ไม่รอละนะ!! นาโช่โขก "ราชัน" หอบเชือดบายาโดลิด 1-0 นำฝูง 3 แต้ม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แม้จะหอบไม่น้อยแต่ เรอัล มาดริด ก็บุกไปเก็บชัยเหนิือ เรอัล บายาโดลิด ได้สำเร็จ 1-0 โดยได้จากลูกโขกนาที 78 ของกองหลังอย่างนาโช่ ส่งผลให้ ราชันชุดขาว เก็บเพิ่มเป็น 46 คะแนนจาก 21 นัด ขึ้นไปนำจ่าฝูงลาลีก้าแบบเดี่ยวๆ ทิ้งห่างบาร์เซโลน่า 3 คะแนน
เรอัล บายาโดลิด
Starting Formation: 4-4-2
21.
มิเชล
58'
16.
เฟเด้
80'
9.
เอเนส อูนาล
76'
ตัวสำรอง
10.
ออสการ์ พลาโน่
76'
17.
โทนี่ บีญ่า
58'
29.
มิเกล เด ลา ฟูเอนเต้
80'
ลาลีก้า
สนาม โฆเซ่ ซอร์ริญ่า
อาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563
กรรมการ ริคาร์โด้ เดอ บูร์โกส
เรอัล บายาโดลิด
0
1
เรอัล มาดริด
มาดริดได้ข่าวดีคือรามอสกลับมายืนคุมแผงหลังร่วมกับวาราน แต่แบ็คขวาเป็นนาโช่ลงแทนการ์บาฆาลที่ติดโทษแบน ส่วนแบ็คซ้ายเป็นเมนดี้ ข้างหน้าเบนเซม่ายืนค้ำโดยมีโรดรีโก้,อิสโก้ขนาบข้าง ตรงกลางโครส,คาเซมิโร่,โมดริช ขณะที่คูร์กตัวส์เฝ้าเสา ฝั่งบายาโดลิดวางกวาร์ดิโอล่า,อูนาลยืนคู่หน้า มิเชล,อัลคาราซ,เฟเด้,ฆัวคินคอยหนุนอู่แผงกลาง
• เรอัล บายาโดลิด ไม่ชนะในลีก 8 นัดติด
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ในลีก 11 นัดติด
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ เรอัล บายาโดลิด ในการเจอกัน 10 นัดหลังทุกรายการ
คาเซโขกตุงโดน VAR ริบเฮเก้อ
แข้งราชันชุดขาวได้เฮจากจังหวะที่โครสเปิดฟรีคิกทางฝั่งขวาไปถึงเสาสองให้คาเซมิโร่โขกย้อนศรตุงตาข่าย แต่กลายเป็นเฮเก้อเมื่อโดนผู้ตัดสินริบคืนหลังจากปรึกษา VAR และเห็นว่าเขาล้ำหน้าไปนิดเดียว
มิเชลหลอกปั่นเตะมุมแต่คูร์กตัวส์ไม่หลง
บายาโดลิดได้ลุ้นเหมือนกันจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายแล้วมิเชลปั่นโค้งวิถีพุ่งเข้าหาประตูบอลจะเสียบใต้คานแต่คูร์กตัวส์ยังบินปัดออกไปได้หวุดหวิด
ครึ่งชั่วโมงผ่านจังหวะเสียวยังน้อย
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงมาแล้วทั้งสองฝั่งยังไม่มีจังหวะเข้าทำหวาดเสียวเพิ่มเติมเลย โดยเฉพาะฝั่งมาดริดถ้าไม่นับลูกโขกล้ำหน้าของคาเซมิโร่พวกเขาก็แทบไม่มีอะไรเลย
คาเซหวดไกลพุ่งหลุดคาน
ราชันได้ลุ้นจากจังหวะที่คาเซมิโร่รับบอลจากโมดริชก่อนวางเท้าตะบันไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่ส่ายข้ามคานออกหลังไปอีก
สุดท้ายจบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0 โดยที่ทั้งสองฝั่งยังไม่มีจังหวะลุ้นแบบจะแจ้งกันเท่าไหร่นัก ต้องดูว่าครึ่งหลังจะมีการเปิดแลกกันมากขึ้นหรือไม่
โรดรีโก้ซัดด้วยซ้ายติดเซฟมาซิป
ราชันได้ลุ้นประตูก่อนในครึ่ีงหลัง จังหวะที่คาเซมิโร่กระชากมาที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาไปติดบล็อค บอลกระฉอกเข้าทางโรดรีโก้ทางกรอบฝั่งขวา เขาล็อคเข้าซ้ายก่อนปั่นบอลพุ่งเรียดไปติดเซฟมาซิป
เบนเซม่าแปมุมแคบติดเซฟ
โอกาสอีกครั้งของมาดริด จังหวะที่อิสโก้ตักบอลจากริมกรอบฝั่งซ้ายไปเสาสองให้เบนเซม่าโดดแปมุมแคบไปติดเซฟมาซิป น่าเสียดายที่เขาไม่ปาดให้โมดริชที่รออยู่ตรงกลาง
อิสโก้ปั่นฟรีิคิกนิ่มๆหลุดคาน
มาดริดได้ฟรีิคิกหน้ากรอบเขตโทษบริเวณกลางประตู ตรงนั้นมียืนจ้องหลายคนก่อนที่จะเป็นอิสโก้ที่รับหน้าที่ปั่นนิ่มๆข้ามกำแพง แต่บอลข้ามคานฮุคตกหลังประตู
เบนซ์โขกหลุดกรอบไปนิด
อีกครั้งของมาดริด จังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลริมกรอบฝั่งขวา เขาแต่งเข้าซ้ายก่อนครอสไปเสาสองให้เบนเซม่าเทคโหม่ง บอลพุ่งได้น้ำหนักแต่หลุดกรอบไปนิดเดียว
เอาจนได้!นาโช่โขกเสียบเสาสอง 1-0 ราชันนำ
แล้วความพยายามของมาดริดก็มาเป็นผลจนได้เมื่อพวกเขามาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่โครสเปิดเตะมุมฝั่งขวาแล้วโดนเคลียร์บอลมาเข้าทางให้เขาบรรจงเปิดกลับเข้าไปอีกรอบให้นาโช่เทคโหม่งสะบัดเสียบเสาสองหมดจรด 1-0 ราชันเฮ
ฆัวคินปั่นด้วยขวาหลุดเสานิดเดียว
เจ้าถิ่นพยายามบุกเพิื่อเอาประตูตีเสมอ จังหวะนี้ได้ลุ้นเลยเมื่อฆัวคินได้วางเท้าปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงฮุคหลุดกรอบฝั่งขวาไปนิดเดียว
กวาร์ดิโอล่าซัดตุงโดนจับล้ำไปอีก
บายาโดลิดส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะที่ซาลิซูโขกชงให้กวาร์ดิโอล่าส่งบอลจ่อๆเข้าประตูไป แต่เฮได้แป้บเดียวก็โดนยกธงล้ำ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเช็ก VAR ยืนยันคำตัดสิน
ราชันหืดเชือด 1-0 นำฝูงเดี่ยว 3 แต้ม
แม้ช่วงท้ายกจะโดนกดดันแต่มาดริดก็รักษาสกอร์เอาชนะไปได้ 1-0 ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 46 คะแนนจาก 21 นัด ขึ้นไปนำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ ทิ้งห่างบาร์เซโลน่า 3 คะแนน
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
10.
ลูก้า โมดริช
88'
22.
อิสโก้
74'
27.
โรดรีโก้
90+3'
ตัวสำรอง
17.
ลูคัส บาซเกซ
74'
18.
ลูก้า โยวิช
90+3'
15.
เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้
88'
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Jan 27, 2020 06:50, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ