปรีซ์
>>> เนื่องจากไม่มีหลักฐานการถ่ายโอนข้อมูลแบบจากเมอร์เซเดสไปยัง RP เรโนลต์จึงเลือกประท้วงเบรกดัคต์ (BD) ซึ่งปีก่อนนั้นเป็น non-Listed Parts (non-LP) แต่ปีนี้ถูกนำเข้าเป็น Listed Parts (LP) ซึ่งหมายความว่าทีมแข่งแต่ละทีมต้องออกแบบเอง
>>> เบื้องต้นสจ๊วตได้ตรวจสอบ BD ของ RP20 และพบว่ามันเข้ากับกฎด้านเทคนิค (TR) ทุกอย่าง ดังนั้นประเด็นนี้จึงไม่ได้อยู่ในข้อพิพาทของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
>>> ในเดือนมีนาคม 2020 FIA ได้เดินทางไปยังโรงงานของ RP เพื่ออธิบายเกี่ยวกับ BD โดยพวกเขาชี้แจงว่าสิ่งที RP กำลังทำนั้น (ถอดแบบ BD ของเมอร์เซเดสมาต่อยอด) เป็นส่วนสีเทาของกฎและอาจถูกโต้แย้ง แต่ RP เลือกที่จะไม่แก้ไขสิ่งที่กำลังทำอยู่
>>> มีการส่งต่อพาร์ทระหว่างเมอร์เซเดสและ RP ในวันที่ 6 มกราคม 2020 แต่มันไม่เป็นการผิดกฎแต่อย่างใด เนื่องจากมันถูกแสดงให้เห็นว่าพาร์ทเหล่านั้นไม่ได้ถูกใช้และไม่ได้มีการกระจายข้อมูลต่อ ฉะนั้นการอ้างสถานะของ BD ว่าผิดกฎ LP ในจุดนี้ยังถือว่าไม่เหมาะสม
>>> RP ให้การโต้แยงคำประท้วงของเรโนลต์โดยกล่าวว่า กระบวนการออกแบบนั้นเริ่มต้นจากข้อมูลที่มาในรูปแบบใดก็ได้ จากนั้นก็ขับเคลื่อนผ่านกระบวนการทางปัญญาจนกลายมาเป็นแบบวาดที่ถูกนำไปผลิต
>>> ในเคสของเบรดดัคต์หน้า (FBD) ในรถ RP20 สจ๊วตสรุปว่ามันมีการผสมผสานของแบบสำหรับ RP19 2019 และอัปเกรดและพัฒนาไปเป็นแบบ RP20 2020 ข้ามเกณฑ์เชิงปริมาณในการออกแบบที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎด้านการกีฬา (SR) สำหรับ LP ในปี 2020
>>> อย่างไรก็ตามเบรคดัคต์หลัง (RBD) ไม่ได้ถูกใช้บนรถ RP19 2019 และสจ๊วตเชื่อว่า RP ได้ปรับแต่ง RBD ซึ่งถูกออกแบบโดยเมอร์เซเดสสำหรับ W10 น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับตัวต้นแบบ ดังนั้นสจ๊วตจึงสรุปว่าแบบ RBD นั้นเป็นของเมอร์เซเดส ไม่ใช่ RP
>>> ด้วยวิธีการสร้าง RBD ของ RP20 มันทำให้เกิดข้อได้เปรียบทางด้านการกีฬา โดยสามารถโยกย้ายทรัพยาการที่มีไปใช้ยังจุดอื่น เนื่องจาก RBD นั้นถูกใช้ทรัพยากรในการออกแบบมาจากเมอร์เซเดส
>>> เมื่อ RBD ของ RP ไม่ได้ถูกออกแบบเอง ดังนั้นคำประท้วงของเรโนลต์จึงเห็นผลในจุดนี้
>>> สจ๊วตรับรู้ว่า RBD นั้นยังคงเข้ากับ TR 2020 แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ RP ออกแบบ RBD ใหม่ โดยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นในสิ่งที่พวกเขาได้รับรู้มา ดังนั้นบทลงโทษจึงถูกยื่นเพื่อให้พวกเขาได้รับโทษจากความได้เปรียบที่เกิดขึ้นในการออกแบบ
>>> สจ๊วตเน้นย้ำว่า สิ่งนี้เกิดจากการผิดกฎ SR มากกว่ากฎ TR ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตัดสิทธิ์ผลการแข่งขัน นอกจากนั้น FIA ยังได้ทราบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องนำมาพิจารณา
1. การเปลี่ยนแปลงสเป็คของ BD จาก non-LP ในปี 2019 มาเป็น LP ในปี 2020
2. การไม่มีคำชี้แจงจาก FIA ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจาก non-LP ไปเป็น LP
3. การไม่โฟกัสรายละเอียดของ BD จากบุคลากร FIA ผู้ซึ่งตรวจสอบ RP20 ในเดือนมีนาคม
4. RP อาจจะใช้วิธีการถ่ายภาพ RBD จากเมอร์เซเดส W10 และใช้กระบวนการวิศวกรรมย้อนกลับก็ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ทรัพยากรออกแบบเพิ่มเติมในกระบวนการนี้
5. ตลอดประเด็นที่เป็นปัญหานี้ RP มีการกระทำที่เปิดเผยและโปร่งใส โดยพวกเขาเชื่อเต็มที่ว่ามันถูกต้องตามกฎ และสจ๊วตเชื่อว่าพวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะทำผิดกฎ
>>> สจ๊วตจึงได้ทำการยื่นโทษสำหรับข้อได้เปรียบที่เกิดขึ้นในรายการสตีเรียนกรังด์ปรีซ์ โดยได้ตัดสินให้ปรับเงินทีมจากรถหมายเลข 11 และ 18 คันละ 2 แสน ยูโร รวมเป็น 4 แสน ยูโร และปรับคะแนนทีมอีกคันละ 7.5 คะแนน รวมเป็น 15 คะแนน อย่างไรก็ตามนักแข่งยังคงสามารถเก็บคะแนนสะสมของตัวเองเอาไว้ได้ (ปรับคะแนนทีมเพียงอย่างเดียว)
>>> สำหรับที่ฮังกาเรียนกรังด์ปรีซ์และบริติชกรังด์ปรีซ์ซึ่งเรโนลต์ยื่นประท้วงเช่นกัน สจ๊วตลงโทษโดยการตักเตือน RP จากการยังคงส่งรถแข่งลงแข่งขัน
มีใครอ่านจบจนถึงตรงนี้มั้ยครับ =w=a
FascinatoR
อ่านแล้วเค้าใจขึ้นเยอะเลย
กฏ F1 นี่ต่างจาก motogp เยอะเลย
motogp ทีมใหญ่กับทีมเล็กรถสเป๊กเดียวกันได้เลย