ผมแฟนลิเวอร์พูลนะ

สำหรับผมเหรอ ผมอยากให้เห็นการใช้กฏบังคับจริงๆ ที่มีบทลงโทษจริงๆ จากที่เขียนไว้ให้มันชัดเจน และใช้เวลารวดเร็วพอ และให้บังคับใช้กับทุกๆทีม

ไม่ใช่ว่ากฏ บังคับอะไรพวกนี้ เขียนมาเพื่อเจตนาจะสกัด ลีคบางลีค หรือ แค่บางทีม ผมละกลัวตรงนี้จริงๆ บอกว่าพบของอีกทีม กับอีกทีมไม่พบ ทั้งๆที่ทำเหมือนๆกัน

แล้วถ้ากฏมันระบุไว้ชัดๆและแรงๆเลยว่า

ถ้าเจตนาที่จะปกปิดหลบเลี่ยง ถ้าตรวจสอบย้อนหลังเจอ ต้องโดนโทษอะไรมั่ง

อายุความกี่ปี ไม่ใช่ 20 ปี อันนี้ผมก็ว่านานไป

ประเด็นหลักๆเลยคือ ถ้าบังคับใช้ก็ขอให้กับทุกทีม มีบทลงโทษชัดเจน อายุความกี่ปี

นี่ขนาดไม่เดือดร้อนนะ

แบบนั้นก็ยิ่งเข้าทางคนคิดจะทำผิดกฎ FFP เลยครับ แบบนี้อัดเงินมาทีเดียว
แล้วเตรียมดึงเวลาในศาลต่อรองลดโทษ
ผมว่ามันคุ้มนะครับสำหรับการละเมิดกฎเเล้วลดโทษเหลือปีเดียว
ในระยะยาวทีมติดลมบนไปแล้ว ยื้อนักเตะโค้ชแค่ปีเดียวเอง

มันเทียบกันไม่ได้อะครับ ฉ้อโกงกับฆ่าคนตายเนี่ย

ประเด็นแรกคือหลักสากล มักจะไม่เอาหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบมาพิจารณาครับ อาจจะมีงดเว้นบ้าง บางทีก็รับฟัง บางที่ก็เป็นแค่ส่วนประกอบ บางที่ก็ไม่เลย

ประเด็นที่สองคือผมไม่ได้มาดีเฟนด์ว่าซิตี้ไม่ผิด แต่ผมคิดว่าข้อ 3 มันทำให้คดีเปลี่ยนไปอีกทางได้ ถ้า CAS ไม่พิจารณาหลักฐานนี้

ประเด็นสุดท้าย ถ้าคุณจะเทียบแบบฆ่าคนตาย คุณต้องเทียบเป็นฆาตรกรรมอำพรางครับ โจรบังเอิญไปเจอหลักฐานสำคัญในการมัดตัวผู้ต้องหา เช่นอาวุธที่ก่อเหตุ อะไรทำนองนั้นครับ ฆ่ากันตายนี่ต่อให้โจรไม่มาเจอก็ต้องมีคนทั่วไปรู้ครับ

เค้าถึงวิเคราะห์กันว่าน่าจะรอด
เเต่หลังจากเคสนี้ ยูฟ่า คงมีมาตรการป้องกันวิธีนี้เเล้วเเหละใครจะทำซ้ำคงไม่ได้

จริงครับ

แมนซิยังมีเวลายื้ออีกยาวสบายๆตามข่าวนั่นละ ยูฟ่าไม่ใช่ศาล เมื่อเรื่องถึงศาลมันจะเป็นการต่อสู้อีกแบบต่างจากสู้กับยูฟ่า แมนซิถึงไม่ให้ความร่วมมือกับยูฟ่าเลย

แนวทางสำคัญคือศาลกีฬาโลกจะมองหลักฐานที่แฮกมาว่าเป็นหลักฐานในการเอาผิดได้หรือไม่ และถ้าแมนซิแย้งไปว่าเอกสารที่แฮกมานั้นไม่ใช่เอกสารจริงละจะเป็นยังไง

ส่วนตัวคิดว่ามันจะออกมาเป็นผลดีต่อแมนซิมากกว่าอะ ถ้าไม่เข้าทางจบศาลกีฬาโลกมีศาลในสวิสต่ออีก ยาวๆเรื่องนี้

สมมติว่าแมนซิสู้คดีแล้วชนะ เดี๋ยวมีทีมบางทีมบอกไม่เป็นธรรมแน่ๆ

ข้อ3วัดกันที่ดุลยพินิจของศาลล้วนๆเลย

ของไทยเองก็เช่นกัน เว้นแต่ว่าการรับฟังพยานหลักฐานนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสีย อันเกิดจากผลกระทบต่อมาตรฐานของระบบงานยุติธรรมทางอาญา หรือสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน

ในการใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลพิจารณาถึงพฤติการณ์ทั้งปวงแห่งคดี โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ด้วย
(1) คุณค่าในเชิงพิสูจน์ ความสำคัญ และความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานนั้น
(2) พฤติการณ์และความร้ายแรงของความผิดในคดี
(3) ลักษณะและความเสียหายที่เกิดจากการกระทำโดยมิชอบ
(4) ผู้ที่กระทำการโดยมิชอบอันเป็นเหตุให้ได้พยานหลักฐานมานั้นได้รับการลงโทษหรือไม่เพียงใด

ทีนี้อันนี้เนี่ยมันอยู่ในคดีอาญา กฎของยูฟ่าเนี่ยผมคิดว่ามันไม่น่าใช่ทางอาญาแหละนะ ละก็ไม่รู้ด้วยว่าที่ศาลตัดสินเนี่ยใช้กฎหมายของอะไรมาตัดสิน เป็นการเทียบเคียงไหม หรือมันมีกฎหมายที่ใช้ตัดสินไว้โดยเฉพาะอยู่แล้ว

แต่สมมติว่ามันเป็นกรณีอาญาเลย ข้อแรกเนี่ยผมว่าผ่าน เพราะเป็นหลักฐานสำคัญเลยว่าคุณตั้งใจให้เงินจากเจ้าของทีมโดยวิธีสเปอนเซอร์

4เนี่ยก็ผ่าน เพราะแฮคเกอโดนจับไปแล้ว ทีนี้2-3เนี่ย มันร้ายแรงแค่ไหนอะ ก็เป็นการทำให้มีเงินใช้เพิ่มเยอะขึ้นเฉยๆ ส่วนความเสียหาย อาจจะเป็นทำให้ทีมตัวเองเก่งขึ้นจนทีมอื่นต่อกรลำบาก? แต่ทีนี้เข้าไป2ข้อแล้ว อีก2ข้อก้ำกึ่ง ก็มีสิทธิที่ศาลจะรับฟังได้อยู่ แต่ถ้าสู้เก่งๆก็หลุดได้ "ถ้า" อิงตามของไทยอะนะ

ข้อ3 ดูเป็นไปได้นะ เพราะจริงๆหลักฐานที่ได้มาด้วยวิธีมิชอบ ไม่สามารถเอามาใช้ในชั้นศาลได้

ถ้าเจอเล่นถ่วงจริงต้องดูยูฟ่าล่ะว่าจะหาทางทำยังไงให้ลงโทษได้เพราะประกาศมาแบบนี้แล้วซิตี้รอดได้หรือโดนดึงถ่วงไปหลายปีนี่เสียหมาเลยนะ แถมทีมรวยๆทีมอื่นจะสบช่องทำตามด้วย

ละถ้ายูฟ่าบอกว่าถ้าเรื่องยังไม่จบก็ไม่ให้เล่น ucl จนกว่าจะจบคดีละ

คนละเคสกัน นั่นนักเตะ เกี่ยวกับเรื่องการจ้างงาน

ไม่มีผลกระทบต่อทีมอื่น รายการแข่งขันอื่น

ยังไงยูฟ่าก็ต้องลงโทษก่อนอยู่แล้ว

ศาลสิทธิมนุษยชน ศาลอื่นจะมามีอำนาจได้ไง เลอะเทอะ ศาลกีฬาโลกว่าไปอย่าง

ยิ่งเทียบกับกรณียูเว่ ยูฟ่าก็แบนทั้งลีก ถ้ายูเว่ไม่ยอมตกชั้น จะสู้คดี(ฟังจากแฟนยูเว่)

1 ในพลัง Superpower นะฮะ

หลักฐานที่ได้มาจากแฮคเกอร์ เป็นหลักฐานที่ได้มาไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่หลักฐานที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะมันมีอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าสร้างขึ้นมา ถ้าใครเรียนกฎหมายก็เทียบเคียงได้กับมาตรา 226/1 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา บ้านเรา ซึ่งไม่ได้ห้ามรับฟังเป็นพยานหลักฐานโดยเด็ดขาด