สำนักงานความปลอดภัยด้านสุขภาพและอาหารของรัฐบาวาเรีย รายงานว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายแรกในประเทศ เป็นชายชาวเยอรมันอายุ 33 ปีที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน

แต่ผู้ติดเชื้อชาวเยอรมันรายนี้ได้เข้าร่วมประชุมของบริษัทกับผู้จัดการฝ่ายอบรมชาวจีน ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการรายงานว่า ผู้จัดการฝ่ายอบรมชาวจีนรายนี้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธฺ์ใหม่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ผู้ติดเชื้อชาวเยอรมันรายนี้ทำงานอยู่ที่สตาร์นเบิร์ก ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองมิวนิค และได้เข้าร่วมการประชุมที่เมืองสตานเบิร์กเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่ผู้ป่วยหญิงชาวจีนรายนี้เดินทางมาจากเซี่ยงไฮ้ และมีรายงานว่า พ่อและแม่ของเธอได้เดินทางมาเยี่ยมเธอก่อนที่เธอจะเดินทางมาประชุมที่เยอรมนีได้เพียงไม่กี่วัน

ผู้ป่วยหญิงชาวจีนมีอาการไข้หลังจากที่เดินทางกลับประเทศจีน และผลการตรวจร่างกายออกมาเป็นบวก หลังจากนั้น เธอได้แจ้งสำนักงานที่เยอรมนีหลังจากที่พบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 63)

ภรรยาผมพึ่งมีประชุมเรื่องนี้ที่โรงพยาบาลครับ
- เดินสวนกันห่าง 1-2 เมตร ... ไม่ติด
- ล้างมือด้วยแอลกอฮอลเจล ... ไม่ติด
- กินสุกี้ชาบูเดือดๆ หม้อเดียวกันไม่ใช้ช้อนกลาง ... ไม่ติด
- เสื้อผ้าซักด้วยผงซักฟอก ... ไม่ติด

- กินสุกี้ชาบูร้อนๆ หม้อเดียวกันไม่ใช้ช้อนกลาง ... โอกาสติดน้อย แต่อย่าเสี่ยงเลย
- ถ้ายืนคุยกันระยะห่างกัน 1-2 ฟุต ... มีโอกาสติดสูง
- ถ้าเดินสวนคนที่พึ่งไอจามมา แล้วมี droplet ลอยในอากาศ ... มีโอกาสติดสูง
- จับราวจับรถไฟฟ้าที่มีคนไอจามแคะขี้มูกมา ... มีโอกาสติดสูง

สำคัญสุดคือทานของร้อนๆ ใช้ช้อนกลาง พกแอลกอฮอล์เจลไว้ล้างมือเวลาใช้รถสาธารณะ

(ไวรัสอยู่ในอากาศสภาวะปรกติได้ 45 นาที)

เอาละมึงเอ้ยเริ่มมาละช่วงนี้เย็นๆด้วย

ทั่วโลกมาแน่ แต่ผมว่าเฉยๆนะ ถ้ามีไข้รีบไปหาหมอซะ วันนี้เจอจอห์น วิญญู พาเมียไปหาหมอ บอกแฟนผมจะเป็นมั้ย เจอหมอด่าเลย ไม่เป็นหรอก ต้องรัศมี2เมตร ของคนที่เป็น ตาจอห์นบอก เห็นคนแชร์กันเยอะ หมอบอกอีก ไปเชื่อไรพวกนั้น
เชื่อหมอนี่

หมอไปรู้ได้ไงว่าเค้าไม่เจอคนติดเชื้อในระยะสองเมตร

ไล่ประวัติเจอคนจีนกันหมดเลย

จอห์นมันพูดทีเล่นทีจริงแหย่ หมอไปงั้นแหละ หน้าตาทะเล้น อยู่ตอนนั้น ผมนั่งอยู่ใกล้ๆ

กลัวมันจะลามไปอังกฤษจัง ปีนี้แต้มนำด้วยขอรับถ้วยก่อนนะรอมานานมาก

เออ ลืมคิดเรื่องนี้เลย ลอนดอนคนจีนเยอะด้วย

ภรรยาผมพึ่งมีประชุมเรื่องนี้ที่โรงพยาบาลครับ
- เดินสวนกันห่าง 1-2 เมตร ... ไม่ติด
- ล้างมือด้วยแอลกอฮอลเจล ... ไม่ติด
- กินสุกี้ชาบูเดือดๆ หม้อเดียวกันไม่ใช้ช้อนกลาง ... ไม่ติด
- เสื้อผ้าซักด้วยผงซักฟอก ... ไม่ติด

- กินสุกี้ชาบูร้อนๆ หม้อเดียวกันไม่ใช้ช้อนกลาง ... โอกาสติดน้อย แต่อย่าเสี่ยงเลย
- ถ้ายืนคุยกันระยะห่างกัน 1-2 ฟุต ... มีโอกาสติดสูง
- ถ้าเดินสวนคนที่พึ่งไอจามมา แล้วมี droplet ลอยในอากาศ ... มีโอกาสติดสูง
- จับราวจับรถไฟฟ้าที่มีคนไอจามแคะขี้มูกมา ... มีโอกาสติดสูง

สำคัญสุดคือทานของร้อนๆ ใช้ช้อนกลาง พกแอลกอฮอล์เจลไว้ล้างมือเวลาใช้รถสาธารณะ

(ไวรัสอยู่ในอากาศสภาวะปรกติได้ 45 นาที)

จุดเริ่มต้นมาจากประเทศที่คนเยอะที่สุดในโลก แถมศก.ใหญ่เบิ้ม เลยแพร่กระจายได้ง่ายจริงๆ

ถ้าเกิดที่อินเดียคนเสียชีวิตคงเยอะกว่านี้มากแต่คงไม่แพร่ไปหลายส่วนทั่วโลก

ผมว่ามันจะมีพวกภูมิต้านทานค้างคาวในคนจีนบางคนแน่ๆ
คือพวกไม่ป่วยแต่มีเชื้อไวรัส คัดกรองเบื้องต้นหาไม่เจอแน่นอน
ถ้าเป็นแบบนี้ ทำใจอย่างเดียวครับ

คือต่อให้กินค้าวคาวที่ปรุงสุกก็ไม่ติดไวรัสเช่นกันครับ
ปัญหาคือคนทำอาหารหรือสัมผัสวัตถุดิบมากกว่า แค่จับพาหะแล้วเอามือสัมผัสหน้าก็มีโอกาสติดละ

ภัยธรรมชาติ

ลบๆๆ